Skip to content

พลิกปฐพี 194-4

ตอนที่ 194-4

จนมุมในเพลิงผลาญ!

ปีศาจเฒ่าขั้นกักเก็บตระกูลหลานเงยหน้ามองท้องฟ้าแวบหนึ่ง ร้องตะโกนเสียงดังว่า “ช่องว่างกำลังจะพังทลายแล้ว รีบจัดการจบการต่อสู้กันเถอะ จะได้ออกไปเสียที!” เขาเอ่ยเตือนผู้เยี่ยมยุทธ์ขั้นกักเก็บคนอื่นๆ ที่กำลังต่อสู้อย่างแมวหยอกหนูอยู่ว่าให้รีบสรุปผล พูดจบแล้ว เขาก็หายไปจากที่เดิม ตอนที่ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งก็ไปปรากฏตัวอยู่ใกล้กับจ้าวหนานซิงและฟ่งอวี๋เฟย

สองมือของเขาดุจดั่งกรงเล็บฉีกเส้นชีพจรของเหล่าผู้กล้าแคว้นลี่และแคว้นอวี๋วิธีการโหดเหี้ยมมาก จ้าวหนานซิงและฟ่งอวี๋เฟยถูกทำให้ตกตะลึงด้วยการ เปลี่ยนแปลงที่ฉับพลันนี้คิดจะลงมือก็ถูกปีศาจเฒ่าขั้นกักเก็บตระกูลหลานใช้มือทั้งสองจับคอทั้งสองคน

“หยุดมือ—–!” มู่ชิงเกอคิดจะไปช่วย แต่การโจมตีกลับถูกขวางไว้

“แค่ก แค่ก…” คอของจ้าวหนานซิงถูกกุมไว้หายใจอย่างยากลำบาก ทำได้เพียงส่งสายตาไปบอกมู่ชิงเกอว่าตนเองไม่เป็นอะไร อย่าได้สนใจ

ใบหน้าที่มีเสน่ห์และเปี่ยมไปด้วยความกล้าหาญของฟ่งอวี๋เฟยก็ฉายแววไม่ยอมแพ้

ปีศาจเฒ่าขั้นกักเก็บตระกูลหลานหัวเราะขึ้นมา เอ่ยกับมู่ชิงเกอว่า “วางใจได้ในตอนนี้ข้าจะยังไม่ฆ่าพวกเจ้า!” พูดแล้วเขาก็เอาคนทั้งสองกลับไปที่ตำแหน่งที่ยืนอยู่ของพวกหลานเฟยเยว่สี่คน

มู่ชิงเกอกัดฟัน จ้องมองเขา ในใจโกรธแค้น

นางเดาออกแล้วว่าปีศาจเฒ่าขั้นกักเก็บตระกูลหลานคิดจะทำอะไร

แต่ว่า เพราะคิดได้แล้วนางถึงได้รู้สึกกลัว…

กลัว! กลัวจริงๆ!

นางไม่เคยกลัวมาก่อนแต่ในตอนนี้กลับรู้สึกได้ถึงความหวาดกลัวขึ้น!

บึ้ม—–!

อีกเสียงหนึ่งดังขึ้นอีกครั้ง ท้องฟ้าที่แตกสลายดูเหมือนจะมีการแตกตัวอีกครั้ง

เงาร่างหนึ่งตกลงมาจากฟากฟ้า ตกมาถึงตรงหน้าของปีศาจเฒ่าขั้นกักเก็บตระกูลหลาน คนที่ตกคิดจะปีนขึ้นมาแต่กลับถูกปีศาจเฒ่าขั้นกักเก็บตระกูลหลานเหยียบ เข้าที่หน้าอก กดซํ้าลงไปจนเขากระอักเลือดออกมา

“เฉินปี้เฉิง!” มู่ชิงเกอกัดฟันพูดชื่อออกมา

คนที่ตกลงมาดุจดั่งสุนัขถูกปีศาจเฒ่าขั้นกักเก็บตระกูลหลานเหยียบเอาไว้ใต้เท้าก็คือเฉินปี้เฉิง

จากนั้นหลานกังก็กลับมาจากท้องฟ้า ยืนอยู่ด้านข้างของปีศาจเฒ่าขั้นกักเก็บตระกูลหลานมองไปที่เฉินปี้เฉิง ด้วยใบหน้าที่ดูรังเกียจ

บนท้องฟ้า อีกด้านหนึ่ง เสียงร้องเจ็บปวดและร่างของหยินเฉินม้วนตัวกลับมา ขนสีเงินของมันถูกย้อมไปด้วยสีเลือด ทั้งยังมีหลายแห่งที่หลุดแหว่ง

เก้าหางถูกตัดไปหกหาง ตอนนี้เหลือเพียงแค่สามหางลอยอยู่กลางอากาศ นี่แสดงให้เห็นว่า มันได้ตายไปถึงหกครั้งแล้ว!

จิ้งจอกหิมะมีหนึ่งหาง ชั้นราชามีสามหาง หลังจากผ่านการฝึกฝนจึงมีเก้าหาง เก้าหางเปรียบเหมือนเก้าชีวิต หากว่ายังถูกตัดต่อไปเรื่อยๆ ในตอนที่เหลือเพียงหนึ่ง หาง ราชาจิ้งจอกหิมะก็จะไม่สามารถเกิดใหม่ได้อีก!

ในปากของหยินเฉินมีเลือดไหลหยด มันกัดฟันพุ่งเข้าไปหาศัตรูอีกครั้ง นัยน์ตาฉายแววแค้นเคืองไม่มีร่องรอยของความอ่อนแอ

แต่ว่า มันยังไม่ได้เข้าใกล้ ก็ถูกไอพลังที่รุนแรงโจมตีเข้าที่อก

หลังจากที่เห่าหอน หางที่ด้านหลังของมันก็หายไปอีกหนึ่งหาง

“ราชาจิ้งจอกหิมะ เจ้าเป็นถึงสัตว์เทวะจำแลง แน่ใจหรือว่าจะยอมตายเพียงเพื่อคนแค่คนเดียว?” ปีศาจเฒ่าขั้นกักเก็บของสำนักหมื่นอสูรที่ต่อสู้กับหยินเฉินเอ่ยขึ้น ในตอนที่พบหยินเฉินแวบแรก เขาก็เกิดความรู้สึกที่อยากจะเอาชนะใจเพื่อสยบมัน ดังนั้นจึงกดดันโจมตีมันไปเรื่อยๆ ไม่ได้คิดจะเอาชีวิตมันตรงๆ

คิดไม่ถึงว่า หยินเฉินจะดื้อดึงถึงขนาดนี้ ขนาดเหลือเพียงแค่สองหางแล้วก็ยังไม่ยอมแพ้อีก!

“วันนี้มู่ชิงเกอต้องตายแน่นอน เจ้าขัดขืนต่อไปก็ไม่มีประโยชน์ ไม่สู้เลือกที่จะละทิ้ง มาติดตามข้ากลับสำนักหมื่นอสูรด้วยกันกับข้า ข้ารับรองว่าสถานะของเจ้าจะไม่ต่ำกว่าใครอย่างแน่นอน!” ปีศาจเฒ่าขั้นกักเก็บของสำนักหมื่นอสูรเอ่ยกับหยินเฉิน

แต่ว่า หยินเฉินกลับคำรามเสียงแหบแห้งจากลำคอ แล้วกระโดดไปข้างหน้า

ทันใดนั้นภาพตรงหน้าของปีศาจเฒ่าขั้นกักเก็บของสำนักหมื่นอสูรก็เปลี่ยนไป เขาไม่ได้อยู่ที่สุสานเทวะอีกแล้ว แต่กลับมาอยู่ที่ห้องในสำนักหมื่นอสูร อย่างไรก็ ตามรอบกายของเขามีวิญญาณนับไม่ล้วน มีทั้งคนที่เคยถูกเขาสังหารและศิษย์หญิงที่เคยถูกเขาทารุณกรรมแล้วก็พวกสัตว์อสูรวิญญาณที่ตายเพราะเขา

วิญญาณเหล่านั้นล้อมรอบตัวเขา ปีศาจเฒ่าขั้นกักเก็บของสำนักหมื่นอสูรตะคอกออกมา “เรื่องเหลวไหล!”

จากนั้นพลังที่สามารถทำลายฟ้าดินก็แผ่ออกจากตัวของเขา พลังจิตสีม่วงเข้มดุจดังลูกศรนับพัน แทงเข้าไปในหัวใจของเหล่าวิญญาณ ทำให้เกิดเสียงวิญญาณรํ่าไห้ไปเต็มไปหมด

ภาพตรงหน้าสลายหายไป ปีศาจเฒ่าขั้นกักเก็บของสำนักหมื่นอสูรกลับมายังกลางท้องฟ้าของสุสานเทวะอีกครั้ง

ส่วนหยินเฉินกลับบาดเจ็บหนักมาก ร้องเจ็บปวดออกมา ร่างใหญ่โตที่เต็มไปด้วยเลือดหดตัวเล็กลงอย่างรวดเร็ว ตกลงไปยังพื้น

มันในตอนนี้ เหลือแค่เพียงหางเดียว อีกทั้งหางเดียวนั้น ก็ยังมีสภาพไม่น่าดูนัก

ความเป็นความตายแขวนอยู่บนเส้นด้าย

มู่ชิงเกอนั้นมีสัมผัสเชื่อมต่อกับหยินเฉิน ตอนที่มันเกิดใหม่นั้นก็สัมผัสได้แล้ว นางเรียกหยินเฉินกลับหลายครั้ง แต่หยินเฉินก็ไม่สนใจคำสั่งของนางเลย

ตอนนี้ดวงตาสีแดงของหยินเฉินได้ปิดสนิทแล้ว ตกลงมายังพื้นอย่างรวดเร็ว ทิศทางก็เป็นมาทางที่มู่ชิงเกออยู่

“หยินเฉิน !” มู่ชิงเกอเงยหน้าขึ้น มองเห็นร่างที่โชกเลือดของหยินเฉินค่อยๆ ใกล้เข้ามา นางกระโดดขึ้นโดยไม่สนใจอะไร ยื่นมือออกไปรับหยินเฉิน

‘อั้ก!’

การโจมตีสายหนึ่งเข้าไปยังแผ่นหลังของมู่ชิงเกอ ดูเหมือนว่ามันทำให้กระดูกสันหลังของนางหัก เลือดที่นางกระอักออกสาดกระเด็นไปทางหยินเฉิน

ดีที่นางรับหยินเฉินเอาไว้ได้ในขณะที่กำลังตกก็เอามันเข้าไปไว้ในช่องว่าง พร้อมตะโกนว่า ‘เหมิงเหมิง ดูแลหยินเฉินให้ดี’ จากนั้นถึงตกมาอยู่ที่เดิม อาศัยการสนับสนุนจากทวนหลิงหลงคํ้ายันไม่ให้ตนเองล้มลง

ภายในร่างกายของมู่ชิงเกอกำลังฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว ส่วนหยินเฉินที่ถูกส่งเข้าไปอยู่ในช่องว่างแล้วก็สลบไป

เหมิงเหมิงขมวดคิ้วรีบไปที่ด้านหน้าของหยินเฉิน ดมๆ เอ่ยขึ้นในทันทีว่า “เลือดของเจ้านายงั้นหรือ?” นิ่งไปครู่หนึ่ง เหมิงเหมิงก็ถอนหายใจเอ่ยว่า “ไม่รู้จริงๆ ว่าเจ้าจิ้งจอกตัวนี้โชคดีหรือว่าโชคร้าย วันนี้เกรงว่าจะเป็นวันทะลวงชั้นแห่งความเป็นความตายของเจ้า ส่วนพันธะสัญญาของเจ้ากับเจ้านายก็ถูกเลือดของนางสาดกระเซ็นใส่แล้ว นึ่ก็ถือว่าเป็นโชคชะตาของเจ้า” พูดจบแล้วนางก็จัดวางหยินเฉินที่สลบไปอย่างระมัดระวัง

หยินเฉินอยู่ดีๆ ก็หายไปไม่ได้ทำให้คนคาดไม่ถึง เพราะก่อนหน้านี้หยินเฉินก็ปรากฏตัวอย่างกะทันหันอยู่แล้ว พวกเขาจึงเพียงแค่เดาว่าบนร่างของมู่ชิงเกอนั้นน่าจะมีของที่คล้ายกันกับถุงใส่สัตว์อสูรวิญญาณของสำนักหมื่นอสูรอยู่

มู่ชิงเกอเงยหน้าขึ้นไปมองที่ปีศาจเฒ่าขั้นกักเก็บที่จับตามองนางอยู่ทั้งสองคนและมองไปที่เหล่าคนที่ถูกจับอยู่

บึ้ม บึ้ม—–!

บนฟ้าเกิดเสียงระเบิดขึ้นอีกครั้ง ทั่วทั้งช่องว่างแห่งการทดสอบสั่นไหวขึ้นมา ดูเหมือนว่าจะถึงขีดสุดที่จะแตกสลายแล้ว

พญาเพลิงปีศาจไป๋กู่กับพญาเพลิงปาฮวงซูคงร่วมมือกัน ต่อกรกับปีศาจเฒ่าขั้นกักเก็บของหอหลอมศาสตราจนยากที่จะแยกได้ว่าใครเป็นใคร

แต่ว่าหากดูอย่างละเอียดถี่ล้วนจะพบได้ว่าปีศาจเฒ่าขั้นกักเก็บของหอหลอมศาสตราผู้นั้น มีจุดมุ่งหมายเช่นเดียวกันกับปีศาจเฒ่าขั้นกักเก็บของสำนักหมื่นอสูร คิดอยากจะเอาหยวนหยวนมาเป็นของตนเอง

หยินเฉินหายไป ปีศาจเฒ่าขั้นกักเก็บของสำนักหมื่นอสูร ก็กลับไปที่กองกำลังของพวกเขา

เมื่อมองร่างศพของผู้เยี่ยมยุทธ์ระดับพลังขั้นสีม่วงบนพื้นแล้ว เขาก็สบถออกมาคำหนึ่ง มองไปที่มู่ชิงเกอด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความแค้น

มู่ชิงเกอกลับดูสงบ นางเงยหน้ามองดูท้องฟ้าที่แตกสลาย ผมที่ถูกลมพัดก็คลอเคลียไปกับแก้มของนาง

“อ้า อ้า อ้า อ้า—–! ข้าจะเผาเจ้าให้ตาย!” หยวนหยวนโมโหพุ่ง เข้าใส่ปีศาจเฒ่าขั้นกักเก็บของหอหลอมศาสตรา

ปีศาจเฒ่าขั้นกักเก็บของหอหลอมศาสตราคนนั้นกลับหัวเราะอย่างดุร้ายออกมา หยิบภาชนะแปลกๆ ออกมา เหมือนจะรอให้หยวนหยวนเข้ามาติดกับ

ในตอนที่หยวนหยวนจะพุ่งมาถึงตรงหน้าเขา ในตอนที่สายตาของเขาฉายแววยินดีที่จะได้รับพญาเพลิงระดับเทพฮุ้นหยวนแล้ว อยู่ดีๆ หยวนหยวนก็หายไป ทำให้อารมณ์ที่ตื่นเต้นของเขาแข็งค้างบนใบหน้า

หยวนหยวน แน่นอนว่าถูกมู่ชิงเกอเก็บเข้าสู่ช่องว่าง

ในตอนนี้เองมู่ชิงเกอก็เอ่ยถามว่า ‘เหมิงเหมิง หากว่าข้าตายแล้ว พวกเจ้าจะเป็นอย่างไร?’

เหมิงเหมิงพูดโดยไม่ต้องครุ่นคิด แต่ก็ยังคงกัดฟันเอ่ยว่า ‘เป็นจิตวิญญาณแห่งอาวุธ ข้าก็จะนำของทุกๆ อย่างในช่องว่างหลับลึกลงอีกครั้ง จนกระทั่งได้พบกับเจ้านายคนใหม่’

“ลูกพี่ท่านแม่ ปล่อยข้าออกไป! ข้าจะไปช่วยท่านจัดการเหล่าคนชั่ว!”

“เช่นนั้นก็ดี” มู่ชิงเกอเอ่ยออกมา ไม่สนใจเสียงร้องในช่องว่างของหยวนหยวน

ดูเหมือนว่านางจะสบายใจแล้ว ถอนสายตากลับ มองไปยังเหล่าคนที่ต้องการให้นางตายอย่างสงบ

“องครักษ์เขี้ยวมังกร กลับมารวมกลุ่ม!” ทันใดนั้น มู่ชิงเกอก็ร้องตะโกนขึ้น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!