Skip to content

พลิกปฐพี 375

ตอนที่ 375

ระวัง! ระวัง!

อะไรคือกลิ่นอายแห่งความตายที่ตายแล้วกับกลิ่นอายแห่งความตายที่เป็นอยู่?

แม้แต่มู่ชิงเกอก็ไม่รู้จะอธิบายอย่างไร และก็ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรกับคนอื่นๆ

นางทำได้เพียงมองไปรอบด้านอย่างระมัดระวัง จับตาดูบรรดาเสานํ้าแข็ง

ทั้งสามคนคุ้มกันซีเซียนเสวี่ยค่อยๆ เคลื่อนตัวไปด้านหน้า ไม่ว่าด้านหน้าจะมีอันตรายแบบไหนรออยู่ พวกเขาก็ต้องเดินต่อไป

เมื่อถูกทั้งสามคนปกป้องเอาไว้ทำให้ซีเซียนเสวี่ยรู้สึกผิดในใจ รู้ตัวดีว่าตอนนี้ตนเองนั้นเป็นตัวถ่วง และไม่มีประโยชน์นางลอบมองแผ่นหลังเหยียดตรงของมู่ชิงเกอ ในใจเกิดความอบอุ่นขึ้นมา แม้ว่านางจะรู้ดีแก่ใจว่าที่มู่ชิงเกอดูแลนางนั้นก็เป็นเพราะนางขอร้อง แต่นางกลับใช้ใจสัมผัส ใช้ใจรู้สึก

หลังจากออกไปจากที่นี่แล้วทั้งสองคนก็ไปทางใครทางมัน

นัยน์ตาของซีเซียนเสวี่ยดูมืดทึบ แต่ว่าในเมื่อมันเป็นชะตาชีวิตของนาง นางก็จะเก็บเกี่ยวโอกาสอันมีค่าในสามเดือนนี้เอาไว้ให้ดีๆ

“รอเดี๋ยว!” ทันใดนั้นมู่ชิงเกอก็ยกมือขึ้น ขวางอยู่ตรงหน้าของจีเหยาฮั่วและหยุดลง

จีเหยาฮั่วมองนางอย่างไม่เข้าใจ ส่วนนางก็เงยหน้ามองเกล็ดหิมะสีขาวเทาเหล่านั้น เอ่ยเสียงเข้มว่า “หิมะเหล่านี้มีปัญหา!”

นํ้าเสียงของนางนั้นดูแน่ใจมาก ไม่ได้มีการคาดเดา

จีเหยาฮั่วเอ่ยถามไปว่า “มีปัญหาอะไร?”

นัยน์ตาของมู่ชิงเกอฉายแววครุ่นคิด แล้วก็เกิดแววดุดันขึ้น เอ่ยกับทุกคนว่า “เกล็ดหิมะเหล่านี้เกิดมาจากกลิ่นอายแห่งความตาย”

อะไรนะ!

เกิดมาจากกลิ่นอายแห่งความตาย?

นัยน์ตาของทั้งสามคนหดตัวลง มองไปยังเกล็ดหิมะสีขาวเทาที่ลอยพลิ้วอยู่รอบด้านอย่างตะลึง

จีเหยาฮั่วอดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นรับเกล็ดหิมะเกล็ดหนึ่ง มองมันแล้วพึมพำว่า “เกล็ดหิมะที่เกิดมาจากกลิ่นอายแห่งความตาย…”

เขายังไม่ทันพูดจบก็เบิกดวงตากว้างขึ้น มองดูเกล็ดหิมะที่อยู่ดีๆ ก็เหมือนมีชีวิตขึ้นมา เจาะเข้าไปในมือของเขา

จีเหยาฮั่วตกใจมากและก็รีบใช้พลังจิตบีบให้เกล็ดหิมะออกไป

เพียงแค่พลังจิตสีทองสัมผัสโดนเกล็ดหิมะ ก็ทำให้เกล็ดหิมะสีขาวเทาลุกไหม้ขึ้นมา ทั้งสี่คนดูเหมือนว่าจะได้ยินเสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวดดังออกมาจากเกล็ดหิมะที่โดนเผาไหม้

“เหล่านี้มันคืออะไรกัน?” ขนของจีเหยาฮั่วเกือบจะลุกตั้งขึ้นมา เกล็ดหิมะเล็กๆ นี้กลับทำให้เขารู้สึกขนลุกขึ้นมาได้

มู่ชิงเกอสะบัดมือทันที ทำให้พญาเพลิงอัคคีแรกกำเนิด ข้างกายของซีเซียนเสวี่ยขยายใหญ่ขึ้น กลายเป็นเกราะกำบังรูปร่ม โอบคลุมบนหัวของพวกเขา

ชั่วขณะนั้นเกล็ดหิมะสีขาวเทาที่พลิ้วลอยลงมาจากฟ้าก็เปลี่ยนเป็นเร่งเร็วขึ้น

ทั้งสี่คนเงยหน้าขึ้นไปมองร่มเกราะเพลิง ก็เห็นเกล็ดหิมะสีขาวเทาเหล่านั้นเหมือนตกลงไปในเปลวไฟและถูกเผาไหม้เป็นเถ้าถ่าน

ภายในบรรดาเกล็ดหิมะเหล่านี้ดูเหมือนจะซ่อนอะไรเอาไว้ทำให้เกิดเสียงกรีดร้องอันโหยหวนออกมา

พญาเพลิงอัคคีแรกกำเนิดสามารถสาดกระจายความหนาวเย็นบนร่างกายของพวกเขาไปได้ แต่ไม่สามารถขจัดความหวาดกลัวจากลิ่งที่ไม่รู้ออกจากใจได้

“สิ่งเหล่านี้คืออะไรกัน?” สีหน้าของซีเซียนเสวี่ยเปลี่ยนเป็นซีดขาวเอ่ยออกมา

จีเหยาฮั่วกุมพัด กัดฟันเอ่ยว่า “ไม่สนว่ามันคืออะไร วันนี้ผ่านไปได้ยากแล้ว!”

พูดแล้วเขาก็หันไปยิ้มให้มู่ชิงเกอ ” ยังดีที่เจ้าสามารถจุดไฟได้ ทั้งเปลวไฟนี้ก็สามารถควบคุมสิ่งเหล่านี้ได้พอดี มิเช่นนั้นวันนี้พวกเราก็คงต้องลำบากมาก”

มู่ชิงเกอขบริมฝีปากนิ่งเงียบ

พญาเพลิงอัคคีแรกกำเนิดเป็นเปลวไฟแรกเริ่มของดวงอาทิตย์และก็เป็นพญาเพลิงที่มีอุณหภูมิสูงที่สุด และก็เป็นเปลวเพลิงที่มีพลังแห่งดวงอาทิตย์เข้มชันที่สุด แน่ นอนว่าเป็นดาวพิฆาตของเกล็ดหิมะแห่งความตายเหล่านี้ แต่ว่าในใจของนางก็ยังรู้สึกไม่สงบ รู้สึกอยู่ตลอดว่าสิ่งแปลกประหลาดที่นี่ไม่ได้มีเพียงอย่างเดียว!

ทันใดนั้น อิ๋งเจ๋อก็ส่งเสียงมาว่า “ทุกคนรีบดู!”

อาวุธยาว ในมือของเขาชี้ไปยังมุมๆ หนึ่ง ทั้งสามคนมองไปตามตำแหน่งที่เขาชี้พบว่าในสุดสายตา เกล็ดหิมะบางส่วนได้รวมตัวเข้าด้วยกันกลายเป็นลูกบอลหิมะ และยิ่งกลิ้งมาก็ยิ่งใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ พริบตา เดียวก็กลายเป็นบอลหิมะยักษ์ทั้งยังพุ่งเข้ามาใส่พวกเขาอย่างรุนแรง

ฉากนี้ทำให้ท่าทีของคนทั้งสี่เปลี่ยนไปในทันที!

มือขวาของมู่ชิงเกอเกิดแสงวาบขึ้น ทวนหลิงหลงปรากฎอยู่ในมือ นางเม้มริมฝีปากแน่น สองมือจับลำทวนหลิงหลง ออกแรงตวัดรับลูกบอลหิมะที่พุ่งเข้ามา

ดาบเพลิงสายหนึ่งวาดออกมาจากการสะบัดของปลายทวน ลอยขึ้นกลางอากาศและมีขนาดใหญ่ขึ้น ฟาดเข้าไปยังลูกบอลหิมะยักษ์

บริเวณที่ถูกแสงดาบวาดผ่าน เกล็ดหิมะสีขาวเทาเหล่านั้นล้วนแต่ถูกเผาไหม้

ลูกบอลหิมะยักษ์แบ่งออกเป็นสองส่วน เกิดการเผาไหม้ ลูกบอลหิมะกลายเป็นลูกบอลเพลิง เกิดเสียงกรีดร้องโหยหวนนับไม่ถ้วนดังออกมาจากเปลวไฟ

ซีเซียนเสวี่ยไม่มีพลังจิตปกป้องกาย ทำได้เพียงแต่ใช้สองมือปิดหูฝืนตั้งสติไม่รับอิทธิพลจากเสียงนั้น

ส่วนอีกสามคนถึงแม้ว่าจะมีพลังจิตปกป้องร่างกาย แต่ก็ยังคงถูกเสียงบาดแหลมรบกวนจิตใจ

เมื่อเปลวไฟเผาจนหมดแล้วก็ย้อนกลับมายังทวนหลิงหลง เสียงแหลมเหล่านี้ถึงได้หยุดลง

นี้ทำให้ทั้งสี่คนได้พักหายใจ

เพียงแต่ว่าเพิ่งพักหายใจได้ไม่นาน ก็ได้ยินเสียงจีเหยาฮั่วร้องตะโกนขึ้นมา “รีบดู! หิมะโตขึ้นเรื่อยๆ แล้ว!”

เขาร้องเตือนแล้ว ทุกคนก็มองเห็นว่าเป็นเช่นเขาพูดจริงๆ!

เกล็ดหิมะบางๆ ที่แต่เดิมค่อยๆ ตกลงมา ตอนนี้ดูเหมือนว่าได้กลายใบมีดที่ตกลงมาอย่างรวดเร็วและแหลมคม สำคัญที่สุดก็คือมีเกล็ดหิมะจำนวนไม่น้อยที่รวมกันเป็นลูกบอลกลิ้งเข้ามาหาพวกเขาจากทั้งสี่ทิศ

“รีบไป!” มู่ชิงเกอตะโกนออกไป ภายใต้สถานการณ์ คบขันนางคว้าข้อมือของซีเซียนเสวี่ย วิ่งหลบหนี จีเหยาฮั่วและอิ๋งเจ๋อก็เฝ้าอยู่ซ้ายขวาของนาง ใช้อาวุธในมือ ตวัดปัดเกล็ดหิมะเหล่านั้นไม่หยุด

ระคับความเร็วของมู่ชิงเกอนั้นเร็วมาก ซีเซียนเสวิ่ยทำได้เพียงแต่อาศัยพลังของร่างกายฝืนตามไป นางวิ่งจนแก้มแดง ลมหายใจกระชั้นถี่ แต่ก็เม้มปากแน่นไม่ยอมร้องออกมาสักคำ

มู่ชิงเกอใช้มือหนึ่งลากนาง อีกมือหนึ่งขยับทวนหลิงหลง มังกรเพลิงพุ่งออกจากปลายทวนไปเรื่อยๆ เพื่อเปิดทางให้พวกเขาทั้งสี่

“ระวัง!” ทันใดนั้นซีเซียนเสวี่ยก็ตะโกนขึ้นมา

มู่ชิงเกอหันมองไป ถึงได้พบว่าลูกบอลหิมะบางส่วนพยายามที่จะลอบโจมตีพวกเขา

นัยน์ตาของมู่ชิงเกอฉายแววเยียบเย็นขึ้น สะบัดทวนหลิงหลง ปลายทวนอันแหลมคมแทงทะลุลูกบอลหิมะ ปลายทวนมีเปลวไฟลุกขึ้นมา เผาไหม้ลูกบอลหิมะไปในพริบตา

“จี๊ด!”

เสียงแหลมแสบแก้วหูดังออกมาจากลูกบอลหิมะที่สั่นไหว ทำให้จีเหยาฮั่วและอิ๋งเจ๋อที่ไม่ทันได้ตั้งตัวชะงักไปชั่วขณะ

ลูกบอลหิมะเหล่านั้นฉวยโอกาสพุ่งเข้าไปใส่พวกเขา มู่ชิงเกอเรียกมังกรเพลิงกลับมา โอบล้อมรอบกายของพวกเขาถึงได้หยุดยั้งการลอบโจมตีจากลูกบอลหิมะเหล่านี้ได้

“สิ่งเหล่านี้คืออะไรกัน?” จีเหยาฮั่วเอ่ยด้วยสีหน้าที่ไม่น่าดู

พลังจิตของเขาไม่มีผลต่อเกล็ดหิมะแห่งความตายเหล่านี้เลย ทำได้เพียงขวางพวกมัน และหลังจากขวางแล้ว เกล็ดหิมะเหล่านั้นก็พุ่งเข้ามาใหม่ เหมือนจะไม่ยอม หยุด!

มีเพียงแค่พญาเพลิงอัคคีแรกกำเนิดของมู่ชิงเกอเท่านั้น ถึงจะทำให้เกล็ดหิมะแห่งความตายเหล่านี้สัมผัสร่างกายไม่ได้

แต่นี่ก็ไม่ใช้การแก้ไขปัญหาจากต้นตอ

พญาเพลิงของมู่ชิงเกอจำเป็นต้องใช้พลังจิต เมื่อใดที่ไม่มีพลังจิตของนางสนับสนุน พวกเขาทั้งสี่ก็จะถูกเกล็ดหิมะกัดกร่อน

คำถามของจีเหยาฮั่วไม่มีใครสามารถตอบได้

สิ่งเดียวที่พวกเขาสามารถแน่ใจได้ก็คือเกล็ดหิมะเหล่านี้ไม่ใช่ของดีอะไร!

“ยังคิดจะแทรกเข้าไปในร่างกายของข้าอีกงั้นหรือ? รนหาที่ตาย!” จีเหยาฮั่วตะโกน ตวัดพัดออกไป พลังจิตสีทองผสมอยู่ในสายลม พัดให้เกล็ดหิมะลอยออกไปเกิดเป็นทางสายหนึ่ง

“ไป!” จีเหยาฮั่วตะโกนออกมา ตวัดพัดอีกครั้ง

สายลมอันรุนแรงออกมาจากพัดของเขา พัดให้เกล็ดหิมะปลิวกลับ เปิดทางออกมา

ทั้งสี่คนรีบวิ่งไปตามทางที่เขาเปิดออก จีเหยาฮั่วเปิดทางอยู่ด้านหน้า มังกรเพลิงของมู่ชิงเกอโอบล้อมรอบกายของพวกเขา ป้องกันการลอบโจมตีจากเกล็ดหิมะ

พริบตาเดียว พวกเขาก็พุ่งห่างออกไปเป็นร้อยจั้ง

แต่ว่าด้านหน้าก็ยังดูขาวโพลนไม่มีที่สิ้นสุด เหล่าเสานํ้าแข็งประหลาดก็ยังคงอยู่ รอบด้านล้วนแต่เป็นเศษซากร่างเต็มไปหมด กลางอากาศก็ยังมีเกล็ดหิมะอยู่

ทันใดนั้นจีเหยาฮั่วที่อยู่ด้านหน้าก็หยุดลงอย่างฉับพลัน

คนที่เหลือก็หยุดตาม มังกรเพลิงโอบล้อมรอบกายของทั้งสี่คน คุ้มครองพวกเขา จีเหยาฮั่วเรียนรู้จากมู่ชิงเกอจึง ได้ตวัดเอามังกรลมตัวหนึ่งออกมาด้วย คอยคุ้มครองทุกคนร่วมกับมังกรเพลิง

“สิ่งเหล่านี้ฉลาดนัก!” นัยน์ตาของจีเหยาฮั่วฉายแววดุดันมองไปยังกำแพงหิมะที่อยู่ด้านหน้า สบถออกมาหนึ่งคำ

เส้นทางตรงหน้าของพวกเขาถูกกำแพงเกล็ดหิมะอุดปิดเอาไว้

เกล็ดหิมะเหล่านี้ละทิ้งร่างลูกบอล กลายร่างเป็นกำแพงหิมะหนาแน่น ค่อยๆ ขยับเข้ามาหาพวกเขา

นัยน์ตาของจีเหยาฮั่วฉายแววดุดัน สะบัดพัดในมืออีกครั้ง

เกิดสายลมอันรุนแรงสายหนึ่ง แต่เมื่อสัมผัสโดนกำแพงหิมะแล้วกลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ฉากนี้ทำให้นัยน์ตาของจีเหยาฮั่วหดตัวลงพร้อมกับมืดทึบ

มู่ชิงเกอยืนอยู่ด้านข้างเขา แทงทวนหลิงหลงออกไป มังกรเพลิงตัวหนึ่งพุ่งออกมาจากปลายทวนมุ่งเข้าไปยังกำแพงหิมะ

แต่ว่ามังกรเพลิงยังไม่ทันได้เข้าไปถึง เกล็ดหิมะที่อยู่รอบด้านก็เหมือนกับจะปกป้องกำแพงหิมะ บินเข้าไปในมังกรเพลิงเหมือนแมลงเม่าบินเข้ากองไฟ

ในตอนที่มังกรเพลิงพุ่งออกจากการโอบล้อมและไปถึง

กำแพงหิมะได้นั้นก็เหลือเพียงแค่เงาร่างแล้ว

เมื่อสัมผัสเข้ากับกำแพง ก็ทำให้เกิดเพียงแค่ร่องรอยจางๆ สายหนึ่งเท่านั้น

นัยน์ตาของมู่ชิงเกอฉายแวววาววาบ ตวัดทวนหลิงหลงออกไป พริบตานั้นก็เกิดมังกรเพลิงห้าตัวออกมา พุ่งเข้าไปยังกำแพงหิมะจากทิศทางที่แตกต่างกัน “ข้าจะดูลิว่าพวกเจ้าจะหยุดยั้งได้สักแค่ไหน!” มู่ชิงเกอเอ่ยอย่างเย็นชา

ครั้งนี้เกล็ดหิมะก็ยังลงลอยกรูเข้าไปในไฟดงเดิม แต่ไม่อาจหยุดยั้งมังกรเพลิงมากขนาดนั้นได้ มังกรเพลิงสองตัวพุ่งเข้าไปใส่กำแพงหิมะ กำแพงหิมะขยับ แยกออก หลบการโจมตีของมังกรเพลิงสองตัว

ส่วนกำแพงหิมะที่แยกออก กลับกลายร่างเป็นคนยักษ์สูงใหญ่ ยกเท้าวิ่งมาทางพวกเขา

คนหิมะยักษ์สามคน มองเห็นรูปโฉมอย่างคลุมเครือ ความเร็วที่วิ่งเข้ามาทำให้คนหน้าเปลี่ยนสีไปอย่างรวดเร็ว

“แยกกันต้านรับศัตรู!” มู่ชิงเกอเอ่ยเสียงเข้มออกไป เหลือมังกรเพลิงตัวหนึ่งไว้คุ้มกันซีเซียนเสวิ่ย ส่วนตัวนางกุมทวนหลิงหลงพุ่งเข้าไปคนยักษ์ที่อยู่ตรงกลาง

อิ๋งเจ๋อและจีเหยาฮั่วก็แยกกันรับมืออีกสองคนที่เหลือ พริบตาเดียวการต่อสู้ก็ได้เริ่มต้นขึ้น

ซีเซียนเสวี่ยยืนอยู่ตรงกลางของมังกรเพลิงมองดูทั้งสามคนต่อสู้ นางทำได้เพียงแต่ยืนอยู่ที่นี่ ไม่สามารถจากไปได้ มิเช่นนั้นจะเป็นการเพิ่มความลำบากให้พวกเขา พญาเพลิงอัคคีแรกกำเนิดของมู่ชิงเกอนั้นร้ายกาจมาก เป็นดาวพิฆาตของเกล็ดหิมะเหล่านี้ คนยักษ์ที่สู้กับนางดูเหมือนจะกลัวเล็กน้อย ไม่กล้าสู้ตรงๆ ได้แต่หลบหลีกไปมา

‘ของประหลาดเหล่านี้ดูเหมือนจะมีสติปัญญา!’ นัยน์ตาของมู่ชิงเกอฉายแวววาววาบ ในใจพิจารณาออกมา หางตาของนางกวาดมองดูการต่อสู้ของอีกสองคน จีเหยาฮั่วนั้นมีข้อได้เปรียบจากรากวิญญาณลม ยังพอสู้ได้อยู่ แต่พลังทางสายเลือดของอิ๋งเจ๋อกลับไม่มีประโยชน์ในที่นี่ ทั้งเขายังอยู่ระดับสีเงินจึงต่อสู้กับคนยักษ์ได้อย่างยากลำบาก

มู่ชิงเกอคิดคำนวณในใจรอบหนึ่งแล้วก็เคลื่อนไหวอย่างดุดันมากขึ้น

มู่ชิงเกอต้องรีบจบการต่อสู้ของตนเองให้ไวเพื่อจะได้ช่วยอิ๋งเจ๋อ!

ทันใดนั้นมู่ชิงเกอก็เก็บทวนหลิงหลงกลับ จงใจเผยจุดอ่อน

คนหิมะยักษ์รีบฉวยโอกาส ก้มลงจะใช้สองมือคว้าจับนาง ฉากนี้ทำให้ซีเซียนเสวี่ยที่มองดูอยู่ข้างๆ เกือบจะร้องออกมา

แต่ในเวลานั้นเองมู่ชิงเกอก็เงยหน้าขึ้น มุมปากเผยรอยยิ้มดูแคลนออกมา ในตอนที่มือยักษ์ทั้งสองสัมผัสเข้ากับร่างกายของนาง ร่างกายของนางก็เกิดเปลวไฟพุ่งออกมา เกราะรบเพลิงปรากฎขึ้นบนร่างของนาง เปลวไฟบนนั้นเผาไหม้มือทั้งสองข้างอย่างรวดเร็ว

“โฮก!” คนยักษ์ชูสองมือขึ้นอย่างเจ็บปวด ร้องโหยหวนออกมา

มู่ชิงเกอฉวยโอกาสกระโดดขึ้นจากพื้น หมุนร่างกาย เปลวไฟโอบล้อมตัวเหมือนกับดวงอาทิตย์ดวงน้อยกำลังหมุนวน พุ่งเข้าใส่คนยักษ์

พญาเพลิงอัคคีแรกกำเนิดเผาไหม้ไปบนตัวของคนยักษ์ มันเจ็บปวดจนล้มกองลงกับพื้น ในตอนที่ล้มลงพื้นนั้นก็ทำให้พื้นเกิดสั่นสะเทือนขึ้นมา

ร่างกายของมันถูกพญาเพลิงอัคคีแรกกำเนิดเผาจนละลายหายไปอย่างรวดเร็ว

มู่ชิงเกอหันไปมองทางด้านอิ๋งเจ๋อ เห็นฉากที่แขนข้างหนึ่งของเขาถูกเกล็ดหิมะกัดกร่อนพอดี ครึ่งหนึ่งของร่างกายเขาเหมือนถูกแช่แข็งและนํ้าแข็งก็ยังคงแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว

นัยน์ตาของมู่ชิงเกอหดตัวลง ส่งมังกรเพลิงพุ่งไปยังคนยักษ์ที่ต่อสู้อยู่กับอิ๋งเจ๋อ พร้อมกันนั้นก็ได้วาบตัวตามไป พยุงร่างอันสะบักสะบอมของเขาขมวดคิ้วเอ่ยว่า “ใช้พลังจิตบีบออกมา!”

นางจำได้ว่าเมื่อครู่นี้จีเหยาฮั่วก็ทำเช่นนั้น

อิ๋งเจ๋อนิ่งพยักหน้า ใช้พลังจิตในทันที เพื่อบีบให้เกล็ดหิมะที่เข้าไปในร่างกายให้ออกมา

มู่ชิงเกอมองไปยังคนยักษ์ที่เหลือด้วยสายตาที่ดูแข็งกร้าว ฝั่งทางจีเหยาฮั่วยังไม่มีอาการบาดเจ็บ ส่วนทางอิ๋งเจ๋อ หลังจากคนยักษ์ถูกนางโจมตีแล้วก็เหลือร่างเพียงแค่ครึ่งร่าง

ตอนนี้มันกำลังใช้มือข้างที่เหลืออยู่ยื่นมาจับนาง…

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!