Skip to content

พลิกปฐพี 200-3

ตอนที่ 200-3

ไข่สีรุ้งล่ะ? เจ้านาย ข้ามีความลับจะบอก!

เมื่อนำ เหมิงเหมิงเข้าไปในตำหนักแล้ว มู่ชิงเกอก็มองไป เห็นหยวนหยวนคุกเข่าอยู่บนพื้น มือป้อมๆ เหมือนกำลังซ่อนอะไรไว้ในดิน

“หยวนหยวน” มู่ชิงเกอเดินช้าๆ พร้อมร้องเรียกออกมา หยวนหยวนหันหน้ามาในทันที ใบหน้าที่ดูขาวผ่อง เมื่อมองเห็นมู่ชิงเกอแล้ว ก็หยุดในพริบตา ยืนขึ้นก่อนจะพุ่ง เข้ามาหานาง ในปากร้องอย่างออดอ้อน “ลูกพี่ท่านแม่ หยวนหยวนคิดถึงท่าน!”

“เจ้าหยวนหยวน เจ้าปล่อยนะ! เจ้านายเป็นของข้า เป็นของเหมิงเหมิง!” เหมิงเหมิงผลักดันแขนของหยวนหยวน ไม่ให้เขาได้เข้าใกล้มู่ชิงเกอ

หยวนหยวนก็ไม่ยอมอ่อนข้อ ต่อสู้กันกับนาง ดึงเส้นผมเล็กๆ บนหัวนาง อย่างดูแคลน “เจ้าถั่วงอกน้อย เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าข้าจะเผาเส้นผมของเจ้า!”

“เจ้ากล้ารึ! ข้าจะเอาเจ้าไปขังไว้ในคุกมืด! ให้เจ้าไม่อาจพบเจอเจ้านายได้อีกเลย!” เหมิงเหมิงดึงปากของหยวนหยวน ท่าทางดูบ้าคลัง

“พวกเจ้าทั้งสองพอได้แล้ว!” มูชิงเกอมองเด็กทั้งสองอย่างปวดหัว

ที่จริงแล้ว พวกเขาไม่ได้แย่งชิงความรักกันจริงๆ แต่นี้เป็นวิธีที่พวกเขาทั้งสองสนิทสนมกัน แต่ว่าเวลาปกติเป็นเช่นนี้ก็แล้วไป ตอนนี้เกิดเหตุการณ์ผิดปกติ พวกเขากลับยังมีใจก่อความวุ่นวายอีก

มู่ชิงเกออยากจะเคาะสมองของพวกเขาจริงๆ ด่าทั้งสองไปประโยคหนึ่ง “จริงจังกันได้แล้ว!”

ถูกมู่ชิงเกอตะคอกใส่ หยวนหยวนกับเหมิงเหมิงก็ยืดกายขึ้น สองมือแนบตรง ขบริมฝีปากแน่น จากนั้นก็ใช้ดวงตากลมโตจ้องมองนางอย่างไร้เดียงสา

หลังจากถูกสายตาพิฆาตสองสายจ้องมองแล้ว มู่ชิงเกอก็ยอมแพ้

“มาดูสิว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่?” พูดแล้วนางก็ใช้มืออีกข้างจูงไปอีกหนึ่งคน เดินไปทางด้านไข่เจ็ดสี

ไข่เจ็ดสีก็ไม่เห็นแล้วจริงๆ บนพื้นเหลือไว้เพียงร่องรอยของเปลือกไข่ที่มีขนาดไม่ใหญ่ เท่าครึ่งกำปั้นของหยวนหยวน บนเปลือกไข่ยังมีแสงสีรุ้งโผล่ให้เห็นอยู่บ้าง ด้านในยังมีรอยเมือกสีใส

เมื่อครู่ ที่หยวนหยวนซ่อนไปซ่อนมาก็คือเปลือกไข่

มู่ชิงเกอหยิบเปลือกไข่ขึ้นมา วางไว้ในมือก่อนจะพินิจดูอย่างละเอียด “ดูท่า ของเล็กๆ ด้านในจะออกมาแล้ว”

“ออกมาแล้วก็ออกมาแล้ว แต่ว่ามันซ่อนอยู่ที่ไหน?” เหมิงเหมิงเอ่ยอย่างสนใจ

มู่ชิงเกอหันมองนาง

เหมิงเหมิงอยู่ดีๆ ก็ถูกนางมอง กอดท้องเล็กๆ ของตนเองแน่น ใบหน้าฉายแววหวาดกลัว เอ่ยว่า “เจ้านาย มองข้าทำไม? ข้าเป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่ขายร่างกาย!”

มู่ชิงเกอมุมปากกระตุก เคาะหัวนาง กัดฟันเอ่ยว่า “มันไปไหนไม่ใช่ว่าต้องถามเจ้ามิใช่หรือ? เจ้าเป็นจิตวิญญาณแห่งช่องว่างนะ”

“อา!” สีหน้าของเหมิงเหมิงเปลี่ยนไป ท่าทีดูแปลกประหลาดขึ้นมา นางเอ่ยอย่างเคอะเขินว่า “ข้าลืมไปเลย!”

มู่ชิงเกอรู้สึกมึน

จิตวิญญาณช่องว่างนี่ไว้ใจได้หรือไม่!

ถึงกับลืมสถานะของตนเองงั้นหรือ?

มองเห็นว่ามู่ชิงเกอดูแคลน นัยน์ตาของเหมิงเหมิงก็กลอกไปมาอย่างรวดเร็ว รีบผลักโทษไปให้หยวนหยวน เอ่ยอย่างอดสูว่า “เป็นเพราะหยวนหยวน เขาพบว่าไข่แตกแล้วก็ไม่บอก ทำจนข้าจะเป็นบ้าไปแล้ว”

“เจ้าเตี้ย! เจ้าพูดเหลวไหลอะไร? โทษนี้ข้าไม่รับ!” หยวนหยวนตะโกนใส่เหมิงเหมิง

หากว่าไม่มีมู่ชิงเกออย่ที่นี่ เด็กที่เอาแต่ใจคนนี้ก็คงต้องพุ่งเข้ามาทะเลาะกับเหมิงเหมิงอีกเป็นแน่

“เอาล่ะพอแล้ว” มู่ชิงเกอขมวดคิ้วเอ่ย “รีบหาว่ามันไปที่ไหนเร็ว”

“หึ”

ถูกมู่ชิงเกอตะโกนใส่ เด็กทั้งสองก็ระงับอารมณ์ไว้

เหมิงเหมิงตั้งสติ เริ่มค้นหาไปทั้งช่องว่าง

ทันใดนั้นนางก็เบิกตากว้าง มองไปทางมู่ชิงเกออย่างตก ตะลึง “เจ้านาย ขอบอกข่าวร้ายแก่ท่านเรื่องหนึ่ง เจ้าสิ่งนั้นขโมยกินไข่ของท่าน!”

มู่ชิงเกอชะงัก ก่อนจะนึกขึ้นมาได้ในทันที

พรึบ—–!

ครู่เดียวก็หายตัวไปจากตำหนัก

เหมิงเหมิงและหยวนหยวนสบตาเล็กๆ ของกันและกัน ก่อนจะพากันก้าวเท้าไล่ตามไป

มู่ชิงเกอมาปรากฏในจุดที่เก็บไข่ มองไปยังมุมที่ค่อนข้างอับ มีร่องรอยของเปลือกไข่ตกอยู่ ความเจ็บปวดในใจเพิ่มขึ้นมา

ไข่นกเหล่านี้ เป็นนางนำออกมาจากป่าต้นอู๋ถง

ในตอนนั้นนางสั่งให้องครักษ์เขี้ยวมังกรทุกคนขโมยออก มาคนละสามใบ ในตอนนั้นมีองครักษ์เขี้ยวมังกรเกือบสองร้อยนายอยู่ข้างกายนาง ทั้งหมดถือเอาไข่นก ก็ได้มาประมาณห้าร้อยกว่าใบ

องครักษ์เขี้ยวมังกรทั้งกลุ่ม ทั้งหมดห้าร้อยคน

ตัดไข่นกที่อาจจะมีอัตราความล้มเหลวตํ่าหรือไม่เกิดออกก็น่าจะเพียงพอ

ตอนนี้ กลับมีบางอย่างมาขโมยกินมัน?!

โมโหจนถึงจุดเดือด จนในที่สุดก็ทนไม่ไหวแล้ว!

“ออกมาเดี๋ยวนี้!” เสียงของมู่ชิงเกอฉายแววเยียบเย็น

เงียบ

นอกจากความเงียบแล้วก็คือเงียบ สองคิ้วของมู่ชิงเกอขมวดเข้าหากัน ท่าทางเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าว “ข้าจะพูดอีกครั้ง ออกมา! มิเช่นนั้น…”

เสียงของนางยังไม่ทันจบ ก็มีแสงสีขาววาบมาที่นาง ร้องเรียกอย่างออดอ้อนว่า “ท่านแม่”’!

คำว่าแม่คำเดียวทำให้มู่ชิงเกอชะงัก

นางยังไม่ทันได้สติกลับมา ก็มองเห็นแสงสีขาวนั่น พริบตาเดียว ก็กลายเป็นก้อนสีขาวพุ่งเข้าไปในอ้อมอกของนาง

มู่ชิงเกอรับเอาไว้ รู้สึกว่าสองแขนหนักและความรู้สึกลื่นๆ เย็นๆ ของงู ทำให้นางได้สติขึ้นมาไม่น้อย

มู่ชิงเกอที่ได้สติขึ้นมา มองบางอย่างที่อยู่ในอ้อมอกตนเอง เผชิญหน้ากับดวงตาที่น่าหลงใหลคู่นั้น ดวงตาสีม่วงทองคูนั้น ใบหน้าเล็กเท่าฝ่ามือ รูปร่างน่ารัก ทุกส่วนล้วนแต่ทำให้คนรู้สึกน่าหลงใหล คางมนดุจไข่มุก บนหน้าผากของนางมีเขาสีเงินที่มีอักขระลึกลับบางอย่างอยู่ด้วย ผมสีดำขลับดุจหมึกดำ อ่อนนุ่มทัดอยู่ด้านหลังหู ใบหูของนางก็ดูเล็กๆ น่ารัก

ภาพที่สายตาของมู่ชิงเกอมองลงมาเห็น สิ่งที่สะท้อนเข้าไปในสายตา ก็ทำให้นางอดไม่ได้ที่จะหลุบตาลง

คอเรียวยาว กระดูกไหปลาร้าที่ชัดเจน ยังมี…เรือนร่างที่ดู…น่าดึงดูดกว่านาง อักขระลึกลับบางอย่าง ภาพเหล่านี้ดูเหมือนจะหมายถึงพลังอันแข็งแกร่ง ร่างกายด้านล่าง กลับไม่ได้มีขาที่เรียวงามทำให้คนรู้สึกอิจฉา แต่กลับเป็นหางงูสีเงิน มู่ชิงเกอลมหายใจชะงัก เนื่องจากถูกความงามของ ปีศาจทำเอาตกตะลึง

“ท่านแม่ เหตุใดท่านจึงไม่สนใจข้า?” เสียงเอ่ยดังขึ้นอย่างออดออน

จากนั้นโอบแก้มของมู่ชิงเกอ โดยที่สองแขนของนางวางอยู่บนไหล่ของมู่ชิงเกอ เกิดเป็นภาพที่ดูงดงาม

แต่ว่า—–

ร่างกายของมู่ชิงเกอแข็งทื่อ ฝืนยิ้มออกไป “เจ้าคิดว่า เจ้าเรียกข้าว่าแม่นั้นเหมาะสมแล้วหรือ?”

“แต่ว่า ท่านก็คือท่านแม่ของข้า!” สาวงามร่างงูในอก เงยหน้าขึ้นมาเอ่ย มองนางด้วยท่าทางน่าสงสาร

มู่ชิงเกอไร้คำพูด นางปล่อยมือ เดิมคิดจะวางสาวงามร่างงูผู้นี้ แต่ว่ามือของนางพอปล่อยแล้ว สาวงามร่างงูกลับไม่ได้ตกลงไป หางงูสายนั้น กลับพันบนตัวของมู่ชิงเกอ ใกล้ชิดกับมู่ชิงเกอเข้าไปอีก

มู่ชิงเกอถอนหายใจออกมา

พูดในใจว่า ‘สายเลือดของเจียงหลีก็เป็นงู แต่เหตุใดจึงไม่เหมือนกับตัวนี้!’

เหมิงเหมิงกับหยวนหยวนในตอนนี้ก็ไล่ตามมาถึง มองเห็นมู่ชิงเกอถูกสาวงามร่างงูรัดอยู่ ก็ร้องขึ้นพร้อมกัน—–

“อ้า! ปีศาจปล่อยลูกพี่ท่านแม่นะ!”

“ปีศาจปล่อยเจ้านายของข้า!”

เสียงของหยวนหยวนหลุดออกไป ปากก็พ่นพญาเพลิงปีศาจไป๋กู่ไปที่สาวงามร่างงู

การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้เร็วมาก มู่ชิงเกอทำทันแค่ร้องออกมา “หยวนหยวนหยุดมือ!”

เพียงแค่พบเห็นการโจมตีพุ่งมา สีหน้าที่ดูออดอ้อนของสาวงามราวงูก็เปลี่ยนเป็นเยียบเย็น มองไปที่หยวนหยวน

ดวงตาสีม่วงทองของนางพุ่งแสงสีรุ้งตรงไปที่พญาเพลิงปีศาจไป๋กู่

แสงสีรุ้งปะทะเข้ากับพญาเพลิงปีศาจไป๋กู่ กลับหายไปพร้อมกัน ไร้ร่องรอย

หยวนหยวนตกใจจนเบิกตากว้าง เหมิงเหมิงก็อ้าปากค้าง

มู่ชิงเกอก็มองสาวงามร่างงูอย่างคาดไม่ถึง

สาวงามร่างงูกลับสบถอย่างดูแคลน แลบลิ้นงูออกมาใส่หยวนหยวนและเหมิงเหมิง

“เจ้าเป็นเทพเซียนจากไหนกัน?” มู่ชิงเกอเอ่ย

สาวงามร่างงูพอได้ยินคำกล่าวของมู่ชิงเกอ ท่าทางก็เปลี่ยนไปในทันที จากเย็นชาอำมหิตเป็นท่าทีที่ดูน่าสงสาร ขบริมฝีปากใช้นํ้าเสียงออดอ้อนเอ่ยว่า “ข้าฟักตัวออกมาจากเลือดของท่านแม่ ข้าจำได้ว่าเมื่อนานมาแล้ว ข้าถูกเรียกว่าอสรพิษกลืนสวรรค์เก้าบรรจบ”

“อสรพิษกลืนสวรรค์เก้าบรรจบ!” มู่ชิงเกอมึนงง นางไม่เคยได้ยินถึงชื่อนี้ ‘หรือว่าสามารถถามซือมั่วได้’ นางคิดในใจ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version