Skip to content

พลิกปฐพี 171-1

ตอนที่ 171-1

เดินทางสู่อาณาจักรเชิงหยวน!

พญาเพลิงปาฮวงซูคงนั้นไร้สีไร้รูปลักษณ์อีกทั้งเปลวเพลิงก็ยังไม่มีอุณหภูมิความร้อน ทำได้เพียงสัมผัสและจับสังเกตการเปลี่ยนแปลงของพลังจิตรอบด้านเพียงเท่านั้น ถึงจะสามารถคาดเดาที่ที่มันอยู่ได้

มู่ชิงเกอยกทวนหลิงหลงขึ้นมา พลังจิตขั้นสีม่วงพุ่งออกมาจากปลายทวน ก่อนจะพุ่งโจมตีไปที่ตัวของพญาเพลิงปาฮวงซูคง

ปัง—–!

เหมือนกับเสียงระเบิดของสายฟ้าก็ไม่ปานดังสะท้อนขึ้น

พญาเพลิงปาฮวงซูคงที่กำลังพุ่งไปทางหยวนหยวนอย่างเกรี้ยวกราดพลันเปลี่ยนทิศทาง ส่งเพลิงไร้ลักษณ์สายหนึ่งซัดไปทางมู่ชิงเกอ

เปลวเพลิงโปร่งแสงพุ่งเข้ามา เผาไหม้พลังจิตในอากาศที่ผาดผ่าน มู่ชิงเกอก็สามารถเห็นได้ด้วยตาตัวเองว่า พลังจิตสีม่วงของตนนั้นหายจากตรงหน้าไปต่อหน้าต่อตา

ดวงตาทั้งสองข้างของนางเบิกกว้างขึ้น ก่อนจะพุ่งถอยไปด้านหลังอย่างรวดเร็ว รวบรวมพลังพร้อมกับวาดทวนออกไป พลังจิตสีม่วงอันกล้าแกร่งก็เหมือนกับไม่คิดเสียดายมันก็ไม่ปาน ปล่อยมันออกไป กลายเป็นหมอกสีม่วงบางๆ สายหนึ่ง ห่มคลุมพญาเพลิงปาฮวงซูคงที่อยู่บนฟ้าเอาไว้

‘มองเห็นแล้ว!’ มู่ชิงเกอจ้องมองไปทางหมอกสีม่วง แววตาสว่างวาบขึ้น ก่อนจะกลายเป็นตื่นตระหนก

เมื่อครู่ตอนที่พลังจิตของนางถูกพญาเพลิงปาฮวงซูคงแผดเผา ก็ทำให้ในหัวของนางอยู่ๆ ก็นึกบางอย่างขึ้นได้ ใช้พลังจิตของตัวเองตรวจจับร่องรอยของพญาเพลิงปาฮวงซูคง

ถึงแม้ว่าวิธีการเช่นนี้จะเปลืองแรงและพลังมาก ทำให้พลังจิตสูญสลายไปอย่างบ้าคลั่ง แต่กลับกันกลับทำให้สามารถรู้ถึงความเคลื่อนไหวของพญาเพลิงปาฮวงซูคงได้ ไม่ต้องกังวลเรื่องลอบโจมตีอีก

อีกทั้งพอเป็นเช่นนี้ ก็ยังสามารถหลอกล่อพญาเพลิงปาฮวงซูคงได้ทำให้มันหยุดโจมตีหยวนหยวนไปชั่วขณะ เปลี่ยนมาเป็นโจมตีมู่ชิงเกอ

พลังจิตสีม่วงที่กลายเป็นม่านหมอกก็ถูกพญาเพลิงเผาทำลายไปอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ถูกมู่ชิงเกอเติมเต็มเข้าไปใหม่เรือยๆ

จนนางสามารถหลบหลีกเปลวเพลิงของพญาเพลิงได้ ครั้งแล้วครั้งเล่า อีกทั้งยังสามารถดึงดูดความสนใจของมันเอาไว้ได้

เสียงคำรามกดตํ่าที่แฝงไว้ด้วยความเกรี้ยวกราดดังขึ้นมาจากความว่างเปล่าอย่างต่อเนื่อง เพลิงไร้ลักษณ์พวกนั้นที่เฉียดผ่านมู่ชิงเกอไป ทันใดนั้นก็เผาทำลายพื้นดินส่วนหนึ่งจนแหว่งหายไป

มู่ชิงเกอก็เผชิญหน้าเป็นตัวล่อการโจมตี ส่วนหยวนหยวนก็หาจังหวะลอบโจมตี

ทั้งสองคนถึงแม้ว่าจะไม่ได้ปรึกษากันมาก่อน แต่กลับสามารถสอดประสานกันได้อย่างลงตัว ชั่วขณะนั้นกลายเป็นปรับเปลี่ยนทิศทางของการปะทะ ไปจนถึงขั้นที่ทำให้พญาเพลิงปาฮวงซูคงที่เผยโฉมหน้าที่แท้จริงออกมา กลายเป็นต่อสู้ลำบากขึ้น

พลังจิตสีม่วง ทวนหลิงหลง พญาเพลิงปีศาจไป๋กู่ก็เหมือนกับว่ากำลังพาดผ่านไปในท้องฟ้าอันว่างเปล่า แต่ในความเป็นจริงแล้วเป้าหมายของพวกมันก็ล้วนแต่มี เพียงหนึ่ง นั้นก็คือพญาเพลิงปาฮวงซูคง

ไกลออกไป เหล่าชาวเผ่าที่หนีออกไปไกลจากเทือกเขาปาฮวงเพราะความแปลกประหลาดบนท้องฟ้าก็พากันรวมตัวกันเข้ามา

“รีบดูสิ เมฆสีม่วงนั้นทำไมถึงได้รวมตัวอยู่บนเทือกเขาปาฮวง?”

“หรือว่าจะมีสมบัติอะไรปรากฏขึ้น?” มีคนใจกล้ากล่าวคาดเดาขึ้นมา

“และก็อาจเป็นไปได้ว่ากำลังมียอดฝีมือปะทะกันอยู่ที่นั้น” ประโยคนี้ราวกับมีสาดนํ้าเย็นออกมา

“น่าหวาดกลัวนัก! พวกเจ้าดูที่เมฆสีม่วงพวกนั้นซิ เดี๋ยวก็ปรากฏ เดี๋ยวก็สูญสลาย ช่างแปลกประหลาดยิ่งนัก!”

“ไม่ใช่ว่าพวกเราทำเรื่องลบหลู่เหล่าทวยเทพเข้า ทำให้เหล่าทวยเทพไม่พอใจ?” คนที่กล่าวอายุก็ค่อนข้างมาก เขาพอกล่าวจบก็พลันคุกเข่าลงไปอย่างสั่นกลัว สองมือประกบเข้าหากัน เปลือกตาทั้งสองข้างปิดลง เริ่มสวดขอขมาขึ้น

พอมีเขาเป็นตัวนำ ผู้คนในเผ่าไม่ว่าจะเด็กหรือแก่ ไม่ว่าจะชายหรือหญิงต่างก็พากันคุกเข่าตามลงไป สวดขอขมาอย่างขยันขันแข็ง สวดขอร้องอ้อนวอนให้เทพที่พวกเขาเคารพนับถือคลายความโกรธลง กลับมาปกป้องคุ้มครองความสงบสุขของเผ่าของพวกเขาต่อไป

วู้ด—–วู้ด—–

เสียงแตรส่งข่าวของชนเผ่าพลันดังขึ้น

เหล่าชนเผ่าที่อยู่ใกล้ๆ กับเทือกเขาปาฮวง ต่างส่งนักสู้ของตัวเองออกไป นำเรื่องความผิดปกติของเทือกเขาปาฮวงส่งออกไป ส่งไปยังเผ่าใหญ่ๆ ที่ตนอยู่ใต้อาณัติ

อย่างรวดเร็ว ไม่ทันถึงครึ่งวัน ข่าวคราวก็ส่งมาถึงชนเผ่าหูแล้ว

ฟู่เทียนหลงก้าวอาดๆ เข้าไปในห้องของท่านผู้เฒ่า เร่งร้อนกล่าวว่า “ท่านผู้เฒ่า เทือกเขาปาฮวงที่นั่นเกิดเรื่องแล้ว ไม่แน่ว่ามู่เกอจะหาพญาเพลิงปาฮวงซูคงเจอแล้ว แล้วเกิดการปะทะกับมันขึ้น ท่านมีวิธีอะไรสามารถเอาชนะมันได้หรือไม่? ข้าจะไปช่วยมู่เกอ”

ผู้เฒ่าพยายามเปิดเปลือกตาอันหนักอึ้งของตน กล่าวทอดถอนใจ “ถ้าหากข้ามีวิธี ก็คงจะไม่รั้งอยู่ที่นี่แล้ว นี่ก็เป็นทางเลือกของเขา เจ้าไม่ต้องไปวุ่นวาย”

“ไม่ได้ เขาก็เป็นเพื่อนของข้า อีกทั้งยังเป็นข้าที่พาเขามา ข้าไม่อาจเบิกตามองเขาเกิดเรื่องแล้วอยู่เฉยๆ ได้” ฟู่เทียนหลงกล่าวอย่างดึงดัน

ท่านผู้เฒ่าค่อยๆ ปิดเปลือกตาลง เปลือกดูหย่อนคล้อย พยายามใช้เสียงอันโรยแรงกล่าวว่า “เจ้าไม่อาจไปได้ เส้นทางของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน อย่าได้เข้าไป วุ่นวาย อีกอย่างเจ้าตอนนี้หากรุดหน้าไป แล้วจะยังทำอันใดได้…”

“ท่านผู้เฒ่า!” เสียงอันโรยแรงของท่านผู้เฒ่าก็ทำเอาฟู่เทียนหลงเกิดตระหนกขึ้นมา เร่งรีบพุ่งเข้าไป

พอเขาเพิ่งจะเข้าใกล้ได้ไม่เท่าไร ร่างกายของท่านผู้เฒ่าก็พลันล้มลงไปด้านหลัง

ฟู่เทียนหลงเร่งรีบประคองเขาเอาไว้พอมองไปทางใบหน้าอันเหี่ยวชราที่ดูหมองคลํ้าของท่านผู้เฒ่า ก็เหมือนกับถูกปกคลุ่มไว้ด้วยกลิ่นอายของความตายอย่างไรอย่างนั้น

“ท่านผู้เฒ่า! ท่านผู้เฒ่า!” ฟู่เทียนหลงร้องเรียกขึ้นอย่างร้อนรนใจ

ท่านผู้เฒ่าฝืนยกฝ่ามือขึ้น ก่อนจะตบมันอย่างโรยแรงไปบนแขนของฟู่เทียนหลงเบาๆ สองที ใช้แรงเฮือกสุดท้ายกล่าวกับเขาว่า “ในที่สุดก็รอจนมาถึงเวลานี้ เทียนหลงเอ๋ย เจ้าก็ถือเป็นนายน้อยของชนเผ่าหู ถือเป็นความคาดหวังของชนเผ่าหูในอนาคต จงจำเอาไว้ว่าอย่าได้เป็นคนมุทะลุ อย่าทำอะไรด้วยอารมณ์”

พอกล่าวจบ แขนของท่านผู้เฒ่าก็ร่วงตกลงไป ไร้ซึ่งลมหายใจอีก

“ท่านผู้เฒ่า—–!” ฟู่เทียนหลงตะโกนร้องเรียกขึ้นเสียงดัง

“แค่ก แค่ก ” มู่ชิงเกอตกลงบนพื้นของเทือกเขาปาฮวง ใบหน้าขาวซีด บนหัวผุดเต็มไปด้วยเหงื่อ นางมือหนึ่งคํ้าทวนหลิงหลงเอาไว้อีกมือหนึ่งหยิบขวดยาออก มาเปิดจุกออก ก่อนจะเอาเม็ดยาทั้งหมดเทออกมา ตัวโอสถพอเข้าปากก็พลันละลายออก พริบตาเติมเต็มไปตามเส้นชีพจรของนาง ทำให้พลังจิตที่แห้งขอดของนางของนางได้รับการฟื้นฟูขึ้นมาส่วนหนึ่ง

ทันใดนั้นเอง เมฆสีม่วงตรงหน้าก็มีความเคลื่อนไหว ตรงหน้าของนางพลันเกิดรอยแยกขึ้นสายหนึ่ง

มู่ชิงเกอแววตาไหววูบ ร่างกายพลิกหลบไปด้านข้าง เร่งรีบหลบออกไปอย่างรวดเร็ว

จากนั้นไม่ทันไร จุดที่นางยืนอยู่เมื่อครู่ก็พลันกลายเป็นสภาพเละเทะอย่างรวดเร็ว กลายเป็นความว่างเปล่า

‘เกือบไปแล้ว!’ มู่ชิงเกอมองไปยังความว่างเปล่าผืนนั้นด้วยหัวใจอันเต้นระรัว

เมฆสีม่วงก็พลันเกิดความเคลื่อนไหวขึ้นอีกครั้ง เปลวเพลิงของพญาปาฮวงซูคงก็พลันพุ่งมาที่นาง สัมผัสไปโดนที่ตัวของนาง ทำทั้งตัวคนถูกเผาขึ้นก่อนจะกลาย เป็นความว่างเปล่า

นี่ก็ถือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงชั่วพริบตาเท่านั้น ในตอนที่เส้นผมของ ‘มู่ชิงเกอ’ ถูกเผา ก็พลันมีมู่ชิงเกออีกคนปรากฏขึ้นอีกฝากหนึ่ง จ้องมองไปยัง ‘ตัวเอง’ ที่กำลังถูกเผาอย่างรวดเร็ว

ราวกับรู้สึกได้ว่าตัวเองถูกหลอกลวง พญาเพลิงปาฮวงซูคงก็พลันร้องคำรามอย่างเกรี้ยวกราดขึ้นอีกครั้ง ชั่วขณะนั้น ในความมืดมิดยามราตรีก็พลันปรากฏเส้น แสงขึ้นสายหนึ่ง ดวงอาทิตย์ที่อยู่ไกลออกไปก็ค่อยลอยสูงขึ้น แสงสว่างก็พลันเข้ามาเยือน

การปะทะกันหนึ่งวันหนึ่งวันคืน ก็ทำเอามู่ชิงเกอใช้พลังไปจนหมด แต่ว่าการปะทะก็ยังไม่ได้จบลงเพียงเท่านี้

ตาเห็นพลังจิตสีม่วงของตนกำลังจะถูกเผาจนหมด มู่ชิงเกอก็พลันสะบัดมือขึ้นมาอีกครั้ง เอาพลังจิตในกายของตนส่งเพิ่มมันออกไป ชั่วขณะนั้นบนตัวของพญาเพลิงปาฮวงซูคงก็ปรากฏม่านหมอกสีม่วงขึ้นมาอีกชั้นหนึ่ง

ทันใดนั้นเอง หยวนหยวนก็มาปรากฏที่ข้างกายของมู่ชิงเกอ ใบหน้าอวบอูมดูน่ารักประดับเต็มไปด้วยความเป็นห่วง “ลูกพี่ท่านแม่ ท่านรีบเข้าไปพักผ่อนในช่องว่างเถอะ หยวนหยวนสู้ไหว!”

มู่ชิงเกอกัดฟันส่ายหน้า มองไปทางเขาพลางกล่าวว่า “พวกเราก็สิ้นเปลืองพลังกับมันมาตั้งนานขนาดนี้ แล้วจะไปยอมแพ้เช่นนี้ได้อย่างไร? หยวนหยวนเจ้าจับ จังหวะให้ดี เตรียมกลืนกินมันเสีย!”

หยวนหยวนพยักหน้า

ชั่วขณะนั้น เปลวเพลิงของพญาเพลิงปาฮวงซูคงก็เหมือนกับสัตว์ป่าที่กำลังบ้าคลั่งก็ไม่ปานพุ่งมาทางพวกเขา หยวนหยวนอ้าปากพ่นออกไป พญาเพลิงปีศาจไป๋กู๋ถูกพ่นออกไปจากปากของเขา ทำการแผดเผากับพญาเพลิงปาฮวงซูคง

มู่ชิงเกอก็อาศัยจังหวะนั้นวาดมือส่งพลังจิตออกไปคลุมตัวของพญาเพลิงปาฮวงซูคงเอาไว้อีกครั้ง

ส่วนหยวนหยวนก็อาศัยจังหวะนี้พุ่งไปทางพญาเพลิงปาฮวงซูคง ร่างกายอยู่ๆ ก็กลายเป็นรางเลือนขึ้นมา ดูดำมืดขมุกขมัว เหมือนกับความเวิ้งว้างผืนหนึ่งอย่างไรอย่างนั้น เขาพุ่งไปทางพญาเพลิงปาฮวงซูคง พญาเพลิงทั้งสองเกี่ยวรัดเข้าด้วยกัน พลังจิตที่มู่ชิงเกอปล่อยออกไปก็พลันถูกใช้ออกไปอย่างบ้าคลั่ง ชั่วขณะนั้น เปลวเพลิงของพญาเพลิงปาฮวงซูคงอยู่ๆ ก็พุ่งมาทางนาง ความรวดเร็วเช่นนั้นก็รวดเร็วมาก ทำเอามู่ชิงเกอถอยหนีไม่ทัน ทำได้เพียงยื่นมือออกไปป้องเอาไว้

การป้องมือครั้งนี้ ความเจ็บปวดอันดุดันสายหนึ่งก็พลันแผ่ขยายมาจากแขนของนางในทันใด

ความเจ็บปวดเช่นนั้น ก็ยากนักที่จะอธิบาย เจ็บเสียจนมู่ชิงเกอจับทวนหลิงหลงเอาไว้ไม่ไหว ตัวทวนเงาวับพลันมีเสียงตึงตังขึ้นเสียงหนึ่ง ร่วงตกลงไปบนพื้น ส่วนนางก็ตกลงมาจากกลางอากาศ ชันเข่าข้างเดียวอยู่กับพื้น

“ซี้ด—–!” มู่ชิงเกอเจ็บปวดจนใบหน้าบิดเบี้ยว แต่กลับกัดฟันไม่ยอมร้องออกมา

มือข้างที่ไม่ได้รับบาดเจ็บของนาง ก็จับมือข้างที่ไฟลวกเอาไว้ช้อนสายตาอันเย็นยะเยือกมองไปทางหยวนหยวนที่กำลังปะทะอยู่บนฟ้ากับพญาเพลิงปาฮวงซูคง

นางก็รู้ว่านี่เป็นความตั้งใจของพญาเพลิงปาฮวงซูคง!

ตั้งใจลอบโจมตีนางให้นางได้รับบาดเจ็บ ต้องการให้หยวนหยวนเสียสมาธิ

ดังนั้นนางก็ไม่อาจร้องได้แม้แต่เสียงเดียว ทำให้หยวนหยวนจากใกล้จะชนะกลายเป็นแพ้!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version