Skip to content

พลิกปฐพี 114-4

ตอนที่ 114-4

คนจับผิดมาแล้ว!

ฟ่งอวี๋กุยกลับไม่อธิบาย เพียงมองเขาด้วยสายตาที่แฝงความนัยและพูดว่า “หลังจากที่เขากินเข้าไปแล้ว ท่านพี่ฟู่ย่อมรู้เอง”

เมื่อนึกถึงคำพูดก่อนหน้านี้ของฟ่งอวี๋กุยที่ว่าจะไม่ฆ่ามู่ชิงเกอ ฟู่เทียนหลงก็เริ่มหวั่นไหว แต่เขาก็ยังคงไม่ไว้ใจฟ่งอวี๋กุย พลันกำห่อยาในมือแน่น แล้วพูดกับเขาว่า “ท่านเป็นใครกันแน่”

“ข้ามีนามว่าฟ่งอวี๋กุย มาจากแคว้นลี่” ฟ่งอวี๋กุยบอกชื่อของตนเองอย่างใจกว้าง

ฟู่เทียนหลงหรี่ตาลงในทันที “แคว้นลี่? ตระกูลฟ่ง! ท่านเป็นคนในราชวงศ์แคว้นลี่!”

ฟ่งอวี๋กุยตาเป็นประกาย พลันพูดพร้อมรอยยิ้ม “ท่านพี่ฟู่ช่างมีวิสัยทัศน์อันกว้างไกล!”

“หึ” ฟู่เทียนหลงเก็บห่อยา แล้วจึงหันหลังเดินออกจากห้องไป

เมื่อเดินไปอยู่หน้าประตู ฟู่เทียนหลงได้หยุดฝีเท้าอย่างกะทันหัน พูดเสียงเข้มว่า “ไม่คิดเลยว่าในราชวงศ์แคว้นลี่จะมีผู้ที่อำมหิตถึงเพียงนี้”

ฟ่งอวี๋กุยยิ้มค้าง องครักษ์ที่อยู่ข้างๆ เขาชักดาบออกมา

ฟู่เทียนหลงกลับปิดประตูอย่างแรงและเดินออกจากห้องไป

“ฝ่าบาท!” องครักษ์มองฟ่งอวี๋กุย

ในสายตาของฟ่งอวี๋กุยแฝงไอสังหารที่สาดฉายความเย็นเยียบ แต่สุดท้ายก็พยายามสงบลง

ฟู่เทียนหลงเดินออกจากห้องส่วนตัว พลางพึมพำว่า “เพื่อสุ่ยหลิง ข้าเองก็กลายเป็นคนเลวไปแล้ว”

เขาเดินกลับไปยังห้องของตนเองโดยไม่แสดงอาการอันใด

ทันใดนั้น กลิ่นอาหารหอมฉุยก็ลอยมาแตะจมูก

ฟู่เทียนหลงหันไปมอง จึงพบว่าบนโต๊ะได้เต็มไปด้วยอาหารที่พวกเขาสั่งเมื่อครู่นี้

“ฟู่เทียนหลง เจ้าไปไหนมา ไหนบอกว่าไปเร่งอาหารมิใช่หรือ” ทันทีที่เขาเข้ามา สุ่ยหลิงก็ถามด้วยความขุ่นเคือง

มู่ชิงเกอกวาดสายตาอันสว่างไสวไปมองเขาแวบหนึ่ง

“ข้า…ปวดท้อง ไปห้องนํ้ามา” ฟู่เทียนหลงพูด

“ตายแล้ว! ทุกคนกำลังเตรียมจะทานอาหาร เจ้าคิดจะพูดอะไรก็พูดหรือ” สุ่ยหลิงพูดด้วยความโกรธ

“ไม่เป็นไรๆ เทียนหลงเป็นคนตรงไปตรงมานี่” เว่ยฉีรีบพูด

ฟู่เทียนหลงเห็นว่าสุ่ยหลิงไม่พอใจตนเอง จึงทำได้เพียงนั่งก้มหน้าอยู่บนที่นั่งของตนเอง

“พอเถิด เมื่อทุกคนมากันครบแล้ว เราทานอาหารกันเถิด! ข้าหิวแล้ว!” เว่ยกว่านกว่านมองอาหารที่หน้าตางดงามน่าทานแล้วนํ้าลายจะไหล

ฮวาเยวี่ยลุกขึ้นมา ยกขวดเหล้าขึ้นมารินให้กับทุกคน

เมื่อถึงฟู่เทียนหลง เขายกมือขึ้นห้าม พลันแย่งขวดเหล้าจากฮวาเยวี่ย “ไม่กล้ารบกวนแม่นาง ข้ารินเอง”

ฮวาเยวี่ยอึ้งไปครู่หนึ่ง แล้วจึงหันไปมองมู่ชิงเกอ

มู่ชิงเกอพยักหน้าเล็กน้อย

สุ่ยหลิงพูด “ไม่ต้องไปสนใจเขา เขาจะทำอะไรก็ปล่อยเขา” พูดจบนางก็เชิดหน้าใส่ฟู่เทียนหลง ฮวาเยวี่ยถอยไปอยู่ข้างหลังมู่ชิงเกอ และนั่งลงเพราะคำสั่งของอีกฝ่าย

พี่น้องตระกูลเว่ยไม่ได้เห็นการปฏิบัติตนระหว่างฮวาเยวี่ยและมู่ชิงเกอเป็นครั้งแรก จึงไม่ได้แปลกใจกับการที่คนใช้มาร่วมโต๊ะกับเจ้านาย และสุ่ยหลิงมาจากแคว้นปาก็ไม่ได้ใส่ใจในพิธีการอันใดมากนัก ฟู่เทียนหลงก็กำลังมีเรื่องกวนใจ จึงไม่ได้สนใจเรื่องเหล่านี้ เพราะฉะนั้น การนั่งลงของฮวาเยวี่ยจึงมิได้สร้างความขัดแย้ง นใด

สำหรับซือมั่วหรือ….ในใจของมู่ชิงเกอ เขาถูกมองข้ามไปอย่างสิ้นเชิง

“มาๆๆ เพื่อฉลองการรวมตัวของเราในคราวนี้ เราชนกันก่อน” เว่ยฉียกแก้วของตนเองขึ้นมา และลุกขึ้นพูด

“ไม่มีคนนอก ทุกคนนั่งลงแล้วทำตัวตามสบายเถิด” มู่ชิงเกอพูดเบาๆ ทำให้คนอื่นๆ ที่กำลังจะลุกขึ้นหยุดการเคลื่อนไหวในทันที

เว่ยฉีเอามือลูบหัว และยิ้มด้วยใบหน้าอันใสชื่อพร้อมพูดว่า “ใช่ๆ ระหว่างเราไม่จำเป็นต้องมากพิธีเช่นนี้”

พูดจบ ทุกคนต่างดื่มเหล้าในแก้ว

เมื่อเหล้าหมดแล้ว แน่นอนว่าต้องเติม

และเมื่อครู่นี้ฟู่เทียนหลงกลับถือขวดเหล้าไว้ในมือของตนเอง

ทันใดนั้น พี่น้องตระกูลเว่ยและสุ่ยหลิงต่างก็มองมาที่เขา

เขายืนขึ้นพร้อมถือขวดเหล้าแล้วพูดว่า “ข้าจะเติมเหล้าให้กับทุกท่าน” ในขณะที่พูด เขาก็เริ่มรินจากฝั่งขวามือของตนเอง

การกระทำของเขา ไม่ได้เป็นที่สนใจของใครเลยแม้แต่ผู้เดียว

เมื่อเขาเดินมาหยุดอยู่ข้างๆ มู่ชิงเกอ ฮวาเยวี่ยก็ลุกขึ้น ยื่นมือไปขอขวดเหล้าจากเขา แต่เขากลับหลีกไปอีกทาง แล้วเปิดฝาเหล้ารินเหล้าสีใสส่องแสงประกายลงในแก้วของมู่ชิงเกอ

หลังจากที่เต็มแก้วแล้ว ฟู่เทียนหลงก็ยกขวดเหล้าขึ้นเขย่า” เหล้าหมดแล้ว ข้าจะไปเปลี่ยนอีกขวด”

พูดจบเขาก็เดินออกนอกประตูไป

หลังจากที่ประตูถูกปิดลง ความรู้สึกตื่นตระหนกของเขา จึงได้ลดน้อยลงบ้าง

เมื่อครู่นี้ ผงยาที่เขาซ่อนไว้ในแขนเสื้อ ได้ตกลงไปในแก้วพร้อมๆ กับเหล้าในขณะที่เขาเท

“เขาคงไม่รู้หรอก!” ฟู่เทียนหลงพึมพำ

“ท่านเป็นอะไรหรือ” เสี่ยวเอ้อร์เดินผ่าน เมื่อเห็นฟู่เทียนหลงยืนอยู่บริเวณประตูตรงทางเดิน ก็รีบเอ่ยถาม

ฟู่เทียนหลงนิ่งไป และยัดขวดเหล้าในมือให้กับเขา แล้วพูดเสียงเข้มว่า “เหล้าหมดแล้ว เจ้าไปเติมให้ข้าที”

เสี่ยวเอ้อร์รับขวดเหล้าแล้วจากไปอย่างรวดเร็ว

ฟู่เทียนหลงหันหลังไปเปิดประตูห้อง และเห็นสุ่ยหลิงเอาแก้ว เหล้าตรงหน้ามู่ชิงเกอมาไว้ตรงหน้าตนเอง

“สุ่ยหลิง เจ้าจะทำอะไร !” ฟู่เทียนหลงได้สติก็รีบห้ามในทันที

สุ่ยหลิงอึ้ง พลันนั่งลงและพูดว่า “ทำไมรึ หากมู่เกอดื่มไม่ได้ข้าจะเป็นคนดื่มแทน”

“ดื่มอะไรเล่า เขาเป็นผู้ชายเหตุใดดื่มเหล้าเพียงแก้วเดียวก็เมาเสียแล้ว” ฟู่เทียนหลงเดินเข้ามา หยิบแก้วตรงหน้าสุ่ยหลิงมาไว้ตรงหน้ามู่ชิงเกออีกหน

แต่ทว่า แขนของเขากลับถูกมือข้างหนึ่งคว้าเอาไว้

ฟู่เทียนหลงค่อยๆ หันไปมองผู้ที่ดึงมือของตนเองเอาไว้

มือข้างนั้น นอกจากงดงามแล้ว ก็ไม่มีอะไรพิเศษแต่กลับทำให้เขาไม่สามารถขยับตัวได้เลยแม้แต่น้อย

เขาเงยสายตาขึ้นมองมู่ชิงเกอด้วยความตื่นตระหนก

มู่ชิงเกอกลับยิ้มจางๆ “ข้าดื่มไม่เก่งจริงๆ เพียงแต่ว่า เหล้าแก้วนี้ไม่ว่าใครก็ห้ามดื่ม”

ฟู่เทียนหลงมือสั่น จนเหล้าที่อยู่ในแก้วเกือบจะหกออกมา ‘หรือเขาจะรู้ตัวแล้ว?’

ท่าทางอันละเอียดอ่อนนี้ สะท้อนอยู่ในสายตาของมู่ชิงเกอ ทำให้นางขมวดคิ้วเบาๆ

“โอ๊ย แค่เหล้าแก้วเดียว” สุ่ยหลิงยื่นมือออกไปแย่งแก้วเหล้าในมือของฟู่เทียนหลงแล้วดื่มในทันที

“สุ่ยหลิง!” ฟูเทียนหลงตะโกนอย่างตกใจ

พลังเสียงของเขาถือว่าทรงพลังมาก การตะโกนครั้งนี้ ทำให้ทุกคนต่างแสบแก้วหู

“อะไร!” สุ่ยหลิงเอามือลูบหู แล้วมองฟู่เทียนหลงด้วยความโกรธ

ฟู่เทียนหลงหน้าซีดเผือดลงมาทันที ท่ามกลางความกระวนกระวาย ทำได้เพียงพูดว่า “คนแซ่มู่บอกว่า ห้ามใครดื่มเหล้าแก้วนี้มิใช่หรือ”

สุ่ยหลิงมองเขาอย่างฉงนใจ ราวกับไม่เข้าใจความผิดปกติของเขา

นางถือแก้วเหล้าเอาไว้ในมือ แล้วพึมพำว่า “แค่แก้วเดียวเอง ชาวแคว้นปาของเราเคยพ่ายแพ้ให้กับสุราหรือ”

พูดจบ นางก็ถือแก้วขึ้นมาและดื่ม

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version