Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 280

บทที่ 280

ไม่มีสิ่งใดที่ละทิ้งไม่ลง

ตี้ฝูอีหัวเราะเบาๆ “สัตว์พาหนะของพวกเจ้าไม่เลวเลย นับว่าเยี่ยมยอด หากวันนี้มาสาย ข้าคงต้องลงโทษ!”

เชียนเยวี่ยหร่านหัวเราะเสียงดัง “มิกล้า! มิกล้า! โชคดีที่ไม่ได้มาสาย!”

ฮวาอู๋เหยียนแพขนตางอน ตอบอย่างอ่อนหวาน “เรื่องของฝูอี อู๋เหยียนวางไว้เป็นลำดับแรกเสมอ”

ทั้งสามคนสนทนาปราศรัยกันหลายประโยค แม้แต่จักรพรรดิซวนที่อยู่บนแท่นนั่งชมก็กล่าวต้อนรับเล็กน้อย

กู้ซีจิ่วอดจะถอนหายใจเบาๆ ไม่ได้

‘อยู่ดีๆ ทำไมถึงถอนหายใจเล่า? หรือในที่สุดก็นึกกลัวขึ้นมาแล้ว?’ หยกนภาถาม

กู้ซีจิ่วเอ่ยตอบ ‘ตามนิยายหรือละครในยุคของพวกเราเคยบอกไว้ สำนักหยินหยางเอย สำนักบุปผาเอย พวกนี้ล้วนเป็นนามของสำนักอันชั่วร้าย บรรพจารย์ส่วนใหญ่เป็นมารหญิงชายที่ชมชอบฝึกฝนวิชาสูบพลัง รูปโฉมหยาดเยิ้มพราวเสน์ห์ ดังนั้นข้าจึงคิดมาตลอดว่าเจ้าสำนักหยินหยางต้องเป็นคนเช่นนั้น นึกไม่ถึงว่าวันนี้จะได้พบหญิงงามผุดผ่อง สุภาพอ่อนโยนเช่นนี้ เหนือความคาดหมายของข้าจริงๆ’

หยกนภากาม ‘…เจ้านาย ท่านไม่กังวลสักนิดเลยหรือ?’ มันรู้สึกอยู่เสมอว่าเจ้านายสมองกลับและเพี้ยนเล็กน้อย

‘มือะไรต้องกังวลกัน? เดิมทีข้าก็ไม่ใช่ศิษย์สวรรค์เบื้องบนอยู่แล้ว รอจนผลออกมาว่าไม่ใช่ ข้าก็แค่ไปนั่งแกร่วอยู่ในป่าทมิฬสักสองสามวัน ในเมื่อรู้จุดจบมาก่อนตั้งนานแล้ว เช่นนั้นกังวลไปจะมี ประโยชน์ใด?’ กู้ซีจิ่วปลงตกโดยสิ้นเชิง

‘ในเมื่อแน่ใจว่าตนเองไม่ใช่ เหตุใดถึงต้องการทดสอบอย่างเปิดเผย? ถูกประกาศว่าเป็นตัวปลอมภายใต้สายตาที่จับจ้องมากมายถึงเพียงนิ ท่านไม่รู้สึกอับอายหรือ?’

‘ไม่รู้สึกเลย’ กู้ซีจิ่วตอบกลับอย่างหนักแน่น

ถึงอย่างไรเธอก็ไม่ต้องการตัวตนนี้อีก อับอายแล้วอย่างไร? ไม่อับอายแล้วอย่างไร? เธอแค่อยากบรรลุเป้าหมายของตัวเองเท่านั้น!

ตัวตนนี้มีเรื่องยุ่งยากมากเกินไป ถูกหลงซือเย่ก่อกวน ถูกตี้ฝูอีไล่ล่า จักรพรรดิเฒ่าเอื้ออาทร แถมยังมีสัญญาหมั้นหมายที่สลัดอย่างไรก็ไม่หลุด…

เมื่อรวมเรื่องยุ่งยากเหล่านี้เข้าด้วยกัน ทำให้เธอใช้ชีวิตและฝึกฝนวิชาอย่างอิสระเสรีไม่ได้ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ มิสู้ละทิ้งตัวตนนี้ไปเลยดีกว่า ถึงอย่างไรหลังจบการทดสอบต่อหน้าสาธารณชน เธอก็ต้องถูกโยนเข้าป่าทมิฬ ในความคิดของคนส่วนใหญ่กู้ซีจิ่วเท่ากับตายแล้ว

ภายภาคหน้าเมื่อเธอพ้นจากป่าทมิฬ ก็จะเปลี่ยนตัวตนแล้วไปยังอาณาจักรอื่น จากนั้นเสาะหาสถานที่ที่มีไอวิญญาณหนาแน่น มุ่งมั่นฝึกฝน ใช้ชีวิตแบบที่ตัวเองเคยคิดไว้

เธอวางแผนอนาคตให้ตนเองเป็นอย่างดีแล้ว ยามนี้อับอายสักหน่อยจะเป็นไรไปเล่า?

ดูเหมือนหยกนภาจะเข้าใจความคิดเธอ จึงชะงักงัน ‘ท่านสามารถละทิ้งคนเหล่านี้ได้หมดเลยหรือ? ถึงอย่างไรช่วงหลังมานี้กู้เซี่ยเทียนก็ปฏิบัติต่อท่านอย่างดี ตอนนี้ท่านคือบุตรสาวที่เขาภาคภูมิใจ ตี้ฝูอีก็ดีต่อท่าน เขาถึงขั้นอยากจะหมั้นหมายกับท่าน… องค์รัชทายาทหรงเจียหลัวเองก็ปฏิบัติต่อท่านอย่างแตกต่างยิ่ง ดูสิ หลังจากท่านปรากฏตัวเขาก็มองท่านอยู่ตลอด…’

‘ไม่มีสิ่งใดที่ละทิ้งไม่ลง’ กู้ซีจิ่วตอบอย่างราบเรียบเย็นชา

หยกนภาเอ่ย ‘…ท่านช่างเลือดเย็นจริงๆ!’

เลือดเย็นหรือ? น่าจะใช่กระมัง! ตั้งแต่วินาทีที่เธอเกิดใหม่ในร่างนี้ ก็สาบานไว้แล้วว่าชาตินี้จะมีชีวิตอยู่เพื่อตัวเองเท่านั้น จะไม่ยอมถูกผู้ใดผูกมัด

ในโลกนี้เธอต้องการเพียงสะสางบุญคุณความแค้น มีบุญคุณต้องทดแทน มีความแค้นต้องชำระ ไม่ถูกความรู้สึกใดๆ ผูกมัด รวมทั้งสายใยครอบครัวและความรักด้วย…

“ที่แท้นี่ก็คือแม่นางกู้” เสียงหนึ่งดังขึ้นเบื้องหน้าเธอ

กู้ซีจิ่วเงยหน้าขึ้น สบสายตากับเจ้าสำนักหยินหยางฮวาอู๋เหยียน

ฮวาอู๋เหยียนเพ่งพิศเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า ราวกับมองของแปลกใหม่ชิ้นหนึ่ง กู้ซีจิ่วสบตากับนางอย่างเยือกเย็น นัยน์ตาสงบนิ่งดั่งรัตติกาล

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!