Skip to content

พลิกปฐพี 213

ตอนที่ 213

ปล่อยผู้หญิงของพวกเรานะ!

ภายในความมืด น้ำทะเลของทะเลแห่งความทุกข์สาดซัดไปมาจนเผยให้เห็นโขดหินบนผิวนํ้า

บนเกาะที่ดูโดดเดี่ยวเหนือนํ้าทะเล มีเชือกห้อยลงมา เงาร่างคนเป็นสายๆ ไหลลงมากับเชือก บนบ่าของพวก เขาล้วนแต่แบกกระสอบยาวใบหนึ่งเอาไว้ ด้านในไม่รู้ว่าใส่ของอะไร

พอมาถึงบนผิวทะเล ก็มีคนคอยรับ

เป็นเรือน้อยลำเล็กๆ ที่จัดทำขึ้นอย่างพิเศษ ทอดเสมอรออยู่อย่างเงียบเชียบ

คนบนเรือลำเล็ก รับกระสอบเหล่านั้น วางลงอย่างระมัดระวังไว้บนเรือ ส่วนคนที่มาส่ง ‘ของหนัก’ ก็ปีนกลับขึ้นไปบนเกาะอีกครั้ง ไม่นาน ก็แบกกระสอบอีกใบลงมา

ทุกๆ คน หลังจากทำเช่นนี้ไปสี่ห้าครั้งแล้ว เรือลำน้อยก็ถูกกระสอบวางจนเต็ม

พวกเขาถึงได้พายเรือลำน้อย ‘จากไปอย่างเสียดาย’

หายไปท่ามกลางหมอก

ตอนที่แล่นผ่านเหล่ายามที่เฝ้าเกาะนั้น เหล่ายามเผ่าปีศาจทะเลก็ยังคงเอนหลังพิงก้อนหินหลับใหลกรนเสียงดัง

พวกเขาไม่ได้หลับไปเอง ที่มีท่าทางเช่นนี้ เป็นเพราะสูดดมกลิ่นควันของยาสลบเข้าไป

เรือลำเล็กออกจากฝั่งที่พวกเขาเฝ้าระวังไป ไม่ได้ทำให้พวกเขาตกใจตื่นขึ้นมา ภาพฉากเช่นนี้ ถูกแสดง วนไปเช่นเดียวกันบนเกาะทั้งห้า ที่เผ่าปีศาจทะเลอาศัยอยู่ ที่ไม่เหมือนกันก็คือ มีสองเกาะในนั้นที่ไม่ได้ระมัดระวังเช่นนี้ แต่เป็นสายลมม้วนใบไม้ตกกระจาย ก็จัดการเรื่องราวเสร็จแล้ว หายตัวไปจากบนเกาะ

หลังจากพวกเขาจากไปนานแล้ว ฟ้าก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสว่างขึ้น

บนผิวทะเลสีเขียวคลํ้า เรือลำใหญ่จนดูเหมือนกับเกาะๆ หนึ่ง ทอดเสมออยู่อย่างสงบ

อยู่ที่ผืนนํ้าด้านหน้าของมัน เต็มไปด้วยกองทัพของปีศาจทะเล

ทหารปีศาจทะเลแสนกว่าตน จัดตั้งกองกำลังเป็นหมวดหมู่ ดุจดังรูปพัด ล้อมกรอบเรือใหญ่เข้ามาจากด้านต่างๆ

ใต้เท้าของพวกเขาเหยียบอยู่ด้วยสัตว์ทะเลที่มีขนาดใหญ่โต เหล่าสัตว์ทะเลเหล่านี้ไม่รู้ว่าเกิดมาแล้วเชื่อง หรือว่าเผ่าปีศาจทะเลมีวิธีพิเศษจัดการ ถึงได้ทำให้พวกมันดูเชื่อฟังเช่นนี้

ร่างกายที่ดูใหญ่โตของพวกมันลอยนิ่งอยู่บนพื้นทะเล ดุจดังเรือชนิดพิเศษของเผ่าปีศาจทะเล

เพียงแต่ว่าบรรดา ‘เรือ’ เหล่านี้เมื่อเทียบกับเรือใหญ่ลำนั้นแล้ว ก็ดูเรียบง่ายไปหน่อย

ดูเหมือนกับขอทานมายืนอยู่ตรงหน้าของคุณชายตระกูลสูงศักดิ์ขอร้องไม่ให้ผ่านไป

บนหลังของสัตว์ทะเลตัวหนึ่ง มีปีศาจทะเลที่มีกำลังทัดเทียมกันห้าตนนั่งอยู่ หนึ่งตนในนั้น ก็คือบิดาของทาลิซ่า หัวหน้าเผ่าใหญ่ของเผ่าปีศาจทะเล

“พี่ใหญ่ หลานทาลิซ่าถูกมนุษย์เหล่านั้นจับไปนานมากแล้ว คงจะไม่เกิดเรื่องขึ้นใช่ไหม? ตอนนี้หลานสาวของพวกเราคือสาวงามอันดับหนึ่งของเผ่าปีศาจทะเลเชียวนะ!” หัวหน้าเผ่าสองที่อยู่ด้านข้างหัวหน้าเผ่าใหญ่เอ่ยออกมาอย่างเป็นกังวล

ด้านหลังของเขามีฟู่คังยืนอยู่

ถ้าหากจะดูให้ละเอียด ก็จะสามารถพบได้ว่าบนใบหน้าที่อัปลักษณ์ของพวกเขานั้นมีความคล้ายคลึงกัน

ฟู่คังดูเหมือนว่าจะเป็นบุตชายของหัวหน้าเผ่าสอง

คำพูดของหัวหน้าเผ่าสองทำให้สีหน้าของหัวหน้าเผ่าใหญ่ยิ่งเปลี่ยนเป็นไม่น่าดูขึ้นมา

หัวหน้าเผ่าสามก็พูดขึ้นในตอนนี้ว่า “ข้าได้ยินเจี๋ยซั่งพูดว่า มนุษย์นั่นต้องการเพียงแค่ผ่านน่านนํ้านี้ไป ไม่ได้คิดจะทำร้ายหลานทาลิซ่าจริงๆ”

พูดจบเขาก็ยังหันไปมอ เจี๋ยซั่งที่ยืนอยู่ข้างกายแวบหนึ่ง

เจี๋ยซั่งรีบพยักหน้าขานรับ “ใช่แล้ว ท่านพ่อ”

ที่แท้เจี๋ยซั่งก็เป็นบุตรชายของหัวหน้าเผ่าสาม

หัวหน้าเผ่าห้าสบถออกมาอย่างเย็นชาคำหนึ่ง พูดออกมาด้วยนํ้าเสียงที่ดูขุ่นเคืองว่า “ไม่สนอะไรแล้ว แต่ไหนแต่ไรมามนุษย์ก็เป็นศัตรูของพวกเรา! ไม่ว่าหลานทาลิซ่าจะอยู่ในเงื้อมมือของพวกเขาหรือไม่ ล้วนแต่ไม่อาจปล่อยให้พวกเขาจากไปได้ข้าไม่เชื่อว่า เผ่าปีศาจทะเล ของพวกเราที่มีผู้กล้ามากมายขนาดนี้ยังจะฆ่ามนุษย์เพียงไม่กี่คนนี้ไม่ได้?”

“มนุษย์ไม่กี่คนที่เจ้าพูดก็คือยอดฝีมือที่สามารถเอาชนะคุนได้เชียวนะ’’ หัวหน้าเผ่าสี่เอ่ยออกมาอย่างเย็นชา คำพูดนี้ของเขาหลุดออกไป หัวหน้าเผ่าไม่กี่คนนี้ก็ล้วนแต่อดไม่ได้ที่จะหันไปมองคุนที่ยืนอยู่ด้านหลังของหัวหน้าเผ่าใหญ่ คุนยังคงนิ่งเงียบเช่นเคย ราวกับว่าการพูดคุยของพวกเขาไม่ได้เกี่ยวกับเขาเลย

ท่าทางที่ดูเย็นชามั่นใจนั้นเมื่ออยู่ท่ามกลางเหล่าปีศาจทะเลแล้วก็ทำให้เขาดูสูงส่ง ได้รับความชื่นชมจากพวกอื่นๆ การพ่ายแพ้ในครั้งนี้กลับลากดึงคุนลงมา ทำให้ เหล่ารุ่นเยาว์ของพวกปีศาจทะเลที่เวลาปกติไม่พอใจต่อเขาอดไม่ได้ที่จะคิดเยาะเย้ยขึ้นในใจ

ฟู่คังมองคุนแวบหนึ่ง สบถออกมาเสียงเย็น

หัวหน้าเผ่าใหญ่มองคุนสายตาหนึ่ง เอ่ยปากพูดว่า “คุน เจ้าประมือกับมนุษย์ผู้นั้น กำลังของเขาเป็นอย่างไรบ้าง?”

“ลึกลํ้าไม่อาจประมาณได้” ครั้งนี้คุนไม่ได้นิ่งต่อ แต่เอ่ยตามความจริง

“ลึกลํ้าไม่อาจประมาณได้?” หัวหน้าเผ่าห้ายิ้มเยาะ “คุน เจ้ายกยอคู่ต่อสู้ของเจ้าเกินไปหรือเปล่า? หรือเป็นเพราะแพ้แล้วรู้สึกไม่ดีจึงจงใจพูดว่าอีกฝ่ายแข็งแกร่ง มาก?”

คุนมองเขาอย่างเย็นชาหนหนึ่ง ไม่ได้มีความเคารพต่อเขาเพราะว่าเขาเป็นหัวหน้าเผ่าห้าดังเช่นที่องครักษ์ควรมี แต่ทว่า เขาก็เพียงแค่มองแวบเดียวก็ถอนสายตากลับ

“พ่อบุญธรรม” อยู่ดีๆ คุนก็พูดขึ้นมา “ข้ารู้สึกว่าเผ่ามนุษย์นั้นไม่เหมือนว่ากำลังล้อเล่น ถ้าหากว่าพวกเรายังคงเฉยๆ อยู่ที่นี่ เขาอาจจะทำร้ายทาลิซ่าขึ้นมาจริงๆ ก็

ได้”

หัวหน้าเผ่าใหญ่ค่อยๆ ขมวดคิ้วขึ้น เห็นได้ชัดว่า คำพูดของคุนเป็นสิ่งที่เขากำลังกังวลใจ

เมื่อวานคุนพ่ายแพ้กลับมาบอกคำพูดของมู่ชิงเกอ เขาโมโหมาก ถึงได้เรียกรวมเผ่า นำทหารมาล้อมเรือยักษ์ของมนุษย์คิดจะข่มขู่ให้มนุษย์ยอมประนีประนอม ทำให้มนุษย์ที่หยิ่งผยองนั้นหวาดกลัวจนต้องคืนทาลิซ่ามา จากนั้นพวกเขาถึงจะได้ล้างแค้นอย่างสาสม!

แน่นอนว่าสำหรับมนุษย์นั้น เขาแค่เพียงคนเดียวก็ไม่อาจสู้ได้!

แต่คิดไม่ถึงว่าพอเผชิญหน้ากันมาหนึ่งคืน พวกเขาเฝ้าอยู่ที่นี่ เรือยักษ์กลับสงบนิ่งมาก คนบนนั้นดูเหมือนว่าจะไม่ได้สนใจในการกระทำของพวกเขา ไม่มีท่าทีที่ดู กระวนกระวายใจ และก็ไม่ได้เสนอที่จะเจรจา

‘นี่คือเกิดอะไรขึ้น?’ หัวหน้าเผ่าใหญ่คิดไม่ออก ขมวดคิ้วจนยากที่จะคลาย

“คุน เจ้าคิดจะเจรจาประนีประนอมกับมนุษย์เหล่านั้นงั้นหรือ?” ฟู่คังเอ่ยอย่างหยิ่งผยอง

เขามองไปยังแววตาของคุน ดวงตาเต็มไปด้วยความดูแคลน

คุนกลับเหมือนว่าไม่ได้ยินที่เขาพูด ไม่ได้สนใจเลยสักนิด นี่ทำให้สีหน้าของฟู่คังครึ้มลง กำมือแน่น มองคุนด้วยนัยน์ตาที่เต็มไปด้วยความแค้น

เห็นคำพูดของบุตรชาย ถูกคุนเมินใส่ หัวหน้าเผ่าสองก็มองไปยังคุน เอ่ยถามว่า “คุน คำพูดของฟู่คังก็คือสิ่งที่ข้ากำลังคิดจะถามเช่นกัน”

หัวหน้าเผ่าสองเอ่ยปากเอง คุนก็หมดหนทางที่จะเงียบต่อไป ถึงได้เอ่ยว่า “ไม่ใช่”

“เช่นนั้นเจ้าหมายความว่าอย่างไร?” หัวหน้าเผ่าสองขึ้นเสียงเอ่ยขึ้น สีหน้าของฟู่คังก็ฉายแววได้ใจขึ้นมา เขารู้สึกได้ว่าบิดากำลังแก้แค้นให้เขา

“พอแล้ว” หัวหน้าเผ่าใหญ่ออกปาก ขัดขวางการทะเลาะที่ไร้ความหมายนี้

หัวหน้าเผ่าสองถอยกลับอย่างหยิ่งยโส

“ต่อหน้าของเผ่ามนุษย์ยังจะทะเลาะกันเองอีกงั้นหรือ?” หัวหน้าเผ่าใหญ่เอ่ยเสียงเข้มออกมา

“พี่ใหญ่ พวกเราเฝ้าอยู่ที่นี่มาหนึ่งคืนแล้ว หรือว่าจะ ต้องเฝ้ารอเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ อย่างงั้นหรือ?” หัวหน้าเผ่าสี่เอ่ยถามออกมา

ปัญหานี้เป็นสิ่งที่หัวหน้าเผ่าไม่กี่ตนนี้ล้วนแต่สนใจ

ตามที่พวกเขาคิดก็คือนำกองกำลังพุ่งโจมตีเข้าไปที่เรือยักษ์โดยตรงเลย เหตุใดจึงต้องรออยู่ที่นี่ด้วย? อีกอย่างที่ถูกลักพาตัวไปก็ไม่ใช่บุตรสาวของพวกเขา

ทาลิซ่าเป็นสาวงามอันดับหนึ่งของเผ่าปีศาจทะเลไม่ผิด แต่ว่าหน้าที่ของผู้หญิงก็คือคลอดลูก สืบทอดเผ่าพันธุ์ ถึงแม้ว่าทาลิซ่าจะตายไป ผลกระทบที่มีต่อเผ่าของพวกเขาก็มีไม่มาก ผู้หญิงของเผ่าปีศาจทะเลน้อยมากก็จริง แต่ว่าขอแค่ยังมีผู้หญิงอยู่ พวกเขาก็ไม่สมควรที่จะถูกท้าทายเช่นนี้

สิ่งที่พิเศษเพียงอย่างเดียวก็เป็นเพราะทาลิซ่าเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของหัวหน้าเผ่าใหญ่ก็เท่านั้น

“พี่ใหญ่ พวกเราโจมตีไปเลยเถอะ! แย่งหลานทาลิซ่ากลับคืนมา ฆ่าเผ่ามนุษย์กลุ่มนั้นซะ” หัวหน้าเผ่าห้าเอ่ย นัยน์ตาเปล่งประกาย

เขาเอาแต่จ้องมองไปทางเรือยักษ์ลำนั้นมาโดยตลอด ดวงตาเผยความโลภออกมา

ดูเหมือนว่าจะรู้สึกอดใจไม่ไหวที่จะไปขโมยเรือยักษ์และสมบัติที่เป็นของมนุษย์ “ไม่ได้! ไม่อาจเกิดเรื่องกับทาลิซ่าได้” หัวหน้าเผ่าใหญ่ปฏิเสธข้อเสนอของเขา เอ่ยอย่างเคร่งขรึมจริงจัง

“แต่ว่า…” หัวหน้าเผ่าสามเอ่ยขึ้นอย่างลังเลใจ “อยู่เช่นนี้มาหนึ่งวันแล้ว สำหรับทาลิซ่าก็เป็นความอันตรายอย่างหนึ่ง พวกเราใครก็ไม่สามารถรู้ได้ว่า นางที่ถูกจับเอาไว้นั้นโดนทำอะไรบ้าง บางทีตอนนี้นางอาจกำลังรอให้พวกเราบุกเข้าไปช่วยอยู่ก็ได้”

คำพูดของหัวหน้าเผ่าสามทำให้หัวใจของหัวหน้าเผ่าใหญ่หวั่นไหว

รุมล้อมไม่รบเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การรบทางจิตใจของเผ่ามนุษย์ แต่ว่า เหตุใดเขาถึงใช้กับเผ่ามนุษย์กลุ่มนี้ไม่ได้ผลเลยสักนิด?

“พี่ใหญ่ โจมตีเถอะ!”

“พี่ใหญ่ อย่ารออีกเลย!”

“พี่ใหญ่ ฆ่าคนเหล่านั้นเถอะ!”

“พี่ใหญ่ กับเผ่ามนุษย์ไม่มีอะไรที่ต้องคุย!”

หัวหน้าเผ่าสอง หัวหน้าเผ่าสาม หัวหน้าเผ่าสี่และหัวหน้าเผ่าห้าล้วนแต่เสนอความคิดเดียวกันที่จะเปิดศึก เฝ้าอยู่ที่นี่มาหนึ่งคืน พวกเขาก็ถือว่าได้ไว้หน้าแก่หัว หน้าเผ่าใหญ่มากพอแล้ว

การเร่งรีบของพวกเขาไม่กี่ตนนี้ทำให้คุนขมวดคิ้วขึ้น

เขามองไปยังเรือยักษ์ที่นิ่งไม่ขยับแล้วในดวงตาก็ปรากฏร่องรอยของความกังวลใจ ไม่รู้ว่าทำไม เขาถึงได้รู้สึกว่ายิ่งเงียบเท่าไหร่ก็ยิ่งซ่อนความร้ายกาจที่มากยิ่งขึ้นเอาไว้

พรึ่บ!

หัวหน้าเผ่าใหญ่ลุกขึ้นมา เดินออกมาข้างหน้าหนึ่งก้าว ตะโกนไปยังเรือยักษ์ว่า “พวกมนุษย์! ความอดทนของข้าได้ถูกใช้หมดไปแล้ว ถ้าหากเจ้ายังไม่ส่งมอบบุตรสาวของข้าออกมา เช่นนั้นข้าก็จะเปิดศึก คนไม่กี่คนของพวกเจ้าไม่อาจจะต่อต้านพวกเข้าได้”

เสียงของหัวหน้าเผ่าใหญ่ดังไปบนเรือยักษ์

มู่ชิงเกอนั่งอย่างสบายใจบนเก้าอี้โยกบนดาดฟ้า ดื่มชาร้อน ทานของว่าง ด้านหลัง ฮวาเยวี่ยกำลังนวดไหล่ให้นาง ส่วนโย่วเหอก็นั่งอยู่อีกทางนวดขาให้ เมื่อได้ยินการเตือนจากหัวหน้าเผ่าใหญ่ มุมปากของมู่ชิงเกอก็เกิดรอยยิ้มตาหยี มองเห็นทางทางที่ดูมั่นใจเช่นนี้ของนางแล้ว โย่วเหอก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา ‘คิกคิก’

“คุณชาย พวกที่ไม่รู้ความก็คงต้องคิดว่าท่านกำลังฟังเรื่องขำขันอยู่”

มู่ชิงเกอค่อยๆ ลืมตาขึ้น เหลือบมองนางแวบหนึ่ง ยิ้มแล้วเอ่ยอย่างท้าทายว่า “ก็ไม่ใช่ว่าเป็นตลกชุดใหญ่จริงๆ รึ”

“เป็นบิดาของข้ามาแล้ว! ท่านพ่อ! ท่านพ่อ!” ทาลิซ่าที่ถูกขังอยู่ในห้องโดยสาร พอได้ยินเสียงของหัวหน้าเผ่าใหญ่ก็ตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้น

องครักษ์เขี้ยวมังกรขมวดคิ้วขัดขวาง “หุบปาก! หากยังร้องอีกข้าจะตัดลิ้นเจ้า!” ทาลิซ่าหันกายกลับไปมองเขา ใบหน้าที่ดูน่าตกตะลึงนั้น ทำให้องครักษ์เขียวมังกรรูhลึกสยองในใจ

“เจ้ากล้าข่มขู่ข้าอย่างนั้นหรือ? เจ้ารอก่อนเถอะ ข้าจะให้เจ้านายของพวกเจ้าจัดการพวกเจ้าอย่างหนัก!” ทาลิซ่าเอ่ยอย่างแค้นเคือง

องครักษ์เขี้ยวมังกรกลับสบถอย่างดูแคลนคำหนึ่ง ถอนสายตาหลีกเลี่ยงออกไปจากใบหน้าของนาง ท่าทางขององครักษ์เขี้ยวมังกร ทำให้ทาลิซ่าไม่พอใจ อยู่ในเผ่าปีศาจทะเลไม่เคยมีใครกล้าทำกับนางเช่นนี้มาก่อน!

บนดาดฟ้า มั่วหยางเดินไปหามู่ชิงเกอ เมื่อถึงด้านข้างก็หยุดลง “คุณชาย พวกเขาล้วนแต่กลับมาแล้ว”

คำพูดของเขา ทำให้มุมปากของมู่ชิงเกอคลี่ออกเป็นรอยยิ้มบางๆ

“ชิงเกอ ข้ากลับมาแล้ว” เสียงออดอ้อนออเซาะดังขึ้นมาที่ข้างหูของมู่ชิงเกอ แสงสีขาวตกลงมา กลายเป็นไป๋สี่ที่ดูน่าหลงใหล

เหมือนจะพร้อมกันอยู่อีกข้างของมู่ชิงเกอ แสงสีเงินก็ตกลงมาเช่นกัน กลายเป็นหยินเฉิน

มองเห็นหยินเฉินแล้ว ไป๋สี่ก็พ่นลมหายใจออกมาทางจมูกอย่างดูแคลน

หยินเฉินก็ใช้สายตาที่ดูเย็นชากวาดมองไป หนึ่งงูและหนึ่งจิ้งจอกไม่ได้ทะเลาะกันต่อหน้ามู่ชิงเกออีก แต่ก็ลอบไม่พอใจกันลับหลัง

มู่ชิงเกอเอาขาออกมาจากบนขาของโย่วเหอ สองมือจับพนักเก้าอี้เพื่อคํ้ายัน แล้วลุกยืนขึ้นมา นางเดินไปทางหัวเรือ เอ่ยแบบยิ้มไม่ยิ้มว่า “อา ในที่สุดก็สามารถเปิดศึกได้แล้ว มั่วหยาง เอาทาลิซ่าขึ้นมา”

“ขอรับ” มั่วหยางรับคำสั่งออกไป

หยินเฉินกับไป๋สี่ยืนคุ้มครองมู่ชิงเกอซ้ายขวา ยืนด้วยกันกับนางบนดาดฟ้าส่วนหัวเรือ

ในตอนที่บนเรือยักษ์ปรากฏสีแดงที่บาดตานั้น ดวงตาของคุนก็หดตัวลง ไอสังหารพุ่งออกมาจากกันบึ้งของจิตใจ

มองเห็นว่าในที่สุดเรือยักษ์ก็มีเงาร่างของคนแล้ว หัวหน้าเผ่าใหญ่ก็นิ่งชะงักไป

หัวหน้าเผ่าอื่นๆ ก็มองอย่างวิเคราะห์อย่างสนใจไปทางฝั่งของมู่ชิงเกอ ดูเหมือนว่า เผ่ามนุษย์เช่นมู่ชิงเกอ ภายในสายตาของพวกเขาแล้วก็เป็นเหมือนของเล่นที่แปลกใหม่ก็ไม่ปาน

“เป็นเขาใช่ไหม?” หัวหน้าเผ่าใหญ่เอ่ยอย่างเคร่งขรึม ประโยคนี้คือเอ่ยกับคุน

เป็นถามเขาว่า คนที่ปรากฏตัวเป็นหัวหน้าของเผ่ามนุษย์กลุ่มนั้นหรือไม่

“ใช่” คุนเอ่ยตอบสั้นๆ

ในตอนที่เขาได้รับคำตอบที่แน่ชัด ในใจของหัวหน้าเผ่าใหญ่ก็พยายามข่มจิตสังหาร ตะโกนเอ่ยกับมู่ชิงเกอไปอีกครั้งว่า “พวกมนุษย์ในเมื่อเจ้าปรากฏตัวออกมาแล้ว ก็รีบปล่อยลูกสาวของข้าซะ มิเช่นนั้นเจ้าก็รอรับความโกรธแค้นจากเผ่าปีศาจทะเลทั้งเผ่าได้เลย!”

“ความโกรธแค้นทั้งเผ่าปีศาจทะเลงั้นหรือ? ข้าชักสนใจขึ้นแล้วสิ” มู่ชิงเกอเอ่ยปากออกมา คำพูดที่พูดกลับทำให้ทั้งร่างของพวกปีศาจทะเลหยุดชะงัก ท่าทางที่ดูสบายๆ นั้น ทำให้เหล่าปีศาจทะเลโกรธจนกัดฟันกรอดๆ

“เจ้ากำลังรนหาที่ตาย!” หัวหน้าเผ่าใหญ่เอ่ยอย่างโมโห

มู่ชิงเกอยิ้มๆ เอ่ยกับเขาว่า “หัวหน้าเผ่าใหญ่ คำขอของข้าตั้งแต่เริ่มต้นก็ชัดเจนมาโดยตลอด ถ้าหากพวกเจ้าตกลงตั้งแต่แรก ก็คงไม่เกิดเรื่องราวเยอะแยะมากมาย ขนาดนี้ ลูกสาวของเจ้า สาวงามอันดับหนึ่งของเผ่าปีศาจทะเล เกรงว่าก็คงจะได้กลับไปอยู่อย่างสุขสบายที่บ้านไปแล้ว ข้าไม่เคยคิดหาเรื่องตาย ที่ข้ามองก็คือพวกเจ้าต่างหากที่คิดอยากจะให้ทาลิซ่าตาย!”

รักแกคนเกินไปแล้ว!

ไม่! รังแกปีศาจทะเลเกินไปแล้ว!

เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นคนลักพาตัวทาลิซ่าไป ตอนนี้พวกเขามาช่วยเหลือ กลับโทษว่าพวกเขาไม่ยอมตกลงตามคำร้อง ถึงได้ทำให้เกิดสถานกาณ์เช่นนี้?

ปัง!

เหล่าปีศาจทะเลโมโหมาก

คำรามอยู่ในใจ ‘ลองพวกเราสลับตำแหน่งกัน ดูสิว่าเจ้าจะปล่อยพวกเราไปไหม?’

“เผ่ามนุษย์ที่ไร้ยางอาย! เป็นเจ้าที่ลักพาตัวทาลิซ่าไปก่อน!” หัวหน้าเผ่าใหญ่เอ่ยอย่างแค้นเคือง ช่วงอกของเขากระเพื่อมขึ้นลงอย่างโมโห

ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่า การพูดคุยเจรจากับเผ่ามนุษย์เป็นความผิดพลาดอย่างหนึ่ง

เพราะว่าไม่เพียงไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้รังแต่จะทำให้ตนเองโมโหมากขึ้น!

“ขอบคุณหัวหน้าเผ่าใหญ่ที่เอ่ยเตือน ข้ายังไม่ลืมว่าตนเองทำเรื่องอะไรลงไป” มู่ชิงเกอพยักหน้า ในตอนที่หัวหน้าเผ่าใหญ่กำลังโมโหจนกระทืบเท้านั้น นัยน์ตา ของนางก็ฉายแววเยียบเย็นออกมา หัวเราะและเอ่ยว่า “แต่ว่าข้าอยากจะถามหน่อยว่าถ้าหากว่าข้าไม่ได้ลักพาตัวทาลิซ่ามา พวกเจ้าจะปล่อยข้าและคนของข้า ปล่อยให้เรือของข้าแล่นออกจากผืนทะเลของพวกเจ้าไปหรือไม่?”

ถ้าหากว่ามีเพียงนางแค่คนเดียว นางก็คงจะหลบเลี่ยงเผ่าปีศาจทะเลทั้งเผ่าไปได้ออกจากผืนทะเลแห่งนี้ ปัญหาที่มีก็คือ นางมากับทรัพย์สมบัติ เรือใหญ่ขนาดนี้ แล่นผ่านทะเลไป ปีศาจทะเลคงไม่ตาบอด!

คำพูดของมู่ชิงเกอ ทำให้เหล่าปีศาจทะเลล้วนแต่คิดในใจ ‘จะเป็นไปได้อย่างไร! แน่นอนว่าหลังจากฆ่าแล้วก็ ต้องแยกชิ้นส่วนให้เหล่ากุ้งหอยปูปลา! พื้นที่ของพวกเราเผ่าปีศาจทะเลไม่อนุญาตให้เผ่ามนุษย์มาทำให้แปดเปื้อน!’

หัวหน้าเผ่าใหญ่กำลังคิดจะตะโกนเสียงในใจของตนเองออกไป ก็ชะงักคิดไปถึงว่าลูกสาวของตนเองที่อยู่ในเงื้อมมือของอีกฝ่าย จึงรีบขบฟัน สะกดข่มอารมณ์ของตนเอง

ความนิ่งเงียบของเผ่าปีศาจทะเลไม่ได้ทำให้มู่ชิงเกอรู้สึกเหนือความคาดหมาย

ความเงียบเชียบเช่นนี้ ทำให้ทุกคนล้วนแต่เข้าใจความรู้สึกนึกคิดของกันและกันดี

มู่ชิงเกอเอ่ยอย่างท้าทายว่า “ในเมื่อถึงอย่างไรก็ต้องเปิดศึก เช่นนั้นก่อนที่จะรบข้าก็ต้องมีข้อต่อรองบ้าง หากไม่มีก็คงโง่มาก?”

การท้าทายที่ร้ายกาจทำให้เผ่าปีศาจทะเลเดือดขึ้นมา

“ฆ่าเขาซะ!”

“ฆ่าเผ่ามนุษย์ที่อวดดีนี้ซะ!”

“เผ่ามนุษย์ไสหัวออกไปจากสถานที่ของเผ่าปีศาจทะเล!”

“ฆ่าพวกเขาซะ!”

ภายในกองทัพปีศาจทะเลแสนกว่าตนเริ่มพากันตะโกนขึ้นมา

ในตอนนี้ ความไม่พอใจของปีศาจทะเลที่มีต่อเผ่ามนุษย์ก็ถูกเผยออกมา

มู่ชิงเกอยิ้มที่มุมปากมองอย่างเย็นชา ตั้งแต่เริ่มต้น นางก็ไม่หวังที่จะใช้วิธีที่สุดโต่งเช่นนี้ในการแก้ปัญหา แต่น่าเสียดายว่า นับตั้งแต่แรกเริ่ม ปีศาจทะเลก็โอบอุ้มความเป็นศัตรูกับนางหรืออาจจะพูดได้ว่าความเป็นศัตรูกับเผ่ามนุษย์ไว้อย่างเหนียวแน่น

นางไม่มีเวลาไปยุ่งเกี่ยวกับความรู้สึกของปีศาจทะเลที่มีต่อมนุษย์ดังนั้นทำได้เพียงแต่ใช้กลยุทธ์ต่างๆ นานา เพื่อบีบให้พวกเขาเปิดทาง

ถ้าหากว่าในมือของนางไม่มีทาลิซ่าเป็นตัวประกัน มู่ชิงเกอกล้ารับรองได้เลยว่า ในตอนที่เรือของนางถูกปีศาจทะเลพบเห็นในแวบแรกนั้น การศึกระหว่างทั้งสองเผ่าก็จะเริ่มขึ้นในทันที

ปีศาจทะเลมีกำลังพลแสนกว่า ส่วนนางมีเพียงแค่องครักษ์เขี้ยวมังกร บวกกับพวกตนเองไม่กี่คน

หนทางสู่โลกแห่งยุคกลางก็ยังอีกยาวไกล ไม่ใช่ความคิดที่ฉลาดเลยหากนางจะต่อสู้เป็นตายกับปีศาจทะเลในเวลานี้

มู่ชิงเกอเป็นคนที่มีความคิด ไม่ว่าจะเวลาไหนนางก็ล้วนแต่สามารถแยกออกได้ว่าอะไรสำคัญกว่า และอะไรควรวางไว้อีกทาง

โลกแห่งยุคกลางเป็นเป้าหมายสำคัญ ดังนั้นทุกอย่างต้องเอาเป้าหมายเป็นหลัก

นางจะไม่เปิดสงครามกับเผ่าปีศาจทะเล และก็ไม่อาจถูกพวกเขาขัดขวางเส้นทางของตนเอง ทำให้เวลาที่ใช้เดินทางไปยังโลกแห่งยุคกลางล่าช้า

ด้านหลังตัวมีเสียงฝีเท้าดังขึ้น

ทาลิซ่าถูกมั่วหยางผลักออกมา ผลักมาอยู่ข้างกายของมู่ชิงเกอ

ทาลิซ่าเซเล็กน้อย เงยหน้าขึ้นมา พอมองเห็นคนเผ่าเดียวกันบนท้องทะเล ภายใต้แสงอาทิตย์ก็สามารถมองเห็นถึงความตื่นเต้นของเผ่าเดียวกัน

ทาลิซ่ามองหาอย่างตื่นเต้น มองไปเห็นบิดาของตัวเองภายในกลุ่มของเผ่าปีศาจทะเลได้อย่างรวดเร็ว หัวหน้าเผ่าใหญ่ของเผ่าปีศาจทะเล นางร้องตะโกนขึ้น “ท่านพ่อ! ท่านพ่อ ข้าอยู่นี่!”

การปรากฏตัวของทาลิซ่า แน่นอนว่าได้ดึงดูดความสนใจของหัวหน้าเผ่าใหญ่ เขาตะโกนอย่างร้อนรนว่า “ทาลิซ่า ลูกสาวของข้า เจ้าไม่เป็นอะไรใช่ไหม!”

“ข้าไม่เป็นอะไร” ทาลิซ่าส่ายหน้าไปทางบิดา

นางไม่ได้โกหก ถูกขังไว้บนเรือสองวันมานี้นอกจากที่นางไม่เป็นอิสระ

แล้ว ก็ไม่ได้รับการทารุณอะไร

“เจ้าดู บิดาของข้ามาแล้ว ข้อเสนอของข้าเจ้าคิดว่าเป็นอย่างไร? เพียงแค่เจ้าพยักหน้า ข้าก็สามารถบอกให้บิดาของข้าปล่อยเจ้าไปได้” ทาลิซ่ามองไปพร้อมกับเอ่ยกับมู่ชิงเกออย่างได้ใจ

นัยน์ตาของมู่ชิงเกอวาววาบ มุมปากเหมือนจะยิ้มก็ไม่ยิ้ม เอ่ยกับนางว่า “คุณหนูทาลิซ่า เกรงว่าคงทำให้เจ้าผิดหวังแล้ว”

รอยยิ้มบนใบหน้าของทาลิซ่าแข็งค้าง หลุดเสียงออกไปว่า “เหตุใด? หรือว่าข้ายังไม่สวยพองั้นหรือ? ข้าล้วนแต่ไม่ได้รังเกียจที่เจ้าขี้เหร่แล้ว แต่งข้าไปเจ้าก็จะได้กลายเป็นชนชั้นสูงของเผ่าปีศาจทะเล สืบทอดตำแหน่งต่อจากบิดาของข้า”

คำพูดของทาลิซ่า ทำให้มั่วหยาง ไป๋สี่และหยินเฉินที่ไม่รู้ว่านางมีความคิดเช่นนี้รู้สึกเหมือนจะตกตะลึงไป

อะไรกัน!

ตัวอัปลักษณ์นี่กลับคิดจะแต่งงานกับคุณชายของพวกเขาอย่างงั้นหรือ?

ที่น่าหวาดกลัวก็คือ นางยังพูดว่า…นางพูดว่าคุณชาย ขี้เหร่งั้นหรือ?

ความงามอันน่ากลัวของเผ่าปีศาจทะเล!

เมื่อไป๋สี่ได้สติขึ้นมา นัยน์ตาก็ฉายแววอำมหิต นางเดินเข้ามา ใช้แขนของนางโอบแขนของมู่ชิงเกอ หัวเราะเยาะเย้ยทาลิซ่าว่า “ชิงเกอของพวกข้ามีข้าแล้ว เจ้าที่เป็นตัวอัปลักษณ์ก็ยอมตรอมใจไปเสียเถอะ”

“ตัวอัปลักษณ์! เจ้าว่าข้างั้นหรือ? เจ้าสิตัวอัปลักษณ์ กลับกล้ามาบอกว่าข้าอัปลักษณ์! ข้านั้นเป็นถึงสาวงาม อันดับหนึ่งของเผ่าปีศาจทะเลเชียวนะ!” ทาลิซ่าตะคอกออกมาอย่างแค้นเคือง

ไม่ได้สนใจความเยาะเย้ยถากถางในคำพูดของไป๋สี่เลยสักนิด เพียงแต่สนใจความจริงที่ไป๋สี่บอกว่านาง อัปลักษณ์!

“แน่นอน! เจ้าเป็นผู้หญิงที่อัปลักษณ์ที่สุดเท่าที่ข้าเคยเห็นมา” ไป๋สี่ยื่นนิ้วออกมาด้านหน้าของนางแล้วส่ายเบาๆ

ทาลิซ่าโมโหจนใบหน้าดำคลํ้า “เจ้าผู้หญิงอัปลักษณ์ที่ชั่วร้าย ไม่เพียงแต่อัปลักษณ์ เสียงก็ยังไม่น่าฟังอีก เหมือนกับเสียงทารกร้องไม่มีผิด ช่างน่าเกลียดยิ่งนัก”

“เจ้าพูดว่าอะไรนะ?” ใบหน้าของไป๋สี่ดูเยียบเย็น สีตาค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีม่วงทองขึ้นมา

ที่นางเกลียดมากที่สุดก็คือคนที่พูดถึงเรื่องเสียงของนาง ทาลิซ่านี่คือเหยียบจุดตายของนาง!

“อย่าร้อนใจไป นางยังมีประโยชน์” มู่ชิงเกอยกมือขึ้น ขวางไม่ให้ไป๋สี่ลงมือ

ไม่สนใจทาลิซ่า มู่ชิงเกอเอ่ยกับหัวหน้าเผ่าใหญ่ว่า “หัวหน้าเผ่าใหญ่ ลูกสาวของเจ้า เจ้าก็พบเจอแล้ว ตอนนี้นางก็ยังดีอยู่ แต่ว่าข้าไม่กล้ารับรองว่าถ้าหากพวกเจ้า ยังไม่เปิดทางออกจากผืนทะเลแล้วนางจะเป็นอย่างไร”

การจากไป นี่ถึงเป็นประเด็นหลัก

ชักช้าอยู่ที่นี่สองวันแล้ว นางไม่อยากจะชักช้าเสียเวลาอยู่ที่นี่ถูกเผ่าปีศาจทะเลล้อมกรอบต่ออีก

คำพูดของมู่ชิงเกอ ลอยเข้าไปในหูของหัวหน้าเผ่าใหญ่ ทำให้เขานิ่งเงียบลงไป

ในตอนที่ยังมองไม่เห็นทาลิซ่านั้น เขาก็ยังมีความกล้าหาญในการรบ แต่ว่า หลังจากมองเห็นทาลิซ่าแล้ว เขาก็สูญเลียความกล้าหาญ ลูกสาวของเขาอยู่ใกล้กับเผ่ามนุษย์ถึงขนาดนั้น ขอแค่เปิดศึก ผู้ที่ต้องตายก่อนก็ต้องเป็นบุตรสาวของเขาอย่างแน่นอน เพศหญิงในเผ่าปีศาจทะเลนั้นน้อยมาก บุตรสาวของเขา ก็คือดวงใจของเขาอย่างแท้จริง!

“พี่ใหญ่ อย่าเชื่อคำพูดของพวกมนุษย์!”

ในตอนที่หัวหน้าเผ่าใหญ่เริ่มลังเลนั้น หัวหน้าเผ่าห้าก็พูดออกมา

หัวหน้าเผ่าห้าพูดออกมาแล้ว หัวหน้าเผ่าสี่ก็พูดตามว่า “ใช่แล้วพี่ใหญ่ เผ่ามนุษย์แต่ไหนแต่ไรมาก็มากเล่ห์ กลับกลอกหลอกลวง ถึงแม้ว่าจะปล่อยให้พวกเขาไป ทาลิซ่าก็ไม่แน่ว่าจะปลอดภัย ถึงตอนนั้น ทะเลใหญ่กว้างใหญ่ผืนนี้ พวกเราจะแก้แค้นให้ทาลิซ่าได้อย่างไร?”

คำพูดของหัวหน้าเผ่าสี่และหัวหน้าเผ่าห้า ทำให้หัวหน้าเผ่าใหญ่คิดตามอีกครั้ง

หัวหน้าเผ่าสามและหัวหน้าเผ่าสองสบตากันแวบหนึ่งอย่างเข้าใจกัน

“ท่านพ่อ ต้องช่วยเหลือทาลิซ่านะ” เจี๋ยซั่งเอ่ยข้างหูของหัวหน้าเผ่าสาม

หัวหน้าเผ่าสามนิ่งเงียบลง เอ่ยปากว่า “มีการหมั้นหมายระหว่างทาลิซ่ากับเจี๋ยซั่ง นางก็คือลูกสะใภ้ของข้า ดังนั้น ต้องช่วยนางกลับมา”

คำพูดของเขาทำให้เจี๋ยซั่งรู้สึกซาบซึ้งใจ

หัวหน้าเผ่าใหญ่ก็มองมาที่เขาอย่างซาบซึ้ง แต่ว่า อยู่ดีๆ หัวหน้าเผ่าสามกลับพลิกกลับคำ เอ่ยอย่างลำบากใจว่า “แต่ว่า ข้าก็ไม่เชื่อใจเหล่าพวกเผ่ามนุษย์ หากว่าพวกเราปล่อยพวกเขาไปแล้ว แล้วพวกเขายังคงทำร้ายทาลิซ่าเช่นเดิมละ จะทำอย่างไร?”

“เจ้าสาม เจ้า!” หัวหน้าเผ่าใหญ่คิดไม่ถึงว่าหัวหน้าเผ่าสามก็สนับสนุนการเปิดสงครามด้วย

“ท่านพ่อ!” เจี๋ยซั่งร้อนใจขึ้นมา

“ใช่แล้ว! ไม่สู้เอาอย่างนี้ให้พวกเขาส่งทาลิซ่ามาก่อน จากนั้นพวกเราค่อยปล่อยพวกเขาไป” หัวหน้าเผ่าสองเอ่ยปากขึ้นในตอนนี้

‘พวกเจ้าไม่เชื่อใจเผ่ามนุษย์ แล้วเผ่ามนุษย์จะเชื่อใจพวกเราได้อย่างไร?’

หัวหน้าเผ่าใหญ่นิ่งเงียบลง สายตากวาดมองไปที่ใบหน้าของพี่น้องทั้งสี่

ข้อเสนอของหัวหน้าเผ่าสอง เขาไม่ต้องไปพูดก็สามารถรับรู้ได้ถึงผลลัพธ์โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เหตุใดเขาจะไม่รู้ว่าพี่น้องเหล่านี้กำลังคิดอะไรอยู่? จากเริ่มต้นจนถึงสุดท้ายพวกเขาไม่เคยมีความคิดที่จะปล่อยคนเหล่านี้ไป ในใจของพวกเขา เสียสละแค่เพียงทาลิซ่าตนเดียว แลกมากับชีวิตและทรัพย์สินของเผ่ามนุษย์เหล่านี้เป็นอะไรที่ คุ้มค่ามาก

ดวงตาของคุนก็เยียบเย็นลง จ้องมองไปยังหัวหน้าเผ่าทั้งสี่ “ข้าได้ยินมาว่า เพื่อหยุดหยั้งการต่อสู้ระหว่างเจี๋ยซั่งและฟู่คัง ทาลิซ่าถึงได้มาปรากฏตัวขึ้นที่นี่และถูกเผ่ามนุษย์ลักพาตัวไป”

คำพูดของเขาทำให้สีหน้าของหลายตนเปลี่ยนไป มีเจี๋ยซั่งและฟู่คัง และก็หัวหน้าเผ่าสองและหัวหน้าเผ่าสาม

แน่นอนว่ายังมีหัวหน้าเผ่าใหญ่

“ที่แท้ก็เป็นเพราะพวกเจ้า!” หัวหน้าเผ่าใหญ่เอ่ยออกมาอย่างแค้นเคือง จ้องหน้าเจี๋ยซั่งและฟู่คัง ก่อนหน้าตอนที่พวกเขาทั้งสองมาบอกเขาเรื่องทาลิซ่า เขาเพียงแต่คิดจะช่วยลูก ไม่ไค้คิดอย่างละเอียดว่าเหตุใดทาลิซ่าถึงได้ถูกเผ่ามนุษย์ลักพาตัวไป แล้วก็เพราะเหตุใดถึงได้มาปรากฏตัวอยู่ห่างออกมาจากอาณาเขต ของปีศาจทะเลเช่นนี้ ที่นี่สามารถพูดได้ว่าเป็นเขตน่านนํ้ารอบนอกของอาณาเขตของเผ่าปีศาจทะเล เป็นเขตรอบนอก มีปีศาจทะเลน้อยมากที่จะมาที่นี่ ทำไมก่อนหน้าเขาไม่คิดอ่านให้ดีๆ? เกือบจะถูกไอ้สารเลวทั้งสองลอบปิดบังลอยนวลไปแล้ว

“เจ้าสอง เจ้าสาม เรื่องที่ทาลิซ่าถูกลักพาตัวนั้นเกี่ยวกับลูกชายของพวกเจ้า พวกเจ้าอย่างได้คิดจะทิ้งภาระไป” หัวหน้าเผ่าใหญ่พูดตรงๆ เจี๋ยซั่งและฟู่คังไม่รู้จะเอ่ยปากอธิบายอย่างไร

หัวหน้าเผ่าสองกลอกดวงตาไปมา ถึงได้เอ่ยว่า “เจี๋ยซั่งและฟู่คังดวลกันก็เพราะทาลิซ่า พวกเขาก็ไม่รู้ว่าทาลิซ่าจะตามออกมาด้วย”

“ตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมาหาผู้รับผิดชอบ พวกเรายังต้องตัดสินใจว่าจะทำอย่างไร” หัวหน้าเผ่าสี่เอ่ยปากหยุดการโต้เถียง

เขาเสนอขึ้นว่า “ในเมื่อความคิดของทุกคนไม่ตรงกัน

เช่นนั้นก็ลงคะแนน เห็นด้วยที่จะเปิดศึกกับเผ่ามนุษย์ในทันทียกมือขึ้น” พูดจบแล้วเขาก็ยกมือของตนเองขึ้น หัวหน้าเผ่าห้าก็ไม่ได้ลังเลยกมือของตัวเองขึ้นเช่นกัน

หัวหน้าเผ่าสองก็ค่อยๆ ยกมือขึ้นภายใต้การจ้องมองอย่างโมโหของหัวหน้าเผ่าใหญ่

สามคะแนนเห็นด้วย ที่จริงผลลัพธ์ก็ชัดเจนดีแล้ว

แต่ว่า หัวหน้าเผ่าสามก็ยกมือของตัวเองขึ้นในเวลานี้เช่นเดียวกัน

“ท่านพ่อ!” เจี๋ยซั่งตกตะลึง คิดจะห้ามบิดาของตน แต่กลับทำได้เพียงแค่จ้องมองบิดาของตนยกมือขึ้น

สี่ต่อหนึ่ง ผลลัพธ์ชัดเจนมากแล้ว

หัวหน้าเผ่าใหญ่สั่นเทิ้มเล็กน้อย ชี้นิ้วไปที่ทั้งสี่ “พวกเจ้า! ทาลิซ่าเป็นหลานสาวของพวกเจ้านะ!”

หัวหน้าเผ่าสี่เอ่ยว่า “การเสียสละของทาลิซ่า พวกเราก็เจ็บปวดใจ พี่ใหญ่วางใจ พวกเราจะพยายามช่วยนางให้เต็มที่ ถ้าหากช่วยไม่ได้ก็จะฆ่าเผ่ามนุษย์เหล่านั้นล้างแค้นให้นาง อีกอย่าง นางจะได้เป็นวีรสตรีภายในเผ่าของพวกเรา”

ปลอบใจหัวหน้าเผ่าใหญ่ครู่หนึ่ง หัวหน้าเผ่าสี่ก็ยกมือขึ้น จากนั้นทหารส่งสัญญาณด้านหลังของเขาก็ส่งสัญญาณรบในทันที

เมื่อสัญญาณดังขึ้น ร่างของหัวหน้าเผ่าใหญ่ก็ชะงัก ดูเหมือนจะยืนทรงตัวเอาไว้ไม่อยู่

“ท่านพ่อบุญธรรม!” คุนรีบรับเอาร่างของหัวหน้าเผ่าใหญ่ นัยน์ตาก็ฉายแววโกรธเกรี้ยว

วูด วูด—–!

เสียงสัญญาณของปีศาจทะเลดังสะท้อนขึ้นมาทั่วผืนทะเลของทะเลแห่งทุกข์ผืนนี้ เสียงนี้ดังมาจนถึงบนเรือ ดึงดูดสายตาของทุกคน

“เป็นสัญญาณของพวกเราเผ่าปีศาจทะเล พวกเขาจะบุกแล้ว!” ทาลิซ่าเอ่ยอย่างตกตะลึง นางคิดไม่ถึงเลยว่า ตนเองที่ยังอยู่ที่นี่ พวกของบิดาจะกลับไม่สนใจความ ปลอดภัยของนาง เข้าบุกโจมตี

“ฆ่า! ฆ่าเผ่ามนุษย์เหล่านั้น!”

“บุกเข้าไป ฆ่าพวกเขา! สับพวกเขาให้เป็นชิ้นๆ!”

“โฮก โฮก! ฆ่า ฆ่า ฆ่า!”

เสียงสัญญาณการรบ ปลุกความกระหายเลือดในตัวของปีศาจทะเลขึ้น ทำให้พวกเขาดูดุร้ายขึ้นมาในทันใด

ทหารปีศาจทะเลแสนกว่าตนพุ่งเข้าไปยังเรือยักษ์

บนทะเล ดูเหมือนกับเป็นปลาตัวเล็กๆ กลุ่มใหญ่ ที่ต้องการจะกลืนกินปลาตัวใหญ่ตรงหน้า

ท่าทีของมั่วหยางเคร่งขรึมขึ้น มือสัมผัสไปยังอาวุธที่หว่างเอวของตนเอง

หยินเฉินกับไป๋สี่ก็ล้วนแต่เก็บความสบายอารมณ์กลับ เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมขึ้นมา

มีเพียงแค่มู่ชิงเกอคนเดียวที่ไม่ได้รู้สึกร้อนรนเมื่อเห็นกองทหารปีศาจทะเลแสนกว่าตนพุ่งเข้ามาที่เรือ

“พาพวกนางขึ้นมา” นางเอ่ยสั่ง

มั่วหยางนิ่งชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเข้าใจขึ้นในทันที รีบหันกายเดินลงไป

การบุกของปีศาจทะเล บีบใกล้เข้ามาในพริบตา

จากนั้นในตอนนี้เอง เหล่าองครักษ์เขี้ยวมังกรก็ลากเหล่าผู้หญิงของเผ่าปีศาจทะเลที่กำลังร้องไห้ฟูมฟายขึ้นมาบนดาดฟ้า

เงาร่างที่อยู่ดีๆ ปรากฏขึ้นมา ทำให้ดวงตาของหัวหน้าเผ่าใหญ่วาววาบ ยกมือขึ้นร้องตะโกนว่า “หยุด! หยุด เดี๋ยวนี้!”

หัวหน้าเผ่าใหญ่ถือว่ามีอำนาจพอตัวภายในเผ่าของปีศาจทะเล

เสียงของเขาผ่านไปยังทหารปีศาจทะเลทั้งแสนกว่าตน เหล่าปีศาจทะเลที่กำลังบุกไปข้างหน้าล้วนแต่หยุดลง และมองมาไปที่เขาอย่างสงสัย

“พี่ใหญ่ ท่านจะทำอะไร!” หัวหน้าเผ่าห้าเอ่ยอย่างไม่พอใจ

หัวหน้าเผ่าใหญ่กลับไม่สนใจเขา เพียงแต่จ้องไปยังกลุ่มคนจำนวนมากที่โผล่ขึ้นมาบนดาดฟ้า เอ่ยกับทุกคนว่า “พวกเจ้าดูบนเรือ”

คำพูดของหัวหน้าเผ่าใหญ่ทำให้หัวหน้าเผ่าทั้งสี่ล้วนแต่มองไปบนดาดฟ้าเรือ

อยู่ดีๆ บนดาดฟ้าเรือก็มีคนจำนวนมากโผล่ออกมา พวกเขาไม่ใช่ว่ามองไม่เห็น แต่เป็นเพราะคิดว่าเป็นทหารที่เผ่ามนุษย์เตรียมจะโจมตีกลับ

แต่ว่า เมื่อมองดูอย่างละเอียดแล้ว พวกเขากลับพบความไม่ถูกต้องในทันที!

“นั่นเป็นผู้หญิงของพวกเรา!” หัวหน้าเผ่าสามร้องเสียงหลง

“น่าตายยิ่งนัก ล้วนแต่เป็นผู้หญิงของพวกเราเผ่าปีศาจทะเล! ที่นั่นอย่างน้อยก็มีพันกว่าตน!” หัวหน้าเผ่าห้าตะคอกออกมา

หัวหน้าเผ่าสองรีบแก้ไขในทันที “ไม่แค่นั้น! พวกเรามองเห็นแต่ที่ยืนอยู่ด้านหน้าสุด ยังมีด้านหลังอีก ถ้าหากดูเช่นนี้แล้ว ผู้หญิงทั้งหมดของเผ่าพวกเราล้วนแต่ถูกจับเอาไว้บนเรือ!”

“ช่างน่ารังเกียจยิ่งนัก! เผ่ามนุษย์ที่เจ้าเล่ห์!” หัวหน้าเผ่าห้ากัดฟันเอ่ยออกมา

หัวหน้าเผ่าสี่ตกตะลึง พึมพำเอ่ยว่า “พวกเราจะทำอย่างไรดี?”

ใช่แล้ว! จะทำอย่างไรดี?

พวกเขาชัดเจนว่าเฝ้าอยู่ที่นี่ ล้อมกรอบพวกมนุษย์เอาไว้ แล้วพวกมนุษย์จะหายตัวไปจับเอาผู้หญิงในเผ่าของพวกเขามาได้อย่างไร้ร่องรอยได้อย่างไร?

ฉากภาพบนเรือ ไม่เพียงแต่ให้หัวหน้าเผ่ามองเห็น เหล่าทหารปีศาจทะเลก็มองเห็นเช่นกัน

ผู้หญิงของพวกเขา สมบัติของพวกเขากลับถูกเผ่ามนุษย์เอาไปแล้ว!

รูปการณ์ได้เปลี่ยนไปอีกครั้ง!

ถ้าหากบอกว่า บนเรือมีเพียงแค่ทาลิซ่า พวกเขาก็คงสามารถบุกได้อย่างไม่เกรงกลัว แต่ว่าบนเรือในตอนนี้มีผู้หญิงทั้งหมดของเผ่าปีศาจทะเลของพวกเขา พวกเขาจะทำอย่างไรดี?

ถ้าหากว่าขืนบุกขึ้นเรือ หากว่าผู้หญิงเหล่านั้นถูกทำร้าย แล้วจะทำอย่างไร?

ทหารที่กำลังบุกไปข้างหน้า ทันใดนั้นหยุดลงในทันที ระหว่างนั้นพวกเขาก็เคลื่อนไหวอย่างระมัดระวัง ไม่กล้ากระทำเสียงดังโวยวาย กลัวว่าจะทำให้เผ่ามนุษย์บนเรือโมโห จนทำร้ายตัวประกันบนเรือ

“เจ้า! เผ่ามนุษย์ที่ตํ่าช้า สงครามเป็นเรื่องของผู้ชาย เหตุใดถึงไปลำบากผู้หญิงที่บริสุทธิ์ด้วย?’’ หัวหน้าเผ่าสี่ต่อว่า

คิดจะใช้คุณธรรมมากดดันนางงั้นหรือ?

ขออภัยจริงๆ เกรงว่าจะต้องผิดหวังแล้ว!

มุมปากของมู่ชิงเกอโค้งเป็นรอยยิ้ม หลังจากมาโลกนี้แล้ว นางก็ได้เข้าใจชัดเจนถึงหลักการหนึ่ง นั่นก็คือ อยู่ที่นี่ คุณธรรมนั้นเป็นเรื่องที่ใครกำปั้นใหญ่กว่าเป็นคนตัดสิน!

ถ้าหากว่าอยู่ในชีวิตก่อน นางเป็นทหาร ก็จะไม่ใช้วิธีการเช่นนี้เป็นอันขาด ไม่ว่าสถานการณ์จะเสี่ยงอันตรายแค่ไหน เพราะว่านางได้ถูกเรียกว่า ‘องครักษ์แห่งประชาชน’ เป็น ‘ผู้กล้าแห่งสงคราม’

แต่ว่าตอนนี้นางทำเพื่อให้ตัวเองมีชีวิตรอด มีชีวิตเพื่อทำตามเป้าหมายของนาง!

ขอบเขตนั้นนางมี ไม่เคยทิ้งไปไหน

นางใช้วิธีที่ไม่เลือกแต่ยังคงอยู่บนขอบเขต ไม่ได้เปลี่ยนเป็นคนเลือดเย็น ผู้หญิงเหล่านี้นางจะไม่ทำร้าย เพียงแค่ใช้เป็นเครื่องมือให้นางได้จากไปเท่านั้น ดังนั้น คำพูดของหัวหน้าเผ่าสี่ ไม่ได้มีผลอะไรกับนางเลย

เพราะนางรู้ดีว่าตนเองกำลังทำอะไรอยู่ และก็ไม่เคยสนใจว่าคนอื่นจะคิดอย่างไร

“จะเป็นไปได้อย่างไร! เจ้าทำได้อย่างไร!” เมื่อมองเห็นผู้หญิงของเผ่าปีศาจทะเลเหล่านั้น หัวหน้าเผ่าใหญ่ก็ยิ่งตกตะลึงไม่อยากจะเชื่อ

ไม่เพียงแต่เขา ในใจของทุกคนในนั้นก็เต็มไปด้วยความสงสัย นั้นก็คือ มู่ชิงเกอทำได้อย่างไรกัน?

มู่ชิงเกอยิ้มในใจ อธิบายว่า “ก็ไม่ได้ยากสักเท่าไหร่ เมื่อวานตอนที่พวกเจ้าออกมาจากรัง ข้าก็ว่างไม่มีอะไรทำ จึงให้ลูกน้องไปเล่นรอบเกาะของพวกเจ้ารอบหนึ่ง พาสามงามเหล่านี้มาเป็นแขกบนเรือ เพียงแค่พวกเจ้าถอยออกไป ให้พวกข้าจากไป พวกนางก็จะได้ลงจากเรือไปอย่างปลอดภัย แต่ว่าหากยังคงพัวพันไม่หยุด…ข้าก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องการสืบเผ่าพันธ์ของเผ่าปีศาจทะเล”

คำพูดของมู่ชิงเกอ ทำให้หัวหน้าเผ่าทั้งห้าดวงตาหดลง ตกตะลึงเป็นอย่างมาก

ในใจของพวกเขาเต็มไปด้วยคำถาม

พวกเขาสงสัยว่าเหตุใดมู่ชิงเกอถึงรู้ว่าเพศหญิงนั้นสำคัญสำหรับพวกเขา? เหตุใดจึงรู้ตำแหน่งเกาะของพวกเขา? แล้วรูได้อย่างไรว่าพวกเขามีผู้หญิงกี่คน? อัตราส่วนระหว่างหญิงชายนั้นเป็นอย่างไร?

เกรงว่า คิดอย่างไรพวกเขาก็คงคิดไม่ออก สิ่งที่พวกเขาสงสัยทั้งหมดล้วนแต่เป็นทาลิซ่าบอกมู่ชิงเกอเอง

แน่นอนว่า ตอนที่ทาลิซ่าพูดเรื่องเหล่านี้นั้น ก็คิดไม่ถึงเลยว่ามู่ชิงเกอจะทำเช่นนี้ และถึงแม้ว่ามู่ชิงเกอจะบอกนางว่าจะจับผู้หญิงทุกคนของเผ่าปีศาจทะเลมา เกรงว่า ทาลิซ่าก็คงจะไม่เชื่อ

สีหน้าของทาลิซ่าไม่น่าดูมาก มองพวกเดียวกับตัวเองอย่างตกตะลึง

เหตุการณ์ที่ประสบราวกับฝันร้ายนี้ ก็ทำให้พวกนางหวาดกลัวจนกอดกัน ร้องไห้ฟูมฟาย ในบรรดาปีศาจทะเล เพศหญิงนั้นมีพลังฝึกปรือไม่สู้เพศชาย แต่เดิมก็ไม่ใช่คู่มือขององครักษ์เขี้ยวมังกร ยิ่งไม่ต้องพูดถึงมู่ชิงเกอและคนอื่นๆ

“สมควรตาย! พวกเราบุกเข้าไป สู้ตายกับมันซะ! แย่งผู้หญิงของพวกเราคืนมา!” หัวหน้าเผ่าห้าเอ่ยอย่างร้อนใจ

“เจ้าห้า อย่าวู่วาม!” หัวหน้าเผ่าสี่ห้ามหัวหน้าเผ่าห้า มู่ชิงเกอได้ยินถึงคำพูดของหัวหน้าเผ่าห้าแล้วก็ยิ้มขึ้น เอ่ยท้าทายว่า “เอาสิ! เช่นนั้นก็ดูสิว่าการเคลื่อนไหวของพวกเจ้าเร็ว หรือว่าการเคลื่อนไหวของข้าเร็วกว่า”

พร้อมกันกับเสียงที่หลุดไปของนาง เหล่าองครักษ์เขี้ยวมังกรก็ควักอาวุธของพวกเขาออกมา

เสียงที่ดูพร้อมเพรียงนั้นทำให้พวกผู้หญิงของเผ่าปีศาจทะเลสั่นไปทั้งร่าง

รอยยิ้มของมู่ชิงเกอยิ่งกดลึกขึ้น “ข้ารับรองได้เลยว่า ในตอนที่พวกเจ้าเหยียบเรือขึ้นมา ที่เหลืออยู่ที่นี่ก็จะมีแค่ร่างศพ”

คำพูดของนางทำให้ปีศาจทะเลทั้งหมดรู้สึกหวาดกลัว

ถ้าหากผู้หญิงทั้งหมดของเผ่าปีศาจทะเลตายหมด ที่พวกเขาต้องเผชิญก็คือการสูญสิ้นเผ่าพันธุ์!

ไปแย่งผู้หญิงของเผ่าอื่นอย่างนั้นหรือ? อย่างเช่นเผ่ามนุษย์…แต่ว่าสัตว์ประหลาดที่เกิดออกมายังจะเป็นปีศาจทะเลอีกหรือไม่?

จุดๆ นี้ใครก็ไม่กล้าไปคิด

ปีศาจทะเลแสนกว่าตนล้วนแต่ลังเลขึ้นมา พวกเขาไม่อาจจะทำอย่างก่อนหน้า ที่บุกเข้าไปอย่างไม่เกรงกลัวได้

เมื่อมองเห็นว่าพวกเขากำลังลังเลแล้ว มู่ชิงเกอก็กดเสียงต่ำลง เอ่ยอย่างดูแคลนว่า “ไม่ว่าจะเป็นเผ่ามนุษย์หรือว่าเผ่าปีศาจทะเล ก็ล้วนแต่มีชีวิตจิตใจ ล้วนแต่มีจุดอ่อน นั้นก็คือพอถูกทำร้ายถึงเนื้อของตัวเองถึงได้รู้สึกว่าเจ็บปวด เลือดบนหัวของผู้อื่นจะไหลยังไงก็เพียงแค่ให้คำปลอบใจ ในเวลาเดียวกันก็รู้สึกดีที่ตนเองไม่ได้โชคร้ายเช่นนั้น”

คำพูดของนางทำให้หยินเฉิน ไป๋สี่ รวมทั้งมั่วหยางล้วนแต่ชะงัก ครุ่นคิดในใจ “ว่ายังไง คิดดีหรือยัง? ความอดทนของข้าได้ถูกใช้ไปหมดแล้ว! ให้ทางหรือว่าไม่ให้!” มู่ชิงเกอส่งเสียงดังออกไป พูดแล้วนางก็รู้สึกขบขัน พูดอย่างเจ้าเล่ห์ว่า “ที่พวกเจ้าต้องคิดไม่ใช่ว่าจะฆ่าข้าให้ตายอย่างไรถึงจะหายแค้น แต่เป็นควรคิดว่าเพื่อเผ่ามนุษย์ต่ำช้าเช่นข้าคนหนึ่ง คุ้มค่ากับการสูญสิ้นเผ่าพันธุ์หรือไม่”

เหล่าปีศาจทะเลสูดลมหายใจ มีทหารบางตนที่ถอยออกไปอย่างไม่รู้สึกตัว

“ถอย! พวกเราถอย! ทั้งหมดถอย!” หัวหน้าเผ่าใหญ่เอ่ยปาก

“พี่ใหญ่!” หัวหน้าเผ่าห้ายังไม่ยอม

หัวหน้าเผ่าสี่เอ่ยปลอบว่า “อย่าวู่วามไป ปล่อยพวกเขาไปก่อน พวกเราตามไปด้านหลัง มีโอกาสค่อยลงมือ!”

คำพูดของหัวหน้าเผ่าสี่คลายความโมโหของหัวหน้าเผ่าห้าไปได้ไม่น้อย

ทหารเผ่าปีศาจทะเลแสนกว่าตนค่อยๆ ถอยออกไปสองด้าน เปิดช่องว่างระหว่างกลางออกมา

ความกว้างนี้ เพียงพอให้เรือยักษ์ของมู่ชิงเกอแล่นผ่าน ไปได้อย่างสบายๆ

แต่ว่า ท่าทีของมู่ชิงเกอกลับดูเย็นชา เอ่ยออกมาว่า “ยังไม่พอ ถอยไปอีก!”

เหล่าปีศาจทะเลโกรธแต่ไม่กล้าส่งเสียง ทำได้เพียงแต่ถอยอีก

ถอยจนกระทั่งไม่สามารถเห็นอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจนแล้ว มู่ชิงเกอถึงได้เผยรอยยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ “มั่วหยาง แล่นเรือ”

มั่วหยางรับคำสั่งเดินไปทางหางเสือเรือ กดแผ่นทรงกลมด้านบน

แผ่นทรงกลมเปล่งแสงออกมา เรือยักษ์ที่หยุดนิ่ง เริ่มค่อยๆ เคลื่อนตัวอีกครั้ง หลังจากเสร็จแล้ว มั่วหยางก็กลับมาที่ด้านหลังของมู่ชิงเกอ

มู่ชิงเกอหันกลับไปมองเหล่าผู้หญิงของเผ่าปีศาจทะเลที่เต็มไปทั้งดาดฟ้าเรือ ก่อนจะเอ่ยสั่งการองครักษ์เขี้ยวมังกรว่า “พาพวกนางลงไป ดูแลให้ดี”

“ขอรับ คุณชาย”

ผู้หญิงของเผ่าปีศาจทะเลถูกนำลงไป

มู่ชิงเกอบอกให้โย่วเหอและฮวาเยวี่ยไปเตรียมอาหารให้เพียงพอแก่พวกนาง

จากนั้น นางก็หันมามองทาลิซ่า ทาลิซ่าก็มองนางด้วยสายตาที่ดูซับซ้อน ตัวเองถูกหลอกใช้นางสมควรที่จะแค้นมู่ชิงเกอ แต่ว่า เมื่อนางมองเห็นการปฏิบัติของเขาที่มีต่อพวกผู้หญิงของเผ่าปีศาจทะเลแล้ว ก็โกรธไม่ลง ดูเหมือนว่า จุดมุ่งหมายของเขา ก็เพียงแค่เพื่อออกจากผืนนํ้าทะเลนี้จริงๆ ไม่ได้คิดจะทำร้ายคนอื่น

“เจ้าก็ลงไปพักผ่อนเถอะ วางใจได้ หลังจากที่ข้าจากไปได้แล้ว ก็จะหาที่ปล่อยตัวพวกเจ้าลงอย่างปลอดภัย คนของเผ่าพวกเจ้าตามมาด้านหลัง ไม่มีอะรเหนือความคาดหมายเกิดขึ้นอย่างแน่นอน” มู่ชิงเกอเอ่ยกับนาง

ทาลิซ่าถูกนำลงไป ดาดฟ้าเรือกลับคืนสู่ความสงบอีกครั้ง หยินเฉินขึ้นไปบนหอสำรวจ มองไปทางท้ายเรือ แล้วเอ่ยกับมู่ชิงเกอว่า “ชิงเกอ พวกเขาตามมาด้านหลัง”

มู่ชิงเกอยิ้มและเอ่ยอย่างไม่แปลกใจ “ผู้หญิงเยอะขนาดนั้นอยู่บนเรือของข้า พวกเขาแน่นอนว่าจะไม่วางใจ ตามก็ให้ตามมาเถอะ จะได้สะดวกเมื่อตอนรับผู้หญิงคืนกลับไป”

“แต่ว่า ถ้าหากพวกเราปล่อยตัวประกันแล้ว พวกเขายังคงไล่ตามมาละจะทำอย่างไร?” ไป๋สี่เอ่ยอย่างสงสัย

มู่ชิงเกอยังคงยิ้ม เอ่ยกับไป๋สี่ว่า “ความเร็วเต็มกำลังของเรือ พวกเขาเทียบไม่ได้ และอีกอย่าง พวกเราก็ยังคงมีผู้หญิงเหล่านี้อยู่มิใช่หรือ?”

ไป๋สี่ชะงัก เอ่ยอย่างตะลึงว่า “เจ้าไม่ได้ล้อเล่นใช่หรือไม่? ผู้หญิงเหล่านี้จะยอมช่วยพวกเราอย่างนั้นหรือ?”

มู่ชิงเกอยิ้มอย่างลึกลับ ไม่ตอบ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!