Skip to content

พลิกปฐพี 154-1

ตอนที่ 154-1

ถูกพ่นออกมาแล้ว!

“ไข่สองใบนี้ จะเอาไปด้วยดีหรือไม่?” มู่ชิงเกอขมวดคิ้วครุ่นคิด

ในขณะนั้น บนพื้นของแม่น้ำไร้พรมแดน คนของสำนักหมื่นอสูรและหอหลอมศาสตราก็กำลังต่อสู้กันอยู่

ฉากการต่อสู้ในครั้งนี้ อสูรวิญญาณคำรามก้อง แสงดาบและแสงจากพลังเวทเปล่งประกายละลานตา ส่องสว่างไปทั่วท้องฟ้าที่มืดมิด จินกุ้ยถูกอสูรวิญญาณสองตัวของเฮยมู่โจมตี แต่เขาก็ยังถือได้ว่าพอได้เปรียบอยู่

ส่วนศิษย์คนอื่นๆ ของหอหลอมศาสตรากลับไม่ได้โชคดีเช่นนั้น อีกทางหนึ่งต่อสู้กับศิษย์ของสำนักหมื่นอสูร อีกทางหนึ่งยังต้องคอยระวังอสูรวิญญาณลอบทำร้ายอีก

การต่อสู้ในครั้งนี้จึงดูทุลักทุเลเป็นอย่างมาก แต่กลับไม่อาจไม่ต่อสู้ได้

เฝิงคุนไห่โจมตีอสูรวิญญาณให้ถอยออกไปทีละตัว ๆ ทั้งยังประกาศไปรอบทิศ “ทุกคนพยายามเข้า จะต้องยับยั้งคนของสำนักหมื่นอสูรให้ได้!” เขาคิดอย่าง งดงาม ตอนนี้คนที่เข้าไปในถํ้าใต้ดินนั้นเป็นคนของหอหลอมศาสตรา พวกเขาเหล่านี้แค่ต้องหยุดยั้งคนของสำนักหมื่นอสูรไว้ รอให้ศิษย์คนนั้นนำสมบัติกลับมา พอความเป็นเจ้าของถูกกำหนด คนของสำนักหมื่นอสูรก็ไม่อาจทำอะไรโดยวู่วามได้อีก นอกเสียจากว่าพวกเขาอยากจะก่อสงครามใหญ่ระหว่างสองสำนัก!

นัยน์ตาของเฮยมู่ฉายแววแข็งกร้าวขึ้น ถอยไปอยู่ข้างๆ ของไท่สื่อเกา เอ่ยเสียงเบาๆว่า “นายน้อย ท่านหาโอกาสลงไป พวกเราจะยับยั้งคนเหล่านี้ไว้ คนที่อยู่ด้านล่างนั้นไม่ใช่คู่ต่อกรของท่านอย่างแน่นอน”

นัยน์ตาของไท่สื่อเกาฉายแววอำมหิต คำพูดของเฮยมู่ ทำให้เขาพยักหน้า

เขาโบกมือครั้งหนึ่ง เสือดำเขาเดียวก็กลายเป็นแสงลอยเข้าไปในกระเป๋าข้างเอวของเขา ไท่สื่อเการะมัดระวัง หลบเลี่ยงการต่อสู้ที่รุนแรง ลอบเข้าไปใกล้ๆ ปากทางเข้า

ภายใต้ท้องฟ้ายามราตรีและความวุ่นวาย ไม่มีใครสนใจในการเคลื่อนไหวของเขา

การต่อสู้ยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ คนและอสูรวิญญาณที่ได้รับบาดเจ็บที่กองอยู่บนผิวนํ้านั้นล้วนถูกแม่นํ้าไร้พรมแดนที่ไร้ความปรานีกลืนกินลงไป

ในจำนวนนั้นมีทั้งศิษย์ของสำนักหมื่นอสูรและหอหลอมศาสตรา

ติงเหม่าหลบๆ ซ่อนๆ อยู่ท่ามกลางกลุ่มคน ลอบโจมตีบ้างเป็นบางครั้ง ทั้งยังอาศัยความช่วยเหลือจากอาจารย์หลบจากภัยอันตรายมาได้ จึงไม่ได้รับบาดเจ็บ ใดๆ

ทันใดนั้น ก็มีกรงเล็บของอสูรวิญญาณโผล่มา ทำให้ติงเหม่าตื่นตกใจจนกลิ้งไปกับพื้น รอดตัวจากอันตรายมาได้

เพิ่งจะหลบจากกรงเล็บที่ต้องการเอาชีวิตมาได้ เขาก็มองไปเห็นไท่สื่อเกาอยู่บริเวณปากทางเข้า

ดวงตาของติงเหม่ากลอกหมุนไปมา หลบออกจากการต่อสู้ไปเช่นกัน ลอบตามไปทางปากทางเข้า

เขาเพิ่งไปถึง ไท่สื่อเกาก็กระโดดเข้าไปด้านในแล้ว ติงเหม่าไม่กล้าชักช้า กระโดดตามเข้าไป คนทั้งสองตามหลังกันเข้าไปภายในหลุมทางเข้า

เฮยมู่ลอบแอบมองสถานการณ์ของไท่สื่อเกาอยู่ตลอดเวลา เมื่อเห็นเขากระโดดเข้าไปในปากทางเข้าแล้ว ในใจก็รู้สึกโล่งใจ แต่ว่าเมื่อมองเห็นว่ามีคนกระโดดตามลงไป นัยน์ตาก็ฉายแววสังหารขึ้นมาหลายส่วน

“ไข่สองใบนี้มันคืออะไรกัน?” ภายในเขาวงกตด้านล่างแม่นํ้าไร้พรมแดน มู่ชิงเกอกำลังครุ่นคิดถึงที่มาของไข่สองใบ

จุดมุ่งหมายของนางก็คือพญาเพลิงระดับเทพฮุ้นหยวน ไม่ใช่ไข่สองใบนี้

“ไม่สนแล้ว เอาไปก่อนค่อยว่ากัน” มู่ชิงเกอขมวดคิ้ว ตัดสินใจออกมา

นางสะบัดมือ ไข่ทั้งสองใบก็ถูกเก็บเข้าไปในช่องว่างของนาง

น่าจะภายในเวลานั้น ภายในหัวของนางก็ปรากฏเสียงของเหมิงเหมิงและหยินเฉิน

“เป็นพลังจิตเพลิงที่แข็งแกร่งมาก!”

“เป็นพลังอำนาจที่แข็งแกร่งมาก!”

มู่ชิงเกอชะงัก เอ่ยถามออกมา “พวกเจ้าทั้งสองพูดอะไรกัน?”

“เจ้านาย ข้าเพียงแต่รู้สึกถึงพลังจิตเพลิงจากไข่สีเทา” เหมิงเหมิงแย่งพูดขึ้นก่อน หยินเฉินก็พูดตามว่า “ข้าก็รู้สึกได้ถึงพลังอำนาจที่มีเพียงอสูรวิญญาณเท่านั้นที่มีจากไข่สีรุ้งใบนี้ แต่ว่ากลับไม่เหมือนกับพลังอำนาจของอสูรวิญญาณทั่วไป ข้าแค่ พูดได้ว่าแข็งแกร่ง แข็งแกร่งมาก”

มู่ชิงเกอตกตะลึง

ในใจพูดว่า ‘ดูท่า ที่มาของไข่สองใบนี้คงไม่ธรรมดา’ ทันใดนั้นภายในหัวของนางก็แวบแสงพลังจิตออกมาสายหนึ่ง จิตใต้สำนึกกล่าวว่า “หรือว่า ไข่สีเทาใบนี้จะเป็นพญาเพลิงระดับเทพฮุ้นหยวน?”

เมื่อพูดประโยคนี้ออกมา แม้แต่ตัวนางเองก็ไม่อยากจะเชื่อ

พญาเพลิงระดับเทพฮุ้นหยวนนั้นอยู่ในช่วงแรกเกิดไม่ผิด แต่ก็ไม่น่าจะเป็นไข่มิใช่หรือ?

มู่ชิงเกอขบริมฝีปาก ดูเหมือนจะรับไม่ค่อยได้กับภาพลักษณ์ของพญาเพลิงระดับเทพฮุ้นหยวน

นางก้มลงมองเข็มทิศในมือ

แล้วก็จริงๆ ด้วยตอนที่นางเก็บไข่มาแล้ว เข็มทิศก็ดูเหมือนว่าจะสูญเสียประสิทธิภาพไป

มู่ชิงเกอเหวี่ยงเข็มทิศไปมา เข็มบนเข็มทิศก็สะบัดไปตามการเคลื่อนไหวของนางไปมาหลายครั้ง

หอหลอมศาสตรามาเพื่อพญาเพลิงระดับเทพฮุ้นหยวน ดังนั้นตนเองถึงได้ตามมา เพื่อหาที่อยู่ของมัน ส่วนเข็มทิศอันนี้ก็คงเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ตามหาพญาเพลิงระดับ เทพฮุ้นหยวน ตอนนี้มันสูญเสียประสิทธิภาพไป นอกจากจะพังแล้ว ก็เหลือแค่เหตุผลเดียว ก็คือ นางหาพญาเพลิงระดับเทพฮุ้นหยวนพบแล้ว

“เกิดอะไรขึ้น? เหตุใดจึงสัมผัสไม่ได้แล้ว?” ทันใดนั้น ภายนอกห้องลับ ก็เกิดเสียงคำถามขึ้น

นัยน์ตาของมู่ชิงเกอฉายแววเยียบเย็น รีบแนบหลบไปกับกำแพง หลบไปอยู่ในมุมที่ยากจะหาพบเห็น นางเพิ่งจะหาที่หลบได้ไม่นาน ก็มองเห็นเงาคนสายหนึ่ง พุ่งเข้ามาจากด้านนอก ตรงเข้าไปยังแท่นสูงที่วางไข่สองใบไว้เมื่อครู่

‘นี่คือ…..’ มู่ชิงเกอลอบพิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง ก็นึกขึ้นได้ถึงสถานะของคนที่มา ‘นายน้อยคนนั้นของสำนักหมื่นอสูร ไท่สื่อเกา’

“น่าเจ็บใจนัก!” ใบหน้าที่หล่อเหลาของไท่สื่อเกา เปลี่ยนเป็นดุร้าย ตบฝ่ามือเข้าที่แท่นสูง จนแท่นสูงเต็มไปด้วยรอยแตกร้าว

“ต้องเป็นศิษย์ของหอหลอมศาสตราเอาไปอย่างแน่นอน!” เขาเอ่ยอย่างเจ็บแค้น ในนํ้าเสียงฉายกลิ่นอายของความอำมหิตออกมา

เขาเอ่ยกับตัวเองอย่างมั่นใจ “ก่อนหน้ายังสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของอสูรวิญญาณมาโดยตลอด ตอนนี้กลับสัมผัสไม่ได้แล้ว พวกเขาน่าจะยังไปได้ไม่ไกล!”

อสูรวิญญาณ!

มู่ชิงเกอเข้าใจในทันใด

รู้สึกว่า จุดมุ่งหมายของสำนักหมื่นอสูรและหอหลอมศาสตราจะไม่ใช่อย่างเดียวกัน แต่กลับต้องมาทะเลาะ ต่อยตีกันอย่างไร้เหตุผล?

เรื่องเข้าใจผิดในครั้งนี้ แน่นอนว่ามู่ชิงเกอจะไม่ไปอธิบาย เพราะว่าในตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่หอหลอมศาสตราต้องการ หรือว่าของที่สำนักหมื่นอสูรต้องการ ล้วนแต่ถูกนางเก็บเข้าไปในช่องว่างแล้วทั้งสิ้น

ส่วนของที่เข้าไปอยู่ในกระเป๋าของนางแล้วนั้น คิดจะให้นางอาเจียนออกมา ก็ไม่ง่ายนักหรอก

ในเมื่อเข้าใจผิดกันไปแล้ว ก็ให้พวกเขาเข้าใจผิดกันต่อไปเถอะ

มู่ชิงเกอคิดในใจเบา ๆ ไท่สื่อเกาหันร่างกลับ ดูท่าเหมือนกำลังคิดจะไล่ตามไป ทันใดนั้น นอกประตูก็มีคนมาอีก มู่ชิงเกอเหลือบมองไป

อา เป็นคนที่คุ้นเคย!

เมื่อมองเห็นติงเหม่าแล้ว มู่ชิงเกอก็รู้สึกว่าตัวเองนั้นโชคดี

ติงเหม่ายั่วยุนางหลายต่อหลายครั้ง แต่ก่อนเป็นเพราะนางไม่อยากสร้างเรื่อง จึงอดทนมาโดยตลอด แต่ตอนนี้นั้น…..

“เป็นเจ้า!” ไท่สื่อเกามองแค่แวบเดียวก็จำติงเหม่าได้

ตอนที่อยู่ต้านนอก ติงเหม่ากล้าด่าว่าเขา ทั้งยังกล้ายกกระบี่ขึ้นชี้หน้าเขาอีก

ทันใดนั้น นัยน์ตาของไท่สื่อเกาเปลี่ยนเป็นอำมหิตขึ้น จ้องมองติงเหม่า ดุจดั่งกำลังมองซากศพ การปรากฏตัวของติงเหม่าก็ขวางทางของไท่สื่อเกาเอาไว้พอดี

เขาหัวเราะเยาะ “ก็ดี จับเจ้า จากนั้นค่อยเอาเจ้าไปแลกสมบัติกับศิษย์ร่วมสำนักของเจ้า”

ติงเหม่าชะงักไป กลอกตาไปมา หัวเราะเยาะเย้ย “อาศัยเจ้า? ข้าบอกเจ้าสักอย่าง ถ้าหากว่าเจ้ากล้าทำร้ายข้าแม้แต่นิดเดียว อาจารย์ของข้าจะต้องไม่ปล่อยเจ้าเอาไว้อย่างแน่นอน ไม่สนว่าเจ้าจะเป็นนายน้อยอะไรนั่น ก็จะต้องตีเจ้าจนฟันร่วง! รีบเอาสมบัติออกมา!”

“เจ้าถึงกับกล้าเอ่ยปากเพื่อเอาสมบัติจากข้า!” นัยน์ตาของไท่สื่อเกาฉายแววเยียบเย็น ไอสังหารแผ่ออกมาทั่วร่าง

เขาชูมือขึ้น เกิดเป็นแสงสีดำแวบหนึ่ง เสือดำเขาเดียวปรากฏอยู่ข้างกายของเขา มันกัดฟันกรอด จ้องไปทางติงเหม่าด้วยใบหน้าที่ดูดุร้าย ติงเหม่าถูกอสูรวิญญาณตัวนี้จ้องมองจนแผ่นหลังรู้สึกเย็นเฉียบ เหงื่อเย็นซึม เสียงของเขาสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ “เจ้า…เจ้าอย่าได้ทำอะไรโดยไม่คิด!”

“ทำโดยไม่คิดแล้วจะเป็นอย่างไร?” ไท่สื่อเกาเหลือบมองเขาอย่างดูแคลน

“ข้า…ข้าบอกเจ้า อาจารย์ของข้าเป็นผู้อาวุโสของหอหลอมศาสตรา ที่แม้แต่ประมุขหอเจอแล้ว ก็ต้องเห็นแก่หน้าของเขาสามส่วน หากเจ้าทำร้ายข้า ก็รอให้เกิดสงครามระหว่างหอหลอมศาสตรากับสำนักหมื่นอสูรของเจ้าได้เลย” ติงเหม่าก้าวถอยหลังไม่หยุด การปรากฏตัวของเสือดำเขาเดียวทำให้เขาสูญเสียความกล้าหาญ

นัยน์ตาของไท่สื่อเกาฉายแววเยียบเย็น ดูเหมือนไม่ได้รับผลกระทบอะไรจากคำเตือนของติงเหม่าเลย เขาสั่งการเสือดำเขาเดียว “กัดแขนและขาของเขาให้

ขาด แต่ไม่ต้องรีบกินเขา เก็บไว้ใช้ยังมีประโยชน์”

คำสั่งของเจ้านาย ส่งผลให้เสือดำเขาเดียวคำรามเสียงแหบแห้งในลำคอ มันสะกิดเท้าพุ่งไปข้างหน้า ไปที่ติงเหม่า

“อ๊าก…! ช่วยด้วย!” ติงเหม่าหวาดกลัวจนล้มลงกับพื้น ถูกเสือดำเขาเดียวทับไว้ กรงเล็บอันแหลมคมของเสือดำเขาเดียว ทะลุเข้าไปในไหล่ของเขา เกิดเป็นรูเลือดหลายรู เจ็บปวดจนติงเหม่าร้องออกมาอย่างโหยหวน

ตอนนี้ เขาลืมไปนานแล้วว่าตนเองเป็นผู้มีพลัง เมื่ออยู่ต่อหน้าเสือดำเขาเดียว ทำได้แค่เพียงขอร้องอย่างขมขื่น รู้สึกเสียใจที่ตามไท่สื่อเกาเข้ามาคนเดียว ยิ่งเสียใจที่ตนเองไม่น่าพูดยั่วให้เขาโกรธเลย!

“โฮกกกกก…!” เสือดำเขาเดียวก้มหัวลงไปคำรามคำหนึ่ง อ้าปากกว้างกัดลงไปที่ข้อมือของติงเหม่า

ไท่สื่อเกาสั่งให้มันกัดมือและเท้าของติงเหม่าให้ขาด ก็ไม่เหมือนมนุษย์ที่เลือกตัดขาดเฉพาะเอ็นมือและเท้า แต่เป็นกัดทั้งฝ่ามือและฝ่าเท้าทั้งหมดออกมาจริงๆ

“อ๊ากกกก…!” ติงเหม่ารู้สึกได้ว่ามือของตนเองถูกกัดขาดออกมา

ความเจ็บปวดนี้ แทบจะทำให้เขาสลบลงไป

ภายในมุมมืด มู่ชิงเกอมองเห็นความเจ็บปวดของเขาแล้ว ภายในแววตาฉายแววเห็นใจ แต่ก็ไม่ได้คิดจะปรากฏตัวออกมา ยากที่จะได้เห็นพวกเขาสุนัขกัดสุนัข นางแน่นอนว่า สนใจที่จะชมดู

เพียงแต่ว่า นางคิดไม่ถึงเลยว่านายน้อยของสำนักหมื่นอสูร ที่ดูเหมือนคนจิตใจดีแต่กลับมีจิตใจชั่วช้าได้ถึงขนาดนี้ คนเช่นนี้นั้น หากไม่ฆ่าตั้งแต่ยังไม่เติบโต หลังจากเติบโตขึ้นไปแล้ว ก็จะกลายเป็นคนที่โหดเหี้ยมอำมหิตมาก

“อ๊า อ๊า อ๊า…!”

หลังจากขาข้างสุดท้ายของติงเหม่าถูกเสือดำเขาเดียวกัดขาดออกมาแล้ว ร่างของเขาก็รู้สึกถึงความเจ็บปวดไปทั่ว

หากไม่ใช่เพราะว่าพลังเวทของเขาซ่อมแซมตัวเอง รักษาชีพจรของเขาเอาไว้ เกรงว่าเขาคงจะตายไปแล้ว

เมื่อทำภารกิจที่เจ้านายมอบหมายให้สำเร็จแล้ว เสือดำเขาเดียวก็เลียเลือดบนปาก แล้วกลับไปอยู่ข้างกายของไท่สื่อเกา

ไท่สื่อเกาลูบหัวของเสือดำเขาเดียวด้วยความพึงพอใจ หยิบกระดูกเปื้อนเลือดชิ้นหนึ่งออกมาจากกระเป๋า โยนเข้าไปในปากของเสือดำเขาเดียว

ส่วนเขาก็มองไปทางติงเหม่าที่เต็มไปด้วยเลือดกองอยู่บนพื้น นัยน์ตาฉายแววเยียบเย็น ทั้งยังเต็มไปด้วยความเกลียดชัง

ทันใดนั้น ขนของเสือดำเขาเดียวก็ชันตั้งขึ้น รอบร่างเต็มไปด้วยความระแวดระวัง มองไปทางที่มู่ชิงเกอกำลังซ่อนตัวอยู่ คำรามเตือนออกมา

นัยน์ตาของไท่สื่อเกาฉายแววอำมหิต มองไปยังทิศทางที่มู่ชิงเกอหลบซ่อนตัวเช่นเดียวกัน ตะคอกถามออกมา “เป็นใคร? ออกมาเดี๋ยวนี้!”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!