Skip to content

พลิกปฐพี 125-1

ตอนที่ 125-1

ยาของข้าจะกินฟรีอย่างนั้นหรือ

“เจ้าไม่อยากรู้ข้าก็ยิ่งจะบอกเจ้า!”

ความพ่ายแพ้ของเว่ยกว่านกว่าน ทำให้มู่ชิงเกออดยิ้มไม่ได้

นางไม่ได้พูดอะไร รอให้เว่ยกว่านกว่านพูดก่อน

แล้วก็เป็นอย่างที่คิดเอาไว้ เมื่อเว่ยกว่านกว่านไม่ได้รับความสนใจ เว่ยกว่านกว่านก็พูดทุกอย่างที่อยู่ในใจออกมา “มู่เกอ ท่านรู้หรือไม่ว่า ตอนนี้ท่านกลายเป็นคนดังไปแล้ว! ได้รับความนิยมเกือบเทียบเท่าศิษย์พี่เหมย! ผู้ คนในโรงโอสถยังมีการสร้างกลุ่มรักเกอขึ้นด้วย”

“กลุ่มรักเกออย่างนั้นหรือ มันคือสิ่งใดกัน” มู่ชิงเกอถามด้วยความสงสัย

เว่ยกว่านกว่านพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ไอ๊หยา ก็คือกลุ่มที่คอยปกป้องท่านอย่างไรเล่า สนับสนุนท่าน ดูเหมือนว่าศิษย์พี่เหมยก็มีเช่นกัน ชื่อกลุ่มชิงเหมย”

มู่ชิงเกอเพียงกระตุกมุมปากทีหนึ่ง สำหรับการดูแลเป็นอย่างดีของลูกศิษย์สาวในโรงโอสถนางไม่สามารถยอมรับได้

ชีวิตในโรงโอสถน่าเบื่อมากเพียงใด จึงทำให้บรรดาลูกศิษย์สาวเหล่านี้มีเวลาว่างมากพอที่จะทำเรื่องไร้สาระเช่นนี้!

“พวกนางทำอะไรหรือ” มู่ชิงเกอถามพร้อมขนลุก

เว่ยกว่านกว่านกลับเผยรอยยิ้มบาง ๆ และพูดด้วยท่าทางที่แฝงความได้ใจว่า “ท่านออกไปก็รู้เอง ลืมบอกท่านไปว่า ข้าเองก็ได้เข้ากลุ่มรักเกอแล้ว!”

“กว่านกว่านเจ้ามาที่โรงโอสถเพื่อการเรียนนะ” มู่ชิงเกอพูดอย่างปวดหัว

คนอื่นจะเป็นอย่างไร นางไม่สนใจ แต่กว่านกว่านนางกลับต้องตักเตือน

“วางใจเถิด ข้าไม่ทำให้กระทบการฝึกปรุงยาแน่นอน เข้ากลุ่มรักเกอ ในการปรุงยาหากข้ามีเรื่องอะไรที่ไม่เข้าใจก็สามารถไปถามศิษย์พี่ได้ สะดวกสบายกว่าเมื่อก่อนไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่”

มู่ชิงเกอส่ายหน้าเบาๆ “แล้วแต่เจ้าเถิด”

พูดจบ นางก็เดินออกนอกบ้านไม้ไป

เว่ยกว่านกว่านถามไล่หลังว่า “มู่เกอ ท่านจะไปไหน”

ในตอนแรกมู่ชิงเกอก็อยากจะตอบนางว่าตนเองจะไปหอตำรายา แต่พอคิดถึงว่านางเป็นสมาชิกกลุ่มรักเกอ นางจึงปิดปากสนิทและยกมือขึ้นโบก ก่อนจะเดินจากไปอย่างรวดเร็ว

พอมู่ชิงเกอเดินออกจากบ้านไม้ไป นางจึงรู้สึกได้ว่า ‘ออกไปก็รู้เอง’ ของเว่ยกว่านกว่านว่าหมายความว่าอย่างไร!

มู่ชิงเกอยืนอึ้งอยู่กับที่ บรรดาลูกศิษย์สาวที่ยืนรออยู่ข้างนอกเป็นเวลานานแล้ว พุ่งเข้าหานางอย่างดีใจ ทำให้นางตกใจจนรีบถอยหลังและหายไปจากตรงหน้าเหล่าลูกศิษย์สาว เหล่าลูกศิษย์สาวที่ได้รับกลับไปเพียงธาตุอากาศ ในใจรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก

ในมือของพวกนางถือของขวัญอยู่ ล้วนยังไม่มีโอกาสได้มอบให้

“ทำอย่างไรดี มู่เกอเห็นเราก็หนีเลย” ลูกศิษย์สาวผู้หนึ่งพูดขึ้น

ลูกศิษย์สาวอีกคนจึงพูดว่า “ต้องเป็นเพราะการปรากฏตัวของเรา ทำให้เขาตกใจเป็นแน่”

“ของขวัญของเราก็ยังไม่ได้ให้” มีลูกศิษย์สาวอีกคนมองของขวัญที่ถืออยู่ในมือของตนเอง รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก

ในตอนนี้ เว่ยกว่านกว่านเดินออกจากบ้านไม้

“หืม ศิษย์น้องเว่ย!” มีคนตาดีมองออกว่าเป็นเว่ยกว่านกว่าน

ทันใดนั้น เหล่าลูกศิษย์สาวที่ถูกมู่ชิงเกอ ‘ทำร้ายจิตใจ อย่างเป็นที่สุด’ ก็รีบเข้ามาล้อมเว่ยกว่านกว่านเอาไว้

เว่ยกว่านกว่านตกใจจนสะดุ้ง จึงพูดอย่างติดๆ ขัดๆ ว่า “ศิษย์พี่ทั้งหลาย…ทำไมหรือ”

เหล่าลูกศิษย์สาวรีบพูดกับเว่ยกว่านกว่านด้วยความตื่นเต้น “ศิษย์น้องเว่ย เจ้าพักอยู่บ้านไม้ที่เดียวกับมู่เกอสินะ”

เว่ยกว่านกว่านพยักหน้า

ทันใดนั้น มือของนางก็เต็มไปด้วยของขวัญนานาชนิด และยังมีอีกมากมายที่นางถือไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว ปรากฏอยู่ตรงหน้า

เว่ยกว่านกว่านพูดกับเหล่าลูกศิษย์สาวโดยไม่รู้ว่าควรจะยิ้มหรือร้องไห้ดี “เหล่าศิษย์พี่ มู่เกอไม่อยู่ที่ห้อง ของพวกนี้ให้ข้าไปก็ไม่มีประโยชน์!”

มีลูกศิษย์สาวคนหนึ่งเบียดเข้ามา แล้วพูดกับเว่ยกว่านกว่านว่า “ไม่เป็นไรๆ เรารู้อยู่แล้วว่าศิษย์น้องมู่ไม่อยู่ เอาอย่างนี้เจ้าเองก็ถือของเยอะขนาดนี้ไม่ไหว ถ้าเช่นนั้นเจ้าก็พาพวกเราไปที่หน้าประตูห้องของศิษย์น้องมู่ เราจะเอาของวางไว้ที่นั้น”

“นี่มัน…” เว่ยกว่านกว่านลังเล นิสัยของมู่เกอนางก็พอจะรู้อยู่บ้าง หากไม่ได้รับอนุญาตจากเขา แล้วพาพวกนางเข้าไปจะต้องทำให้เขาโกรธเป็นแน่

เมื่อคิดถึงผลจากความโกรธของมู่เกอ เว่ยกว่านกว่านก็ตกใจจนปล่อยมือ ของขวัญจำนวนมากมายหล่นลงบนพื้น “ศิษย์พี่ทุกท่าน เรื่องนี้พวกท่านไปหามู่เกอเองเถิด!”

ทิ้งท้ายเอาไว้ด้วยความเร่งรีบคำหนึ่ง นางหันหลังและวิ่งเข้าบ้านไม้ไป

“นี่! ศิษย์น้องเว่ยเจ้าอย่าเพิ่งไป!”

“ศิษย์น้องเว่ย เจ้าวิ่งทำไม!”

เสียงของคนที่อยู่ข้างหลังดังอย่างไม่ขาดสาย เว่ยกว่านกว่านเอามืออุดหู และบ่นพึมพำว่า “บ้าเกินไปแล้ว! บ้าเกินไปแล้ว! ผู้หญิงพวกนี้ไม่สนใจความแตกต่าง ระหว่างชายหญิงหรืออย่างไร ตามจีบผู้ชายอย่างเปิดเผยเช่นนี้!”

“กว่านกว่านเจ้าทำอะไร” ในขณะที่เว่ยกว่านกว่านร้อนรนจนไม่ทันได้มองทาง ก็แทบชนเข้ากับหน้าอกของใครบางคน และถูกคนผู้นั้นเรียกเอาไว้ทัน

เว่ยกว่านกว่านหยุดอย่างกะทันหัน พลันเงยหน้าขึ้น เห็นใบหน้าที่คับคล้ายคับคลากับตนเองดวงนั้น กำลังมองนางด้วยความสงสัย

“เป็นอะไร มีคนตามเจ้ามาหรือ” เว่ยฉีมองข้างหลังของเว่ยกว่านกว่านอย่างไม่เข้าใจ แต่กลับไม่พบผู้ใด

เว่ยกว่านกว่านส่ายหน้าและเล่าสิ่งที่ตนเองพบเจอนอกบ้านไม่ให้เว่ยฉีฟัง

หลังจากที่ฟังจบเว่ยฉีก็เอ่ยชม ซึ่งไม่บ่อยนักที่จะเป็นเช่นนี้ “เจ้าทำดีมาก หากรู้อยู่แล้วว่ามู่เกอไม่ชอบ แล้วเรายังทำเพราะใช้สิทธิ์ความเป็นเพื่อนของเขาในการทำ บางทีในอนาคตคงจะเป็นเพื่อนกันไม่ได้เสียแล้ว”

เว่ยกว่านกว่านถอนหายใจด้วยความหวาดผวา “เจ้าไม่เห็นเหตุการณ์เช่นนั้นต่างหาก ถูกเหล่าลูกศิษย์สาวสิบกว่าคนพุ่งเข้าหา ทั้งส่งเสียงเจื้อยแจ้วกันอยู่ข้างหูเจ้าจนเวียนหัวไปหมด”

มองนางอย่างพินิจแวบหนึ่ง แล้วยิ้มอย่างเย็นเยียบพร้อมเยาะเย้ยว่า “เจ้าก็เป็นหนึ่งในสมาชิกมิใช่รึ”

“ข้า!…” เว่ยกว่านกว่านพูดอะไรไม่ออกครู่หนึ่ง นางจึงพูดอย่างหมดกำลังใจว่า “ตอนที่ข้าเข้ากลุ่ม เพียงแค่ รู้สึกว่าทุกคนล้วนชื่นชอบมู่เกอ จะรู้ได้อย่างไรว่าพวกนางจะบ้ามากถึงเพียงนี้”

“ช่างมันเถิด ผิดเป็นครู คราวหน้าอย่าไปรวมกลุ่มกับพวกนางอีก” อยู่ๆ เว่ยฉีก็ยื่นมือออกไปลูบหัวของเว่ยกว่านกว่าน และพยักหน้าด้วยท่าทางที่ดูเป็นพี่ชายเป็น อย่างมาก

เว่ยกว่านกว่านเอามือกั้นหัวของตนเองเอาไว้ เพื่อห้ามการกระทำของเว่ยฉี พร้อมถามด้วยความสงสัยว่า “เหตุใดข้าจึงรู้สึกว่าตอนนี้เจ้าเปลี่ยนไป”

“ไม่เหมือนเดิมอย่างไร” เว่ยฉีมองตนเองพลางพูดอย่างไม่เข้าใจ

เว่ยกว่านกว่านเม้มปากคิดครู่หนึ่ง แล้วจึงพูดว่า “รู้สึกว่า อยู่ ๆ เจ้าก็โตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น”

ใครจะคิดว่า ทันทีที่ได้ยินเช่นนี้ เว่ยฉีก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมาในทันที “ข้าเป็นผู้ใหญ่มาโดยตลอด มีแค่เจ้าต่างหากที่ไม่เคยเห็นข้าเป็นพี่ชาย!”

มู่ชิงเกอปรากฎตัวขึ้นอีกครั้งและได้มาอยู่นอกหอตำรายา

นางใช้มือปัดชายเสื้อที่ความจริงแล้วไม่ได้มีเศษฝุ่นติด ก่อนจะเดินเข้าหอตำราไป

ในขณะที่นางเดินเข้าไป นางสัมผัสได้ถึงว่ามีพลังต้องห้ามบางอย่างกวาดผ่านร่างกายของตนเอง จากนั้น ภายในโรงโอสถก็มีเสียงที่ฉายความเคร่งขรึมดังขึ้น

“อันดับแปดของโรงโอสถ นักปรุงยาระดับสูง สามารถขึ้นได้ทุกชั้น ในเวลาที่ไม่จำกัดทุกครั้ง”

มู่ชิงเกอตกใจ นางไม่คิดว่าประสิทธิภาพของโรงโอสถจะสูงมากถึงเพียงนั้น นางยังไม่ทันได้ไปเปลี่ยนหลักฐานรับรองตรงเอว แต่หอตำรากลับสามารถตรวจสอบความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้

เรื่องดีๆ ที่เหนือความคาดหมายคือ ในตอนแรกเข้ามาแทนที่อันดับที่แปดของซ่งอวี้ก็สามารถดื่มดํ่าความสุขดังเช่นเหล่าบุคคลที่อยู่ในอันดับได้แล้ว แต่ว่า เพราะยาที่นางปรุงขึ้นเป็นยาระดับสูง จึงได้กลายเป็นนักปรุงยาระดับสูง ความสามารถสูงกว่าซ่งอวี้อยู่มาก เพราะฉะนั้นผลประโยชน์ที่ได้รับจึงมากกว่าที่ควรจะเป็นในตอนแรก

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version