Skip to content

พลิกปฐพี 111-4

ตอนที่ 111-4

เพิ่มยอดขายประจำเดือน ร้องเรียกท่านมั่ว!

อย่างไรก็ตามเพียงแค่ถูกจับมือ ไม่ได้เสียหายอะไรมากนัก

ส่วนการแก้แค้นนั้น จะเกิดขึ้นในสักวันหนึ่ง ครานี้และในคราก่อนๆ ที่ผ่านมา หากนางมีโอกาส นางจะต้องเอาคืนแน่

“มีอะไร” มู่ชิงเกอถามอย่างไม่พอใจ

เพียงแค่ว่า ทันทีที่สิ้นเสียงของนาง ภายในถํ้าก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น

โลกลาวาที่ร้อนอย่างหาที่สุดไม่ได้ในตอนแรก เปลวเพลิงที่อยู่บริเวณโดยรอบค่อยๆ สลายตัว อุณหภูมิก็พลัน เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เปลวเพลิงจำนวนนับไม่ถ้วนไหลลงสู่ทะเลลาวา แล้วหมุนตัวไปมา

ในตอนนี้ ภายในถํ้า เพียงพริบตา ก็ราวกับเปลี่ยนไปเป็นโลกอีกใบหนี่ง

บนฝั่ง ได้กลายเป็นโลกแห่งหินขาว แสงของลาวาเจิดจ้ามากยิ่งขึ้น กลายเป็นดั่งดวงอาทิตย์

“เกิดอะไรขึ้น” มู่ชิงเกอพูดด้วยความตกใจ

ซือมั่วหรี่ตาลง และแอบคิดในใจว่า ‘ดูเหมือนว่าเจ้านั่นจะนับว่าเป็นคนโชคดีคนหนึ่ง เจ้าคนตายยากเช่นนี้ อยู่ข้างๆ เสี่ยวเกอเอ๋อร์นานย่อมไม่ใช่เรื่องดีแน่’

“เสี่ยวเกอเอ๋อร์ไม่ต้องเป็นห่วง นี่เป็นเพียงแค่การเริ่มต้นของขั้นตอนการหลอมรวม” ซือมั่วอธิบายอย่างแนบนิ่ง

เขาไม่ชอบให้คนตัวเล็กที่อยู่ข้างกายคนนี้สนใจใครมากเกินไป

พอได้ยินคำอธิบายของซือมั่ว มู่ชิงเกอก็พยักหน้าและละสายตาจากทะเลลาวาที่กำลังหมุนไปมา แล้วมองชายหนุ่มร่างสูงที่ยืนอยู่เคียงข้าง

ในตอนนี้ส่วนสูงของนางไม่ได้เตี้ยมาก หากเมื่อเทียบกับชายหนุ่มธรรมดาแล้วถือว่าอยู่ในเกณฑ์สูง

ทว่า ชายหนุ่มที่อยู่ข้างกาย นางยังสูงเพียงแค่ระดับไหล่ของเขาเท่านั้นในด้านความสง่าและทรงอำนาจจึงน้อยกว่ามาก

“เสี่ยวเกอเอ๋อร์ไม่ดีใจหรือที่ข้ามาหา” ซือมั่วมองตาที่เต็มไปด้วยคำถามของนาง ในนํ้าเสียงเต็มไปด้วยความเอ็นดู

“ไม่ดีใจ” มู่ชิงเกอตอบตามความเป็นจริง

คำตอบนี้ทำให้ซือมั่วจนปัญญาแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เขารู้สึกว่า ความเป็นศัตรูที่เสี่ยวเกอเอ๋อร์แสดงต่อเขานั้น ชัดเจนเป็นอย่างมาก แต่เขาก็ไม่เคยทำอะไรให้นางไม่พอใจนี่นา เขากลับไม่รู้ว่า ปฏิกิริยาเช่นนี้ของมู่ชิงเกอ เหตุผลประการหลักคือนางเห็นเขาเป็นศัตรูที่สมมติขึ้น หลังจากมู่ชิงเกอเกิดใหม่ เขาเป็นคนแรกที่นางพบ และเป็นเพียงคนเดียวที่นางยอมรับว่าเก่งกาจ สำหรับมู่ชิงเกอแล้ว เขาเหมือนเป็นความท้าทายอย่างหนึ่ง และเป็นเป้าหมายของการอยากเป็นคนที่แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม

ต้องมีสักวันหนึ่ง ที่ได้เปิดศึกกับเขาสักหน นี่คือเป้าหมายในใจของมู่ชิงเกอ

“เสี่ยวเกอเอ๋อร์จะไปโรงโอสถ ข้าก็จะไปเหมือนกัน พวกเรามารวมตัวร่วมเดินทางไปด้วยกันพอดีเลย” ซือมั่วสร้างข้ออ้างขึ้นมา

“ท่านจะไปโรงโอสถหรือ” มู่ชิงเกอมองเขาด้วยความสงสัย ราวกับกำลังประเมินความจริงของคำพูดนี้

ซือมัวพยักหน้าอย่างแนบนิ่ง

เพราะอย่างไร เขาก็ยังไม่ถึงขั้นโกหก เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์กับเสี่ยวเกอเอ๋อร์ แน่นอนว่าเขาจะต้องเดินทางไปพร้อมกับนาง

“ท่านจะไปทำอะไรที่โรงโอสถ” มู่ชิงเกอมองเขาอย่างระแวดระวัง

ซือมั่วพูดพร้อมรอยยิ้ม “เสี่ยวเกอเอ๋อร์คงไม่ได้ลืมฐานะที่แท้จริงของข้าใช่หรือไม่ โรงโอสถที่เมืองอวี๋เป็นโรงโอสถสาขาย่อย และโรงโอสถหลักของมันอยู่ที่อาณาจักรเซิ่งหยวน”

ใช่สิ! นางเกือบจะลืมเรื่องนี้ไปเลย

มู่ชิงเกอกระจ่างทุกอย่างในทันที โรงโอสถหลักอยู่ที่อาณาจักรเซิ่งหยวน และซือมั่วถือเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในอาณาจักรเซิ่งหยวน หรือว่าที่ไปโรงโอสถอาจจะเป็นเพราะมีธุระ?

ในแววตาที่แฝงความซื่อตรงของใครคนหนึ่ง ทำให้มู่ชิงเกอเชื่อในเหตุผลนั้น

แต่ทว่า ข้อเสนอประการต่อมาของมู่ชิงเกอกลับทำให้เขาขมวดคิ้ว “ในคราวนี้ข้าคิดจะปิดบังฐานะที่แท้จริงของตนเอง หากท่านร่วมเดินทางกับข้า ก็จะเป็นการ ประกาศฐานะที่แท้จริงของข้ามิใช่หรือ อีกทั้งยังมีมังกรพยัคฆ์วายุของท่าน ใครในแคว้นฉินบ้างที่จะไม่รู้จัก คนในเมืองอวี๋เองก็เช่นกัน”

“เสี่ยวเกอเอ๋อร์แพียงแค่อยากจะปิดบังฐานะที่แท้จริงของตนเอง ถึงตอนนั้นอย่างมากข้าก็แค่บอกว่าเจ้าเป็นคนติดตามของข้า หรือเป็นน้องชายก็พอแล้ว” ซือมั่วพูดทั้งรอยยิ้ม

“ข้าขอปฏิเสธ!” มู่ชิงเกอปฏิเสธโดยไม่คิด

ทำไมนางต้องติดตามเขาด้วย?

“หากเสี่ยวเกอเอ๋อร์ไม่เห็นด้วย ” ซือมั่วก้มหน้าลงแล้วพินิจครู่หนึ่ง เขาจึงมองมู่ชิงเกอด้วยสายตาเจือไปด้วยการไม่ได้รับความเป็นธรรมและเอ่ยอย่างประนี ประนอม “ก็ให้ข้าเป็นผู้ติดตามเสี่ยวเกอเอ๋อร์แล้วกัน บอกไปว่าข้าเป็นพี่ชายของเจ้า”

“…” มู่ชิงเกอกระตุกมุมปาก จ้องดวงตาสีอำพันของใครบางคน ด้วยความรู้สึกเหมือนกำลังถูกล่อหลอก

เห็นได้ชัดเลยว่าเขากำลังใช้แผนรุกเพื่อถอย ใช้ไม้นี้ เพื่อให้นางหลงกล

พี่ชายอย่างนั้นหรือ? ช่างเป็นพี่ชายที่แสนดียิ่งนัก มู่ชิงเกอโกรธจนเผยรอยยิ้มอันเย็นเยียบ เจ้าปีศาจผู้นี้ไม่เพียงแค่พลังแข็งแกร่ง แต่ยังฉลาดเฉลียวเหนือชั้นเป็นอย่างมาก

“องค์มหาปราชญ์ เลื่อมใส เลื่อมใส” มู่ชิงเกอกัดฟันพูด

พอซือมั่วโค้งยิ้ม ทุกอย่างรอบตัวก็ราวกับจืดจางลงไป พูดอย่างแนบนิ่งว่า “ชมเกินไปแล้วๆ”

จะต้องมีสักวันหนึ่งที่ข้าจะฉีกใบหน้าอันเสแสร้งนั้นของเจ้าให้กระจุย!

มู่ชิงเกอแอบตะโกนด้วยความโกรธในใจ

“พอเถิด เสี่ยวเกอเอ๋อร์อยู่ที่นี่นานไม่ดีต่อสุขภาพของเจ้า ในเมื่อได้สำเร็จตามเป้าหมายแล้ว เราก็ไปกันเถิด” อยู่ๆ ซือมั่วก็พลันพูดขึ้นอย่างกะทันหัน

ไปอย่างนั้นหรือ

มู่ชิงเกอขมวดคิ้ว แล้วมองลาวาที่หมุนไปมาอย่างรวดเร็วมากขึ้นเรื่อยๆ “หานฉายไฉ่ล่ะ”

ซือมั่วตอบว่า “เขาต้องกลืนกินพญาเพลิงเมฆสุริยา ต้องใช้เวลานานมาก บางทีอาจจะเดือนสองเดือน หรือบางทีอาจจะครึ่งปี เสี่ยวเกอเอ๋อร์เแน่ใจหรือว่าจะรออยู่ที่นี่”

‘นานเพียงนั้นเชียวหรือ’ มู่ชิงเกอขมวดคิ้วมากขึ้นกว่าเดิม

นางไม่ได้มีเวลารอมากถึงเพียงนั้น

“ท่านแน่ใจหรือว่าเขาจะไม่เป็นอันตรายอันใด” มู่ชิงเกอมองซือมั่ว ในสายตาอันสว่างแฝงความแน่วแน่ที่ไม่ได้เห็นได้บ่อยมากนัก

เป็นห่วงชายอื่นเช่นนี้ทำให้ซือมั่วไม่ชอบใจเป็นอย่างมาก ‘อืม ต้องการสังหารใครบางคน ต้องทำอย่างไรดีนะ!’ แต่ทว่า เขาก็ยังคงมองมู่ชิงเกอด้วยรอยยิ้มที่งดงามไร้ที่ติ และยืนยันว่า “ข้ามั่นใจว่าเขาจะไม่ตายที่นี่ หากว่าเจ้ายังไม่วางใจ ก็ให้กู่หยาคอยเฝ้าอยู่ที่นี่ อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้เจ้าก็จะมีข้าอยู่เคียงข้าง เขาก็ไม่ได้มีประโยชน์อันใดแล้ว”

“ดี ทำตามที่ท่านบอกเถิด” มู่ชิงเกอหยุดคิดครู่หนึ่ง ก็ตัดสินใจ

‘ฮัดชี้ว!’ กู่หยาที่เฝ้าอยู่เหนือพื้นดินจามอย่างไร้สาเหตุ ผู้ที่เคยมีประสบการณ์มาก่อน พลันคิดถึงความเป็นไปได้บางอย่าง

ทันใดนั้นใบหน้าก็มืดมนลงและพูดอย่างไม่ชอบใจเป็นอย่างมาก “ท่านประมุข ท่านจะทิ้งข้าอีกแล้วหรือ!”

“ถ้าเช่นนั้น เราไปกันเถิด” ซือมั่วเดินมาอยู่ข้างๆ มู่ชิงเกอ แขนเสื้ออันหลวมใหญ่เกี่ยวนางเอาไว้ในทันที

มู่ชิงเกอขมวดคิ้ว ในสายตาเต็มไปด้วยคำถาม

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version