Skip to content

พลิกปฐพี 211

ตอนที่ 211

บัดซบ! ข้าบริสุทธิ์นะ!

เป็นครั้งแรกที่มู่ชิงเกอต้องมานึกเสียใจภายหลังจากการ สร้างเรือลำใหญ่โลดแล่นไปในทะเล

เดิมที ที่สร้างเรือให้ลำใหญ่ก็เพื่อให้เรือมั่นคงป้องกัน สภาพอากาศที่โหดร้ายในทะเล ไหนจะสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นแบบกะทันหัน ยิ่งไปกว่านั้นคนของพวกเขามากมายเพียงนั้น หากไม่มีพื้นที่ว่างกว้างขวางเพียงพอ การที่ล่องเรือในทะเลแห่งทุกข์เป็นเวลานานเช่นนั้นย่อมมีปัญหาเรื่องสภาพจิตใจ

แต่ว่า ตอนนี้จะข้ามผ่านเขตแดนของปีศาจทะเลไปได้อย่างไร กลายเป็นปัญหาใหญ่เสียแล้ว

มู่ชิงเกอขมวดคิ้วยุ่ง ครุ่นคิดหาวิธีรับมือ

เรือไม่สามารถอำพรางปิดบังได้ ปีศาจทะเลก็มิใช่จะตาบอด เช่นนั้นก็เหลือแค่สองทางให้เลือก ทางหนึ่งคือ ได้รับอนุญาตจากปีศาจทะเล ข้ามผ่านเขตแดนของ ปีศาจทะเลไป อีกทางหนึ่งคือเปิดศึกฝ่าออกไป!

แต่ไม่ว่าจะทางไหนล้วนไม่ใช่เรื่องง่ายเลย!

หากอ้อมแล้ว เส้นทางล่ะ?

เมื่อความคิดนี้ผุดขึ้นมาก็ถูกมู่ชิงเกอปัดตก พวกเขาไม่มีแผนที่นำทาง ทั้งหมดล้วนแต่อาศัยสมบัติชิ้นนั้นที่ซือมั่วให้มาในการนำทาง

สมบัตินั้นยังไม่อัจฉริยะถึงขั้นที่ว่าแสวงหาโชคดีหลีกเลี่ยงเภทภัย ย่อมไม่สามารถแสดงเส้นทางอ้อมเขตแดน ของปีศาจทะเลให้มู่ชิงเกอได้เลือก

คิดไปคิดมา มู่ชิงเกอก็ได้แต่ทอดถอนใจ เอ่ยเบาๆ ว่า “ดูท่าคงทำได้แค่เลือกข้อใดข้อหนึ่งจากสองข้อนี้เสียแล้ว!”

โครม โครม โครม!

การต่อสู้ในสนามรบของปีศาจทะเลทวีความดุเดือดรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

เพื่อปีศาจทะเลสาวนามว่าทาลิซ่าผู้นั้น เหมือนว่าปีศาจทะเลพันกว่าตนจะไม่ต้องการชีวิตเสียแล้ว

และแน่นอนในฐานะที่เป็นผู้นำของกลุ่มปีศาจทะเลทั้งสอง พวกเขาก็ปะทะกันอย่างยากที่จะแยกแยะแพ้ชนะได้ ระดับพลังยุทธ์ประสบการณ์กำลังของพวกเขาสูสีกัน ตอนนี้ใครก็ไม่อาจควํ่าใครได้ลง ทำได้เพียงต่างฝ่ายต่างไม่ยอมอ่อนข้อให้แก่กันและกัน

“หยุดมือ! ข้าบอกให้หยุดมือ!”

ในขณะที่ชิ้นส่วนแขนขาลอยละล่องไปในทะเล จู่ๆ ก็มีเสียงโกรธของหญิงสาวลอยแว่วมาไกลๆ

เสียงนั้น ฟังดูแล้วแฝงความงดงามอยู่หลายส่วน

มู่ชิงเกอและไป๋สี่หันหลังกลับไปมอง

ท้องทะเลไกลออกไป เกิดเป็นคลื่นนํ้าสายหนึ่ง มีปีศาจทะเลตนหนึ่งพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว

และในจังหวะที่นางเปล่งเสียงออกมา การสู้รบที่กำลังดุเดือดรุนแรงก็หยุดชะงักลงในทันใด

ปีศาจทะเลที่ยังคงมีชีวิตเหลือรอดกับผู้นำที่อยู่ระดับพลังชั้นสีม่วงขั้นสูงสุด ต่างพากันมองไปทางปีศาจทะเลสาวตนนั้น

ฟองคลื่นหายไป เผยให้เห็นรูปร่างของปีศาจทะเลสาว

บัดซบ!

ดวงตาทั้งสองข้างของมู่ชิงเกอจ้องเขม็งในทันใด ความรู้สึกราวกับว่าตกใจอย่างมาก!

ปีศาจทะเลที่เห็นเบื้องหน้านี้ มีรูปร่างหน้าตาที่…โดดเด่นไม่เหมือนใครเสียเหลือเกิน!

รูปร่างของนางเหมือนมนุษย์ทุกอย่าง เพียงแค่สองมือสองเท้าที่อยู่ข้างลำตัว มีเยื่อบางๆ ลอยอยู่รอบตัว ส่วนใบหน้านั้น…บนใบหน้าแบนๆ ดวงตากลมสองข้างนูนขึ้นมา จมูกยุบ มุมปากฉีกขาดจนถึงข้างแก้ม ด้านในมีฟันคมที่เรียงกันไม่ครบทำให้ผู้คนรูลึกหวาดกลัว

“ทาลิซ่า เจ้ามาได้อย่างไร?”

เมื่อเห็นปีศาลทะเลสาวปรากฏตัว ผู้นำปีศาจทะเลทั้งสองที่ก่อนหน้านี้สู้กันอย่างจะตายกันไปข้างหนึ่งรีบเก็บความเย่อหยิ่งที่อยู่บนร่างกายลงใต้ท้องทะเลลึก พากันต้อนรับปีศาจทะเลสาวผู้นั้น

เมื่อเอ่ยชื่อทาลิซ่า มุมปากมู่ชิงเกออดไม่ได้ที่จะกระตุกรุนแรง

ไป๋สี่ที่อยู่ข้างกายเอ่ยแขวะเสียงเล็กๆ “เผ่าปีศาจทะเล ขาดสตรีเท่าไรกันแน่? หน้าตาเช่นนี้ยังถือว่าเป็นโฉมงาม อันดับหนึ่งของเผ่าปีศาจทะเล? สุ่มเสือกใครสักคนในบรรดาองครักษ์เขี้ยวมังกรมาแต่งเป็นสตรียังงามกว่านางเสียอีก!”

คำพูดของไป๋สี่ ทำเอาในใจมู่ชิงเกอหมดคำพูดจะกล่าว แต่ว่าเมื่อลองจินตนาการถึงองครักษ์เขี้ยวมังกรในชุดสตรีแล้ว แม้ว่าจะน่าเวทนาเกินกว่าจนทนดูได้ ทนมองตรงๆ ไม่ไหว แต่ว่าเมื่อเทียบกับปีศาจทะเลสาวที่เป็นโฉมงามอันดับหนึ่งผู้นี้แล้วก็คู่ควรกับคำว่างามกว่ามาก

“หากข้าไม่มา พวกเจ้าก็คงจะสู้จนตายอยู่ที่นี่ไปแล้ว!” ทาลิซ่าปีศาจทะเลสาวมองปีศาจทะเลหนุ่มด้วยอารมณ์คุกรุ่น

ปีศาจทะเลหนุ่มสองตนที่เดิมทีสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตายไม่ไว้ไมตรี คิดไม่ถึงว่าพอโดนทาลิซ่าตำหนิก็ก้มหน้าลงแต่โดยดี เผยท่าทีรู้สึกผิด

สามารถทำให้ปีศาจทะเลผู้มีลักษณะนิสัยโหดเหี้ยมดุร้ายเชื่องกลายเป็นแมวเหมียวได้ ดูแล้วทาลิซ่าผู้นี้คงไม่ใช่มีเพียงแค่ ‘ชื่อเสียงภายนอกดีงาม’ ง่ายๆ เช่นนั้นเป็นแน่

มู่ชิงเกอคิดในใจ

เดิมทีเวลานี้พวกนางควรจากไปแล้ว

เพราะว่าการมาถึงของทาลิซ่า ราวกับประกาศการสิ้นสุดของการต่อสู้

แต่ว่าก่อนหน้านี้ตอนที่สงครามชุลมุน พวกนางสามารถเข้ามาถึงตรงนี้อย่างง่ายดาย ตอนนี้คิดจะจากไปกลับต้องเผชิญสายตาจับจ้องของเหล่าปีศาจทะเล

“ทำเช่นไรดี?” ไป๋สี่มองหน้ามู่ชิงเกอ

มู่ชิงเกอเอ่ยขึ้นว่า “รอสักประเดี๋ยว ยังไงพวกเขาก็ต้องจากไป” ความหมายของนางชัดเจน ในเมื่อสู้ไม่ได้ก็แยกย้ายจากกันไป เมื่อถึงตอนนั้นพวกนางก็กลับไปที่เรือ ค่อยคิดต่อว่าจะผ่านน่านน้ำนี้ไปได้อย่างไร

“ฟู่คัง ข้าเคยบอกเจ้าแล้วว่าข้าไม่ชอบเจ้าและข้าก็จะไม่แต่งให้เจ้า เหตุใดยังต้องมาหาเรื่องเจี๋ยซั่งอีก!” สายตาดุร้ายของทาลิซ่ามองไปยังหนึ่งในปีศาจทะเลหนุ่ม ปีศาจทะเลหนุ่มผู้นั้นคือพี่ชายผู้ที่ก่อนหน้านี้โหวกเหวกโวยวายว่า ‘ทาลิซ่าแต่งให้ใคร เขาก็จะสังหารผู้นั้น!’

ดูท่าแล้ว การต่อสู้นี้เป็นเขาที่หาเรื่องขึ้นมา คำพูดแฝงแววปกป้องของทาลิซ่าทำเอาเจี๋ยซั่งยืดอกขึ้นมา มองฟู่คังด้วยสายตาโอ้อวด การกระทำนี้ทำเอาฟู่คังโกรธจนควันออกหู หมายจะจัดการเจี๋ยซั่งเสียตรงนั้น แต่ว่ายังไม่ทันที่เจี๋ยซั่งจะเรียกคืนความรู้สึกพึงพอใจ ทาลิซ่าก็หันมามองเขาแล้วเอ่ยด้วยความผิดหวังว่า “เจี๋ยซั่ง เจ้าทำให้ข้าผิดหวังยิ่งนัก คิดไม่ถึงว่าแม้แต่ฟู่คังเจ้ายังไม่สามารถเอาชนะเขาได้ ดูแล้วเจ้าคงสู้เขาไม่ได้ ต้องขอโทษด้วย งานแต่งของเราคงต้องล้มเลิก ข้าไม่สามารถแต่งให้เจ้าได้”

“เหตุใดกัน! ทาลิซ่า เป็นเจ้างั่งผู้นี้หาเรื่องก่อน ข้าไม่ได้ ทำสิ่งใดผิด!” เจี๋ยซั่งตะโกนด้วยความตื่นตระหนก ฟู่คังที่อยู่อีกด้านหนึ่งกลับยิ้มด้วยความพึงพอใจ ราวกับว่าตัวเขาไม่ได้ครอบครองโฉมงาม เจี๋ยซั่งเองก็พลาดโอกาส นี่ก็ถือว่าเขาชนะ

เมื่อเผชิญหน้ากับข้อซักถามของเจี๋ยซั่ง ทาลิซ่ากลับตอบอย่างสมเหตุสมผลว่า “เดิมทีข้านึกว่าท่านเป็นวีรบุรุษผู้ที่เก่งกล้าที่สุด แต่กลับไม่คิดว่าท่านจะสู้ฟู่คังไม่ ได้ มีเรื่องหนึ่งฟู่คังพูดถูก ในฐานะโฉมงามอันดับหนึ่งแห่งเผ่าปีศาจทะเล ไหล่ของข้ารับภาระหน้าที่อันหนักอึ้ง คือการมีทายาทสืบเผ่าพันธุ์ ดังนั้นสามีของข้าจะต้องเป็นปีศาจทะเลที่เป็นวีรบุรุษผู้ที่เก่งกล้าที่สุด เช่นนั้นลูกของพวกเราจึงจะถ่ายทอดความงามไปจากข้าและในขณะเดียวกันก็ถ่ายทอดความกล้าหาญของเขา”

มู่ชิงเกอซึ่งฟังอยู่บริเวณรอยต่อโขดหินพอได้ยินแล้วถึงกับมุมมองความคิดทั้งหมดพังทลาย!

ในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งนางคิดว่าตนเองมีปัญหาเรื่องการพิจารณาความงามไปแล้วจริงๆ

คำพูดของทาลิซ่าไม่มีปัญหาใดๆ แต่ประกอบกับใบหน้าที่ไม่เหมือนใครของนางก็กลายเป็นปัญหาใหญ่!

“ไม่นะ! ทาลิซ่า ข้าเอาชนะฟู่คังได้ เมื่อครู่เป็นเพราะข้าไม่ได้ออกแรงเต็มที่ก็เท่านั้นเอง!” เจี๋ยซั่งยังคงพยายามไขว่คว้าขอโอกาส

น่าเสียดาย คล้ายกับว่าทาลิซ่าจะไม่สนใจฟังอีกต่อไปแล้ว

นางยกมือขึ้นขัดจังหวะเจี๋ยซั่งที่ต้องการจะพูดขอแก้ตัว “พอได้แล้ว! คำพูดของข้าไม่มีทางแก้ไข หลังจากกลับไปแล้ว ข้าจะให้ท่านพ่อเอาหนังสือแต่งงานมอบคืนให้ เรื่องระหว่างพวกเราก็ยกเลิกจบกันไป!”

“ทาลิซ่าเจ้าทำเช่นนี้ไม่ได้นะ! เจ้าไม่แต่งให้ข้าหรือว่าคิดจะแต่งให้ฟู่คัง?” เจี๋ยซั่งพูดด้วยความร้อนใจ สายตาที่มองไปยังฟู่คังซึ่งยืนทำท่าทางมีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่นเต็มไปด้วยไอสังหารอำมหิต

“หากว่าทาลิซ่าคิดจะแต่งให้ข้า เจ้าจะทำเช่นไรได้? เจ้าไม่ใช่ว่าที่คู่หมายของทาลิซ่าอีกต่อไปแล้ว! ยังมีคุณสมบัติใดที่จะไปก้าวก่ายตัวเลือกของทาลิซ่าอีกรึ?” ฟู่คังหัวเราะหยัน ประสานสายตาตอบเจี๋ยซั่งอย่างไม่หวาดกลัวแม้แต่น้อย

“เจ้า!”

“พอได้แล้ว! ข้าไม่แต่งให้พวกเจ้าทั้งสองคนนั้นแหละ!” ทาลิซ่าตะคอกเสียงดัง หยุดยั้งการโต้เถียงอย่างไม่มีความหมายของพวกเขา

ฟู่คังและเจี๋ยซั่งพากันชะงักค้าง ตะโกนออกมาเป็นเสียงเดียวกันว่า “เจ้าคิดจะแต่งให้ใคร?”

ทาลิซ่าถลึงตากลมๆ ที่นูนออกคู่นั้น เอ่ยอย่างไม่ใส่ใจว่า “ไม่เกี่ยวกับเจ้า!”

“ไม่! หากเจ้าไม่บอกมา ข้าก็ไม่ตกลงที่จะล้มเลิกงานวิวาห์!” เจี๋ยซั่งกล่าว

ฟู่คังก็เอ่ยสำทับขึ้น “เป็นใครกัน! ข้าจะไปฆ่ามัน!”

ก่อนหน้านี้ทั้งสองคนยังเป็นคู่ต่อสู้ที่สู้กันจะเป็นจะตาย ตอนนี้กลับยืนอยู่ฝั่งเดียวกัน นำความแค้นที่มีต่อศัตรูคนเดียวกันมาตกใส่ว่าที่คู่หมายคนใหม่ของทาลิซ่า

“พวกเราสองคนเป็นผู้ที่องอาจในรุ่นปีศาจทะเลวัยหนุ่มสาว เจ้าไม่แต่งให้พวกเรา คงมิใช่ว่าคิดจะแต่งให้พวกผู้เฒ่าเหล่านั้นนะ?” เจี๋ยซั่งกัดฟันแหลมเอ่ยขึ้น ในจุดนี้ฟู่คังเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง พยักหน้าสมทบขึ้นว่า “ทาลิซ่า เจ้าสามารถเลือกพวกเราคนใดคนหนึ่ง แต่อย่าไปแต่งให้กับผู้เฒ่าเหล่านั้นโดยเด็ดขาด!”

“ข้าจะแต่งให้ใคร นั้นเป็นความปรารถนาของข้า ไม่ใช่เรื่องของพวกเจ้า!” ทาลิซ่าแค่นเสียงเย็นชา

“ไม่ได้!”

“ไม่ได้!”

ฟู่คังกับเจี๋ยซั่งเอ่ยประสานเสียงขึ้นมาพร้อมกัน การใช้วาจาข่มผู้อื่นของพวกเขาทั้งสองทำให้ทาลิซ่าเดือดดาลอย่างยิ่ง นางมองทั้งสองด้วยความโกรธ เอ่ยด้วยความขุ่นเคือง “พวกเจ้ามีคุณสมบัติอะไรมายุ่งกับข้า? หากพวกเจ้ายังเป็นเช่นนี้อีก พวกเจ้าสองคนอย่าคิดว่าจะได้พบข้าอีกต่อไป”

เกินไปจริงๆ!

มู่ชิงเกออุทานในใจ!

อย่างไรนางก็คิดไม่ถึงว่า เดิมแค่คิดมาดูลาดเลากำลังที่แท้จริงของปีศาจทะเล สุดท้ายกลับกลายเป็นศึกรักสามเส้า!

ไม่สิ!

ไม่ถือว่าเป็นรักสามเส้า

ทาลิซ่าผู้นั้นเดิมก็มิได้รักใคร่ชอบพอฟู่คังหรือเจี๋ยซั่ง บางทีฐานะของนางในเผ่าปีศาจทะเลคงสามารถหนุนให้นางมีความเอาแต่ใจตนเองเพียงนี้

แต่ว่า มู่ชิงเกอรู้สึกแปลกๆ อยู่บ้าง ว่าไปแล้วปีศาจทะเลหนุ่มสองตนนี้ต่างก็มิใช่พวกที่มีอัธยาศัยดีเท่าไร ถูกทาลิซ่าปฏิเสธเช่นนี้ไม่คาดว่ายังจะอ้อนวอนขอร้อง ไม่ได้มัดคนเอากลับไปในทันที?

คำพูดร้ายกาจของทาลิซ่าทำเอาฟู่คังและเจี๋ยซั่งสงบคำ

พวกเขาไม่ได้กล่าวอะไรอีก แค่แววตาฉายชัดถึงความไม่ยอมแพ้

เงียบกันไปเนิ่นนาน เจี๋ยซั่งก็เอ่ยปากเก็บความไม่สบายใจไว้ “ทาลิซ่าเจ้าต้องการยกเลิกงานแต่ง แต่งให้คนอื่นก็ควรให้ข้ารู้ว่าเป็นใคร? เป็นใครที่ชนะข้า ชนะใจเจ้า”

ทาลิซ่านิ่งเงียบไม่เอ่ยวาจา เพียงแค่มีสีหน้าทีบ่งบอกถึงความไม่สบอารมณ์

ไป๋สี่เอ่ยกับมู่ชิงเกอเบาๆ “ให้ข้าเดานะ จริงๆ แล้วคงไม่มีใครคนนั้น ทาลิซ่าเพียงแค่จงใจให้เป็นเช่นนี้ กระตุ้นให้ปีศาจทะเลหนุ่มสองตนนี้แย่งชิงนาง”

แย่งชิง?

มู่ชิงเกอแปลกใจระคนสงสัยชั่วครู่ “ที่นางมา มิใช่เพื่อมาหยุดการต่อสู้ของพวกเขาหรอกหรือ?”

ไป๋สี่มองนางด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสาร ราวกับถามว่า ‘เจ้ายังเป็นสตรีอยู่หรือไม่! ไม่คิดว่าลูกไม้แค่นี้ยังดูไม่ออก?’

มู่ชิงเกอถูกนางมองจนหน้าม้าน แต่ก็ไม่รู้ว่าคำพูดของนางมีปัญหาตรงไหน

จนปัญญา ไป๋สี่ได้แต่อธิบาย “ข้ากล้าพนันเลยว่า ทาลิซ่าต้องแอบหลบชมเรื่องสนุกนั่นตั้งแต่แรกแล้ว ผ่านไปสักพักหนึ่งถึงได้ปรากฏตัว จากนั้นจงใจพูดถ้อยคำไร้เยื่อใย คิดจะกระตุ้นสองหนุ่มนั่น”

“นางทำเช่นนี้มีประโยชน์อะไร?” มู่ชิงเกอขมวดคิ้วถาม

ไป๋สี่กลอกตาใส่นาง “ชื่อเสียงอย่างไรเล่า! สตรีไม่ใช่เป็นกันเช่นนี้หรือ? ยิ่งมีบุรุษเพศมาแย่งชิงนางอย่างเอาเป็นเอาตายยิ่งแสดงให้เห็นว่ามีคุณค่า ทำให้นางมีต้นทุนในการกู่ร้องป่าวประกาศมากขึ้น ยิ่งปฏิเสธ ฝ่ายตรงข้ามยิ่งไม่ยอมรามือ!”

“ถ้าเป็นเช่นนี้สุดท้ายแล้วนางก็ยังแต่งให้กับใครคนใดคนหนึ่งในสองคนนี้?” มู่ชิงเกอเอ่ยอย่างครุ่นคิด

ไป๋สี่พยักหน้ารับยืนยัน

แต่ว่ามู่ชิงเกอยังคงขมวดคิ้ว “ข้าไม่สนใจว่านางจะแต่งให้ใคร ใครจะขอนางแต่งงาน สิ่งที่ข้าเป็นกังวลในตอนนี้ มีเพียงการออกไปจากทะเลผืนนี้ว่าควรจะเดินทางต่ออย่างไร”

ไป๋สี่กลอกตาไปมา เอ่ยแนะนำว่า “เจ้าลองจับทาลิซ่ามัดไว้ จากความสำคัญที่นางมีต่อเผ่าปีศาจทะเลแล้ว ไม่แน่ว่าพวกเขาอาจจะลูบหน้าปะจมูกปล่อยพวกเราไป หลัง จากที่พ้นเขตแดนปีศาจทะเลแล้วค่อยปล่อยนางไป”

มู่ชิงเกอมุมปากกระตุก เอ่ยขึ้นยิ้มๆ เป็นนัยยะแฝงความหมายไม่ชัดเจน “ก็เป็นความคิดที่ดีเสียจริง”

ไป๋สี่ดวงตาเป็นประกาย ราวกับว่าดีใจที่ได้รับคำชมจากมู่ชิงเกอ

จากนั้นคำพูดถัดมาของมู่ชิงเกอก็ทำเอานางถูกตีไปก้นเหว “แต่ก็อาจนำไปสู่ความโกรธแค้นของเผ่าปีศาจทะเล ไล่ตามสังหารพวกเราไปตลอดทางถึงโลกแห่งยุคกลางก็เป็นได้”

ภาพนั้นน่าจะเป็นภาพน่าชมยิ่ง

รอยยิ้มบนใบหน้าไป๋สี่แข็งค้าง สายตาที่มองมู่ชิงเกอเต็มไปด้วยการกล่าวโทษ

ราวกับกำลังตัดพ้อนาง รู้อยู่แล้วว่าวิธีนี้ไม่ได้ผล ยังเจตนาพูดว่าเป็นความคิดที่ดี เอามาฉีกหน้านางอีก

มู่ชิงเกอหัวเราะนางยกใหญ่โดยไร้เสียง ไม่นำพาต่อสายตากล่าวโทษของนาง

“ทาลิซ่า เจ้าอย่าลืมเสียล่ะว่าอายุของเจ้าในตอนนี้ เหมาะที่จะให้กำเนิดเป็นที่สุด ถ้าหากยืดเยื้อต่อไปก็จะพลาดโอกาส” ฟู่คังเอ่ยเตือนในทันใด

ประโยคนี้ทำให้ทาลิซ่ามีสีหน้าเปลี่ยนไป เอ่ยขึ้นเสียงขรึม “นั่นก็เป็นเรื่องของข้า”

“ทาลิซ่า จริงๆ แล้วเจ้าไม่มีคนอื่นๆใช่หรือไม่?” ฟู่คังเอ่ยขึ้นทันที

พอพูดออกไปแล้ว เจี๋ยซั่งก็ชะงัก ตัวทาลิซ่าเองก็แข็งค้าง

ราวกับเป็นท่าทางของคนที่พูดหลอกลวงแล้วถูกจับไค้

ท่าทางของนางทำเอาเจี๋ยซั่งมีปฏิกิริยาตอบกลับทันควัน เอ่ยใส่นางเสียงดัง “ทาลิซ่า ตกลงว่านี่มันเรื่องอะไรกันแน่? ในเมื่อเจ้าไม่มีตัวเลือกอื่น เหตุใดต้องล้มเลิกงานแต่งของพวกเราด้วย?”

“เจ้ายังดูไม่ออกอีกหรือ? จริงๆ แล้วนางไม่ได้รักเจ้า เพียงแค่หาข้ออ้างมาล้มเลิกงานแต่งกับเจ้าเท่านั้น” ฟู่คังหัวเราะอย่างสาแก่ใจ

“นี่มันเป็นไปไม่ได้!” เจี๋ยซั่งเอ่ยอย่างไม่ยอมรับ

เขามองหน้าทาลิซ่า สายตาที่รักใคร่จริงใจนั้นราวกับว่ากำลังก่ายทอดความรักที่มีต่อนางอย่างไม่มีเสียง คิดจะใช้มันมารื้อฟื้นความทรงจำที่ผ่านมาระหว่างพวกเขา ความนิ่งเงียบของทาลิซ่าทำเอาสายตาของเจี๋ยซั่งแทนที่ด้วยความสิ้นหวัง

ฟู่คังกลับยิ้มออกมาอย่างได้ใจ “ทาลิซ่า ที่เจ้าไม่ยอมแต่งให้เจี๋ยซั่ง เป็นเพราะในที่สุดเจ้าก็ค้นพบว่าตนเองรักข้าใช่หรือไม่!”

เจี๋ยซั่งมองหน้าฟู่คังด้วยความโกรธแค้น

ใบหน้าเย็นชาของทาลิซ่ามองหน้าฟู่คังอย่างไม่ใคร่ใส่ใจ เอ่ยเย้ยหยันขึ้นว่า “ฟู่คัง ข้าเกลียดความอวดดีของเจ้า! หากว่าต้องเลือกจริงๆ ข้ายังคงเลือกที่จะแต่งให้เจี๋ยซั่ง ไม่ใช่เจ้า แต่ว่าพวกเจ้าพูดถูกว่าข้าไม่รักใครสักคน ดังนั้นจึงไม่คิดจะแต่งให้ใครทั้งนั้น ทว่าพวกเจ้าก็พูดถึงเรื่องจริงออกมาเรื่องหนึ่งว่าข้าไม่อาจพลาดโอกาสที่ดีที่สุดในการให้กำเนิด ดังนั้นหากว่าพวกเจ้าต้องการให้ข้าเลือกแต่งให้กับใครคนใดคนหนึ่งแล้วละก็ ก็ประลองแข่งขันกันแบบจริงจังเถอะ! ให้พวกเจ้าประลองกันตัวต่อตัว ไม่ต้องมาเสียสละไพร่พลเผ่าปีศาจทะเล ผู้ใดรอดข้าก็แต่งให้ผู้นั้น!”

ทาลิซ่าพูดจบ นัยน์ตาส่วนลึกก็เป็นประกายอำมหิตไปชั่วขณะ

‘สตรีที่แสนโหดเหี้ยม!’ มู่ชิงเกอหรี่ตาลงเล็กน้อย

นางย่อมต้องฟังออกถึงความนัยอันโหดเหี้ยมที่แฝงในคำพูดของทาลิซ่า เห็นได้ชัดว่านางต้องการให้สองคนนี้เข่นฆ่ากันเอง โดยใช้ตัวเองเป็นของเดิมพัน ผู้ที่คว้าชัยชนะก็จะได้นางไป

คำพูดของทาลิซ่าทำให้แววตาของฟู่คังกับเจี๋ยซั่งเรืองรองขึ้นมา แววตาที่มองฝ่ายตรงข้ามเต็มไปด้วยความมาดร้าย

พวกเขาค่อยๆ เว้นระยะห่างระหว่างกัน ราวกับว่าเตรียมพร้อมเปิดศึกตลอดเวลา

ทาลิซ่าหัวเราะเยือกเย็น ขยับถอยหลังห่างออกไปสัก

ระยะ ไปอยู่ใกล้ๆ กับตำแหน่งที่มู่ชิงเกอกับไป๋สี่อยู่พอดี มู่ชิงเกอประสานสายตากับไป๋สี่เงียบๆ ดูแล้วการต่อสู้ที่ดุเดือดกว่าเดิมกำลังจะเริ่มขึ้น มู่ชิงเกออดที่จะเลื่อมใสความโหดเหี้ยมและเจ้าเล่ห์ของทาลิซ่าอยู่ในใจไม่ได้ คำพูดเมื่อครู่นี้ ไม่เพียงแต่ยั่วยุให้เกิดการปะทะที่ถึงแก่ชีวิตระหว่างฟู่คังกับเจี๋ยซั่ง ยังได้รับความรู้สึกที่ดีจากปีศาจทะเลหนุ่มคนอื่นๆ ด้วย

“เริ่มเลยเถอะ” ทาลิซ่าเผยรอยยิ้มที่มู่ชิงเกอและไป๋สี่ดูแล้วช่างน่าเกลียดยิ่งนัก

แต่ว่าเหล่าปีศาจทะเลหนุ่มทั้งหมดกลับดูแล้วน่าหลงใหล น่าลุ่มหลง

ในขณะที่ทาลิซ่ายิ้ม ‘ลวงให้ผู้คนหลงเสน่ห์’ เจี๋ยซั่งก็ยกอาวุธโบราณในมือพุ่งเข้าใส่ฟู่คัง ฟู่คังที่ตกอยู่ในบ่วงรอยยิ้มของทาลิซ่า จู่ๆ ก็รู้สึกถึงรังสีการฆ่าฟันจู่โจมเข้ามารีบยกอาวุธในมือขึ้นมาตั้งรับกระบวนท่านี้

อาวุธประสานกัน กำลังขุมใหญ่สายหนึ่งแผ่กระจายออกมา

เกลียวคลื่นพลังไร้รูป ขยายออกเป็นวงกว้างอย่างไม่มีจำกัด บนผิวทะเลเกิดเป็นสายนํ้ากระเพื่อมสั่นไหว

เสียงต่อสู้แว่วถึงบนผิวนํ้าด้านบน พาให้ผู้คนบนเรือลำใหญ่ไม่มีกะจิตกะใจทำใจให้สงบในการฝึกพลังยุทธ์

มั่วหยางยืนอยู่บนดาดฟ้าเรือ มองไปยังบริเวณทะเลไกลลิบ เป็นห่วงความปลอดภัยของมู่ชิงเกอ

ตั้งนานแล้วยังไม่กลับกันมา เขาไม่รู้ว่าสถานการณ์ใต้ท้องทะเลเป็นเช่นไร!

หยินเฉินยืนอยู่เสากระโดงเรือ การมองเห็นกว้างขวางมากกว่า เขาเอ่ยขึ้นนิ่งๆ ว่า “ขอบเขตการต่อสู้เล็กลง แต่ยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง”

มั่วหยางเม้มปากครุ่นคิด ‘ขอบเขตการต่อสู้เล็กลง นั่นหมายถึงว่าจะสิ้นสุดลงแล้วใช่หรือไม่?’

เวลานี้พื้นที่ใต้ท้องทะเล ฟู่คังและเจี๋ยซั่งพัวพันเข้าด้วยกัน

ทั้งสองต่างต้องการแสดงออกต่อหน้าทาลิซ่า ไม่เก็บงำฝีมืออีกต่อไป ความรวดเร็วคล้ายกับสายฟ้าที่เกี่ยวพันกันสองสาย แรงต้านทานในทะเลไม่มีผลกระทบกับพวกเขาแม้แต่น้อย

การต่อสู้ของพวกเขา เดิมทีก็ไม่ได้สนใจผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์

บีบจนปีศาจทะเลตนอื่นๆ ถอยหลังไปไม่ขาดสาย ป่า ภูเขาใต้ท้องทะเลถูกพลังของพวกเขาทำลายจนระเบิดเป็นผุยผงอย่างต่อเนื่อง

นํ้าทะเลบริเวณนี้ก็ถูกพวกเขาปั่นป่วน คลื่นใต้น้ำทวีความรุนแรงขึ้น

ทุกสิ่งทุกอย่างใต้ท้องทะเล ถูกทำลายลงเรื่อยๆ ป่าและภูเขาที่ถูกทำลายเหล่านั้นกระเด็นลอยไปทั่วสารทิศ กระแทกใส่บรรดาปีศาจทะเลที่ชมความสนุกจนบาด เจ็บระเนระนาด

บริเวณเดียวที่ไม่ถูกคลื่นกระทบ มีเพียงพื้นที่บริเวณที่ทาลิซ่ายืนอยู่เท่านั้น พริบตาเดียวมู่ชิงเกอรู้สึกยินดีที่ทาลิซ่ายืนอยู่หน้าโขดหินที่พวกนางซ่อนตัวอยู่

ไม่เช่นนั้น หากอิงจากการต่อสู้ของพวกเขา ก็ห่างจากเวลาที่พวกนางทั้งสองจะถูกเปิดเผยตัวตนไม่มากเท่าไรนัก

จู่ๆ มีมนุษย์สองคนปรากฏตัวในพื้นที่ของปีศาจทะเล ผลที่ตามมาแค่คิดก็รู้ เกรงว่ายังไม่รอโอกาสให้พวกนางได้อธิบาย ก็คงจะได้รับการจู่โจมที่รุนแรงแล้ว

ถ้าหากอยู่บนพื้นดิน มู่ชิงเกอก็หาได้สนใจไม่

แต่ว่า นี่คือในทะเล

นางยอมรับเลยว่าไม่มีความสามารถต่อสู้ใต้ทะเล!

“พวกเจ้าเร่งมือกันหน่อยได้หรือไม่? ข้าหิวแล้วนะ!” ทันใดนั้น ทาลิซ่าก็เปรยออกมาประโยคหนึ่ง กระตุ้นความดุเดือดของการต่อสู้รุนแรงยิ่งขึ้น

ฟู่คังและเจี๋ยซั่งราวกับว่าไม่สนใจความเลือดเย็นอำมหิตในคำพูดของทาลิซ่า

พวกเขาใครจะเป็นใครจะตาย สตรีผู้นี้ไม่สนใจไยดีแม้แต่น้อย ราวกับว่าในใจของนางพวกเขาสำคัญเทียบไม่ได้กับอาหารหนึ่งมื้อ!

แต่ว่าทั้งๆ ที่รู้พวกเขาก็ยังคงทำตามที่นางปรารถนา

ขยายการโจมตีรุนแรงยิ่งขึ้น พละกำลังของฟู่คังและเจี๋ยซั่งแยกไม่ออกว่าใครเหนือกว่าอ่อนกว่า สู้กันมาชั่วโมงครึ่งยากที่จะตัดสินได้ว่าใครเป็นผู้ชนะ ยิ่งไปกว่านั้นความต้องการของทาลิซ่าก็คือมีเพียงผู้เดียวที่จะมีชีวิตรอด!

ดังนั้นพวกเขายิ่งต้องต่อสู้ให้ดุเดือดขึ้น นอกจากเปลืองแรงมากขึ้นแล้วก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงสถานการณ์ปัจจุบัน

โครม โครม โครม!

ใต้ท้องทะเลถูกทำลายล้างไปเรื่อยๆ แต่ว่า เสียงในทะเลเพิ่งจะสะท้อนดังไปไม่ได้เท่าไร เสียงที่เหลือที่ถูกพลังห่อหุ้มเอาไว้พวกนั้นก็พุ่งสะท้อนขึ้นไปเหนือผิวแล้ว

ใต้ท้องทะเล การปะทะอันดุเดือดที่เห็นได้ชัดด้วยตา บนผิวนํ้า กลับสัมผัสความดุเดือดของการสู้รบได้เพียงแค่การฟัง

ทันใดนั้น เงาร่างสองสายที่โรมรันพันตูก็ผละจากกันอย่างรวดเร็ว

ฟู่คังโผล่มาอยู่ด้านหน้าทาลิซ่า

มุมปากของเขามีคราบเลือดปรากฏ ดวงตาแข็งกร้าวเยือกเย็นจ้องมองเจี๋ยซั่งแน่วแน่ เจี๋ยซั่งเองก็ได้รับบาดเจ็บอยู่บ้าง ดวงตาคู่นั้นก็จดจ้องฟู่คังเขม็ง เปลวเพลิง โหมกระพือในสายตา

“รับความตายซะเถอะ!” ดวงตาของเจี๋ยซั่งถลึงตากลมโตขึ้นทันใด รวบรวมกำลังทั้งหมดตวัดอาวุธพุ่งเข้าใส่ฟู่คัง

พลังที่แก่กล้าเปล่งออกมาจากอาวุธของเจี๋ยซั่ง พุ่งตรงเข้าใส่บริเวณหน้าอกของฟู่คัง

กระบวนท่านี้รุนแรงและรวดเร็วมาก ราวกับเกินขอบเขตที่ฟู่คังจะรับได้

แววตาจองเขาฉายแววลนลานจิตใต้สำนึกบอกให้เขาหลบไปด้านหนึ่ง ต้องการที่จะหลบหนี

แต่ว่าพอเขาหลบ ก็เผยให้เห็นทาลิซ่าที่อยู่ด้านหลังไม่ไกลออกไป

การโจมตีที่ถูกฟู่คังนั้นหลบไม่ได้หายไปไหน แต่ว่าตรงเข้าใส่ทาลิซ่า

ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้เกินความคาดหมายของทาลิซ่าไปมาก

นางตะลึงอยู่กับที่ ถลึงตาโต

เจี๋ยซั่งเองก็ตกใจ เขาแผดเสียงร้องตะโกนขึ้นว่า “ทาลิซ่า รีบหลบเร็วเข้า!”

เสียงของเขาทำให้ฟู่คังได้สติว่าตนเองทำอะไรลงไป และก็ทำให้ทาลิซ่าตื่นจากภวังค์จิตใต้สำนึกเชื่อฟังเสียงของเจี๋ยซั่ง กระโจนหลบไปด้านข้างหลบการโจมตี

นางกระโจนอย่างสุดแรง ถูกนํ้าทะเลต้านปะทะจนสภาพอเนจอนาถอย่างยิ่ง

แต่ว่านางหลบพ้นไปแล้ว มู่ชิงเกอและไป๋สี่ที่ซ่อนตัวอยู่หลังโขดหินกลับเป็นเป้าหมายการโจมตีเป็นรายต่อไป!

โขดหินไม่สามารถหลบหนีได้อย่างไรเสียก็ถูกระเบิดเป็น

แน่

เรี่ยวแรงการโจมตีดุดันเฉียบขาด แม้แต่มู่ชิงเกอและไป๋สี่ที่อยู่ที่อยู่ตรงโขดหินก็สัมผัสได้อย่างชัดเจน

ก่อนการจู่โจมจะมาถึง มู่ชิงเกอก็จับเข้าที่ข้อมือไป๋สี่ ร้องบอกเสียงเบาว่า “ไป!”

ทั้งสองคนโผล่จากช่องว่างโขดหินอย่างรวดเร็ว

พอหลบมาได้ การโจมตีก็ถึงไปพอดี ตกใส่บนโขดหินนั้น ทำเอาโขดหินนั้นระเบิดเป็นผุยผง!

ยังดีที่ฟองอากาศของไป๋สี่นั้นแกร่งพอ ห่อคลุมร่างพวกนางทั้งสองลอยออกมา ราวกับลูกหนังถูกพลังที่เหลือผลักออกไปไกลระยะหนึ่ง

“เป็นผู้ใดกัน!’’

“ใครน่ะ?”

เจี๋ยซํ่งและฟู่คังต่างก็สังเกตเห็นลูกหนังใสๆ นั้น เร่งตามติดพวกนางไปทันที

ปีศาจทะเลทั้งหมดชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงมีปฏิกิริยาตอบกลับรีบเร่งตามไปติดๆ

ทาลิซ่าที่ถูกแรงกระแทกยังอยู่ในอาการตะลึงงันทำอะไรไม่ถูก ลุกขึ้นยืนอย่างเงอะๆ งะๆ ก็เห็นฟองอากาศที่ตกลงข้างกายเข้าพอดี

ส่วนด้านหลังเป็นเจี๋ยซั่งกับฟู่คังที่พุ่งเข้ามาอย่างดุร้าย

นางพลันโมโห ลุกขึ้นตะโกน “พวกเจ้าคิดฆ่าข้า!”

เสียงของทาลิซ่ายับยั้งฝีเท้าของเจี๋ยซั่งและฟู่คัง พวกเขาหยุดเท้าทันควัน เหล่าปีศาจทะเลที่ตามมาติดๆ หยุดชะงักไปตามๆ กัน

“ไม่นะ ทาลิซ่าเจ้าฟังข้าก่อน!” เจี๋ยซั่งอธิบายด้วยความว้าวุ่น

“ทาลิซ่าเจ้าหลบไป!” ฟู่คังเสียงดังใส่ทาลิซ่า

แต่ว่าเมื่อทาลิซ่าได้ยินวาจานี้แล้วกลับรู้สึกว่าฟู่คังกำลังตะคอกใส่นาง

บุรุษที่รักใคร่ทะนุถนอมนางทั้งสองคน คิดไม่ถึงว่ามาบัดนี้จะร่วมมือกันไม่เพียงตะคอกใส่นาง ยังจะฆ่านางอีกด้วย!

“คิดไม่ถึงว่าพวกเจ้ากล้าทำกับข้าเช่นนี้!” ทาลิซ่าเอ่ยด้วยความโกรธ นางตะโกนไพ่ตายที่ร้ายกาจที่สุดออกไป “พวกเจ้าตายใจไปได้เลย! ไม่ว่าอย่างไรข้าก็ไม่แต่งให้พวกเจ้าเด็ดขาด!”

หลังจากตะโกนคำพูดนี้ออกไป ทาลิซ่าถึงได้สังเกตเห็นสองคนที่ยืนอยู่ด้านข้าง

นางละเลยกลุ่มฟองใส ดวงตาว้าวุ่นกวาดตามองไปจนหยุดสายตาที่มู่ชิงเกอ ตะโกนใส่ฟู่คังกับเจี๋ยซั่งว่า “ข้าจะแต่งให้เขา! ข้ายินยอมแต่งให้บุรุษสุดอัปลักษณ์แต่จะไม่แต่งให้พวกบ้าอย่างพวกเจ้า!”

เพ้ย!

มู่ชิงเกอตะลึงอ้าปากค้าง

นางเพิ่งถูกระเบิดออกมา ยังไม่ทันได้มีปฏิกิริยาใดๆ ก็ถูกคนบังคับแต่งงานเสียแล้ว?

“บุรุษสุดอัปลักษณ์?” ไป๋สี่มองมู่ชิงเกอด้วยสายตาประหลาด กวาดตามองขึ้นลงอย่างพิจารณา

“สตรีขี้เหร่ มองอันใดกัน! บุรุษของข้าเจ้ามองได้หรือ?” การกระทำของไป๋สี่อยู่ในสายตาของทาลิซ่า สบโอกาสต่อว่าทันที

รอยยิ้มยั่วยุบนใบหน้าไป๋สี่ชะงักค้าง ดวงตาประกายระยิบระยับคู่นั้นกลายเป็นลูกตาสีม่วงทองมองไปทางทาลิซ่า

คนอัปลักษณ์ผู้นี้กล้าบอกว่านางอัปลักษณ์?!

“ทาลิซ่า เจ้าเสียสติไปแล้ว!”

“ทาลิซ่า เจ้าอย่าได้ใจร้อน!”

ฟู่คังและเจี๋ยซั่งเอ่ยขึ้นพร้อมกัน

“ข้าตัดสินใจแล้ว! ข้าจะแต่งให้เขา! หากพวกเจ้าสามารถสังหารเขา! ฆ่าเขาแล้วข้าก็ไปหาบุรุษผู้อื่นต่อ พวกเจ้าจะตามสังหารได้เท่าไรกัน?” ทาลิซ่าโมโหจน ขาดสติ

ทั้งหมดนี้ต้องโทษลูกหลงของบุรุษสองคนที่แผดเผาตัวนาง

การพลั้งมือของเจี๋ยซั่งเมื่อครู่ การหลบหลีกของฟู่คัง ทำเอานางตกอยู่ในสภาพน่าขายหน้าและกระอักกระอ่วน นี่ก็เพียงพอที่จะทำให้ในใจนางมอบโทษตายให้แก่พวกเขาสองคนแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นนางเองก็ไม่ได้ชอบพวกเขาทั้งสอง!

“ได้! ในเมื่อเจ้าจะแต่งให้เขา ข้าก็จะฆ่าเขาทิ้ง!” แววตาแข็งกร้าวของฟู่คังมองมาที่มู่ชิงเกอ

ราวกับว่าพวกเขาไม่สนใจชีวิตผู้อื่น ถึงแม้จะรู้ว่าทาลิซ่าเอ่ยออกมาด้วยความโมโหไม่ได้พูดจริงก็ตาม พวกเขาก็ยังยินดีที่จะฆ่าคนเพราะเหตุนี้

เพียงเพราะต้องการแสดงให้เห็นว่าทาลิซ่ามีตำแหน่งในใจพวกเขาเกินความคาดคะเน

เพ้ย! เกี่ยวอะไรกับข้ากันละเนี่ย!

มู่ชิงเกอเห็นฟู่คังพุ่งใส่ตัวเอง ก็ตะโกนอยู่ในใจด้วยความบริสุทธิ์

นางเพียงแค่เป็นผู้ชมความสนุก เหตุใดอยู่ดีๆ ถึงได้ถูกโยงเข้ามาในวังวนความรักความแค้นอันซับซ้อนนี้ด้วย? อีกอย่างโฉมงามอันดับหนึ่งของปีศาจทะเลผู้นี้คิดจะแต่งกับนาง เคยถามนางไหนว่านางอยากจะขอแต่งไหม?

การโจมตีใกล้เข้ามาเรื่อยๆ มู่ชิงเกอเอ่ยถามอย่างร้อนรนว่า “ข้าโจมตีในทะเล มีผลกระทบอะไรหรือไม่”

ไป๋สี่กระตุกมุมปาก แววตาสุขุมเยือกเย็น “มอบให้เป็นหน้าที่ข้าเถอะ ที่นี่เจ้าไม่ใช่เจ้าถิ่น”

พูดจบสองขาของไป๋สี่ก็เปล่งแสงสีขาว ปรากฏให้เห็นหางอสรพิษนางกระโดดออกจากฟองอากาศสะบัดหางอสรพิษออกไปอย่างรุนแรง บดขยี้การโจมตีของฟู่คังจนทำให้เขาต้องล่าถอยไป

“สัตว์อสูร!”

การเปลี่ยนแปลงของไป๋สี่ ทำให้คนของเผ่าปีศาจทะเลตกอยู่ในความเงียบ

แม้กระทั่งทาลิซ่าก็หยุดตะโกน

นางมองดูไป๋สี่สลับกับมองมู่ชิงเกอด้วยความตื่นตระหนก เอ่ยขึ้นด้วยความตะลึง “มนุษย์!”

“เป็นมนุษย์!”

“คิดไม่ถึงว่าจะเป็นมนุษย์!”

“เจ้ามนุษย์สมควรตาย คิดไม่ถึงว่าจะบุกเข้ามาในพื้นที่ของข้า!”

“ฆ่าเขา! ฆ่าพวกเขา!”

ปีศาจทะเลบริเวณรอบๆ พากันส่งเสียง ทำเอามู่ชิงเกอตาเขม็งมองหน้าไป๋สี่ เอ่ยขึ้นว่า “เอานางไปด้วย พวกเราไป”

ไป๋สี่พยักหน้ากลายร่างเป็นอสรพิษยักษ์สีขาว หางอสรพิษสะบัดนํ้าทะเลขัดขวางการเข้าใกล้ของเหล่าปีศาจทะเล เกี่ยวรัดทาลิซ่าที่อยู่ในอาการตื่นตระหนก ยังมีมู่ชิงเกอที่ช่วยป้องกันอยู่ไกลๆ พวกเขามุ่งไปทางเรือยักษ์อย่างรวดเร็ว

หลังจากนํ้าทะเลสงบนิ่ง ใต้ท้องทะเลไหนเลยจะยังมีเงาร่างของมู่ชิงเกอ ไป๋สี่และทาลิซ่าอยู่อีก?

“พวกเขาจับตัวทาลิซ่าไปแล้ว!” เจี๋ยซั่งเอ่ยด้วยความตกใจ

ฟู่คังเผยแววตาโหดเหี้ยมอำมหิต ยกอาวุธขึ้นสูงพลาง เอ่ยว่า “ตามไป! ต้องช่วยเทพธิดาทาลิซ่าของพวกเรากลับมาให้ได้!”

“ไป! ตามข้าไล่ตามไป ช่วยนายหญิงของพวกเจ้ากลับมา!” เจี๋ยซั่งเองก็ตะโกนบอกกับไพร่พลของตน

กำลังทหารปีศาจทะเลสองสายรวมเป็นหนึ่ง ไล่ตามทางที่พวกมู่ชิงเกอหลบหนีไปด้วยกัน

บนผิวนํ้า จู่ๆ คลื่นลมก็สงบ

ราวกับว่าการต่อสู้ได้ท้องทะเลในที่สุดก็ยุติลงแล้ว มั่วหยางถอนหายใจอย่างโล่งอก แต่คิ้วที่เพิ่งคลายตัวลงก็ขมวดยุ่งเข้าหากัน ในเมื่อการต่อสู้จบลงแล้ว เหตุใด พวกมู่ชิงเกอยังไม่กลับกันมาอีก?

ในตอนที่เขากำลังคิดอยู่นั้น นํ้าทะเลตรงด้านนอกกาบเรือฝั่งขวาก็สาดกระเซ็นขึ้นมา อสรพิษยักษ์สีขาวโผล่พรวดขึ้นมาจากทะเลมุ่งมายังเรือลำใหญ่ มั่วหยางแววตานิ่งขึง เตรียมพร้อมลงมือ

“นั้นคือไป๋สี่” หยินเฉินที่อยู่บนเสากระโดงเรือโพล่งขึ้นทันเวลา

ไป๋สี่?

มั่วหยางเพิ่งจะเก็บพลังยุทธ์กลับคืนมา ก็มองเห็นเงาร่างของมู่ชิงเกอ

เวลานี้ได้ยินเสียงองครักษ์เขี้ยวมังกร ยังมีโย่วเหอและฮวาเยวิ่ยต่างพากันวิ่งออกมายืนอยู่บนดาดฟ้า

เงาร่างหนึ่งร่วงลงมาจากบนอากาศ ล้มลงบนดาดฟ้าอย่างแรง

ไป๋สี่กลายร่างจำแลงกลับคืนมาอยู่ในสภาพสาวงามทรงเสน่ห์เย้ายวน ค่อยๆ โรยตัวลงมาพร้อมมู่ชิงเกอ

“คุณชาย!”

“คุณชาย!”

พอมู่ชิงเกอกลับมา เหล่าองครักษ์เขี้ยวมังกรก็พากันตื่นเต้นยินดีขึ้น

มู่ชิงเกอผงกหัวให้เล็กน้อย มองดูทาลิซ่าที่อยู่บนดาดฟ้า เอ่ยกำชับกับทุกคนว่า “จับตาดูนางไว้ให้ดี”

เวลานี้เอง ทุกคนถึงได้สังเกตเห็น ‘ของเล่น’ ที่หมอบอยู่บนพื้น

ภายใต้การพินิจอย่างละเอียด ทุกคนต่างก็ค่อยๆ สูดลมหายใจหนาวยะเยือกเข้าปอด องครักษ์เขี้ยวมังกรที่ผ่านสมรภูมิศึกสงครามมาอย่างโชกโชนต่างก็ราวกับเจอสิ่งน่าตกใจสุดขีด ผงะถอยหลังคนละก้าว

แม่คุณ! นี่คนหรือผี?

ผิวกายสีเขียวดูน่ากลัว แม้ว่าจะมีร่างกายเป็นคน แต่กลับมีใบหน้าอย่างคางคก!

“คุณชาย นางเป็น…” มั่วหยางขมวดคิ้วถาม

“ปีศาจทะเล” มู่ชิงเกอเอ่ยนิ่งๆ

ปีศาจทะเล?

ดวงตาทุกคนเขม็งเกร็ง ในดวงตามีแววประหลาดใจอยู่หลายส่วน

“อีกทั้งยังเป็นโฉมงามอันดับหนึ่งของปีศาจทะเลด้วย” ไป๋สี่ที่มีความสุขบนความหายนะของผู้อื่นเอ่ยเสริมขึ้นหนึ่งประโยคอยู่ข้างๆ

โห! เรื่องบ้าอะไรนี่!

เหล่าองครักษ์เขี้ยวมังกร อีกทั้งมั่วหยาง โย่วเหอ ฮวาเยวี่ย หยินเฉินไม่ตกหล่นแม้แต่คนเดียวต่างก็ได้รับความตกใจสุดขีด

เวลาเดียวกันนั้น มีความคิดหนึ่งผุดอยู่ในใจของพวกเขา

‘โฉมงามอันดับหนึ่งของปีศาจทะเล หน้าตาไม่กล้าเอ่ยชมเพียงนี้ คนอื่นจะหน้าตาเช่นไรกัน! ถึงได้มอบคำยกย่องว่าโฉมงามอันดับหนึ่งให้แก่นาง?’

“เอาเถอะรีบดูนางไว้ให้ดี จากนี้จะมีสงครามที่หนักหนาให้จัดการอยู่อีก” มู่ชิงเกอพูดจบก็เดินตรงไปยังหางเสือเรือ นางจะขับเรือฝ่าเขตแดนที่ปีศาจทะเลควบคุมดูแลอยู่

จะสู้รบ!

ถึงแม้พวกเขาไม่รู้ว่ามู่ชิงเกอกับไป๋สี่ประสบกับสิ่งใดใต้ท้องทะเล แล้วโฉมงามอันดับหนึ่งของปีศาจทะเลกลายมาเป็นเชลยของคุณชายพวกเขาได้อย่างไร แต่ก็ไม่สามารถขัดขวางความฮึกเหิมเมื่อได้ยินว่าจะสู้รบไว้ได้ ล่องลอยอยู่บนทะเลแห่งทุกข์มาประมาณครึ่งปี พวกเขาเบื่อจะแย่อยู่แล้ว!

ในที่สุดก็มีการสู้รบ พวกเขาแทบอดใจรอไม่ไหวมากกว่าใครๆ

“เจ้าพวกมนุษย์แสนอัปลักษณ์รีบปล่อยข้าเดี๋ยวนี้! มิฉะนั้นแล้วพวกเจ้าคงได้ฝังร่างไว้ที่ทะเลแห่งนี้แน่นอน!” ทาลิซ่าที่ฟื้นขึ้นมาอย่างเงอะๆ งะๆ ในที่สุดก็ได้รับรู้ความจริงว่าตนเองถูกจับมาเป็นเชลย

นางไม่คิดว่าเขตทะเลที่เป็นของปีศาจทะเลจะมีมนุษย์ปรากฏกาย

อีกอย่างไม่ใช่แค่เพียงคนหรือสองคน แต่ว่ายังมีมากมายถึงเพียงนี้!

ยิ่งคิดไม่ถึงว่าพวกมนุษย์เหล่านี้จะหน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่เพียงนั้น!

ในเผ่าปีศาจทะเลของพวกเขา ปีศาจทะเลที่สุดแสนอัปลักษณ์ยังน่ามองกว่ามนุษย์ตรงหน้าเป็นไหนๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่สวมอาภรณ์สีแดง!

ทาลิซ่ามองหน้ามู่ชิงเกอ ขมวดคิ้วด้วยความรังเกียจ เจ้าหนุ่มสุดอัปลักษณ์นี่เป็นผู้นำของพวกมนุษย์เหล่านี้หรือ?

อัปลักษณ์?

พวกเขาอัปลักษณ์?

ใครอัปลักษณ์กันแน่!

สายตาแยกแยะความงามของผู้คนค่อยๆ พังทลาย

มู่ชิงเกอเอ่ยเสียงเย็นชาว่า “เอาตัวนางออกไปก่อน”

พอนางพูดจบ มือข้างหนึ่งก็ยื่นไปบนจานกลมที่ซือมั่วมอบให้ เรือลำใหญ่ที่จอดแช่ไว้ก็เริ่มทำงานขึ้นมาใหม่ อีกทั้งขับเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยความรวดเร็ว

“ชิงเกอ เจ้าคิดจะทำเช่นไร?” ไป๋สี่เดินมาหยุดอยู่ข้างๆ มู่ชิงเกอ เอ่ยถามขึ้น

มู่ชิงเกอสีหน้าท่าทีสงบเงียบ สำหรับคำถามของไป๋สี่นั้น เอ่ยขึ้นนิ่งๆ ว่า “ทำเช่นไร? เจ้าพูดอยู่ก่อนหน้านี้มิใช่หรือ?”

ไป๋สี่มึนงง นางเคยพูดสิ่งใด?

ไป๋สี่ทบทวนความคิดดูอย่างถี่ถ้วน ทันใดนั้นดวงตาก็สว่างขึ้นมาในทันใด!

คล้ายกับว่านางจะเคยบอกว่าให้มู่ชิงเกอมัด ‘โฉมงามอันดับหนึ่ง’ ผู้นี้ จากนั้นใช้เป็นข้อต่อรองให้ปีศาจทะเลปล่อยพวกนางไป!

ไป๋สี่ตากระตุกในทันใด มองมู่ชิงเกอพลางเอ่ยถามขึ้นว่า “แต่มิใช่เจ้าที่บอกว่าทำเช่นนี้จะ…”

มู่ชิงเกอพยักหน้า “ข้าเคยพูดว่าทำเช่นนี้จะนำมาซึ่งการไล่ตามสังหารของปีศาจทะเล แต่ว่าในสถานการณ์เช่นนี้ ไม่มีทางเลือกให้พวกเราแล้ว”

ก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่ในทะเล นางยังไม่คิดจะทำเช่นนี้ แต่ทว่าตอนที่ปีศาจทะเลพวกนั้นพบว่านางเป็นมนุษย์ก็ เผยแววตาชั่วร้าย หนำซํ้ายังมีท่าทีเคียดแค้นเหมือนจะกินคน ทำให้นางรู้สึกว่าการใช้มาตรการละมุนละม่อม คงไม่เกิดผลใดๆ

เช่นนั้น ทำได้เพียงใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดแล้ว!

ดังนั้นนางจึงตัดสินใจเด็ดขาดอย่างเฉียบพลัน ไม่วุ่นวายอะไรกับเหล่าปีศาจทะเลให้มากความ สั่งการให้ไป๋สี่จับตัวทาลิซ่า แล้วก็จากมา!

“เช่นนี้แล้ว ก็เป็นไปได้ว่าพวกเราต้องเผชิญหน้ากับ ปีศาจทะเลทั้งหมดในทะเลแห่งทุกข์!” ไป๋สี่เอ่ยด้วยความตื่นตระหนก

มู่ชิงเกอยกยิ้มหัวเราะเบาๆ หันมามองหน้านาง “เจ้ากลัวหรือ?”

ไป๋สี่นิ่งไป ดวงตาสีม่วงอมทองแปรเปลี่ยนเป็นสวยสดใสขึ้นมา นางยิ้มยั่วยวน “กลัว? ข้าที่เวียนว่ายไปทั่วพิภพ และสวรรค์ในช่วงเวลาอันยาวนานผู้นี้ยังไม่เคยกลัวอะไรเลยจริงๆ”

“เช่นนั้นก็แล้วไป!” มู่ชิงเกอพยักหน้าลงเล็กน้อยแทบไม่สังเกต

เรือลำใหญ่ฝ่าคลื่นลม ทะยานบนผิวนํ้าของทะเลแห่งทุกข์

ทันใดนั้น หยินเฉินที่ยืนอยู่บนเสากระโดงเรือก็หรี่ตาลงเล็กน้อย ตะโกนบอกมู่ชิงเกอว่า “ชิงเกอ ฝั่งนั้นมีคนจำนวนมากไล่ตามมาแล้ว!”

มู่ชิงเกอและไป๋สี่มองไปข้างหลัง เห็นคลื่นกระเซ็นบนผิวนํ้าจำนวนมากตามที่คาด จากนั้นฟู่คังและเจี๋ยซั่งก็พาปีศาจทะเลโผล่ขึ้นมาบนผิวนํ้า มุ่งมาทางเรือลำใหญ่ ใต้เท้าของพวกเขาเหยียบบนปลาขนาดใหญ่ ดูแล้วเหมือนกับสัตว์อสูรจำพวกปลาที่อยู่ในส่วนลึกของทะเลแห่งทุกข์

ในที่สุดก็ตามมาจนได้!

มู่ชิงเกอแววตาจริงจัง ละลายตากลับมา นางส่งพลังยุทธ์โถมเข้าใส่แผ่นทรงกลม เพิ่มความเร็วของเรือลำใหญ่

ก่อนหน้านี้นางตั้งใจให้ไป๋สี่ว่ายวนใต้ท้องทะเลรอบหนึ่ง นำพวกฟู่คังและเจี๋ยซั่งไปทะเลด้านหลังเรือลำใหญ่ ยื้อเวลาได้นิดหน่อย

ดังนั้นพวกฟู่คังและเจี๋ยซั่งจึงได้โผล่มาจากทะเลด้านหลังเรือลำใหญ่ เวลาเดียวกันนี้ทาลิซ่าก็ถูกเหล่าองครักษ์เขี้ยวมังกรคุมตัวไปที่ห้องพักด้วยสายตารังเกียจ ภาพนี้ถูกเจี๋ยซั่งเห็นเข้าพอดี เขาเอ่ยกับฟู่คังที่อยู่ข้างๆ ว่า “ดูนั้นเร็วเข้า! ทาลิซ่าอยู่บนเรือลำนั้น!”

ฟู่คังหรี่ตาลง ในแววตาฉายความโหดเหี้ยมอำมหิต เขาสะบัดมือเป็นสัญญาณให้กับลูกสมุนปีศาจทะเลของตนเอง คำราม “บุกเข้าไป! สังหารพวกมนุษย์เหล่านั้น ช่วยทาลิซ่ากลับมาให้ได้!”

“ฆ่า!”

“ฆ่า!”

“ฆ่ามัน ฆ่ามัน!”

เสียงโห่ร้องของเหล่าปีศาจทะเล สั่นสะเทือนจนบริเวณท้ายเรือลำใหญ่สั่นไหว

บรรดาองครักษ์เขี้ยวมังกรยืนอยู่บนดาดฟ้าส่วนท้ายเรือ ต่างพากันกระชับอาวุธของตนเองไว้แน่น มองดูปีศาจทะเลหน้าตาน่าเกลียดน่ากลัวเหล่านั้น

“โจมตี!”

“พลธนูขึ้นหน้าไป!”

เจี๋ยซั่งและฟู่คังเอ่ยขึ้นพร้อมกัน

ท่ามกลางปีศาจทะเล ทันใดนั้นก็ปรากฏคนกลุ่มหนึ่งยืนขึ้นมือง้างธนูในมือยิงใส่เรือลำใหญ่

ลูกธนูของพวกเขาราวกับถูกคลุมด้วยพลังยุทธ์กำลังส่งรุนแรงอีกทั้งยังมีคุณสมบัติทำลายที่แม่นยำ ตกลงบนเรือพายขนาดเล็กด้านท้ายเรือจนเกิดเพลิงไหม้อย่างรวด เร็ว

มั่วหยางจัดองครักษ์เขี้ยวมังกรดับไฟทันที ขณะเดียวกันก็คว้าคันธนูโจมตีกลับ

“กระจายตัว ล้อมพวกเขาไว้!”

ปีศาจทะเลที่เป็นมือธนูที่อยู่ข้างกายเจี๋ยซั่งผู้หนึ่งพอถูก ยิงจนตกตายไป เขาก็ออกคำสั่งทันที

เมื่อเขาพูดจบ ปีศาจทะเลก็กระจายตัวในทันใด มุ่งไปล้อมสองข้างของเรือลำใหญ่ โจมตีระยะไกลใส่เรือลำใหญ่เป็นระยะ

เวลานี้ปรากฏแสงบนเรือลำใหญ่ แสงสีฟ้าอ่อนชั้นหนึ่ง ปกคลุมด้านนอกเรือลำใหญ่ สะท้อนปัดการโจมตีเหล่านั้นออกไป

มั่วหยางอยู่ในอาการตะลึง มองไปยังมู่ชิงเกอ

มู่ชิงเกอเม้มริมฝีปากเบาๆ เอ่ยขึ้นนิ่งๆ ว่า “น่าจะเป็นการโจมตีของปีศาจทะเลทำปฏิกิริยากับการป้องกันภัยบนเรือ”

การป้องกันภัยบนเรือแน่นอนว่าต้องมาจากแผ่นทรงกลมที่ซือมั่วให้มา

ไป๋สี่ดูอยู่ครู่หนึ่งก็เอ่ยกับมู่ชิงเกอว่า “จากแรงโจมตีของพวกเขาแล้วน่าจะไม่สามารถทะลุการป้องกันนี้ได้”

มู่ชิงเกอพยักหน้ารับ

นางเดินไปท้ายเรือ มองเห็นฟู่คังและเจี๋ยซั่งที่ควบคุมการโจมตี

ส่วนฟู่คังกับเจี๋ยซั่งเองก็มองเห็นมู่ชิงเกอ จำได้ว่าเป็นมนุษย์ที่ชิงตัวทาลิซ่าไป

พวกเขาพุ่งเข้ามาทางมู่ชิงเกอทันที

เดิมทีพลังยุทธ์ของพวกเขาก็อยู่ระดับชั้นสีม่วงขั้นสูง อุปนิสัยก็ดุร้าย

ออกแรงหมุนตัวกระโดดจากสัตว์อสูร คิดจะใช้พละกำลังเรี่ยวแรงมหาศาลทำลายแสงป้องกันภัยที่ปกคลุมอยู่ ช่วยคนบนเรือ แน่นอนว่าสังหารเจ้ามนุษย์มู่ชิงเกอก็เป็นหนึ่งในเป้าหมายของพวกเขา

จากนั้นเมื่อเขาพุ่งเข้ามาอยู่เบื้องหน้าแสงปกคลุมคุ้มกันภัย กลับถูกแสงปกคลุมคุ้มกันภัยดีดกลับตกไปในทะเลแห่งทุกข์

ภาพฉากนี้ทำเอามุมปากมู่ชิงเกอยกยิ้มด้วยความขบขัน

ฟู่คังและเจี๋ยซั่งโผล่ขึ้นมาจากทะเลอย่างอเนจอนาถ ท่าทางที่มองมู่ชิงเกอโหดเหี้ยมยิ่งขึ้น

“เจ้ามนุษย์! ปล่อยทาลิซ่าซะ แล้วข้าจะให้เจ้าได้ตายสบายๆ!” เจี๋ยซั่งตะโกนบอกแก่มู่ชิงเกอ

ฟู่คังก็เอ่ยขึ้นอย่างไม่น้อยหน้า “เจ้าพวกมนุษย์หากทาลิซ่าได้รับบาดเจ็บแม้แต่นิดเดียว ข้ารับประกันว่าเจ้าจะทำได้เพียงฝังร่างไว้ใต้ท้องทะเลเป็นอาหารปลา!”

การโจมตีของเหล่าปีศาจทะเลทำอะไรเรือลำใหญ่ไม่ได้เลยแม้สักนิด

ในห้องพักยังแว่วเสียงทาลิซ่าส่งเสียงร้องให้ช่วยชีวิต

เสียงลอยไปในทะเล เข้าหูฟู่คังและเจี๋ยซั่งทำให้พวกเขามีสีหน้าท่าทีเปลี่ยนไป

“เจ้ามนุษย์! ทาลิซ่าเป็นบุตรสาวของหัวหน้าเผ่า เจ้ากล้าลงมืออะไรกับนาง พวกเราเผ่าปีศาจทะเลจะไม่ปล่อยเจ้าไปแน่!” เจี๋ยซั่งเอ่ยตะโกนอย่างร้อนรน

กลับถูกฟู่คังด่าว่า “โง่เง่า ให้พวกเขารู้ฐานะของทาลิซ่าก็ยิ่งอันตราย! พวกมนุษย์เป็นพวกเจ้าเล่ห์น่าตาย!”

“เอ? ทาลิซ่าเป็นบุตรีหัวหน้าเผ่า? เช่นนั้นก็ดีเลย” ทันใดนั้นเสียงขบขันของมู่ชิงเกอก็แว่วมาจากบนเรือ

ฟู่คังและเจี๋ยซั่งชะงักการวิวาท มองหน้าเขา

และคำพูดของเขา ก็ทำเอาสีหน้าของเจี๋ยซั่งเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีเทา

ราวกับว่าเขาเองก็เพิ่งจะรู้ว่าคำพูดของเขาจะนำมาซึ่งสิ่งใดแก่ทาลิซ่า

“ฟู่คัง เจี๋ยซั่ง นำความหนึ่งประโยคไปส่งให้กับหัวหน้าเผ่าของเจ้า” มู่ชิงเกอตะโกนเสียงดังเอ่ยกับฟู่คังและเจี๋ยซั่งสองคนนี้ “หากไม่อยากให้ทาลิซ่าได้รับบาดเจ็บก็จงแจ้งบอกการเฝ้าระวังทั้งหมดที่มีเสีย ให้เรือของข้าผ่านเขตแดนทะเลที่ปีศาจทะเลดูแลอยู่ไปอย่างปลอดภัย หลังจากข้าจากไปแล้ว ก็จะคืนทาลิซ่าที่ไม่บุบสลายให้พวกเจ้า มิเช่นนั้นก็รอรับศพของโฉมงามอันดับหนึ่งของพวกเจ้าได้เลย”

ฟู่คังและเจี๋ยซั่งถลึงตาด้วยความโกรธ ไม่พอใจอย่างยิ่ง มู่ชิงเกอเอ่ยเสริมอย่างชั่วร้ายว่า “อ่อ ใช่แล้ว เกือบลืมบอกพวกเจ้า ลูกน้องของข้าเป็นชายฉกรรจ์วัยหนุ่ม ล่องเรืออยู่บนทะเลเนิ่นนานเพียงนี้พวกเจ้าน่าจะรู้ว่าตอนนี้พวกเขาคิดอยากทำอะไรที่สุดใช่ไหม? ไม่อยากให้ทาลิซ่าได้รับบาดเจ็บ ก็รีบไปทำตามที่ข้าบอก!”

คำพูดนี้เป็นการข่มขู่สุดๆ

ฟู่คังและเจี๋ยซั่งหยุดการไล่จู่โจมลงทันที ไม่กล้าเคลื่อนไหว

ส่วนมั่วหยาง ยังมีบรรดาองครักษ์เขี้ยวมังกรคนอื่นๆ หลังจากได้ยินมู่ชิงเกอพูดเช่นนี้ก็แอบอาเจียนอยู่ในใจ ในใจรู้สึกได้รับความไม่ยุติธรรมสุดแสน

‘คุณชายของข้า ท่านต้องการข่มขวัญศัตรูก็ไม่เห็นจำเป็นต้องว่าร้ายพวกข้าเช่นนี้! แค่โฉมหน้าของสาวงามผู้นั้น พวกเขาก็กลืนไม่ลงแล้วจริงๆ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!