Skip to content

หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ 386


บทที่ 386 ข้ายังอยากฆ่าอยู่เลย ควรทำยังไงต่อไป? (ต้น)

……

“กลับคืนขั้นผนึกยุทธ์!” ……

……

ทุกคนที่ดูการต่อสู้ต่างพากันหันไปมองมู่ซ่วนชิงเป็นทิวแถว……

..

“อาจารย์ใหญ่มู่ซ่วนชิงจะกลับคืนขั้นพลังผนึกยุทธ์หรือไม่?”

คนที่ยืนพิงผนังเชิงผา มู่ซ่วนชิงมองตรงมาทางเยี่ยฉวนขณะที่โลหิตยังไหลซึมออกมาออกมาทางมุมปากอยู่ไม่ขาดสาย เมื่อเขาทำท่าจะเอ่ยปากพลันเยี่ยฉวนทะยานเข้าหาพร้อมเสือกกระบี่พรวดมาข้างหน้า

ความรวดเร็วของเยี่ยฉวนนั้นไม่ต้องพูดถึง เพียงพริบตาเดียวเขาก็เข้ามายืนประจันหน้ากับมู่ซ่วนชิงแล้ว ทันใดนั้น เยี่ยฉวนพุ่งปลายกระบี่ชี้ตรงจุดกึ่งกลางหว่างคิ้วของอีกฝ่าย

กระบี่พุ่งวาบเปรียบได้กับเงื่อมเงาม้าศึกสีขาวพาดผ่านซอกลึกในรอยแยกก็ปาน!

ประสาทตาของมู่ซ่วนชิงหรี่เล็ก ขณะเดียวกันกับที่ผลักออกฝ่ามือทั้งสองออกไปอย่างแรง

ผัวะ!

ทันใดนั้นฝ่ามือทั้งสองของมู่ซ่วนชิงตะปบจับกระบี่หลิงซิ่วไว้อย่างแน่นหนา แต่กระนั้นพื้นดินใต้ฝ่าเท้าของเขาเริ่มปริแตกแยกออกจากกัน ในเวลาต่อมากระบี่บินเล่มหนึ่งพุ่งวาบรวดเร็วปานฟ้าแลบตรงเข้าหาตัวคน

ชายวัยกลางคนเห็นเช่นนั้นพลันหน้าเผือดวูบ จำต้องคลายฝ่ามือและดันออกไปข้างหน้าทันที ฉับพลันนั้นพลังชนิดหนึ่งกระจายวาบจากฝ่ามือ

ผัวะ!

พลังพุ่งเข้าสกัดกระบี่บินของเยี่ยฉวนจนหยุดนิ่ง!

เยี่ยฉวนเมื่อเห็นเช่นนั้น ขณะต่อมาเขาจึงกระโจนขึ้นสู่อากาศพร้อมตวัดฟาดกระบี่ในมือลงข้างล่างอย่างรุนแรง

ฝ่ายตรงข้ามหรี่ตาลงเล็กน้อย ประกายตาแสนเหี้ยมโหดฉายวับวาว เขาหลีกถอยไม่ได้อีกต่อไปด้วยตำแหน่งด้านหลังอยู่ชิดติดผนังเชิงผาเช่นนั้น!

ไม่มีทางหวนกลับ!

ทันใดนั้นมู่ซ่วนชิงงอเข่าย่อตัวลงพร้อมกับพื้นดินในบริเวณที่คนยืนพลันแตกร้าว ชั่วพริบตาถัดมาเขาดีดตัวพุ่งทะยานขึ้นจากพื้นและผลักออกหมัดลุ่นต้านทานกระบี่ของเยี่ยฉวนที่เข้าปะทะ เมื่อตำแหน่งของกำปั้นมู่ซ่วนชิงอยู่ห่างจากกระบี่ราวสิบนิ้ว เขาสลับสับเปลี่ยนกำปั้นอย่างรุนแรง!

แฉ่!

พลันเสียงแหวกอากาศดังสะท้านไปทั่วทั้งบริเวณ!

ทว่าในเวลานั้นกระบี่บินของเยี่ยฉวนได้พลาดสู่เป้าหมาย

ตู้ม!

แม้ว่าในมือของมู่ซ่วนชิงจะจับยึดกระบี่บินเอาไว้ หากเขายังคงย่อตัวงอเข่าลงอยู่เช่นนั้น นอกจากนั้นผนังเชิงผาข้างหลังกำลังแตกแยกออกเป็นชั้น อีกทั้งมีแนวโน้มว่าปรากฏการณ์ดังกล่าวจะทวีความเร็วขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ผู้คนในลานกว้างต่างหุบปากสนิท อีกทั้งผู้อาวุโสทั้งหลายและศิษย์ของฉางมู่จ้องมองไปยังบริเวณเชิงผาด้วยจิตใจจดจ่อ จนแทบจะลืมหายใจก็ว่าได้!

เยี่ยฉวนทะยานจากเบื้องบนพร้อมกันนั้นก็ตวัดกระบี่ฟันลงโดยแรง

คมกระบี่หลิงซิ่วตัดทำลายแสงขาวนวลเหนือศีรษะของมู่ซ่วนชิงทันทีที่กระบี่ฟาดลงมา!

ฉั่วะ!

เยี่ยฉวนสะบั้นแขนข้างขวาของอีกฝ่ายขาดทันที ทว่าในเวลาเดียวกันกำปั้นจากมือข้างซ้ายของมู่ซ่วนชิงซัดพลั่กเข้าที่บริเวณกลางลำตัวเยี่ยฉวน!

ตู้ม!

ร่างของชายหนุ่มกระเด็นหวือไปในอากาศ ก่อนจะพลิกกลับเป็นหลายตลบและหล่นกระแทกพื้นอย่างแรง แรงปะทะส่งให้พื้นดินตรงนั้นระเบิดออกทันที!

ทว่าเยี่ยฉวนค่อยยันกายลุกขึ้นในเวลาต่อมา เมื่อลุกขึ้นยืนเต็มตัวเขาใช้หลังมือปาดโลหิตมุมปากก่อนจะใช้มือข้างเดียวกันชี้ออกเบื้องหน้า

ฟิ้ว!

แสงสว่างแวบวาบด้วยกระบี่บินพุ่งไปหามู่ซ่วนชิงจากในระยะไกล ส่วนอีกฝ่ายก็โผตัวตรงเข้าหากระบี่อย่างรวดเร็วพร้อมผลักกำปั้นซ้ายกระแทกออกไป

ตู้ม!

ผลที่ตามมากระบี่บินถูกซัดจนปลิวไปในอากาศ ทว่าทันทีที่กระบี่บินคล้อยหลัง มีลำแสงประหลาดจำนวนหกลำแสงพุ่งวาบ……

ครานี้จอประสาทตาของชายวัยกลางคนหดเล็กลงดุจปลายเข็มหมุด พลันยกนิ้วชี้ปลายเข้าที่จุดตรงกลางระหว่างหัวคิ้วของตนเอง ทันทีนั้นแสงสว่างกระจายวาบออกจากร่างคน..!

ความแข็งแกร่งของพลังงานแสงสว่างที่เกิดขึ้นเปรียบได้กับพลังแรงของยอดยุทธ์ขั้นพลังผนึกยุทธ์ทีเดียว อย่างไรก็ตาม ณ เวลานี้มู่ซ่วนชิงมิได้ใช้พลังผนึกยุทธ์แต่อย่างใด! เพราะเขาอยู่ในขั้นผสานเทพ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถปลดปล่อยพลังรุนแรงได้ในขณะที่อยู่ในขั้นผสานเทพ!

ท่ามกลางสายตาของพยานรู้เห็น มู่ซ่วนชิงขยับก้าวเท้าออกไปพร้อมชี้ไปยังที่ว่างเปล่าตรงหน้า พลันช่องอากาศที่ปลายนิ้วแปรเปลี่ยนรูปแบบบิดเบือนไป จากนั้นกระบี่บินทั้งหกเล่มของเยี่ยฉวนหยุดชะงักนิ่ง ด้วยไม่สามารถฝ่าข้ามเข้าไปใกล้ได้แม้สักนิ้วเดียว! ยามนี้ร่างของมู่ฉิงวซ่วนเริ่มสั่นสะท้านแรงขึ้นๆ!

ตอนนั้นเยี่ยฉวนกำลังจับตามองมาจากที่ไกล ทันใดนั้นชายหนุ่มยกนิ้วมือให้สัญญาณ พลันกระบี่บินทั้งหกได้แปรเปลี่ยนเป็นลำแสงสว่างจ้าก่อนทะยานวาบย้อนกลับลงสู่หีบกระบี่ที่เยี่ยฉวนสะพายหลังไว้ดังเดิม

ความเงียบงันครอบงำทั่วบริเวณ!

หึ่มมม!

บังเกิดเสียงกระบี่ดังสะท้านสะเทือนทั่วทั้งลานโล่ง จากนั้นเพียงชั่วกระพริบตารังสีกระบี่เจ็ดเล่มพุ่งขึ้นจากหีบกระบี่ด้านหลังทะยานขึ้นสู่งสู่ท้องฟ้า!

ขณะที่เยี่ยฉวนสาวเท้าเดินตรงไปและยกนิ้วชี้หน้ามู่ซ่วนชิงมาแต่ไกล ทันใดนั้นกระบี่ทั้งเจ็ดที่ลอยอยู่บนพลันพุ่งวาบลงล่างทันทีกระทั่งเห็นเป็นเพียงแสงสว่างเจิดจ้าเจ็ดลำแสง!

คนที่อยู่เบื้องล่างแหงนมอง ทันทีที่เห็นนัยน์ตาฉายประกายวูบวาบบ่งบอกอารมณ์ที่หลากหลาย

ณ จุดนั้นไม่มีทางหลบหลักอีกต่อไป จำต้องสู้ต่อแม้สิ้นหวังก็ตามที!

ก่อนที่กระบี่ทะพุ่งเข้าถึงตัว มู่ซ่วนชิงยกเท้าขวากระทืบแรงลงบนพื้นดินและผลักร่างทะยานขึ้นสูงเผชิญหน้ากับกระบี่ของเยี่ยฉวน ที่บนอากาศเขาผลักหมัดตรงไป พลันพื้นอากาศเบื้องหน้ากลับกลายบิดเบือนไปอย่างรวดเร็ว!

พลังรุนแรงของกำปั้นนั้นใกล้เคียงกับพลังในขั้นยอดยุทธ์ผนึกยุทธ์ทีเดียว!

ซึ่งก็เช่นเดียวกับพลังแห่งกระบี่ที่เยี่ยฉวนออกปะทะไปก่อนหน้า จึงนับได้ว่าพลังปะทะแห่งกระบี่ของเขาทะยานสู่ขั้นสูงสุดของพลังในขั้นยอดยุทธ์ผสานเทพที่พึงกระทำได้!

ตู้ม!

พลังที่มู่ซ่วนชิงระเบิดออกในครั้งนี้บนท้องฟ้าสามารถสกัดกระบี่ของเยี่ยฉวนให้ชะงักหยุดลงได้ทันที อีกทั้งแสงกระบี่ที่เปล่งประกายอยู่รอบกระบี่ได้จางหายลงอย่างรวดเร็วจนเหลือเพียงหมอกควันเท่านั้น

ทว่าขณะนั้นเองเยี่ยฉวนซึ่งอยู่ในระยะห่าง เขาฉวยกระบี่พร้อมทะยานมุ่งหน้าเข้าหามู่ซ่วนชิง

ตู้ม!

ร่างของชายวัยกลางคนอาจารย์ใหญ่กระเด็นหวือลอยไปในอากาศ เมื่อเห็นท่าว่าชายหนุ่มจะเข้าจู่โจมซ้ำพลันนั้นเองกลุ่มคนจำนวนหนึ่งพรวดเข้าขวางหน้าป้องกันให้มู่ซ่วนชิง!

บุคคลเหล่านั้นมีทั้งบรรดาผู้อาวุโสและอาจารย์ของสถานศึกษาฉางมู่ รอบข้างได้มีศิษย์ฉางมู่อีกลายคนตรงเข้ามารุมล้อมเยี่ยฉวน!

ภาพเหตุการณ์นั้นเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของคนที่รอดู จึงพากันเป่าปากส่งเสียงฮึดฮัดแสดงออกถึงความไม่พอใจ!

การท้าเดี่ยว!

นี่เป็นการต่อสู้ตัวต่อตัวระหว่างเยี่ยฉวนกับมู่ซ่วนชิง นอกจากนั้นโดยพื้นฐานชายวัยกลางคนยังเป็นผู้ที่มีขั้นพลังเหนือกว่าเยี่ยฉวน อย่างไรก็ตามดูท่าว่าคนฉางมู่ต้องการที่จะรวมกลุ่มต่อสู้เสียแล้ว!

พวกเขาทำตัวน่าละอายยิ่งนัก!

น่าละอายสิ้นดี!

ACAC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version