ตอนที่ 204-4
ชิ้นส่วนบันทึก สิ่งของของซือมั่ว
ด้านนอกแผ่นหิน ร่างกายของมู่ชิงเกอยืนตรง ยังคงอยู่ในท่าที่เอามือยันแผ่นหิน แววตาทั้งคู่ล่องลอย ส่วนกระดิ่งข้างเอวนางก็ยังคงลอยคว้างอยู่กลางอากาศ ด้าย ด้านหนึ่งผูกรั้งไปกับผ้าคาดเอวมู่ชิงเกอ อีกด้านหนึ่งถูกดึงดูดด้วยแรงดึงดูดที่แผ่ออกมาจากแผ่นหินสีดำ
ยังดีที่มีพลังจิตที่ซือมั่วส่งเข้ามา ควบคุมการปะทุของแผ่นหินสีดำ
จิตสำนึกของมู่ชิงเกอเข้าไปในช่องว่างที่ดูว่างเปล่าแห่งหนึ่ง พลังที่ดึงรั้งบังคับนางเข้ามา ทำเอานางซวนเซไปบ้าง
หลังจากตั้งหลักได้แล้ว นางก็เพ่งมองไปรอบๆ นอกจากความว่างเปล่าแล้วนางก็มองไม่เห็นสิ่งอื่น
“นี่คือโลกในแผ่นหินหรือ?” มู่ชิงเกอเอ่ยกับตนเองด้วยความประหลาดใจแกมสงสัย
ทันใดนั้นนางก็เห็นว่ารอบๆ เริ่มปรากฏเป็นแสงจุดเล็กๆ คล้ายกับแสงดาวที่เปล่งประกายระยิบระยับบนฝากฟ้าอย่างไรอย่างนั้น
แสงดาวเหล่านั้นสว่างขึ้นเรื่อยๆ ดูเหมือนอยู่ห่างจากนางแสนไกล แต่ก็ดูเหมือนอยู่ใกล้
นางถูกแสงดาวโอบล้อมอยู่ตรงกลาง ราวกับว่าตนเองอยู่ในยุคการเริ่มต้นของจักรวาล เป็นฉากภาพที่มีมนต์ขลังตรึงตราตรึงใจ
ทันใดนั้นเองก็มีแสงดาวที่สว่างราวเปลวเพลิงขยายใหญ่ พุ่งเข้ามาที่นางอย่างรวดเร็ว
มู่ชิงเกอหดตาลงอย่างรวดเร็ว จิตใต้สำนึกต้องการจะถอยหลัง
แต่ว่านางที่ต้องการจะขยับตัว ไม่คาดคิดว่าจิตใต้สำนึกของตนเองจะขยับไม่ได้ คล้ายกับถูกควบคุม
นี่มันสถานการณ์อะไรกัน!
มู่ชิงเกอตกใจ
พริบตาเดียว เปลวเพลิงที่ลอยตรงมาที่นางก็พุ่งมาอยู่ตรงหน้านาง เปลวเพลิงที่แผดเผาอย่างไม่ขาดสายส่องสะท้อนบนใบหน้าของนาง ทำให้อารมณ์ของนางฉายชัดในความว่างเปล่า
แสงไฟอาบย้อมดวงตาสุกสกาวของนาง
นางมองเห็นแล้ว มองเห็นว่าตรงกลางของเปลวเพลิงที่แผดเผามีบางสิ่งบางอย่างอยู่ ทันใดนั้นเอง นางก็รู้สึกถึงความเจ็บปวดบริเวณหว่างคิ้วตนเอง แสงสีทองสายหนึ่งพุ่งออกจากหว่างคิ้วของนางอย่างเหนือการควบคุม มู่ชิงเกอตกใจเป็นการใหญ่ สายตาเพ่งมองสิ่งที่ลอยออกมา คิดไม่ถึงว่าจะเป็นชิ้นส่วนบันทึกของตระกูลมู่ที่สืบทอดต่อกันมาที่ถูกนางทิ้งไว้ในช่องว่าง!
‘เหมิงเหมิง เกิดเรื่องอะไรขึ้น!’ มู่ชิงเกอตะโกน เหตุใดบันทึกยังไม่ได้รับอนุญาตจากนางก็ลอยออกมาจากช่องว่าง?
หลังจากที่นางได้รับชิ้นส่วนของบันทึกเล่มนี้เป็นต้นมา มันก็สงบนิ่งเรื่อยมา แม้แต่ครั้งก่อนตอนที่นางใกล้จะตาย บันทึกน่าตายนี้ก็ไม่มีปฏิกิริยาตอบรับใดๆ
คิดไม่ถึงว่าตอนนี้มันจะตื่นเต้นจนกระโดดออกมาจากช่องว่างได้เอง?
มู่ชิงเกอร้องเรียกเหมิงเหมิง แต่ว่าไร้ซึ่งปฏิกิริยาตอบกลับจากเหมิงเหมิง คล้ายกับว่า ถูกตัดขาดจากช่องว่างอย่างไรอย่างนั้น
เปลวเพลิงที่แผดเผานั่นปล่อยดอกไม้เพลิงออกมาไม่ขาดสาย
ชิ้นส่วนบันทึกที่ลอยออกมาจากช่องว่างของมู่ชิงเกอหยุดลงตรงหน้านางชั่วครู่ ก่อนจะพุ่งใส่กลางเปลวเพลิงอย่างรวดเร็ว
ทำเอามู่ชิงเกอตกใจจนสีหน้าเปลี่ยนสีไปฉับพลัน!
สิ่งของที่สืบทอดต่อกันมาของตระกูลมู่ คงไม่ถูกทำลายลงในรุ่นของนางใช่ไหม? หลังจากที่ท่านปู่ทราบ จะลงมือสังหารนางหรือไม่!
มู่ชิงเกอต้องการจะขัดขวางแต่ว่ากลับทำอะไรไม่ได้ ทำได้เพียงเบิกตามองบันทึกที่เขียนอักษรเผ่าเทพ พุ่งเข้าไปในเปลวเพลิงราวกับแมงเม่าบินเข้ากองไฟ
หลังจากที่ตัวบันทึกพุ่งเข้าไปแล้ว เปลวเพลิงนั้นก็ขยายใหญ่ขึ้น สิ่งของที่แผดเผาอยู่ด้านในก็ยิ่งมองเห็นได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ทันใดนั้นมู่ชิงเกอก็พบว่าสิ่งที่แผดเผาอยู่ข้างในก็เป็นบันทึกอีกเล่มหนึ่ง เปลวเพลิงเหล่านั้นราวกับมีที่มาจากภายในตัวบันทึก!
หลังจากที่บันทึกสกุลมู่เข้าไปในเปลวเพลิง ก็แผดเผาอย่างรวดเร็วก่อนจะค่อยๆ หลอมรวมกับบันทึกเล่มนั้น
มู่ชิงเกอมองดูฉากนี้ด้วยอาการตะลึงอ้าปากค้าง ความเป็นไปได้เพียงหนึ่งเดียวที่พาให้นางตระหนกวิ่งเข้าสู่ห้วงความคิดของนาง
ในขณะที่นางยังคงสงสัยในความจริงของความน่าจะเป็นนี้บันทึกสองเล่มก็หลอมรวมเข้าด้วยกันในเปลวเพลิง เปิดออกช้าๆ ต่อหน้ามู่ชิงเกอ…
ทันใดนั้นก็มีลูกไฟกลุ่มหนึ่งจู่โจมมาที่มู่ชิงเกอ พุ่งเข้าสู่ดวงตาทั้งสองข้างของนาง แผดเผาดวงตาสุกสกาวของนาง
ความเจ็บปวดที่กระจายออกมา มู่ชิงเกออดไม่ได้ที่จะส่งเสียงกรีดร้อง
แต่ว่าไม่ทันรอให้นางส่งเสียงร้อง ความรู้สึกเจ็บปวดนั้นก็หายไป บันทึกสองเล่มที่รวมเป็นหนึ่งเผาไหม้ท่ามกลางเปลวเพลิง เผยให้มู่ชิงเกอเห็นเนื้อหาด้านใน อ่านไม่ออก! อ่านอักษรบนนั้นไม่ออกเหมือนเคย!
แต่ว่ามู่ชิงเกอมั่นใจได้ว่าชิ้นส่วนบันทึกของตระกูลมู่ถูกเติมเต็มจนสมบูรณ์แล้ว!
‘บันทึกที่ถูกเผาไหม้ เป็นส่วนที่ขาดหายไปของชิ้นส่วนบันทึกตระกูลมู่หรือ?’ มู่ชิงเกอสะดุ้งในใจ
ในจังหวะที่นางคิดเช่นนี้ จู่ๆ ในห้วงความคิดของนางก็มีเสียงน่าเกรงขามไร้ประสงค์รายดังขึ้นมาว่า “เคล็ดวิชาเทวะส่วนบน!”
เคล็ดวิชาเทวะส่วนบน?
เรื่องบ้าอะไรกัน?
มู่ชิงเกอยังไม่ทันได้แยกแยะข้อมูลเหล่านี้ ก็มองเห็นว่าอักษรเผ่าเทพที่อ่านไม่ออกบนบันทึก คล้ายกับมีชีวิต หลุดออกไปจากบันทึก ทะลักเข้าสู่ดวงตาที่ถูกเปลวเพลิงแผดเผาของนาง ข้อมูลจำนวนมากพุ่งเข้าสู่ห้วงความคิดของนาง
สิ่งของเหล่านี้ราวกับว่าไม่ใช่สิ่งที่นางสามารถควบคุมได้ ในตอนนี้ยิ่งทำให้จิตสำนึกส่วนลึกของนางกลายเป็นลูกไฟทอแสงสีทองระยิบระยับ
เปลวเพลิงเลือนหายไปจากดวงตาของมู่ชิงเกอ
บันทึกที่หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่มีลายมือกลายเป็นว่างเปล่า
มู่ชิงเกอสัมผัสได้ว่าตนเองถูกพลังมหาศาลดึงออกไป จวบจนนางได้สติจากภวังค์จิตสำนึกของนางก็ได้กลับคืนไปสู่ร่างกายยืนอยู่ด้านนอกแผ่นหินแล้ว
ร่างของมู่ชิงเกอซวนเซไหวเอนเล็กน้อย มือที่ถูกแผ่นหินตรึงเอาไว้ก็คลายตัวลง
แรงดึงดูดนั่นหายไปแล้ว!
มู่ชิงเกอมองดูแผ่นหิน แผ่นหินกลับสู่สภาพมืดดับอับแสง
‘เพล้ง!’
เสียงดังสนั่น บนแผ่นหินมีรอยแตกร้าวเป็นทางยาว แทบจะตัดขาดแผ่นหินทั้งแผ่น
‘แผ่นหินนี้จะสลายไปแล้ว!’ จู่ๆ มู่ชิงเกอก็รู้สึกเช่นนี้
สิ่งที่ประสบพบเจอเมื่อครู่นี้ทำเอานางมึนงงสับสนไปชั่วขณะ นางรู้แค่เพียงว่าบันทึกของตระกูลมู่สมบูรณ์แล้ว ตอนนี้มันก็อยู่ในห้วงความคิดของนาง อีกทั้งยังเป็นเพียงส่วนบน อย่างน้อยก็น่าจะยังมีอีกหนึ่งส่วนที่สูญหายไม่ชัดเจน
ใช่แล้ว! บันทึกนี้จริงๆ แล้วคือคัมภีร์ ‘เคล็ดวิชาเทวะ’!
โยนพวกนี้ทิ้งไปก่อน มู่ชิงเกอมองไปที่แผ่นหินอีกอันหนึ่ง นํ้าวนบนแผ่นหินนั้นลึกขึ้นเรื่อยๆ กระดิ่งข้างเอวนางยังคงส่งพลังจิตออกไปให้แผ่นหินนั้นดูดซับอย่างต่อเนื่อง
ทันใดนั้นมู่ชิงเกอก็ชะงัก นางมองเห็นว่าในส่วนลึกของนํ้าวนแอบซ่อนสิ่งของสีดำไว้ชิ้นหนึ่ง
คล้ายกับว่ามันจะเป็นตัวการในการดูดซับพลังจิต!
‘มันต้องเป็นสิ่งของที่ซือมั่วต้องการอย่างแน่นอน!’ มู่ชิงเกอรู้สึกปีติยินดี
นางไม่ได้คิดอะไรมาก ยื่นมือเข้าไปหมายจะจับของลึกลับที่อยู่ในนํ้าวนนั่น
ฟิ้ว!
ฉึก!
มู่ชิงเกอดึงมือกลับคืนมาอย่างรวดเร็ว มือซ้ายของนางกุมข้อมือขวาเอาไว้ มองฝ่ามือตนเองด้วยอาการตื่นตระหนก
ฝ่ามือของนางถูกพลังงานบางอย่างบาดเป็นแผล ที่บาดแผลยังมีหมอกควันสีดำหลงเหลืออยู่ นางรู้สึกได้ว่าหมอกควันนี้แฝงพลังงานบางอย่างที่ร้ายกาจเอามากๆ กัดกินเลือดเนื้อของนางไม่หยุดหย่อนทำให้บาดแผลของนางไม่สามารถรักษาได้
บาดแผลแผดร้อนเหลือเกิน เจ็บปวดจนมู่ชิงเกอมือสั่น แต่ที่นางตื่นตระหนกกว่านั้นก็คือสสารสีดำเหล่านั้นคืออะไร?
มู่ชิงเกอเม้มริมฝีปาก ส่งพลังจิตไปที่บริเวณฝ่ามือ
เปลืองแรงขจัดสสารสีดำเหล่านั้น บาดแผลที่ฝ่ามือจึงรักษาหายได้
มองดูบาดแผลบนฝ่ามือที่ค่อยๆ ประสานเข้าหากัน รอยแผลเปลี่ยนเป็นสีชมพูก่อนจะจางหายไปคล้ายกับไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ดวงตามู่ชิงเกอ ยากที่จะปิดบังความตกใจไว้ได้
เพราะนางรู้สึกว่าบาดแผลเล็กๆ แค่นี้คิดไม่ถึงว่าจะสิ้นเปลืองพลังจิตของนางไปไม่น้อย
ความสามารถในการรักษาร่างกายของนางมาจากการเปลี่ยนแปลงดีเอ็นเอไม่ใช่พลังจิต ดังนั้นจึงไม่เคยปรากฏเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน ตอนนี้กลับปรากฏขึ้น แล้ว นั้นก็มีความเป็นไปได้เพียงข้อเดียว นั้นคือตอนที่บาดแผลของนางถูกสสารสีดำห่อหุ้ม สิ่งของเหล่านั้นค่อยๆ กลืนกินพลังจิตของนาง
“สสารทรงพลังเช่นนี้นี่มันอะไรกัน? สิ่งของที่ซือมั่วต้องการมีที่มาอย่างไรกันแน่? เป็นสิ่งของนี้มาจากเผ่าพันธุ์ของพวกเขาจริงหรือ?” มู่ชิงเกอเอ่ยพึมพำ สายตาจับจ้องไปที่วัตถุลึกลับในนํ้าวนนั้นไม่วางตา