Skip to content

สู่วิถีอสุรา 1092

ตอนที่ 1092 ข้าคือบรรพชนแห่งทะเลเต๋า

แทบเป็นทันทีที่ซูหมิงหรี่ตาลง เขาเห็นว่าเขตฟ้าข้างบนกองกำลังใหญ่พันธมิตรเซียนบิดเบี้ยว แล้วตามมาด้วยดวงตายักษ์ลงมาทีละดวง

ดวงตาทุกดวงมีความใหญ่ร้อยจั้ง พวกมันลงมาครั้งเดียวมากกว่าพันดวง ในลูกตาเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอย แฝงไว้ด้วยความประหลาดและบ้าคลั่ง ช่วงที่พวกมันปรากฏ ดวงตาทุกดวงพลันขยับประกายวิบวับ

ในชั่ววูบเดียวมีสายรุ้งยาวพันสายพุ่งออกมาจากในดวงตาพันดวง ในสายรุ้งยาวเหล่านั้นก็คือสายฟ้าลบล้างที่แปลกใหม่สำหรับซูหมิง!

ดูจากพลานุภาพของมันแล้ว นี่ไม่ใช่สายฟ้าลบล้างตะวัน กระทั่งอ่อนแอกว่าสายฟ้าลบล้างจันทรา นี่น่าจะเป็นสายฟ้าลบล้างโลกที่สังหารผู้ฝึกฌานเจ้าปกครองโลกสมบูรณ์ได้!

เกิดเสียงโครมดังสนั่นขึ้นในตอนนี้ เสียงแหลมจำนวนมากดังกังวาน เพียงแค่พริบตาเดียวฝ่ายสำนักดาราสัจธรรมเกิดการบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก ขนาดซูหมิงยังมีสายรุ้งยาวสายหนึ่งพุ่งเข้ามา สายฟ้าลบล้างโลกในนั้นมีมากกว่าร้อยลูก ขณะที่มันเข้ามาใกล้ก็แตกออกเหนือเขาแล้วกระจายไปรอบๆ

ในนั้นมีหลายลูกตรงมาหาเขา

ซูหมิงมีสีหน้าปกติ ระหว่างที่สายฟ้าลบล้างโลกหลายลูกตรงเข้ามา เขายกมือขวาสะบัดไปคว้าลูกสายฟ้าหลายลูกเอาไว้ในมือ จากนั้นบีบทีหนึ่ง พลังทำลายล้างชีวิตในวิญญาณแผ่ออก

‘ไม่มีประโยชน์ใดๆ โลหิตที่ใช้สร้างสายฟ้านี้ก็คละปนกันมาก’ ซูหมิงส่ายศีรษะแล้วคลายมือออก ตรงกลางฝ่ามือปรากฏโลหิตทองหลายหยด เพียงแต่ว่าแสงทองอ่อนมาก เขาจึงสะบัดทิ้งไป โลหิตเหล่านี้ แม้แต่ราคาในการสูบกินยังไม่มี

ขณะเดียวกับที่ดวงตาพันดวงยิงสายฟ้าพันสายลงมา ทางฝั่งสำนักดาราสัจธรรมเกิดเสียงลากยาว มีร่างเงาคนสิบคนบินขึ้น พร้อมกันนั้น ด้านหลังพวกเขาต่างปรากฏดวงตะวันภัยพิบัติคนละดวง!

นั่นคือดวงตะวันที่มีสีต่างกันสิบดวง สิบคนนี้เป็นผู้แข็งแกร่งภัยพิบัติตะวัน พวกเขาต่างพุ่งทะยานไปยังดวงตาพันดวง ในเวลาเดียวกันข้างหลังพวกเขายังมีคนอีกหลายร้อยคนบินขึ้นพร้อมกัน ทันทีที่หลายร้อยคนนี้บินขึ้น ข้างหลังพวกเขาก็รวมออกมาเป็นดวงจันทร์ภัยพิบัติหลายร้อยดวง หลังพวกเขาห้อเหยียดเข้ามา ผืนฟ้าจึงสะท้อนแสงกับดวงตะวันและจันทราจึงกลายเป็นแสงสว่างพร่างพราวเลิศล้ำ

คนเหล่านี้ต่างใช้การเคลื่อนย้ายพริบตา วูบเดียวก็มาปรากฏอยู่ข้างดวงตาพันดวงนั้น ก่อนเกิดเสียงครึกโครมดังสนั่นหวั่นไหว

ซูหมิงมีสีหน้าปกติ เพียงมองแวบหนึ่งเท่านั้น ขณะกำลังจะห้อเหยียดไปทางฝั่งพันธมิตรเซียนต่อ เขากลับหยุดชะงักไปครู่หนึ่ง นัยน์ตาฉายประกายวาวและรวดเร็วดุดัน

เขาเห็นว่าตอนนี้คนชุดคลุมดำที่ดูไม่เตะตาแม้แต่น้อยข้างกายคนยักษ์ไกลๆ ขยับวูบไหวเป็นสายรุ้งยาวบินไปตรงจุดที่ดวงตาพันดวงอยู่

ขณะเดียวกัน ระหว่งที่คนชุดคลุมดำห้อเหยียดไป เขายกมือขวาขึ้นกดตรงระหว่างคิ้วอย่างเบามือ แล้วกดลงไปยังฟ้ากระจ่างดาวข้างล่าง

เพียงกดลงมา ซูหมิงก็รู้สึกว่าเขตฟ้าเกิดเสียงดังสนั่นและสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง มันค่อนข้างกะทันหันจึงส่งผลให้ผู้ฝึกฌานจำนวนมากไม่ทันตั้งตัวแม้แต่น้อย ถึงอย่างไรผู้ฝึกฌานบนสนามรบที่สนใจคนชุดคลุมดำตลอดเวลาอย่างซูหมิงก็มีไม่มาก

ช่วงที่ท้องฟ้าสั่นสะเทือน ตรงขอบสนามรบเกิดจุดกำเนิดแสงยักษ์ขึ้น นั่นคือ จุดแสงสว่างจ้าแสบตาสองแห่ง เมื่อพวกมันโผล่มาแล้วก็ยืดยาวออกไปสองทิศทางต่างกันอย่างว่องไว เพียงไม่กี่ลมหายใจสองจุดก็เข้าปะทะกัน ล้อมรอบสนามรบแห่งนี้ให้เป็นวงกลมยักษ์

‘ช้อนจันทรากลางบ่อ!’ ซูหมิงหรี่ตาแคบลง เขาไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงกฏที่นี่เลย ราวกับว่าทุกอย่างที่คนชุดคลุมดำใช้เหนือเกินกว่ากฏ ถึงกับพูดได้ว่าเหนือกว่า นอกมหาโลกสามรกร้าง นั่นคืออภินิหารที่ไม่ใช่ของที่นี่ เป็นวิชาจากนอกมหาโลก สามรกร้าง!

ดังนั้นเมื่อใช้วิชานี้ที่มหาโลกสามรกร้าง จึงไม่เหนี่ยวนำกฏของที่นี่มา นี่คือ…..พลังอีกชนิดของฟ้ากระจ่างดาวที่ไม่ต้องใช้กฏ อีกทั้งผู้ฝึกฌานของมหาโลกสามรกร้างจะไม่สังเกตเห็น

โครม!

ตอนที่เกิดเป็นวงกลมขึ้น ฟ้ากระจ่างดาวสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงอีกครั้ง หากตอนนี้เปรียบฟ้าเป็นแผ่นดินใหญ่ เช่นนั้นแผ่นดินคงจะขึ้นลงไม่หยุดราวกับมีมังกรดินเวียนว่ายไปมา

ขณะเดียวกัน เมื่อเกิดวงกลมขึ้น ก็คล้ายกับว่าที่นี่แยกออกจากฟ้าข้างนอก หากมองจากข้างบนจะเห็นชัดว่าสนามรบนี้เหมือนกับกลายเป็นบ่อน้ำยักษ์ ส่วนฟ้ากระจ่างดาวรอบๆ คือแผ่นดินใหญ่ที่เสริมให้ปากบ่อเด่นขึ้น

เวลานี้คนชุดคลุมดำเข้าไปใกล้จุดที่ดวงตาพันดวงอยู่แล้ว ทว่าทางฝั่งสำนัก ดาราสัจธรรมก็มีเสียงหึเย็นชาดังแว่วมา ก่อนมีสายรุ้งยาวสายหนึ่งใช้ความเร็วสูงจนตาเนื้อมองไม่เห็นพุ่งเข้าไปหาคนชุดคลุมดำในพริบตา คนนั้นคือ….ชายชรายอดฝีมือ เขามีเส้นผมสีเทาปนขาว ในตัวไม่มีพลังกฏชะตา นี่คือยอดฝีมือขั้นกุมคนหนึ่ง

ด้วยความเร็วของเขาจึงเข้าไปใกล้คนชุดคลุมดำในเสี้ยวพริบตา คนชุดคลุมดำกางสองแขนออกแล้วประสานสิบนิ้วสองมือตรงหน้า รวมขึ้นเป็นสัญลักษณ์วงกลม เขาไม่มองชายชรายอดฝีมือแม้แต่น้อย เพียงเอ่ยเสียงต่ำดังก้องสนามรบ

น้ำเสียงเขาแฝงไว้ด้วยท่วงทำนองพิลึกบางอย่าง ส่งเสียงดังกังวานไปทั้งสนามรบ

“บ่อน้ำคือต้นกำเนิดแห่งฟ้า ดวงจันทร์คือขอบเขตแห่งอาณาประชาราษฎร์ ใช้บ่อน้ำเป็นโลก ช้อนร่องรอยจันทรา เหมือนเงาสะท้อนกลางบ่อ ช้อนวิญญาณ พวกเจ้า นี่คือ…..ช้อนจันทรากลางบ่อ!” เมื่อเสียงดังกึกก้อง คนชุดคลุมดำโบกสองมือไปข้างนอก เกิดเสียงอึกทึกดังสนั่นขึ้น ระลอกคลื่นไร้รูปแผ่กระจายออกจากสองมือโบกสะบัด ตอนที่ระลอกคลื่นขยายออก ยอดฝีมือขั้นกุมจากสำนักดาราสัจธรรม เงยหน้าคำรามขึ้นฟ้าก่อนยกมือขวากดไปตรงหน้า

ฟ้ากระจ่างดาวสั่นสะเทือน มีฝ่ามือยักษ์ขนาดหลายหมื่นจั้งที่ยังคงยืดยาวไปไม่หยุดอย่างรวดเร็วข้างหนึ่งปรากฏขึ้นกลางฟ้า จากนั้นกดเข้าไปทางระลอกคลื่นที่แผ่มารวมถึงคนชุดคลุมดำ

“พลังแห่งการทำลายล้างป่าเถื่อน ไม่เข้าใจต้นกำเนิดขอบเขตสวรรค์ เลื่อนลอยมีรูปลักษณ์แล้วจะมีประโยชน์อะไร” คนชุดคลุมดำส่ายศีรษะ ถึงจะมองไม่เห็นสีหน้า แต่จากคำพูดดังก้องฟ้าบ่งบอกถึงการดูถูก

เกิดเสียงโครมดังขึ้น ชั่วขณะที่ฝ่ามือยักษ์จากยอดฝีมือขั้นกุมแห่งสำนักดาราสัจธรรมเข้าปะทะกับระลอกคลื่นนี้ ก็เหมือนกับเกล็ดหิมะเจอกับน้ำเดือด มันไม่มีแรงต่อต้านแม้แต่น้อย ระลอกคลื่นขยายต่อไป แต่มันกลับกระจายออก

นี่คือการกระจาย ไม่ใช่แหลกสลาย หากแหลกสลาย คงจะม้วนไปอย่างไม่เป็นระเบียบ แต่การกระจายครั้งนี้มันแตกออกเป็นเม็ดๆ…..

เสียงครึกโครมดังก้อง ขณะที่ฝ่ามือหลายหมื่นจั้งกระจายออก อีกทั้งชายชรา ขั้นกุมยังมีสีหน้าเหลือเชื่อ ร่างเขาสั่นไหวอยู่กลางระลอกคลื่นขยายออก ตรงระหว่างคิ้วปรากฏร่องรอยดวงจันทร์ดวงหนึ่ง!

พร้อมกันนั้น เมื่อระลอกคลื่นขยายออก ตรงระหว่างคิ้วผู้ฝึกฌานสำนักดาราสัจธรรมทั้งหมดปรากฏรอยดวงจันทร์ขึ้น ระลอกคลื่นวิญญาณแผ่ขยายออกจากตัวพวกเขาอย่างรุนแรง ส่วนผู้แข็งแกร่งภัยพิบัติจันทรากับภัยพิบัติตะวันที่กำลังประมือกับดวงตาพันดวงก็หนีไม่รอดจากตราประทับแห่งโชคชะตานี้เหมือนกัน

ช่วงที่ระหว่างคิ้วพวกเขาปรากฏรอยดวงจันทร์ คนชุดคลุมดำยกมือขวาขึ้น ราวกับว่าวงกลมบนฟ้าในดวงตาเขาคือบ่อน้ำจริงๆ และรอยดวงจันทร์ตรงระหว่างคิ้วผู้ฝึกฌานสำนักดาราสัจธรรมทุกคนในบ่อน้ำคือเงาสะท้อนจันทรากลางบ่อ

เขายกมือขึ้นช้อนไปทางบ่อน้ำเบาๆ ราวกับช้อนแสงจันทร์กลางบ่อ

ผู้ฝึกฌานสำนักดาราสัจธรรมทั้งหมดร่างสั่นสะท้านพร้อมกัน ดวงตาปูดนูน ก่อนอัดแน่นไปด้วยเส้นเลือดฝอยเด่นชัดในฉับพลัน พวกเขาตัวสั่น วิญญาณถูกบีบออกมาจากรอยดวงจันทร์ตรงระหว่างคิ้ว!

คล้ายกับว่าคนชุดคลุมดำไม่ได้ช้อนดวงจันทร์ แต่เป็นวิญญาณผู้ฝึกฌานสำนักดาราสัจธรรมทุกคน!

ซูหมิงมองภาพนี้ แม้ก่อนหน้านี้จะเคยได้ยินความแกร่งของคนชุดคลุมดำแห่งพันธมิตรเซียนมาก่อน แต่ถึงอย่างไรบรรพบุรุษไถซานก็ทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บสาหัส ดังนั้นแล้วเขาจึงคิดว่าแม้คนชุดคลุมดำจะแกร่ง แต่ก็ต้องมีขีดจำกัด

เพียงแต่ตอนนี้เขาพบแล้วว่ามันไม่ใช่อย่างนั้น อภินิหารที่คนชุดคลุมดำตรงหน้าใช้ไม่เพียงแต่ไม่เคยพบมาก่อน แม้แต่ยอดฝีมือขั้นกุมยังถูกตราประทับไปด้วย ระดับความแกร่งของอีกฝ่ายไม่ใช่บรรพบุรุษไถซานจะต้านไหว

เว้นแต่นี่ไม่ใช่คนชุดคลุมดำคนเดียวกัน เว้นแต่ระหว่างคนชุดคลุมดำมีอ่อนแอและแกร่ง มิเช่นนั้นแล้วบรรพบุรุษไถซานไม่มีทางทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บหนัก ถึงอย่างไรขั้นพลังบรรพบุรุษไถซานก็เพียงครึ่งก้าวขั้นชะตาเท่านั้น

อภินิหารที่คนชุดคลุมดำใช้เหนือเกินจินตนาการซูหมิง เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าที่แท้อภินิหาร…..ก็ใช้แบบนี้ได้ด้วย นี่ไม่ต้องใช้กฏ และยังไม่ใช้การสร้างกฏ แต่คือการใช้…..พลังอีกชนิดที่ซ่อนอยู่ในฟ้า บางทีไม่รู้กี่ปีมานี้อาจไม่เคยถูกคนจาก สี่โลกแท้จริงตรวจพบเลย!

ขณะที่จิตใจซูหมิงสั่นสะท้าน ฉับพลันนั้นทุกอย่างบนสนามรบในสายตาเขาพลันหยุดนิ่งลง นี่ไม่ใช่การหยุดแบบธรรมดา แต่ฟ้ากระจ่างดาวรอบๆ ไปจนถึงจักรวาล ขนาดอภินิหารของคนชุดคลุมดำยังหยุดนิ่งทั้งหมดอย่างสมบูรณ์แบบ

แม้แต่ร่างซูหมิงยังเสียพลังในการเคลื่อนไหวไปทั้งหมด ในเวลาเดียวกัน มีเสียงแก่ชราดังเนิบๆ ในความคิด

“นี่คือสงครามที่เกิดขึ้นทางตะวันตกเฉียงเหนือของโลกแท้จริงดาราสัจธรรมเมื่อเก้าร้อยเจ็ดสิบสามปีก่อน ในสนามรบ พันธมิตรเซียนปรากฏคนชุดคลุมดำจากต่างแดนและวิญญาณยักษ์ต่างแดนเป็นครั้งแรก

คนชุดคลุมดำเรียกตัวเองว่าห้านิ้วมือ ส่วนคนยักษ์เรียกตัวเองว่า….เทพโบราณ!

สงครามมาถึงตรงนี้ก็จบลง แม้แต่ผู้แข็งแกร่งทั้งหมดจากห้องโถงผู้อาวุโสกับ ห้องโถงสงคราม รวมถึงศิษย์สำนักดาราสัจธรรมทั้งหมดที่นี่สิ้นชีพไปจากวิชาช้อน จันทรากลางบ่อ

องค์ชายที่เคารพ การฝึกฝนของท่านเริ่มขึ้นตอนนี้ คนชุดคลุมดำตรงหน้ารวมถึงเทพโบราณนั่นตอนนี้ตายตกไปแล้ว ศพพวกเขาถูกข้าหลอมรวมอยู่ในทะเลเต๋า ความทรงจำพวกเขาก็ถูกควบคุมโดยข้า ท่านใช้มันได้ตามใจชอบ รอดจากอภินิหารของอีกฝ่ายแล้วก็จงเปลี่ยนสถานการณ์รบ สังหารคนชุดคลุมดำ สังหารเทพโบราณ สำเร็จข้อใดข้อหนึ่งจะถือว่าผ่านการทดสอบ

หากสำเร็จทั้งหมด ท่านจะได้รับสิทธิ์เข้าไปฝึกฝนในสนามรบใดก็ได้แห่งหนึ่งตามต้องการในทะเลเต๋า สิทธิ์นี้ เวลานี้ทั้งสำนักดาราสัจธรรมไม่นับรวมเมื่อหมื่นปีก่อน ในหมื่นปีมานี้ยังไม่เคยมีใครได้รับสิทธิ์”

“ท่านเป็นใคร!” ซูหมิงส่งกระแสจิตไปทันที

“ข้าคือบรรพชนแห่งทะเลเต๋า หนึ่งในสี่บรรพชนสามรกร้างก่อนถือกำเนิดสี่โลกแท้จริง”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!