ตอนที่ 100-5
ไม่มีอะไรที่ไม่รู้หากยอมจ่ายเงิน!
เพียงแค่พลิกมือ ขวดสีขาวบริสุทธิ์ใบหนึ่งก็ปรากฏอยู่บนฝ่ามือของนาง นางเปิดฝาจุกออก กลิ่นหอมละมุนกลิ่นหนึ่งค่อยๆ ก่อตัวขึ้นกลางอากาศและวนเวียนอยู่ทั่วทั้งชั้น
คนที่ได้กลิ่นนี้ ล้วนรู้สึกมีกำลังวังชากระฉับกระเฉงและสดชื่นขึ้นมาในทันที
ไม่จำเป็นต้องอธิบาย ทุกคนต่างก็รับรู้ได้ว่า โอสถในมือของมู่ชิงเกอนั้น ไม่ใช่โอสถธรรมดาเป็นแน่!
“คุณชาย โอสถนี่…” ชูเซิงมองขวดใบนั้นด้วยสายตาส่องประกาย ราวกับอยากจะแย่งมันมาเป็นของตนเอง
ไม่เพียงแค่เขา คนอื่นๆ รวมทั้งสองพี่น้องตระกูลเว่ยเอง ล้วนใช้สายตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้นจ้องขวดใบนั้น และกลืนนํ้าลายลงคอลำคอราวกับอยากจะกลืนกินมัน
บางที ทุกคนที่อยู่ที่นี่นอกจากสาวใช้ทั้งสองของมู่ชิงเกอและมั่วหยางแล้ว คนอื่นๆ ล้วนกำลังตะลึงกับยาในมือของมู่ชิงเกอ
เพราะว่า ภายในแคว้นระดับสาม ยาที่มีคุณภาพนั้นมีจำนวนน้อยมากเสียจริง
อีกประการหนึ่ง หากมียาระดับนี้ในครอบครอง ส่วนมากก็จะเอาไปประมูล เพื่อให้ได้มูลค่าที่มหาศาล จะพบง่ายๆ อย่างนี้ได้อย่างไร
ท่ามกลางความตกใจของทุกคน มู่ชิงเกอปิดฝาขวดลง ทำให้กลิ่นค่อยๆ จางหายไป หลังจากที่กลิ่นนั้นหายไป สายตาของทุกคนที่ฉายแววเสียดายและไม่จำยอม ก็ส่องสะท้อนอยู่ในดวงตาของนาง
นางกระตุกมุมปากและพูดกับชูเซิงว่า “พอหรือไม่” ชูเซิงที่เพิ่งรู้สึกตัวจากความตะลึงงัน กำลังจะพยักหน้า แต่ก็เรียกสติกลับมาได้ทันเวลา จึงพูดกับมู่ซิงเกอว่า “ไม่ทราบว่า โอสถนี้ของคุณชายมีสรรพคุณอะไร และเป็นโอสถที่อยู่ในขั้นใด”
น้ำเสียงของเขาแฝงความร้อนรนซ่อนอยู่ ไม่ได้แน่วนิ่งเหมือนก่อนหน้านี้ และเห็นได้ชัดว่า โอสถเม็ดนี้ของมู่ชิงเกอส่งผลกระทบต่อเขาเป็นอย่างมาก
“โอสถเม็ดนี้ สามารถรักษาชีวิตแม้จะเหลือเพียงลมหายใจสุดท้าย แม้จะไม่ได้ทำให้หายจนกลับไปเป็นเหมือนเดิมในทันที แต่ในช่วงเวลาคับขันถึงชีวิตก็มี ประสิทธิภาพอันยิ่งใหญ่ สามารถช่วยให้พ้นขีดอันตราย และรักษาชีวิตเอาไว้ได้อีกทั้งยังสามารถรักษาบาดแผลบางอย่างได้อีกด้วย ข้าเรียกมันว่า ยาเก้าชีวิตหวนคืน” มู่ชิงเกอหมุนขวดกระเบื้องอย่างสบายอารมณ์ท่าทางอันผ่อนคลายและหมุนขวดไปตามดังใจต้องการนั้น ทำให้ทุกคนที่อยู่ในนั้นต่างตื่นตระหนก กลัวว่านางจะทำให้ขวดใบนั้นตกแตก
“ยาเก้าชีวิตหวนคืนอย่างนั้นหรือ?!” ชูเซิงหรี่ดวงตาลงมอง แอบสบตากับเหลียนเอ๋อร์
เหลียนเอ๋อร์รีบถอยออกไป แต่ชูเซิงยังคงอยู่ต่อ เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง เพื่อพยายามรักษาจิตใจให้คงที่ พร้อมพูดกับมู่ชิงเกอด้วยรอยยิ้มว่า “คุณชายขอเวลา ประเดี๋ยว เรื่องเกี่ยวกับยานั้นชูเซิงไม่ชำนาญนัก รอให้พี่เหลียนเอ๋อร์ไปตามท่านผู้เฒ่ามาทดสอบยานี้”
มู่ชิงเกอยิ้มรับ
ในตอนนี้ เว่ยกว่านกว่านก็เดินมาอยู่ตรงหน้ามู่ชิงเกอ พลันพูดเบาๆ ว่า “พี่มู่ ท่านจะใช้โอสถที่มีคุณสมบัติอันร้ายกาจนี้ในการแลกข้อมูลจริงๆ หริอ”
ยานี้ ตามที่แนะนำไปก่อนหน้า มันไม่เพียงแค่ช่วยชีวิตได้ แต่ยังสามารถทำให้พ้นขีดอันตรายและรักษาชีวิตไว้หลังจากที่ใช้พลังเกินตัว นี่มันช่างเป็นยาที่พลิกฟ้าโดยแท้!
อย่างไรก็ตาม สำหรับนางแล้ว หากจะใช้ยาพลิกฟ้านี้เพื่อไปแลกกับข้อมูลของพญาเพลิง มันไม่คุ้มจริงๆ
หลังจากค่อยๆ กวาดสายตามองใบหน้าเล็กๆ ที่ดูตึงเครียดของเว่ยกว่านกว่าน มู่ชิงเกอจึงพยักหน้า
เพราะสำหรับนางแล้ว ข้อมูลของพญาเพลิงสำคัญที่สุด เพราะมันเกี่ยวข้องกับสายโลหิตแห่งปรมาจารย์การหลอมอาวุธของนางว่าจะสามารถกระตุ้นได้หรือไม่ อย่าว่าแต่แลกด้วย ยาเก้าชีวิตหวนคืนเพียงเม็ดเดียวเลย แม้ว่าจะต้องใช้ถึงสิบเม็ดนางก็จะไม่ปฏิเสธ อีกประการหนึ่งยาชนิดนี้ในช่องว่างของนาง อย่างน้อยที่สุดก็น่าจะเหลืออยู่ 50 เม็ด ถือว่าเป็นยาที่ตระเตรียมเอาไว้ให้กับองครักษ์เขี้ยวมังกร เพราะฉะนั้นเมื่อครู่นี้ ตอนที่ทุกคนจ้องตาเขม็ง มั่วหยางจึงแอบจับเอวของตนเอง
เมื่อเห็นว่ามู่ชิงเกอพยักหน้า เว่ยกว่านกว่านก็จ้องนางราวกับเป็นไอ้ตัวผลาญสมบัติอย่างนั้น
เสียงฝีเท้าดังขึ้นอย่างกะทันหัน คนยังไม่ทันจะปรากฏ เสียงอันกึกก้องก็สะท้อนเข้าหูของทุกคน “ใครกันที่มีโอสถร้ายกาจมากถึงเพียงนี้”
ทันทีที่สิ้นเสียงนั้น ตาแก่ผมสีขาวรูปร่างอ้วนท้วมคล้ายลูกบอลลูกกลมที่อยู่ในชุดสีขาวก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว ความว่องไวนั้นราวกับกำลังกลิ้งเข้ามา
เหลียนเอ้อร์เดินตามหลังเขามาและวิ่งจนเหนื่อยหอบไปหมด
“ท่านผู้เฒ่าตาน คุณชายในชุดสีแดงผู้นั้นเจ้าค่ะ” เหลียนเอ๋อร์รีบพูด
สายตาอันแหลมคมของท่านผู้เฒ่ากวาดผ่านและจับจ้องไปที่หนึ่งเดียวที่สวมชุดสีแดง นั่นก็คือมู่ชิงเกออย่างรวดเร็ว สายตาอันสว่างใสของเขามีความฉงนใจเกิดขึ้นครู่หนึ่ง และกลับสู่สภาวะเดิมในทันที เขาเดินเข้าไปหามู่ชิงเกอ “เจ้าหนุ่ม เจ้าเองรึที่จะเอาโอสถมาแลกกับข้อมูลของพญาเพลิง”
“ใช่แล้ว” มู่ชิงเกอตอบรับ รังสีข่มขู่คุกคามที่ท่านผู้เฒ่า แผ่ใส่นางราวกับหินที่จมลงสู่มหาสมุทรก็ไม่ปาน ไม่เกิดระลอกคลื่นแม้แต่น้อย
ท่านผู้เฒ่าหรี่ตาลง ยื่นมืออ้วนๆ ออกมา “เอามา”
มู่ชิงเกอขมวดคิ้ว แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจปฏิกิริยาของเขา โยนขวดที่กำลังหมุนเล่นอยู่ในมือไปบนฝ่ามือของเขา
เพราะการกระทำของนาง ทำให้ทุกคนต่างหวาดเสียวกลัวว่าขวดแก้วจะตกและแตกกระจายไป
รวมถึงท่านผู้เฒ่าตานแห่งหอสรรพสิ่งเองก็ตกใจเพราะการกระทำของนาง ในตอนแรกเขายื่นมือออกมารับเพียงมือเดียว ในตอนนี้กลับเปลี่ยนเป็นใช้สองมือรับขวดแก้วที่หล่นลงบนฝ่ามือ ใบหน้าอ้วนๆ โมโหจนหน้าถมึงทึงขึ้นมา หนวดทั้งสองข้างใต้จมูกชี้สูงขึ้นฟ้า
มู่ชิงเกอไม่สนใจปฏิกิริยาของเขาเลยแม้แต่น้อย ท่านผู้เฒ่าตานที่ถูกยั่วโทสะ อุทาน ‘หึ’ แล้วจ้องหน้ามู่ชิงเกอหนหนึ่ง ก่อนจะดึงฝาจุกออก
ทันใดนั้น กลิ่นที่ทำให้ผ่อนคลายและมีความสุขกลิ่นนั้นก็ได้กระจายตัวออกมาอีกหน
ท่านผู้เฒ่าตานหรี่ตาทั้งสองข้างลง แล้วจึงมองรอบๆ ขวด ก่อนจะจ้องไปที่ปากขวดอย่างไม่ละสายตา
แทบจะในทันที เขาเทเม็ดยาที่บรรจุอยู่ภายในขวดออกมาไว้บนฝ่ามือของตนเอง
ในที่สุด ทุกคนที่ตั้งหน้าตั้งตารอก็ได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของยาเก้าชีวิตหวนคืนอย่างชัดเจน!
บนยาเม็ดกลมเกลี้ยง สาดแสงสีครามอ่อนๆ กลิ่นหอมของยาที่แผ่กระจายออกมาเข้มข้นราวกับกลุ่มควัน เพราะเม็ดยาถูกเทออกมา ทำให้กลิ่นหอมที่วนเวียนอยู่ บริเวณทั่วทั้งชั้นสามเข้มมากขึ้น ทุกคนล้วนรู้สึกได้ว่าพลังเวทในร่างของตนเองกำลังขับเคลื่อนอย่างรวดเร็ว
“แสงสีคราม กลิ่นหอมกลายเป็นรูปร่าง! แถมยังเป็นโอสถที่มีคุณภาพชั้นยอดเสียด้วย!” ท่านผู้เฒ่าตานพูดเสียงหลง
ภายในแคว้นระดับสาม ยาที่มีคุณภาพระดับสูงนั้นถือเป็นยาที่ดีที่สุดที่สามารถปรุงออกมาได้แล้ว และผู้ที่สามารถปรุงยาระดับสูงออกมาได้ล้วนเป็นผู้เฒ่าที่มีอายุมากกว่า 100 ปี ทั้งนั้น แต่การจะปรุงยาที่มีคุณภาพชั้นยอดออกมาได้นั้น มีน้อยมาก
เป็นสิ่งที่มีน้อยและลํ้าค่ามากถึงเพียงนี้ ก็ไม่แปลกที่ท่านผู้เฒ่าตานจะเสียมารยาท
ในตอนนี้เขาเองก็มีความสามารถเพียงเฉพาะปรุงยาระดับกลาง ยาที่มีคุณภาพระดับตํ่า ระดับกลาง ระดับสูงและชั้นยอด ทั้งหมดมีเพียงแค่ 4 ระดับนี้เท่านั้น และด้วยความสามารถของเขาสามารถฝืนเข้าถึงได้เพียงแค่การปรุงยาระดับกลางเท่านั้น
ยาที่อยู่ตรงหน้าเขาเม็ดนี้ ผู้ที่หลอมมันออกมามีความสามารถเหนือกว่าเขาถึง 1 ระดับเชียว!