Skip to content

พลิกปฐพี 113-1

ตอนที่ 113-1

ลูกพี่ลูกน้องของคุณชาย

“แล้วจะเดินทางไปยังโลกแห่งยุคกลางได้อย่างไร” มู่ชิงเกอถาม

ซือมั่วกลับส่ายหน้า และพูดกับนางว่า “คำถามนี้ รอให้เจ้าทะลวงสู่สายม่วงและกระจ่างในสายม่วง ข้าถึงจะบอกเจ้า”

มู่ชิงเกอผิดหวังเล็กน้อย

ซือมั่วอธิบาย “ในการฝึกพลังเวท การค่อยๆ ไต่ระดับขึ้นไปเป็นวิธีที่เป็นไปตามแบบแผน เป็นการวางรากฐาน ที่มั่นคง การรู้มาก จะสร้างความสับสนให้กับตัวเจ้า จะมีแต่ผลเสีย หากเจ้าทะลวงสู่สายม่วง เรื่องที่เจ้าอยากรู้ ข้าจะไม่ปิดบังอีกต่อไป”

“แล้วท่านละ ท่านเป็นคนในหลินชวนหรือโลกยุคกลาง” อยู่ๆ มู่ชิงเกอก็ถามขึ้น

สายตาของนาง จ้องซือมั่วเขม็ง

ซือมั่วอึ้งไปครู่หนึ่ง ส่ายหน้าพร้อมรอยยิ้มและพูดว่า “ข้าไม่ใช่ทั้งสองอย่าง”

อะไรนะ!

มู่ชิงเกออึ้ง

ในตอนนี้ซือมั่วพูดอีกว่า “เรื่องที่ว่า ข้าเป็นใคร สักวันเสี่ยวเกอเอ๋อร์ก็จะรู้ในตอนนี้ เจ้าจำเป็นต้องรู้เพียงว่า ข้าหวังดีกับเจ้า”

พูดจาน่าเย้ายวนอย่างกะทันหันเช่นนี้ ทำให้มู่ชิงเกออึ้งไป

ในสายตาสีนํ้าผึ้งของซือมั่ว จ้องนางอย่างเป็นนัย และ เห็นความอึ้งที่ซ่อนอยู่ในสายตาของนาง

ยิ้มทีหนึ่ง เขาจึงพูดว่า “ข้าไม่มีวันหลอกลวงเสี่ยวเกอเอ๋อร์ และไม่มีวันทำร้าย เสี่ยวเกอเอ๋อร์”

ได้สติจากความตะลึง มู่ชิงเกอจึงเชิดใส่เขา แล้วถามว่า “พญาเพลิงระดับเทพฮุ้นหยวนอยู่ที่ใด”

“แคว้นหรงพื้นที่อันอุดมสมบูรณ์” ซือมั่วพูดชื่อของสถานที่แห่งหนึ่งขึ้นมา

ระหว่างทางที่เดินทางไปรวมตัวกับมั่วหยางและคนอื่นๆ ซือมั่วปฏิเสธข้อเสนอที่จะขี่ม้าของมู่ชิงเกอและสร้างรถม้าให้กับนางคันหนึ่ง รวมทั้งตัวเขาเองก็จะเข้าไปในรถม้าคันนั้นเช่นกัน

มู่ชิงเกอนอนพิงอยู่บนรถม้า แล้วหลับตาทั้งสองข้างลง แกล้งหลับ แต่ก็ยังคงสัมผัสได้ถึงสายตาอันร้อนแรงที่จดจ้องตนเองอยู่

ทันใดนั้น ก็มีความรู้สึกหนึ่งที่ว่า การตอบตกลงให้ชายผู้นี้ร่วมเดินทางกับนาง บางทีอาจจะเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด

พยายามสงบสติอารมณ์ครู่หนึ่ง ในหัวของนางมีภาพของหลินชวน ไม่สิ ควรจะเรียกว่า แผนที่ของอาณาจักรหลินชวนเกิดขึ้น—

แคว้นหรงหนึ่งในแคว้นอันดับสองของอาณาจักรหลินชวน ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ห่างจากแคว้นที่มู่ชิงเกออยู่ในตอนนี้หลายแคว้น หากจะเดินทางไปในตอนนี้ แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้

‘เอ้อ ดูเหมือนว่าคงจะต้องทำตามที่ได้วางแผนไว้ในตอนแรก หลังจากที่เดินทางไปถึงโรงโอสถแล้วจึงหาโอกาสไปแคว้นหรง’ มู่ชิงเกออุทานในใจ

การมีอยู่ของพญาเพลิงระดับเทพฮุ้นหยวน ทำให้นางนั่งไม่ติด

แต่ทว่า นางก็รู้ว่า บางทีการเร่งรีบเกินไปก็ไม่ใช่เรื่องดี

เป็นอย่างที่ซือมั่วได้กล่าวเอาไว้ รอให้นางทะลวงสู่สายม่วง แล้วจึงไปปราบพญาเพลิงระดับฮุ้นหยวนก็ยังไม่สาย ในขณะเดียวกันก็เป็นการรับประกันความปลอดภัยให้กับตัวนางเองให้มากขึ้นด้วย

สายนํ้าเงินขั้นสูง ในแคว้นอันดับสามนี้ถือว่ามากพอแล้ว แต่ทว่าเท่าที่ซือมั่วบอก ความสามารถระดับนี้ในแคว้นอันดับสองนั้นมีอยู่ทั่วไป ก็ลองคิดดูว่าในแคว้นอันดับสอง สายม่วงมากกว่าแคว้นอันดับสามก็ไม่อยากที่จะคิดถึงความแตกต่างระหว่างสองแคว้นนี้

‘พยายามทำให้ความสามารถมากขึ้นเรื่อยๆ’ จึงจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด มู่ชิงเกอคิดในใจ

‘เจ้านาย เจ้านาย’ ทันใดนั้น มีเสียงใสเสียงหนึ่งดังเข้ามา

มู่ชิงเกออึ้ง และพูดอย่างแฝงความแปลกใจ ‘เหมิงเหมิง?’

‘ข้าเอง หนูเหมิง เจ้านายรีบเข้ามาในช่องว่าง’ นํ้าเสียงของเหมิงเหมิงทั้งตื่นเต้นและเร่งรีบ

จะเข้าไปในมิติแห่งช่องว่างตอนนี้หรือ ตอนนี้ซือมัวนั่งอยู่ข้างๆ นางนะ

มู่ชิงเกอนิ่งไป

แต่ทว่า น้ำเสียงของเหมิงเหมิงฟังแล้วมีอะไรผิดปกติ หลังจากที่นางลังเลครู่หนึ่งก็จึงได้ทำการตัดสินใจ

มู่ชิงเกอลืมตาขึ้นเล็กน้อยและแอบมองซือมั่วแวบหนึ่ง

เขาดูเหมือนจะไม่ได้กำลังมองนางแล้ว

หลับตาทั้งสองข้างลงอีกหน มู่ชิงเกอก็เข้าไปอยู่ในช่องว่างในทันที เพียงแต่ว่าในครานี้นางเข้าไปเพียงแค่จิตวิญญาณ ร่างกายยังคงนั่งอยู่ในรถม้า

“เหมิงเหมิง” ทันทีที่มู่ชิงเกอเข้าไปยืนอยู่ในช่องว่าง ก็ได้เอ่ยเรียก

ทันใดนั้น เจ้าตัวเล็กก็ได้บินมาจากที่อันห่างไกลและพุ่งเข้ามาอยู่ตรงหน้าอกของมู่ชิงเกอในทันที พลันพูดด้วยนํ้าเสียงอันปวดใจว่า “เจ้านาย ท่านจะทิ้งเหมิงเหมิงไป อยู่กับจอมปีศาจแล้วใช่ไหม”

มู่ชิงเกอจับตัวนางขึ้นเขย่าไปมาอยู่ในมือและถามด้วยความสงสัยว่า “เจ้าพูดอะไร จอมปีศาจอันใดกัน”

เหมิงเหมิงสูดจมูกอย่างเจ็บปวด ดวงตาทั้งสองข้างมีน้ำตานองอยู่ “เจ้านาย ท่านห้ามทิ้งหนู”

“ข้าพูดเมื่อไหร่ว่าจะทิ้งเจ้า” มู่ชิงเกอขมวดคิ้วเล็กน้อย

เหมิงเหมิงก้มหน้าและเอานิ้วทั้งสองมาจิ้มกันตรงหน้าอกอย่างเขินอาย และพึมพำอย่างปวดใจว่า “เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ข้าเห็นทั้งหมด ท่านกับจอมปีศาจนั้น กลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเตียง ดูท่าทางแล้วมีความสุขเป็นอย่างมาก”

แก้มทั้งสองของมู่ชิงเกอพลันแดงกํ่าขึ้นมาในทันที พลัน กระตุกมุมปากอีกสองที

ออกแรงบีบเหมิงเหมิงที่อยู่ในกำมือทันที พร้อมพูดด้วยนํ้าเสียงที่แฝงความโหดเหี้ยม “เจ้าริบังอาจแอบดูข้ารึ”

“ข้า ข้าไม่ได้ตั้งใจ! ข้าเพียงแค่เป็นห่วงท่าน กลัวว่าท่านจะถูกจอมปีศาจนั้นรังแก ต่อไปเหมิงเหมิงจะไม่แอบดูแล้ว! เจ้านายคนเลว!” เหมิงเหมิงตะโกนอย่างปวดใจ

“เหตุใดเจ้าจึงเรียกเขาว่าจอมปีศาจ” มู่ชิงเกอขมวดคิ้วถาม

“หึ หนูไม่บอกหรอก!” เหมิงเหมิงหันหน้าหนีอย่างยโส พร้อมพูดด้วยนํ้าเสียงอันเย็นเยียบ

มู่ชิงเกอหรี่ตาทั้งสองข้างลงอย่างแฝงอันตราย แล้วออกแรงบีบมากกว่าเดิม “ไม่บอกอย่างนั้นหรือ”

“อ๊าๆๆ! เจ็บๆ! เจ้านายคนเลว!” เหมิงเหมิงพยายามจะ ดิ้นรน แต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนความจริงที่ว่ามู่ชิงเกอเป็นเจ้านายของนางได้ เพราะฉะนั้นการดิ้นรนของนางจึงไม่เป็นประโยชน์อันใด

“ฮือๆๆ หนูยอมพูดแล้ว หนูยอมพูดแล้ว เจ้านายปล่อยมือก่อน” และท้ายที่สุดแล้วเหมิงเหมิงก็ทำได้แค่ร้องขอชีวิต

มู่ชิงเกอพยายามคลายมือแต่ก็ไม่ได้ปล่อย “บอกมาเดี๋ยวนี้ว่าเหตุใดจึงเรียกเขาว่าจอมปีศาจ”

เหมิงเหมิงทำปากเบ้อย่างไม่ได้รับความเป็นธรรม “เพราะหนูสัมผัสได้ว่าเขาร้ายกาจมากๆ และในร่างกายก็มีกลิ่นคาวเลือด ไม่รู้ว่าฆ่าคนมาแล้วมากมายเท่าใด จึงได้มีกลิ่นโลหิตที่รุนแรงเช่นนี้ เหมิงเหมิงสัมผัสได้ว่า เลือดของเขานั้นเลือดเย็นเฉียบ” คำพูดของเหมิงเหมิงทำให้มู่ชิงเกอขมวดคิ้วมากกว่าเดิม บนร่างกายของซือมั่วมีกลิ่นคาวเลือดอย่างนั้นหรือ เหตุ ดนางจึงไม่รู้สึกเช่นนั้น ทุกครั้งที่ซือมั่วปรากฏตัวก็อยู่ใน ชุดสีขาวอันบริสุทธิ์ไร้ซึ่งมลทิน ดังเทพบุตร ร่างกายมี กลิ่นหอมอ่อนๆแต่ไม่ใช่กลิ่นคาวเลือดอันใด เหมิงเหมิงยังจะบอกว่าเลือดของเขาเย็นเฉียบอีก

“เจ้าเข้าใจผิดหรือเปล่า” มู่ชิงเกอขมวดคิ้วถาม นํ้าเสียงแฝงความฉงนใจ

เหมิงเหมิงเอามือเท้าเอวอย่างได้ใจและพูดอย่างเคืองๆ ว่า “เจ้านายจะไม่เชื่อก็ได้ แต่ก็ห้ามมีข้อสงสัยในความสามารถของข้า!”

“ความสามารถของเจ้าคืออะไร” มู่ชิงเกอถามอย่างแปลกใจ

เหมิงเหมิงอึ้งไปและเข้าใจความหมายที่แฝงอยู่ในคำพูดของมู่ชิงเกอจึงโกรธในทันที “เจ้านายบ้า! เจ้านายเลวที่สุด!”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version