Skip to content

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย 841


ตอนที่ 841 คลุ้มคลั่ง

ฮองเฮาได้ฟังเซียวอวี้ก็พูดไม่ออก เซียวอวี้ไม่อยากเห็นนางอีก สั่งให้ตงหลินส่งฮองเฮากลับตำหนักคุนหนิงกง

พอทุกคนไปแล้ว เซียวอวี้ก็หมดแรงเอนตัวพิงแท่นประทับมังกร

เขารู้ว่าสุขภาพเขานับว่าจะยิ่งแย่ลง

เติบโตมาในวังแต่เล็ก ถูกคนวางยาพิษมา ถูกคนผลักลงบ่อน้ำแข็งมา ยังเคยได้รับบาดเจ็บมาหลายครั้ง พื้นฐานร่างกายถูกทำลายมาหนักหนาสาหัสมากเกินไปแล้ว

ตอนนี้เขาคิดแต่จะประคับประคองรัชทายาทขึ้นสู่ตำแหน่ง รออีกสองสามปี ให้เขายืนด้วยตนเองคนเดียวได้ก่อน

ขณะเซียวอวี้กำลังคิดอยู่ นอกตำหนัก ตงหลินก็เดินเข้ามารายงานว่า “ฝ่าบาท รัชทายาทขอเข้าเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ”

เซียวอวี้ได้ยินว่าเป็นเซียวเหวินอวี๋ คิดถึงว่าบุตรชายเขาได้รับความรักจากบิดามารดาเลี้ยง เขาก็รู้สึกดีใจที่เขาได้เติบโตมาในตระกูลเซี่ย เขาจึงได้เติบโตเป็นเขาที่เปิดเผยมองโลกแง่ดีดังเช่นตอนนี้ หากเขาเติบโตในวังย่อมต้องเป็นพวกเก็บกดและแปลกประหลาดเช่นเดียวกับเขา

“ให้เขาเข้ามาได้”

เซียวเหวินอวี๋เดินเข้ามาก็คำนับเซียวอวี้ เห็นสีหน้าเซียวอวี้ดูไม่ดีอย่างมาก เซียวเหวินอวี๋เป็นห่วงขึ้นมาทันที “เสด็จพ่อ สีพระพักตร์ไม่ค่อยดีนัก หม่อมฉันให้หมอหลวงมาตรวจอาการสักหน่อยนะพ่ะย่ะค่ะ”

เซียวอวี้เห็นท่าทางร้อนใจของเซียวเหวินอวี๋ ความอัดอั้นในใจก็พลันสลายลงไปได้บ้าง

ดูสิ นี่คือความแตกต่างระหว่างฮองเฮากับไทเฮา พวกนางสนใจเพียงแค่มีเรื่องกับเขา ไม่ได้สังเกตเห็นสีหน้าเขาว่าไม่ดีนัก แต่เซียวเหวินอวี๋มองปราดแรกก็สังเกตเห็นได้

เขาไม่ได้เติบโตมาข้างกายเขา แต่กลับรู้จักห่วงใย เซียวอวี้รู้ว่าไม่ได้หมายความว่าเซียวเหวินอวี๋รักเขา แต่เพราะเขาเป็นคนเช่นนี้

“ไม่ต้องแล้ว เสด็จพ่อไม่เป็นอันใด”

เซียวอวี้กล่าวจบ เซียวเหวินอวี๋พลันคิดถึงว่า เซียวอวี้เป็นเช่นนี้คงเพราะถูกไทเฮาจ้าวทำให้โมโห

เขารีบกล่าวอย่างเป็นห่วงว่า “หม่อมฉันทำให้เสด็จพ่อทรงเหน็ดเหนื่อยแล้ว”

เซียวอวี้มองเขา ยิ้มกล่าวว่า “ไม่มีอันใด ใช่แล้ว แต่นี้ไปเจ้าก็คือรัชทายาทตำหนักบูรพาแล้ว ไม่จำเป็นต้องพำนักจวนอ๋องจิ่นอีก ไปอยู่ตำหนักบูรพาได้ อีกอย่างกองกำลังตำหนักบูรพาเจ้าก็เลือกคนเอง หากไม่แน่ใจอันใดก็ให้ใต้เท้าเซี่ยช่วยเหลือเจ้าได้”

โลกนี้คนที่ไม่อยากให้รัชทายาทได้รับบาดเจ็บที่สุดก็คือเซี่ยอวิ๋นจิ่น

พวกเขาเป็นคนที่จริงใจช่วยเหลือรัชทายาทที่สุด

เมื่อก่อนเซียวอวี้เป็นห่วงว่าเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวจะวางแผนอันใด หลังผ่านเหตุการณ์ลู่เจียวช่วยชีวิตเซียวเหวินอวี๋ เขาพลันคิดเข้าใจได้เรื่องหนึ่ง

เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวจะมีความสามารถเพียงใด พวกเขาก็เป็นแค่หน้าใหม่ในราชสำนัก รากฐานมั่นคงหนักแน่น ตระกูลเซี่ยไม่มีกำลังทหาร และรากฐานไม่หยั่งรากลึกพอ ดังนั้นพวกเขาจะวางแผนอันใดได้ หากจะว่าวางแผน เช่นนั้นก็คงวางแผนเพื่อตำแหน่งของรัชทายาท

พวกเขาไม่ได้ส่งผลกระทบต่อแผ่นดินแคว้นต้าโจว แต่คนที่ส่งผลกระทบต่อขุนนางในราชสำนักแผ่นดินแคว้นต้าโจวก็คือพวกจ้าวกั๋วกงที่รากฐานแน่นหนา มีกำลังทหารและมีพรรคพวก

ดังนั้นเขาควรใช้ขุนนางชุดใหม่มาทานอำนาจกลุ่มอำนาจเดิม ไม่ใช่เพราะกังวลว่าเซี่ยอวิ๋นจิ่นจะวางแผนอันใด

เซียวอวี้คิดกระจ่างแล้วก็ไม่คิดห้ามเซียวเหวินอวี๋ใกล้ชิดเซี่ยอวิ๋นจิ่นอีก

เซียวเหวินอวี๋เป็นรัชทายาทตำหนักบูรพา ยังตัองการคนช่วยงาน เซี่ยอวิ๋นจิ่นก็คือคนที่ดีที่สุด

เซียวเหวินอวี๋ได้ยินเซียวอวี้เอ่ยเช่นนี้ก็ดีใจมา รับคำทันที “หม่อมฉันรับพระบัญชา”

เซียวอวี้เห็นว่าเซียวเหวินอวี๋เอ่ยถึงเซี่ยอวิ๋นจิ่นก็มีท่าทางดีใจ ในใจก็อดรู้สึกเจ็บปลาบไม่ได้ รีบโบกมือ “รีบไปได้แล้ว”

เซียวเหวินอวี๋รับคำสั่งถอยออกไป แต่พอออกไปแล้วก็รีบสั่งให้คนไปสำนักหมอหลวงเชิญหมอหลวงฉีมาตรวจชีพจรให้เซียวอวี้ ดูว่าสุขภาพเขามีอันใดน่าห่วงหรือไม่

เซียวอวี้เห็นหมอหลวงฉีปรากฏตัวขึ้น ก็รู้ว่าเซียวเหวินอวี๋สั่งให้คนไปเชิญมา ในใจก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาก

เจ้าลูกคนนี้!

ณ จวนอ๋องจิ่น

อ๋องจิ่นเซียวเจินเริ่มแรกไม่รู้เรื่องเซียวอวี้แต่งตั้งเซียวเหวินอวี๋เป็นรัชทายาทแล้ว

ระยะนี้หลังจากเขาได้รับบาดเจ็บก็รักษาตัวอยู่แต่ในจวน เพราะอารมณ์ไม่ดี ปกติจึงไม่ออกไปที่ใด

แต่ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว เขาจึงได้ออกไปเดินเล่นที่ลานด้านนอก

เขาเดินเล่นไปก็ครุ่นคิดไปว่าจะกล่อมเสด็จพ่อให้ทรงยอมให้เขากลับเขาประชุมราชสำนักอย่างไรดี

ไม่คิดว่าในสวนดอกไม้จะมีคนสวนที่ดูแลสวนดอกไม้สองคนแอบซุบซิบกัน พวกเขาไม่รู้ว่าอ๋องจิ่นกำลังเดินเล่นอยู่ในสวนดอกไม้ไม่ไกลนัก ดังนั้นจึงทำงานไปคุยไป

“เดิมยังคิดว่าท่านอ๋องพวกเราจะได้เป็นรัชทายาทแคว้นต้าโจวเสียอีก คิดไม่ถึงว่ากลับเป็นอ๋องหมิงได้เป็นรัชทายาทแคว้นต้าโจวไปได้”

“ท่านอ๋องยังไม่รู้เรื่องนี้ หากรู้คงได้โมโหเป็นแน่”

“โมโหแล้วจะทำอันใดได้ ฝ่าบาทประกาศราชโองการต่อใต้หล้าแล้ว ตอนนี้อ๋องหมิงก็คือรัชทายาทแล้ว”

“ใช่ ตอนนี้ท่านอ๋องรู้ก็ทำอันใดไม่ได้แล้ว”

เซียวเจินรู้สึกเพียงแค่สมองอื้ออึงไปหมด หน้ามืดทันที แต่เขากัดฟันเดินออกมาตวาดถามว่า “ก่อนหน้านี้พวกเจ้าคุยอันใดกัน”

คนสวนสองคนคิดไม่ถึงว่าเซียวเจินพลันปรากฏตัวขึ้นเช่นนี้ เห็นท่าทางของเขาก็รู้ชัดว่าได้ยินคำพูดพวกเขาแล้ว

คนสวนตกใจขวัญหนีดีฝ่อ พยายามร้องขอชีวิต “พวกบ่าวควรตาย ท่านอ๋องไว้ชีวิตพวกบ่าวด้วย”

เซียวเจินถามขันทีข้างกาย “ก่อนหน้านี้พวกเขาบอกว่าฝ่าบาทประกาศแต่งตั้งอ๋องหมิงเป็นรัชทายาทแคว้นต้าโจวหรือ เรื่องจริงหรือ”

ขันทีข้างกายไหนเลยจะกล้าไม่พูดอีก รีบพยักหน้าหงึกๆ “พ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง ตอนนี้ทุกคนต่างรู้แล้วว่า อ๋องหมิงได้เป็นรัชทายาทแคว้นต้าโจวแล้ว และได้ยินว่าขุนนางในราชสำนักคัดค้านฝ่าบาทแต่งตั้งท่านอ๋องเป็นรัชทายาท แต่ฝ่าบาทตรัสถามบรรดาขุนนางในราชสำนักเหล่านั้นว่าคิดแอบอ้างพระนามโอรสสวรรค์สั่งการผู้ครองรัฐ ปรากฏว่าผู้ใดก็ไม่กล้าเอ่ยอีก”

เซียวเจินเข่าอ่อนล้มลงพื้น ขันทีด้านหลังรีบเข้ามาประคองเขาไว้

เซียวเจินมองขันทีผู้นี้ด้วยสายตาเยียบเย็น “เหตุใด เหตุใดไม่บอกเรื่องนี้กับข้า”

ขันทีเสี่ยวลู่จื่อตกใจกล่าวว่า “พระชายาเห็นว่าท่านอ๋องได้รับบาดเจ็บ จึงสั่งให้พวกเราอย่าได้รายงานเรื่องนี้ต่อท่านอ๋อง”

เซียวเจินกัดฟันคำรามขึ้น “นางไม่ให้พวกเจ้าบอก พวกเจ้าก็ไม่บอกหรือ พวกเจ้าล้วนเป็นคนตายหรืออย่างไรกัน”

เซียวเจินยกมือตบหน้าเสี่ยวลู่จื่อ เสี่ยวลู่จื่อไม่กล้ากล่าวอันใดอีก

เซียวเจินไม่อาจควบคุมตนเองได้อีกต่อไป พุ่งเข้าไปถีบเสี่ยวลู่จื่อและลงไม้ลงมือใส่เขาอย่างเดือดดาล มีคนไม่น้อยรอบสวนดอกไม้ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวทางนี้ก็พากันมาล้อมดู พอเห็นเซียวเจินลงไม้ลงมือใส่เสี่ยวลู่จื่ออย่างบ้าคลั่ง ผู้ใดก็ไม่กล้าเอ่ยอันใด

พระชายาอ๋องจิ่นได้ยินคนรายงานก็รีบนำคนเดินมา เห็นเสี่ยวลู่จื่อโดนลงไม้ลงมือใส่หนัก ก็รีบเอ่ยว่า “ท่านอ๋อง อย่าลงไม้ลงมือกับเขาอีกเลยเพคะ หากยังลงมือต่อคงได้มีคนตายแล้วนะเพคะ”

ชื่อเสียงท่านอ๋องไม่ดีแล้ว หากยังลงมือทำคนตายไปอีก ชื่อเสียงก็คงยิ่งป่นปี้หมดสิ้น

ผู้ใดจะรู้ว่าพอพระชายาอ๋องจิ่นเอ่ย เซียวเจินก็หันไปมองนาง ตวาดอย่างโกรธแค้นว่า “เหตุใดให้คนปิดบังข้า เหตุใด”

พระชายาอ๋องจิ่นเอ่ยขึ้นอย่างจนใจว่า “ฝ่าบาท ราชโองการประกาศแล้ว แม้ท่านรู้ นอกจากโมโหแล้วจะทำอันใดได้ ดังนั้นหม่อมฉันจึงสั่งให้พวกเขาอย่าได้เอ่ยเรื่องนี้ต่อหน้าท่าน”

เซียวเจินไม่รับน้ำใจนี้ของพระชายา เขาโมโหตวาดดังว่า “นี่เป็นเรื่องของข้า ควรให้ข้าตัดสินใจว่าจะทำเช่นไร ไม่ใช่ให้เจ้ามาตัดสินใจ จวนอ๋องจิ่นควรเป็นข้ามีสิทธิ์กำหนด เจ้ามันตัวอันใด”

สีหน้าหวาเสวี่ยพระชายาอ๋องจิ่นพลันย่ำแย่ นางอดคิดไม่ได้ว่าวันที่ตนเองแต่งงาน เซียวเจินกับหลินจิง ก่อเรื่องทำให้นางขายหน้าหมดสิ้น ต่อมานางพยายามสร้างกำลังใจขึ้นมาใหม่กว่าจะยอมรับความจริงได้ ตอนนี้เซียวเจินยังทำให้นางเสียหน้าอีก

หวาเสวี่ยพลันรู้สึกว่าฮ่องเต้แต่งตั้งอ๋องหมิงเป็นรัชทายาทแคว้นต้าโจวก็มีสาเหตุ ความสามารถสามีนางไม่พอจะเป็นรัชทายาทแคว้นต้าโจวจริงๆ

“เพคะ หม่อมฉันเข้าใจแล้ว วันหน้าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องในจวนอีกแล้ว เรื่องในจวนวันหน้าก็มอบให้ท่านอ๋องตัดสินใจเพคะ”

หวาเสวี่ยกล่าวจบก็หันหลังเดินไป ไม่มองเซียวเจินอีก

เซียวเจินถลึงตาไล่ตามหลังนางไปอย่างเดือดดาล ยามนี้หลินจิงเดินเข้ามา ยื่นมือไปประคองเซียวเจิน “ท่านอ๋องกลับกันเถอะเพคะ”

เซียวเจินได้ยินเสียงหลินจิง สีหน้าก็ย่ำแย่อย่างยิ่ง หันไปมองหลินจิง “เหตุใดเจ้าไม่บอกเรื่องนี้กับข้า”

หลินจิงถอนหายใจกล่าวว่า “ท่านอ๋องสุขภาพไม่ดี หม่อมฉันไม่อยากให้ท่านอ๋องกังวลใจจนเกินไป ดังนั้นจึงไม่ได้เอ่ย”

ความจริงหลินจิงรู้ว่าหลังจากนี้ก็สิ้นหวังแล้ว นางไม่อยากเห็นเซียวเจิน และยิ่งไม่อยากเอ่ยถึงเรื่องนี้อีก แต่แน่นอนว่านางจะไม่เอ่ยวาจานี้ออกมา

ACAC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version