ตอนที่ 657 ตั้งครรภ์
ฮูหยินหลินสีหน้าแข็งค้างไปเล็กน้อย จากนั้นก็ปรับสีหน้าเป็นปกติ เอ่ยน้ำเสียงนิ่งเรียบว่า “เมื่อวานตอนค่ำปวดหัวนิดหน่อย ดังนั้นก็เลยหลับไม่ค่อยสนิท”
นางกล่าวจบก็ไม่สนใจฮูหยินข่งอีก หันหน้าไปมองฮูหยินหูกล่าวว่า “ฮูหยินหูดูแจ่มใสไม่เลว”
ฮูหยินหูยิ้มกล่าวว่า “ดีมาก นายท่านเราอยู่ตำแหน่งนายอำเภอชิงเหอมาหลายปี ได้เลื่อนเป็นขุนนางทงพั่นเมืองหนิงโจว ย่อมต้องดีใจ”
ฮูหยินหลินได้ฟังคำพูดนาง ก็ยิ้มถามว่า “ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นเรื่องน่ายินดีจริงๆ ก็ไม่ทราบว่าใต้เท้าหูได้ตำแหน่งขุนนางทงพั่นเมืองหนิงโจวมาได้อย่างไร”
ฮูหยินหูได้ฟังฮูหยินหลินก็มีท่าทีลำบากใจ ไม่รู้ว่าควรบอกสถานะสะใภ้ตนออกมาหรือไม่
ลู่เจียวเอ่ยแทนว่า “น่าจะเพราะสายสัมพันธ์การแต่งงานของบุตรชายใต้เท้าหูช่วยเหลือ”
ฮูหยินหูได้ฟังคำพูดลู่เจียว รีบเอ่ยว่า “ใช่ๆ สายสัมพันธ์การแต่งงานของบุตรชายพวกเราช่วยเหลือ”
ฮูหยินหูเคยได้ยินใต้เท้าตนบอกมาบ้างว่า หากมีอันใดไม่เข้าใจก็ให้ขอคำแนะนำจากลู่เจียว ลู่เจียวเป็นคนฉลาดมาก
ฮูหยินหูได้ฟังคำพูดลู่เจียว ก็ประสานเสียงรับคำทันที
พวกฮูหยินหลินกับฮูหยินข่งได้ยินวาจาลู่เจียวกับฮูหยินหู ก็หันไปจ้องมองฮูหยินหูอย่างสนใจทันที “ไม่ทราบว่าสายสัมพันธ์การแต่งงานของบุตรชายฮูหยินหูคือ?”
ฮูหยินหูยิ้มบางกล่าวว่า “สะใภ้ข้าเป็นบุตรีอู่กั๋วกง”
วาจานี้แฝงน้ำเสียงภาคภูมิใจอยู่บ้าง
พวกฮูหยินหลินกับฮูหยินข่งพลันขมวดคิ้ว บุตรีอู่กั๋วกง อู่กั๋วกง? ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่?
ทุกคนหวนคิดถึงครั้งก่อนที่ซื่อจื่อจวนอู่กั๋วกงจัดเลี้ยง จากนั้นก็คิดถึงท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่ สุดท้ายสายตาทุกคนไปหยุดที่ลู่เจียว
ลู่เจียวยิ้มตาหยีเอ่ยอธิบายว่า “พี่สาวข้าเป็นบุตรีอู่กั๋วกงกับท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่ แต่นางถูกคนลักพาตัวไปหลายปี ต่อมามาอยู่ที่ตระกูลหลี่อำเภอชิงเหอ แต่งเป็นภรรยาคุณชายหู ตอนนี้จวนอู่กั๋วกงตามหานางเจอแล้ว จึงได้รับนางกลับไป”
ลู่เจียวกล่าวจบ พวกฮูหยินหลินกับฮูหยินข่งก็เหมือนได้ฟังข่าวสมรภูมิศึกหนัก นี่ไม่ใช่เรื่องที่เล่ากันในบทงิ้วหรือ
หลายคนต่างครุ่นคิด พลันคิดถึงเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่ง เบื้องหลังหูทงพั่นก็คือจวนอู่กั๋วกงและองค์หญิงใหญ่ ดังนั้นวันหน้าพวกนางไม่อาจล่วงเกินคนตระกูลหู พวกเขามีสายสัมพันธ์การแต่งงานของบุตรชายกับจวนอู่กั๋วกง พวกนางมีความกล้าเท่าใดจะไปประลองกำลังกับเขา
พวกฮูหยินหลินกับฮูหยินข่งต่างหลั่งเหงื่อเย็นขึ้นมาทันที
ฮูหยินหูคล้ายมองไม่เห็น ยังคนต้อนรับบรรดาฮูหยินที่มาตระกูลหูวันนี้อย่างกระตือรือร้น ไม่ได้วางท่าทางหรือเย่อหยิ่งแต่อย่างใด
แต่พวกฮูหยินหลินกับฮูหยินข่ง กลับไม่อาจดูแคลน พวกนางไม่กล้า
เรือนด้านหน้าไม่ต่างกับเรือนด้านหลัง ใต้เท้าหลินก็กล่าวอ้อมไปอ้อมมาคิดอยากสืบความจากปากใต้เท้าหู ถึงสาเหตุที่เขาได้มาดำรงตำแหน่งขุนนางทงพั่นเมืองหนิงโจว เดิมเขาคิดว่าจะสืบความยาก ปรากฏเซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวถึงเบื้องหลังที่เกิดจากสายสัมพันธ์การแต่งงานของบุตรชายใต้เท้าหูออกมาตรงๆ ใต้เท้าหลินถึงกับตกใจอึ้งไปทันที
สายสัมพันธ์การแต่งงานของบุตรชายถึงกับเป็นจวนอู่กั๋วกงแห่งเมืองหลวง สะใภ้พวกเขาถึงกับเป็นบุตรีอู่กั๋วกงกับท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่ หลานสาวองค์หญิงใหญ่
ใต้เท้าหลินได้แต่สิ้นหวัง วันเวลาของเขาในเมืองหนิงโจวก็ย่ำแย่ลงเรื่อยๆ แล้ว
งานเลี้ยงเริ่มต้นขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าเรือนด้านหน้าหรือเรือนด้านหลัง บรรยากาศล้วนครึกครื้นอย่างมาก
เพราะทุกคนรู้แล้วว่าตระกูลหูมีที่พึ่ง ผู้ใดกล้าล่วงเกินพวกเขา ดังนั้นวันนี้คนที่มางานเลี้ยงต่างฉีกยิ้มแย้ม เป็นกันเองอย่างที่สุด
ใต้เท้าหูกับฮูหยินหูไม่ได้วางตัวสูงส่งแม้แต่น้อย กลับกันยังถ่อมตนอย่างมาก ทำให้คนที่มาร่วมงานต่างแอบทอดถอนใจ ดูคนเขา มีเบื้องหลังยิ่งใหญ่เพียงนี้ ยังรู้จักสงบเสงี่ยมเช่นนี้ หาจุดบกพร่องไม่ได้เลยจริงๆ
ในที่นั้นมีเพียงเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวที่รู้ว่าเหตุใดตระกูลหูจึงได้สงบเสงี่ยมเช่นนี้ ความจริงก็เพราะยังไม่แน่ใจเรื่องที่เนี่ยอวี้เหยาคิดหย่าก่อนหน้านี้ แม้ว่าตอนนี้ไม่ได้หย่า แต่ไม่อาจรับรองว่าวันหน้าหากหูซ่านล่วงเกินนาง นางอาจจะหย่า ดังนั้นจะไม่สงบเสงี่ยมได้หรือ
เรือนด้านหลัง ฮูหยินหูกวักมือเรียกให้ทุกคนรับประทานอาหารอย่างกระตือรือร้น ทุกคนต่างให้เกียรติกินไปเอ่ยชมฮูหยินหูไป
“ฮูหยินหู ดูแล้วอ่อนเยาว์จริง มองไม่ออกสักนิดว่ามีหลานแล้ว ดูแล้วเหมือนเพิ่งสามสิบต้นๆ”
“อืม ข้าอายุเท่ากับฮูหยินหู แต่ดูแล้วอายุมากกว่าฮูหยินหูสิบปี ฮูหยินหู ท่านบำรุงอย่างไรหรือ”
ลู่เจียวนั่งเงียบฟังคนยกยอฮูหยินหู หากฮูหยินหูไม่มีที่พึ่งใหญ่ หญิงเหล่านี้ก็คงไม่กระตือรือร้นเช่นนี้ คนเราไม่ว่าที่ใดก็ล้วนแต่ยกยอคนสูงกว่า เหยียบย่ำคนต่ำกว่า ดังนั้นผู้ชายจึงได้พยายามตะกายให้สูง มีเพียงตะกายได้สูง จึงจะไม่โดนรังแก
ลู่เจียวคิดไปก็คีบอาหารไป แต่เพิ่งจะคีบคำแรก ก็รู้สึกว่าผะอืดผะอมอยากจะอาเจียน ร่างกายมีปฏิกิริยาอย่างเห็นได้ชัดว่ามากกว่าที่นางคิด
“อ้อก!”
ลู่เจียวหันหน้าไปอาเจียนด้วยสัญชาตญาณ ปรากฏไม่ได้อาเจียนอะไรออกมา เป็นล้มล้วนๆ
ฮูหยินหูที่นั่งข้างกายนางเห็นก็รีบถามว่า “เจียวเจียว เจ้าเป็นอันใดหรือ กินอันใดเสาะท้องเข้าหรือไม่”
ลู่เจียวอย่าได้เกิดเรื่องอันใดที่ตระกูลหูอย่างเด็ดขาด นางรู้ว่าเซี่ยถงจือเป็นชายรักภรรยายิ่งกว่าชีวิตตนเอง
หากลู่เจียวเกิดเรื่องที่จวนตระกูลหู เขาจะต้องโมโหใส่ตระกูลหูเป็นแน่
ในโถงงานเลี้ยง ทุกคนเห็นสถานการณ์นี้ก็อดหยุดสนทนากันไม่ได้ ต่างหันไปมองลู่เจียว
ลู่เจียวกุมปาก ชี้ไปที่ปลาด้านหน้า “ได้กลิ่นก็อยากจะอาเจียน ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร”
ฮูหยินหูได้ฟังคำพูดลู่เจียว ก็นิ่งอึ้งไป จากนั้นก็กล่าวอย่างดีใจว่า “เจียวเจียว เจ้าน่าจะตั้งครรภ์แล้วกระมัง”
พอฮูหยินหูเอ่ย ลู่เจียวก็นึกได้ว่าประจำเดือนของเดือนนี้เหมือนว่าผ่านมาหลายวันแล้ว เพียงแต่นางไม่ทันได้สังเกต
หรือว่านางตั้งครรภ์จริง
ลู่เจียวรีบยกมือขึ้นจับชีพจรให้ตนเอง ปรากฏเป็นสัญญาณตั้งครรภ์ได้หนึ่งเดือนกว่า ดังนั้นที่นางพะอืดพะอมก็เป็นอาการคลื้นไส้ยามตั้งครรภ์
ลู่เจียวมองฮูหยินหูท่าทางเขินอาย กล่าวว่า “อาสะใภ้ ขออภัย ข้าตั้งครรภ์แล้ว”
ฮูหยินหูดีใจ ยื่นมือไปกุมมือลู่เจียวกล่าวว่า “นี่เป็นเรื่องมงคลยิ่ง เรื่องมงคลใหญ่”
นางกล่าวจบรีบยื่นมือไปประคองลู่เจียวกล่าวว่า “อาสะใภ้จะพาเจ้าไปพักผ่อนสักครู่ ตรงนี้วุ่นวายเกินไป”
ลู่เจียวเองก็ไม่ปฏิเสธ ลุกขึ้นตามที่ฮูหยินหูประคอง เข้าไปพักผ่อนในเรือนรับแขกตระกูลหู
แขกหญิงที่เหลือมองตามพวกนางสองคนจากไปด้วยสีหน้าไร้วาจาจะกล่าว ก็แค่ตั้งครรภ์ ต้องทำถึงขั้นนี้เชียว
หลังงานเลี้ยงเลิก เซี่ยอวิ๋นจิ่นก็รู้เรื่องนี้ทันที เขาดีใจอย่างที่สุด พาลูกน้องเดินตรงมาเรือนด้านหลังรับลู่เจียวกลับจวน
ฮูหยินหูประคองลู่เจียวออกมาส่งพอดี เห็นสีหน้าเซี่ยอวิ๋นจิ่นก็รู้ว่าเขารู้เรื่องนี้แล้ว
เซี่ยอวิ๋นจิ่นเขามาประคองมือลู่เจียวอย่างระมัดระวัง ถามอย่างห่วงใยกล่าวว่า “เป็นอย่างไรบ้าง มีตรงไหนไม่สบายหรือไม่ ต้องเชิญหมอมาตรวจหรือไม่”
ลู่เจียวเห็นท่าทางเขาตื่นเต้น ก็อดยิ้มบีบมือเขาไม่ได้ “อย่าตื่นเต้นเกินไป ไม่เป็นอันใด ข้าเองก็เป็นหมอ”
“เช่นนั้นพวกเรากลับกันเถอะ กลับไปนอนพักให้สบาย”
ลู่เจียวเห็นท่าทางตื่นเต้นเกินพอดีของเขาก็รู้สึกเขิน หันหน้าไปกล่าวกับฮูหยินหูว่า “อาสะใภ้ เขาตื่นเต้นเกินไปแล้ว ท่านอย่าได้หัวเราะเขา”
