Skip to content

พลิกปฐพี 171-2

ตอนที่ 171-2

เดินทางสู่อาณาจักรเซิ่งหยวน!

“เจ้านาย ท่านรีบกลับมาในช่องว่าง! ไม่งั้นแขนของท่านจะต้องพิการแน่!” ในหัวก็ดังขึ้นมาเสียงร้อนรนของเหมิงเหมิง

มู่ชิงเกอก้มหน้ามองไปทางแขนของตน ตรงจุดที่ถูกโจมตีก็ได้เริ่มเน่าเละขึ้นแล้ว ผิวเนื้อแตกออก เผยให้เห็นกระดูกสีขาว แต่เพราะว่าความพิเศษของร่างกายนางที่ทำให้มันขึ้นฟูอย่างต่อเนื่อง

ด้านหนึ่งกำลังเผาทำลาย ด้านหนึ่งกำลังฟื้นฟู…

มู่ชิงเกอก็สามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่า ถ้าหากร่างกายของตนไม่ได้มีความพิเศษ เกรงว่าตอนนี้ก็คงจะเหลือแต่ความว่างเปล่าแล้ว

พอได้พบเจอกับความน่ากลัวของพญาเพลิงปาฮวงซูคง นางกลับเกิดความรู้สึกว่าไม่ว่ายังไงก็จะต้องได้มันมา

“หากข้าจากไปแล้วหยวนหยวนจะทำอย่างไร?” มู่ชิงเกอฝืนทนความเจ็บปวด ถาม

“เขาได้เริ่มการกลืนกินแล้ว เรื่องราวต่อจากนี้ไม่ว่าใครก็ไม่อาจสอดมือได้ ได้แต่พึ่งพาตัวเขาเองแล้ว!” เหมิงเหมิงเร่งรีบกล่าว

เงยหน้ามองไปสายตาหนึ่ง มู่ชิงเกอในที่สุดก็ยอมกัดฟัน หายลับเข้าไปในช่องว่าง

พอเข้ามาในช่องว่าง มู่ชิงเกอก็เซถลาไปหลายก้าว อีกนิดก็เกือบจะล้มลงไป

เหมิงเหมิงกับหยินเฉินชั่วขณะนั้นก็ปรากฏขึ้นที่ด้านซ้ายขวาของนาง ร้องขึ้นอย่างเป็นห่วง

“เจ้านาย”

“เจ้านาย!”

มู่ชิงเกอกัดฟันพยักหน้าขึ้น จ้องเขม็งไปที่แขนของตน ก่อนจะหันมองไปทางเหมิงเหมิง

เหมิงเหมิงเร่งรีบกล่าวขึ้นอย่างรวดเร็ว “พญาเพลิงปาฮวงซูคงก็เหมือนกับพิษกร่อนกระดูก ขอเพียงสัมผัสโดน ก็ยากที่จะกำจัดได้ ตอนนี้ข้าก็เพียงแค่สามารถใช้พลังในการกำหนดระยะเวลาของช่องว่างหยุดเวลาของเจ้านายเอาไว้เท่านั้น หยุดยั้งการแผ่ขยายของพญาเพลิงปาฮวงซูคง ที่เหลือก็ต้องให้หยวนหยวนเจ้าเด็กนั้นกลับมา มีเพียงพลังในการดูดกลืนของเขาเท่านั้นที่จะสามารถดูดกลืนพลังของพญาเพลิงปาฮวงซูคงได้”

“นี่ก็เป็นวิธีเพียงหนึ่งเดียวรึ?” มู่ชิงเกอกล่าวเสียงขรึม

เหมิงเหมิงส่ายหน้า “ไม่ใช่ แต่ว่าสำหรับเจ้านายในตอนนี้ก็ถือว่าใช่”

คำกล่าวของเหมิงเหมิง มู่ชิงเกอก็ฟังเข้าใจ พูดไปพูดมาก็เป็นเพราะตัวเองที่ยังอ่อนแอเกินไป

แววตากระจ่างใสของมู่ชิงเกอกลายเป็นดำมืด ถามนางขึ้น “อะไรคือพลังในการกำหนดเวลา”

“พลังในการกำหนดเวลาก็สามารถกล่าวได้ว่าเป็นการกำหนดเวลาของช่องว่าง เพราะช่องว่างแห่งนี้เป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมา ดังนั้นข้าที่เป็นจิตวิญญาณแห่งอาวุธก็เลยสามารถควบคุมเวลาของช่องว่างได้ ก็เหมือนกับที่นายหญิงรู้สึกว่าเวลาในช่องว่างก็ผ่านไปค่อนข้างเร็ว ในช่องว่างผ่านไปหลายวัน แต่ด้านนอกเพิ่งจะผ่านไปวันเดียว” เหมิงเหมิงกล่าวอธิบายขึ้น

มู่ชิงเกอพยักหน้า แสดงออกว่าตัวเองฟังเข้าใจ นางนั่งขัดสมาธิลงไป ก่อนจะกล่าวว่ากับเหมิงเหมิง “เริ่มเถอะ”

เหมิงเหมิงพยักหน้า พลังสีทองจางๆ สายหนึ่งพลันไหลแล่นออกมาจากตัวนาง แผ่พุ่งออกไปในช่องว่างอย่างรวดเร็ว ขอเพียงแค่เป็นสถานที่ที่ถูกพลังสายนี้พาดผ่าน ก็ล้วนแต่จะคงสภาพเมื่อตอนก่อนหน้าเอาไว้หยุดการเคลื่อนไหวลง ไม่ขยับอีกแม้แต่น้อย

รวมไปถึงมู่ชิงเกอกับหยินเฉิน หลังจากทุกอย่างในช่องว่างนิ่งชะงักไปหมด หนึ่งเดียวที่สามารถขยับได้ ก็มีเพียงเหมิงเหมิงที่มีฐานะเป็นจิตวิญญาณแห่งอาวุธเพียงเท่านั้น

ด้านนอกช่องว่าง การปะทะของพญาเพลิงปาฮวงซูคงกับหยวนหยวนก็ยากที่จะคาดเดาผลลัพธ์

ถูกมู่ชิงเกอยื้อยุดมานานเช่นนี้พญาเพลิงปาฮวงซูคงก็นับว่าสูญเสียพลังไปไม่น้อย รวมกับตัวมันเองที่อยู่ในช่วงอ่อนแออีก ตอนนี้ต้องมาต่อกรกับหยวนหยวนที่กำลังบ้าคลั่ง ก็เริ่มจะเสียเปรียบลงไปทีละน้อยแล้ว

“เจ้าเสียสติไปแล้วหรือไง! เป็นพญาเพลิงที่มีฐานะสูงส่ง กลับยอมรับมนุษย์เป็นนาย นี่ชัดเจนว่าเป็นการเสียเกียรติ!” เสียงอันเกรี้ยวกราดของพญาเพลิงปาฮวงซูคง ดังเข้ามา

เสียงอ่อนเยาว์ของหยวนหยวนก็พลันดังสวนขึ้น “ต้องให้เจ้ามาวุ่นวายด้วยรึ! ข้าพึงใจ!”

ปัง ปัง ปัง—–!

ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง—–!

เสียงปะทะอันดุดันก็ดังสะท้อนมาจากเทือกเขาปาฮวงอย่างต่อเนื่อง

การปะทะของพญาเพลิงครั้งนี้ก็ดำเนินติดต่อกันไปสามวันสามคืน

“ดี! เจ้าต้องการให้ข้าตาย ข้าก็จะลากเจ้าให้ตกตายตามกันไปด้วย!” พญาเพลิงปาฮวงซูคงเดือดดาลขึ้นแล้ว ระเบิดพลังครั้งใหญ่ขึ้น ชั่วขณะนั้น พลังงานอันกล้า แกร่งสายหนึ่งก็แผ่ขยายออกมาจากเทือกเขาปาฮวง ครอบคุลมทั่วทั้งเทือกเขาปาฮวงเอาไว้

“อ้า—–!” พลังอันดุดันที่พญาเพลิงปาฮวงซูคงระเบิดออกมา ก็เกิดไปกระตุ้นอาการบาดเจ็บเก่าขึ้น จึงถูกหยวนหยวนที่อาศัยจังหวะนั้นดูดกลืนไปเฮือกหนึ่ง ส่งเสียงร้องเกรี้ยวกราดดังออกมา “เจ้าหมาลอบกัด…”

ครืน ครืน—–!

พญาเพลิงปาฮวงซูคงพลันลุกโชติช่วงขึ้นมาราวกับว่า ต้องการจะลากให้หยวนหยวนตกตายไปตามกัน

ทั่วทั้งเทือกเขาปาฮวงก็พลันถูกเผาทำลายจนเหลือแต่เพียงความว่างเปล่าผืนหนึ่ง

เทือกเขาที่มีอยู่แต่เดิมกลับกลายเป็นหลุมลึกสีดำอันว่างเปล่า ปรากฏขึ้นอย่างกะทันหันท่ามกลางหมู่เทือกเขาของแคว้นปา..

พญาเพลิงปีศาจไป๋กู่อยู่ๆ ก็พุ่งทะยานขึ้นมาบนฟ้า ทำการปกคลุมพญาเพลิงทั้งสองชนิดที่ปะทะกันอย่างดุเดือดเอาไว้ด้านใน กลายเป็นก้อนนํ้าแข็งขนาดยักษ์ก้อนหนึ่ง ก่อนจะร่วงตกลงไปในหลุมดำลึกอันว่างเปล่า

ก้อนนํ้าแข็งนั้นเพิ่งจะตกเข้าไปหลุมดำอันว่างเปล่าหลุมนั้นก็เหมือนกับถูกเกลี่ยจนเรียบก็ไม่ปาน หายไปจนหาร่องรอยไม่พบอีก

จากวันนี้เป็นต้นไปแคว้นปาก็ไม่มีเทือกเขาปาฮวง คงอยู่อีก เทือกเขาปาฮวงอยู่ๆ ก็หายไปจากหมู่เทือกเขาของแคว้นปา

หลังจากผ่านไปครึ่งเดือน ตอนที่ฟู่เทียนหลงมาเยือนตีนเขาของเทือกเขาปาฮวงอีกครั้ง ที่มองเห็นกลับเป็นพื้นที่ราบเรียบสายหนึ่ง ไม่ปรากฏร่องรอยของเทือกเขาปาฮวงอีก

“นี่ นี่มันเกิดอะไรขึ้น เทือกเขาปาฮวงเล่า?” ฟู่เทียนหลงมองไปทางที่ราบตรงหน้าอย่างตกตะลึง ค้นหาไปรอบด้านแต่กลับไม่พบอะไรแม้แต่น้อย

เทือกเขาปาฮวงหายไปแล้ว!

ฟู่เทียนหลงตะโกนขนเสียงดัง “มู่เกอ—–! มู่เกอ—–!”

เสียงดังสะท้อนไปมาในหมู่เทือกเขาที่เหลืออยู่ ดังสะท้อนอยู่นานกว่าจะหยุด แต่กลับไม่มีคนตอบกลับ

ฟู่เทียนหลงก็รอในอยู่ในที่ที่เคยมีเทือกเขาปาฮวงอยู่เจ็ดวันเจ็ดคืน ท้ายที่สุดก็ไม่ได้พบกับมู่ชิงเกอ แล้วก็ยังหาร่องรอยอันใดไม่ได้แม้แต่น้อย ในตอนที่หมดสิ้นหนทาง เขาก็ทำได้เพียงย้อนกลับไปที่ชนเผ่า

แต่ด้วยเพราะมู่ชิงเกอที่ไม่ทราบแน่ชัดว่าอยู่ที่ใด เขาก็เลยยังไม่ได้กลับไปที่แคว้นอวี๋ แต่เป็นเริ่มสืบหาข่าวคราวของมู่ชิงเกออยู่ที่แควันปาแทน

ในใจของเขากำลังคาดหวัง คาดหวังให้มู่ชิงเกอออกไปจากเทือกเขาปาฮวงตั้งแต่แรกแล้ว ยังคงปลอดภัยอยู่ แต่ไม่ใช่หายไปพร้อมกันกับเทือกเขาปาฮวง ถ้าหากเป็นเช่นนั้น ในใจของเขาก็คงจะรู้สึกผิดมากแน่

เพราะว่าเป็นเขาที่บอกถึงการคงอยู่ของพญาเพลิงปาฮวงซูคงให้มู่ชิงเกอรู้ และก็เป็นเขาที่พานางมาที่นี่ หลังจากผ่านไปสามเดือน……………………..

ในหมู่เทือกเขาของแคว้นปาก็มีชายหนุ่มอายุเยาว์ในชุดสง่างามสีแดงสดปรากฏขึ้นผู้หนึ่ง เขากำลังก้าวเดินออกไปอย่างช้าๆ ท่าทางสบายๆ ที่ข้างกายเขายืนอยู่ด้วยเด็กน้อยในชุดสีแดงอายุประมาณห้าหกขวบ เติบโตมาได้น่ารักน่าเอ็นดู ผิวขาวอมชมพูเรียบเนียนดุจหยก ร่างกายกลมป้อม ใบหน้านั้นก็สง่างามเหมือนกับแกะสลักออกมาจากแท่นหินก็ไม่ปาน เกลี้ยงเกลาไร้ที่ติ นอกจากนี้ใบหน้าของเขาถ้าหากมองให้ดีๆ ก็จะดูมีความคล้ายคลึงกับชายหนุ่มผู้นั้นอยู่ห้าหกส่วน ทั้งสองพออยู่ด้วยกัน ก็เหมือนกับเป็นพี่น้องคู่หนึ่ง

“ลูกพี่ท่านแม่ โอ้ย!” หยวนหยวนกุมมือไปที่หัวของตน ก่อนจะมองไปทางมู่ชิงเกอสีหน้าน้อยใจ

มู่ชิงเกอก้มหน้าลงไปมองเขาหนหนึ่ง กล่าวเสียงเย็นว่า “พูดกับเจ้าไปกี่หนแล้วว่าให้เรียกข้าว่าลูกพี่ ให้ตัดคำว่าท่านแม่ทิ้งไป”

หยวนหยวนเบ้ปากด้วยท่าทางน้อยเนื้อตํ่าใจ ก่อนจะพยักหน้าขึ้นอย่างไม่อยากยินยอม

“ลูกพี่ท่าน…ลูกพี่ พวกเรานี่จะไปที่ไหนรึ?” หยวนหยวนภายใต้รอยยิ้มอันดุดันของมู่ชิงเกอ ก็ถูกบีบให้เปลี่ยนคำพูด กล่าวเสียงแผ่ว

มู่ชิงเกอกล่าว “ไปส่งข่าวที่ชนเผ่าหูก่อน หลังจากนั้นค่อยไปที่แคว้นฉิน”

การเดินทางมาแคว้นปาครั้งนี้ก็นับว่ามาถึงช่วงสิ้นสุดแล้ว

หยวนหยวนสามารถกลืนกินพญาเพลิงปาฮวงซูคงได้อย่างราบรื่น จากวัยทารกกลายเป็นวัยเด็ก ส่วนมือของนางที่โดนพญาเพลิงปาฮวงซูคง หลังจากที่หยวนหยวนจัดการทุกอย่างเสร็จแล้วก็ถูกเหมิงเหมิงดึงเข้าช่องว่าง ก่อนจะดูดกลืนกำจัดมันไปในอึดใจเดียว

หลังจากบาดแผลหายดี มู่ชิงเกอก็สัมผัสได้ถึงจุดสูงสุดของระดับชั้น ก็เลยทำการทะลวงชั้นในช่องว่างไปเลย ณ ตอนนั้น จากพลังชั้นสีม่วงระดับกลางเข้าสู่พลังชั้นสีม่วงระดับสูง ห่างจากระดับสูงสุดอยู่ไม่ไกลแล้ว

นางวางแผนไว้ว่าหลังจากกลับไปแคว้นฉินแล้วก็จะทำการเก็บตัวในช่องว่าง ใช้ความแตกต่างของเวลาในช่องว่างกับด้านนอก ทะลวงระดับการฝึกฝนให้ไปถึงระดับสีม่วงขั้นสูงสุด

พอเป็นเช่นนั้นนางก็จะเข้าใกล้กับจุดที่สามารถออกเดินทางไปจากหลินชวนแล้วเข้าสู่โลกแห่งยุคกลางขึ้นมาอีกก้าวหนึ่ง

จากคำพูดของเหมิงเหมิงนางก็รู้ว่าเวลาด้านนอกผ่านไปแล้วสามเดือน ตอนที่นางออกมาแล้วพบว่าเทือกเขาปาฮวงไม่มีอยู่อีก ก็ตกตะลึงไปรอบหนึ่ง ก่อนจะสัมผัสได้ถึงความร้ายกาจของพญาเพลิงปาฮวงซูคงขึ้นอีกครั้ง

แน่นอน หยวนหยวนของนางที่สามารถดูดกลืนพญาเพลิงปาฮวงซูคงได้ก็สามารถกล่าวได้ว่าร้ายกาจยิ่งกว่า! ไม่ผิดที่เป็นพญาเพลิงอันดับหนึ่งบนใบจัดอันดับของหานฉายไฉ่!

มู่ชิงเกอแววตาสะท้อนความภาคภูมิขึ้นมา ก็เหมือนกับผู้ปกครองพวกนั้นที่ลูกๆ ของตนได้รับการชมเชยก็ไม่ปาน เต็มไปด้วยความยินดี

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version