ตอนที่ 577 ข้าจะออกหน้าแทนเจ้า
ลู่เจียวขยับตัวก็แวบหายเข้าไปในห้วงอากาศ เนี่ยเยี่ยเจินคว้าเอาอากาศ ลู่เจียวออกมาจากห้วงอากาศตรงด้านหลังเนี่ยเยี่ยเจินพอดี นางยกเท้าถีบเนี่ยเยี่ยเจินไปทีหนึ่ง เนี่ยเยี่ยเจินเป็นวิชายุทธ์ ฟังเสียงจับตำแหน่งได้ พอขยับตัวก็หลบได้รวดเร็ว จากนั้นก็พุ่งเข้าใส่ลู่เจียวอีก
ลู่เจียวเข้าไปในห้วงอากาศอีกครั้ง เนี่ยเยี่ยเจินคว้าเอาอากาศอีกครั้ง
เขามองคนที่หายตัวไปด้านหน้าอย่างสงสัย นังชั้นต่ำลู่เจียวไปไหนแล้ว หรือว่านางเป็นวิชาร้ายกาจอันใด
เนี่ยเยี่ยเจินคิดไปก็รู้สึกระแวงรอบกาย จ้องมองไปรอบๆ ลู่เจียวปรากฏกายด้านหลังเขาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้นางไม่ได้ลงมือกับเนี่ยเยี่ยเจิน เพราะเนี่ยเยี่ยเจินเป็นวิชายุทธ์ นางเข้าใกล้เขา เขาก็รู้ตัว ดังนั้นลู่เจียวตัดสินใจวางยาเขา
เพียงแต่ลู่เจียวยังไม่ทันได้หยิบยา ก็มีคนผลักหน้าต่างห้องเข้ามา
หร่วนจู๋เข้ามาแล้ว
พอหร่วนจู๋เข้ามาก็พุ่งเข้าไปหาเนี่ยเยี่ยเจิน เนี่ยเยี่ยเจินเห็นหร่วนจู๋ก็ผงะถอยหลังคิดหนีด้วยสัญชาตญาณ
หร่วนจู๋สะอึกกายเข้าขวางเขาไว้ จากนั้นไม่รอให้เขาหนี นางยื่นมือไปสกัดจุดเนี่ยเยี่ยเจินทันที
เนี่ยเยี่ยเจินส่งเสียงร้องตกใจ “พวก…”
หร่วนจู๋ยื่นมือไปสกัดจุดเขา
ในที่สุดในห้องก็เงียบลง หร่วนจู๋เดินมากระซิบว่า “เหนียงจื่อ ท่านจะจัดการเขาอย่างไร”
ลู่เจียวชี้ไปที่เนี่ยเยี่ยเจิน แค่นยิ้มออกคำสั่งหร่วนจู๋ “ลงมือกับเขาให้หนัก อย่าได้ตายก็พอ”
หร่วนจู๋รับคำส่งยกเท้าถีบเนี่ยเยี่ยเจินกระเด็นออกไป เขากระแทกเข้ากับกำแพงฝั่งตรงข้ามอย่างแรง จากนั้นก็ร่วงลงกระแทกพื้น
จากนั้นนางยังพุ่งเข้าไปบีบคอเนี่ยเยี่ยเจิน แล้วยกชายหนุ่มขึ้นราวกับแมวตาย
เนี่ยเยี่ยเจินหวาดกลัวตกใจ ส่ายหน้าดิ้นรนพยายามบอกว่าข้าคือคุณชายรองจวนอู่กั๋วกง พวกเจ้ากล้าทำร้ายข้า จวนอู่กั๋วกงไม่ปล่อยเจ้าไปแน่
หร่วนจู๋ไม่สนใจเขาแม้แต่น้อย นางยกเท้าเตะเอาๆ เตะไปที่ใบหน้าเต็มแรง ก่อนจะตามไปตบอีกที
กล้ารังแกเหนียงจื่อข้า รนหาที่ตายหรือ ตีเจ้าให้ตาย ไอ้พวกต่ำช้า ตีเจ้าให้ตาย
เนี่ยเยี่ยเจินตกใจ ยามนี้เขารู้สึกว่าหญิงผู้นี้จะตีเขาให้ตายจริงๆ
เขาส่ายหน้าส่งเสียงอู้อี้ แสดงอาการว่าวันหน้าจะไม่กล้ามาหาเรื่องลู่เจียวอีก
น่าเสียดายแม้ว่าหร่วนจู๋วิชายุทธ์สูง แต่กลับรับรู้ช้า พอเห็นเนี่ยเยี่ยเจินดิ้นรนก็คิดว่าเขาต่อต้าน จึงแค่นหัวเราะเยียบเย็น “ยังกล้าขัดขืน ตีเจ้าให้ตาย เจ้าตัวเน่าเฟะ”
นางกล่าวจบก็ยกมือตบเนี่ยเยี่ยเจินร่วงลงพื้น จากนั้นก็ตามไปกระทืบเหยียบมือเนี่ยเยี่ยเจินไว้ เนี่ยเยี่ยเจินได้ยินเสียงกระดูกมือตนเองใต้ฝ่าเท้าหร่วนจู๋หักดังกร๊อบ เจ็บปวดรวดร้าวแทบขาดใจ
เขาส่งเสียงร้องไม่ออกอีกแล้ว ใบหน้าบิดเบี้ยวไปหมด
หร่วนจู๋ยังคิดลงมือกับเขาต่อ แต่นอกประตูพลันมีเสียงฝีเท้าดังมา หร่วนจู๋สีหน้าแปรเปลี่ยน รีบไปด้านหลังลู่เจียวเอ่ยว่า “เหนียงจื่อ มีคนมา พวกเราไปกันเถอะ”
ลู่เจียวคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็มองไปยังหร่วนจู๋สั่งการว่า “คลายจุดให้เขา เจ้าไป ข้าไม่ไป”
หร่วนจู๋ไม่คิดไป แต่ลู่เจียวยิ้มมองนางกล่าวว่า “ไม่เป็นไร เขาบาดเจ็บเช่นนี้แล้ว ข้ารับมือเขาได้ เจ้ารีบไป”
หร่วนจู๋ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวไม่ไกลนัก คนใกล้จะมาถึงแล้ว นางพยักหน้าเล็กน้อย ยื่นมือไปคลายจุดให้เนี่ยเยี่ยเจินก่อนจะหันกายจากไป
ลู่เจียวใช้เท้าเหยียบมืออีกข้างหนึ่งของเนี่ยเยี่ยเจินไว้ เนี่ยเยี่ยเจินเจ็บจนฟื้นขึ้นมา เขาลืมตามาก็เห็นลู่เจียวเหยียบมือเขาไว้ สีหน้าเขาพลันลนลานแตกตื่น ส่งเสียงร้องขอว่า “อย่าตีข้า อย่าตีข้า”
ลู่เจียวก้มลงแค่นยิ้มมองเขา ยามนี้นางได้กลายเป็นผีร้ายในสายตาเนี่ยเยี่ยเจินไปแล้ว
เนี่ยเยี่ยเจินผงะถอยหลังหลบด้วยสัญชาตญาณ ลู่เจียวตวาดว่า “มีคนมาแล้ว อีกสักครู่เจ้าก็ชี้ตัวนังชั้นต่ำหลินหรูเยว่ต่อหน้าทุกคน บอกว่าหลินหรูเยว่บงการให้เจ้าทำเรื่องเช่นนี้ หากเจ้าไม่ชี้ตัวหญิงผู้นี้ ข้าก็จะให้ หร่วนจู๋ไปหักกระดูกเจ้าทิ้งทีละชิ้น”
เนี่ยเยี่ยเจินไม่อาจระงับอาการสั่นเทาของตน ยามนี้เขารู้กระจ่างแล้วว่าสตรีลูกน้องลู่เจียวผู้นั้นฝีมือยุทธ์ร้ายกาจมาก ไม่ใช่คนที่เขากับลูกน้องเขาจะรับมือได้ หากเขาไม่ทำตามที่นางว่า หญิงนั่นก็จะหักกระดูกทั้งตัวเขาทิ้งแน่
เนี่ยเยี่ยเจินพยักหน้าเต็มแรง พร้อมรับรองว่า “วันหน้าข้าจะไม่กล้าอีกแล้ว ไม่กล้าอีกแล้ว”
เนี่ยเยี่ยเจินกำลังขอร้องก็ได้ยินเสียงนอกประตูดังเข้ามา “ก่อนหน้านี้บ่าวได้ยินเสียงด้านในผิดปกติ เหมือนลู่เหนียงจื่ออยู่ด้านในกำลังขอร้องให้ช่วย พวกท่านรีบเข้าไปช่วยลู่เหนียงจื่อเถอะ นางเหมือนถูกคนจับตัวไว้”
ท่านย่าหลิวทำหน้าที่เจ้านายดูแลจวนตระกูลหลิวในตอนนี้ไม่คิดสิ่งใดทั้งสิ้น พอได้ยินคำพูดสาวใช้ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่ก็รีบสั่งการคนรับใช้จวนตระกูลหลิว “รีบบุกเข้าไปดูว่าเกิดอันใดขึ้น จำไว้อย่าให้คนทำร้ายโดนเจียวเจียว”
คนรับใช้ตระกูลหลิวรีบบุกเข้าไป พอผลักประตูเข้าไปก็เห็นชุนฮวาสาวใช้ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่รีบบุกตามเข้าไปติดๆ
คนด้านหลังบุกเข้าไปในห้องด้วยสัญชาตญาณทันที ทุกคนพากันบุกเข้าไปในห้องนอน จากนั้นก็เห็นลู่เจียวเหยียบเนี่ยเยี่ยเจินยืนอยู่ในห้อง
ลู่เจียวเห็นทุกคนบุกเข้ามา ก็ออกคำสั่งเสียงเข้มกับทุกคนว่า “รีบถอยออกไป ในห้องมียาปลุกกำหนัด”
ทุกคนสีหน้าแปรเปลี่ยน พากันรีบถอยออกจากห้อง
ลู่เจียวยื่นมือไปคว้าตัวเนี่ยเยี่ยเจินลากออกไปด้านนอก
แม้ว่าเนี่ยเยี่ยเจินถูกหร่วนจู๋ต่อยจมูกบวมปูดเขียวช้ำ มือหนึ่งยังถูกเหยียบหัก แต่ยังเดินได้ ดังนั้นลู่เจียวลากเขามา เขาก็ยินยอมเดินออกมาแต่โดยดี ไม่กล้าด่าทอวาจาหยาบช้าชั้นต่ำแม้สักคำ
ประเด็นก็คือเขากลัวหร่วนจู๋จะมาหักกระดูกเขาทิ้งจริงๆ
พอทุกคนถอยออกจากห้องมาถึงพื้นที่ว่างด้านหน้า ลู่เจียวก็ไม่รอให้ผู้อื่นถาม ก็เหยียบเนี่ยเยี่ยเจินติดพื้น
ยามนี้ท่านย่าหลิว ฮูหยินขุนพลหวังและฮูหยินซิ่งอันโหวก็โถมเข้ามาถามว่า “เจียวเจียว เกิดเรื่องอันใดขึ้น เกิดเรื่องอันใดขึ้น”
ลู่เจียวเงยหน้ากวาดตามองไปรอบๆ คนที่มากันมากมาย โดยเฉพาะหลินหรูเยว่ที่ปรากฏตัวท่ามกลางฝูงชน
หลินหรูเยว่เห็นนางมองมา ก็หดตัวหลบในฝูงชนด้วยสัญชาตญาณทันที
ลู่เจียวแค้นหัวเราะ หันไปมองชุนฮวาสาวใช้ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่
ชุนฮวาผงะถอยหลังด้วยสีหน้าซีดเผือด
ยามนี้ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่นำคนมาถึงแล้ว ทุกคนถอยหลังเปิดทางสายหนึ่งให้เดินด้วยสัญชาตญาณ
ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่พาสาวใช้อีกคนหนึ่งนามว่าชิวเยว่เดินเข้ามา
พอนางเข้ามาเห็นบุตรชายตนเองจมูกบวมช้ำคุกเข่าอยู่ที่พื้น ลู่เจียวยังกำลังมองบุตรชายตนด้วยสีหน้าแลดูไม่ดีนัก
ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่สะดุ้งในใจ รู้สึกได้ว่าไม่ได้การแล้ว นางเดินไปตรงหน้าลู่เจียว ถามน้ำเสียงเคร่งเครียดว่า “เจียวเจียว เกิดเรื่องอะไรขึ้น เจ้าบอกมา ข้าจะออกหน้าแทนเจ้า”
ลู่เจียวเห็นนางเช่นนี้ก็พอจะโล่งอกได้บ้าง หากท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่ปกป้องบุตรชาย นางก็คงทำอันใดเขาไม่ได้จริงๆ
ลู่เจียวโล่งอก เนี่ยเยี่ยเจินกลับเริ่มหวาดกลัว ระยะนี้ท่านแม่เขาไม่ค่อยจะสนใจเขา ตอนนี้เห็นเขามาจัดการลู่เจียว เกรงว่าคงต้องเดือดดาลแล้ว
เนี่ยเยี่ยเจินพลันนึกเสียใจภายหลังแล้ว
