Skip to content

พลิกปฐพี 198-1

ตอนที่ 198-1

ข้าจะพาเจ้าไปฆ่าล้างตระกูล!

คนที่เคยจะฆ่าคิดจะเอาชีวิตนาง ตอนนี้ทุกๆ คนล้วนแต่คุกเข่าอยู่ตรงหน้านาง ทำท่าทางน่าสงสารต่อหน้านาง

นัยน์ตาของมู่ชิงเกอวาววาบ ในใจเต็มไปด้วยความรู้สึกขบขัน

ทำไมนางจะไม่รู้ว่าที่พวกเขาเคารพสงบเสงี่ยมเจียมตัวก็เป็นเพราะชายที่ยืนอยู่ข้างนาง?

แต่นี่ก็ไม่ได้เกี่ยวอะไร?

ผู้ชายของนาง ถึงแม้ว่านางจะทำตัวเป็นจิ้งจอกห่มหนังเสือแล้วจะอย่างไร?

ตระกูลหลานพากันอ้อนวอนสุดใจ แต่สำนักหมื่นอสูรและหอหลอมศาสตรากลับพูดไม่ออก บุญคุณความแค้นระหว่างพวกเขากับมู่ชิงเกอเริ่มก่อขึ้นเพราะเหตุใดนั้นพวกเขานั้นล้วนรู้ดีแก่ใจ

“อ้อ? คนชั่ว ตระกูลหลานถูกคนชั่วทำให้ดวงตามืดบอดไปอย่างนั้นหรือ?” อยู่ดีๆ มู่ชิงเกอก็เอ่ยขึ้นมาอย่างนึกสนุก

แววตาของอดีตประมุขตระกูลหลานเปล่งประกายดู เหมือนว่าจะมีความหวัง

แต่ว่าเรื่องนี้เขาไหนเลยจะรู้อะไรมาก?

แผนการทำลายมู่ชิงเกอในครั้งนี้ เขารู้เพียงแค่ผิวเผินเท่านั้น รู้ว่าอยู่ดีๆ เทียนตูก็มีอัจฉริยะที่เก่งกาจโผล่ออกมา ไม่เพียงแต่ทำให้มหาปราชญ์สนใจ ทั้งยังส่งผลเสีย ต่อความก้าวหน้าของตระกูลพวกเขา

ดังนั้นจึงทำตามปกติ ฆ่าคนเป็นเรื่องธรรมดา!

อดีตประมุขตระกูลหลานกลอกตาไปมา สายตาตกไปอยู่ที่ร่างของประมุขตระกูลหลาน

เขาคว้าจับประมุขตระกูลหลานเข้ามา ตบฝ่ามือเข้าไปที่ตัวของประมุขตระกูลหลาน ทำให้เขาตื่นจากอาการมึนงง

เสียงตบที่ดังชัดเจนสะท้อนไปทั้งเขตหวงห้าม

มู่ชิงเกอมองแก้มที่แดงขึ้นอย่างรวดเร็วของประมุขตระกูลหลานอย่างนึกสนุก ท่าทางของซือมั่วยังคงเฉยชา ยากที่จะแยกได้ว่าพอใจหรือโมโห เพียงแต่เมื่อมอง เห็นหญิงสาวด้านข้างแล้ว นัยน์ตาของเขาจึงเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนขึ้นมาหน่อย

ประมุขตระกูลหลานตื่นขึ้นในทันใด เขามองไปรอบด้าน สุดท้ายก็ไปตกอยู่ที่ร่างที่แหลกเละของหลานเฟยเยว่ มองแวบเดียวเขาก็รู้แล้วว่าเป็นใคร ชั่วขณะนั้น ดวงตาของเขาหดตัวลง ร้องตะโกนขึ้นอย่างหวาดกลัว

“อ๊าก—–! อ๊าก—–!”

เขาทั้งร้องทั้งหดตัวถอยหลังจนไปชนกับตัวของอดีตประมุขตระกูลหลาน

เมื่อมองเห็นเขาเก็บอาการไม่อยู่เช่นนี้ อดีตประมุขตระกูลหลานก็แค้นจนอยากจะตบอีกสักทีให้เขาตาย แต่ว่าตอนนี้เจ้าคนไม่มีประโยชน์นี่ยังตายไม่ได้!

อดีตประมุขตระกูลหลานจับชายเสื้อของประมุขตระกูลหลาน ยกเขาขึ้นมาจากพื้น เอ่ยถามว่า “ข้าถามเจ้า เป็นใครกันแน่ที่ทำร้ายตระกูลหลานของเรา? หลอกลวงตระกูลหลานของข้า! ทำให้ตระกูลหลานของข้าต้องกลายเป็นคนผิด!”

ความหมายที่แฝงไว้ในคำพูดของเขาเห็นได้อย่างชัดเจน ดูเหมือนว่าหากผลักความผิดทั้งหมดออกไปก็สามารถทำให้ตระกูลหลานปลอดภัยได้

อีกด้านหนึ่งใจของเฮยมู่และโหลวเสวียนเถี่ยเยียบเย็นขึ้นมา ลอบเอ่ยว่า ‘แย่แล้ว!’ หากว่าถูกมหาปราชญ์รู้ว่าทั้งหมดเป็นเพราะพวกเขาชักชวนผลักดัน เป็นพวกเขาที่วางแผนเอาชีวิตมู่ชิงเกอ เกรงว่าชีวิตน้อยๆ คงยากจะรักษาแล้ว!

ถึงแม้ว่าตอนนี้พวกเขาจะอยากฆ่าคนปิดปากก็ไม่อาจทำได้แล้ว

ประมุขตระกูลหลานถูกการเขย่าในครั้งนี้เตือนสติให้ตื่นขึ้นมา

เผชิญหน้ากับคำถามของอดีตประมุขตระกูลหลาน รีบตอบด้วยสีหน้าที่ซีดขาว “เป็นสำนักหมื่นอสูรและหอหลอมศาสตรา เป็นพวกเขามาหาตระกูลหลานของพวกเรา ไม่เกี่ยวกับข้า ไม่เกี่ยวกับข้า…เดิมทีข้าก็ปฏิเสธไปแล้ว เพียง…เพียงแต่หลานเฟยเยว่…เป็นหลานเฟยเยว่ตัดสินใจยืนยันที่จะร่วมมือกำจัดมู่ชิงเกอ!”

ประมุขตระกูลหลานพอพูดประโยคนี้จบ มู่ชิงเกอก็สัมผัสได้ถึงไอเย็นยะเยือกจากร่างของซือมั่ว

กลิ่นอายของชายผู้นี้ได้เริ่มดุดันขึ้นแล้ว

เขาคงเป็นเพราะได้ยินว่ามีคนคิดวางแผนจะฆ่าตนเอง จึงรู้สึกโกรธ!

มู่ชิงเกอรู้สึกว่าความแค้นเคืองในร่างของตนเองลดน้อยลงไปมากอย่างไร้สาเหตุ นางลอบกุมมือของซือมั่ว ราวกับจะปลอบว่านางไม่เป็นอะไร

อย่างไรก็ตาม นางไม่รู้เลยว่าซือมั่วได้เคยสูญเสียนางไปครั้งหนึ่งแล้ว

คนเบื้องหน้าเหล่านี้ไม่ใช่ว่าเอาชีวิตมู่ชิงเกอไม่สำเร็จแต่ได้ทำสำเร็จไปแล้วครั้งหนึ่ง!

จุดนี้เขาจะไม่บอกมู่ชิงเกอตลอดกาล แต่ทุกคนที่อยู่ตรงหน้านี้ล้วนต้องตาย!

“คนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ทุกคน รวมถึงขุมกำลังเบื้องหลัง ตระกูล เครือญาติใกล้ชิดล้วนแต่ต้องรับโทษตาย!” ซือมั่วจับมือของมู่ชิงเกอแน่น ใช้นํ้าเสียงที่ดูเย็นชาพูดการตัดสินใจของเขา

เขาไม่มีความสนใจที่จะยุ่งเกี่ยวกับเหล่าคนที่สมควรตายเหล่านี้ มีแค่ฆ่าคนถึงจะทำให้ความโกรธในใจของเขาสงบลงได้

‘คนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ทุกคน รวมถึงกองกำลังเบื้องหลัง ตระกูล เครือญาติข้างเคียงล้วนแต่ต้องรับโทษตาย!’

คำพูดของซือมั่วทำให้ทุกคนในที่นั้นล้วนแต่ตกตะลึงจนหยุดหายใจ

พวกเขาเบิกตากว้าง ไม่กล้าเชื่อถือในสิ่งที่ตนเองได้ยิน

คำพูดนี้ส่งผลกระทบไปทั่วทั้งแผ่นดินหลินชวน!

ไม่เพียงแต่ฐานกำลังทั้งสามจะถูกทำลาย แม้แต่ตระกูลใหญ่เล็กเบื้องหลังของพวกเขาก็ต้องถูกทำลายไปด้วย เพียงแค่ประโยคเดียวก็ทำให้ทุกคนล้วนแต่มองเห็นความเป็นตายอยู่ตรงหน้าได้แล้ว!

เพื่อผู้หญิงแค่คนเดียวมหาปราชญ์จะทำเช่นนี้จริงน่ะหรือ!

ที่หวาดกลัวที่สุดก็คือคนของตระกูลหลาน สำนักหมื่นอสูรและหอหลอมศาสตรา

เดิมพวกเขาคิดว่ามีแค่เพียงชีวิตของพวกเขาเท่านั้นที่ยากจะรักษา แต่กลับคิดไม่ถึงว่าต้องลำบากแก่วงศ์ตระกูลด้วย

หนีรึ?

เหอะ เหอะ…มหาปราชญ์คิดจะฆ่าคน ทั่วทั้งแผ่นดินหลินชวนจะสามารถหนีไปไหนได้อีก?

ความรู้สึกที่จะถูกทำลายให้สิ้นซากพุ่งเข้ามา ทำให้พวกเขารู้สึกเยียบเย็นไปทั่วทั้งกาย

ไม่! พวกเขาไม่ยอม!

“มหาปราชญ์พวกข้าน้อยมีโทษก็ฆ่าพวกข้า! เหตุใดจึงต้องลำบากคนในตระกูลของพวกข้าน้อยด้วย!” มีปีศาจเฒ่าขั้นกักเก็บชั้นต้นของหอหลอมศาสตราคน หนึ่งเอ่ยออกมาอย่างไม่ยินยอม

ซือมั่วกวาดตามองไปอย่างเย็นชา ในตอนที่นัยน์ตาวาววาบของเขากวาดไปถึงร่างของปีศาจเฒ่าขั้นกักเก็บชั้นต้นของหอหลอมศาสตราคนนั้น เขาที่ก่อนหน้านี้ยังพูดจาอยู่ก็ระเบิดขึ้นต่อหน้าของทุกคน เศษเลือดเนื้อสาดกระจายไปทั่วพื้น

เผด็จการเช่นนี้ใครจะกล้าพูดอีก?!

กลิ่นเลือดกระจายออกมา บนเขตหวงห้ามกลายเป็นเงียบกริบแม้แต่จะหายใจก็ไม่กล้าหายใจเสียงดัง

อะไรที่เรียกว่า ‘กวาดตาแวบเดียวก็ฆ่าเจ้าได้!’ ทั้งยังตายอย่างชัดเจนถึงขนาดนี้!

“ช่างหล่อเหลาเกินไปแล้ว!” ดวงตาของเจียงหลีเปล่งประกายมองไปที่ซือมั่ว

หานฉายไฉ่สบถออกมาว่า “เลือดเย็น!”

เจียงหลีจ้องเขาแวบหนึ่ง “เจ้าจะเข้าใจอะไร? นี่เรียกว่าบ้าเพราะรัก!”

บ้าเพราะรัก?

คำพูดนี้ดูเหมือนว่าจะแทงใจดำของหานฉายไฉ่ ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่าตัวเองที่อยู่ที่นี่นั้นเป็นส่วนเกิน ต่อหน้าชายผู้นั้นแม้แต่ขยับเขาก็ไม่อาจทำได้

ความอัปยศอดสูผุดขึ้นมากลางใจของเขา ทำให้เขารู้สึกไม่ยินยอมที่ได้รับความพ่ายแพ้

มองไปด้านหลังของมู่ชิงเกออีกครั้ง นัยน์ตาของเขาฉายแววท้าทายที่เข้มข้น ฆ่าคนแค่คนเดียว แต่กลับดูเหมือนว่าไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น

ซือมั่วเพียงแค่สนใจกวาดตาดูร่างกายของมู่ชิงเกอว่ามีเศษเนื้อกระเด็นไปติดหรือไม่ เมื่อเขามองเห็นว่าชายเสื้อของมู่ชิงเกอมีเศษเนื้อชิ้นเล็กๆ ชิ้นหนึ่งติดอยู่แล้วเขาก็ขมวดคิ้วชิ้นอย่างไม่พอใจในทันที

ระหว่างที่ตวัดมือ ชายเสื้อก็ถูกเขาตัดขาด

เขามองมู่ชิงเกออย่างเสียใจพลางเอ่ยว่า “ต่อไปข้าจะระวังหน่อย”

มู่ชิงเกอมองเขาด้วยสายตาวาววาบ ปากโค้งยิ้มขึ้นมา “ไม่เป็นไร ข้าชอบการกระทำที่เรียบง่ายเช่นนี้!”

พูดตามจริงแล้ว การระเบิดปีศาจเฒ่าขั้นกักเก็บชั้นต้นของหอหลอมศาสตราคนนั้นทิ้งเลย นางก็รู้สึกสะใจมาก! จริงๆ นะ!

“เจ้าชอบงั้นหรือ?” ดวงตาของซือมั่วเปล่งประกาย เพราะคำพูดของมู่ชิงเกอ “ดี เพียงแค่เจ้าชอบ ต่อไปข้าจะฆ่าให้เจ้าดูมากหน่อย!”

ถุ้ย—–!

สวรรค์! ช่วยพวกเราด้วย!

นี่คือการพูดคุยอะไรกัน?

มีความรู้สึกของความรักอยู่หรือ’?

ในใจของคนจำนวนนับไม่ถ้วนล้วนนํ้าตานองหน้า มหาปราชญ์ของพวกเขาที่เป็นตัวแทนของความแข็งแกร่ง สูงส่ง น่าเคารพนับถือไปไหนเสียแล้ว? กลายเป็นคนเลือดเย็นฆ่าคนไม่กะพริบตาไปได้อย่างไรกัน?

กู่หยาและกู่เย่รู้สึกชินแล้ว

พวกเขารู้มาก่อนแล้วว่าต่อหน้าคุณชายมู่ เจ้านายของเขาก็จะไม่มีหลักการอะไร

อีกอย่างพวกเขาก็ไม่คิดว่าการฆ่าคนไม่กี่คนเหล่านี้จะมีอะไรมากมาย

หวงฝู่ฮ่วนกับหวงฝู่เฮ่าเทียนลอบสบตากันเงียบๆ ล้วนแต่อดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขมขื่น ดูท่าพวกเขามองเรื่องสถานะคุณชายมู่ในใจของมหาปราชญ์ต่ำเกินไปจริงๆ

หวงฝู่ฮ่วนด่าตัวเองว่า ‘ทึ่ม’ ในใจ!

มหาปราชญ์ไหนเลยจะมองความเป็นอัจฉริยะของคุณชายมู่แล้วคิดจะรับนางเป็นศิษย์? เห็นได้ชัดว่าเป็น…

เฮ้อ จะโทษก็โทษที่คุณชายมู่ปลอมตัวได้ดีเกินไป จนเขาไม่ได้คิดมองว่านางนั้นเป็นผู้หญิงเลย!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!