Skip to content

พลิกปฐพี 393

ตอนที่ 393

นายน้อยข้าไร้เทียมทาน

จุดใดจุดหนึ่งภายในสนามรบโบราณ จีเหยาฮั่วและอิ๋งเจ๋อกำลังวิ่งหนีอย่างเอาเป็นเอาตาย พื้นใต้เท้าของพวก เขาเต็มไปด้วยผงกระดูกสีขาว พื้นดินสั่นสะเทือนไม่ หยุด และทุกๆ ครั้งที่สั่นสะเทือนก็จะทำให้ผงกระดูกกระเด็นขึ้นมาเกิดเป็นฝุ่นผงกระดูก

ด้านหลังของพวกเขาทั้งสอง มีสัตว์ประหลาดตัวใหญ่ตัวหนึ่งไล่ตามมาอย่างไม่ช้าไม่เร็ว ดูเหมือนจงใจที่จะหยอกล้อพวกเขาเล่น คิดจะรอให้พวกเขาวิ่งหนีจน เหนื่อยไปต่อไม่ไหวแล้ว ค่อยอ้าปากกลืนลงไปในคราวเดียว

อิ๋งเจ๋อเม้มริมฝีปากแน่น ขมวดคิ้วเล็กน้อย สายตาเฉียบคม

สีหน้าของจีเหยาฮั่วก็ดูจริงจังมาก ทั้งวิ่งไปด้านหน้า ทั้งหันมองโครงกระดูกสัตว์อสูรด้านหลังไปด้วย

การโจมตีของพวกเขาก่อนหน้านี้ ไม่สามารถทำร้ายมันได้เลยทั้งยังเกือบจะทำให้ตนเองได้รับบาดเจ็บ

จีเหยาฮั่วลอบโกรธแค้นในใจ โครงกระดูกสัตว์อสูรนี้ต่อกรยากกว่าบรรดาทหารโครงกระดูกเสียอีก ทั้งตัวของมันเป็นกระดูกทั้งหมด ฟันแทงไม่เข้า แม้แต่พัดของเขาก็ทำได้เพียงแต่ทิ้งร่องรอยสายหนึ่งเอาไว้บนกระดูกของมันเท่านั้น แต่ไม่อาจทำร้ายมันได้

“กระดูกของสัตว์อสูรตัวนี้แม้แต่ยุทธภัณฑ์ชั้นมหาเทพก็ฟันไม่เข้า หรือว่าพลังในการป้องกันของมันจะสูงกว่าระดับมหาเทพ?” จีเหยาฮั่ววิ่งพร้อมพูดกับอิ๋งเจ๋อไป ด้วย

อิ๋งเจ๋อหันมองเขา ในดวงตาเหมือนกับกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่

จีเหยาฮั่วคิดว่าอิ๋งเจ๋อจะเหน็บแนมเขา แต่ไม่คิดว่าหลังจากที่เขาเงียบแล้ว จะเอ่ยว่า “ข้ากำลังสงสัยว่าเหล่าทหารกระดูกเมื่อครู่อาจจะถูกควบคุมโดยโครงกระดูก

สัตว์อสูรตัวนี้”

“อะไรนะ?” จีเหยาฮั่วตกตะลึง หลุดเสียงออกไป

อิ๋งเจ๋อพูดการคาดเดาของตนเองออกไป “ก่อนหน้านี้ข้าสังเกตเห็นว่าทุกๆ ครั้งที่พวกเราทำลายหัวกะโหลกนั้น แสงสีเขียวภายในหัวกะโหลกจะลอยออกไป”

ดวงตาของจีเหยาฮั่วหดตัวลง ตอบสนองกลับมาในทันทีว่า “เจ้าจะบอกว่าแสงสีเขียวเหล่านั้นเป็นสิ่งที่สัตว์ประหลาดตัวนี้ใช้ควบคุมเหล่าทหารโครงกระดูกอย่าง นั้นหรือ? ทหารโครงกระดูกถูกพวกเราทำลายแล้ว มันก็จะลอยกลับไปยังสัตว์ประหลาดตัวนี้?”

อิงเจ๋อพยักหน้า

สีหน้าของจีเหยาฮั่วดำทะมึน กัดฟันเอ่ยว่า “ตอนนี้พูดเรื่องเหล่านี้ไปก็ไร้ประโยชน์ เจ้ามีวิธีที่จะทำลายพลังป้องกันของมันหรือไม่? ไม่ต้องสนว่าแล้วว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น เพียงแค่ทำลายหัวมันก็พอ”

อิ๋งเจ๋อนิ่งเงียบ หากว่าเขามีวิธีที่จะทำลายพลังป้องกันของมันแล้วจะหนีอีกทำไม?

ไม่ถูก! รอเดี๋ยว!

นัยน์ตาของอิ๋งเจ๋อเปล่งแสงออกมา ทันใดนั้นก็หยุดลง

จีเหยาฮั่วรีบตะโกนขึ้นทันทีว่า “เจ้าหยุดทำไม?”

อิ๋งเจ๋อกลับดูเหมือนไม่ได้ยิน หันหน้าไปเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรขนาดใหญ่ด้านหลัง ส่วนจีหยาฮั่วก็ถูกบีบจนต้องหยุดตามมาลากเขาแล้วพูดว่า “รีบไป มันไล่ตามมาแล้ว!”

อิ๋งเจ๋อกลับส่ายหน้า ภายในดวงตามีเปลวไฟแห่งการต่อสู้ลุกโชนอยู่ ทันใดนั้นเขาก็พูดขึ้นว่า “เจ้ายังจำวิธีที่มู่ชิงเกอใช้ทำลายการป้องกันของเว่ยมั่วลี่ได้หรือไม่?”

เอ๋’?

จีเหยาฮั่วชะงัก ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจว่าเหตุใดอิ๋งเจ๋อ ถึงได้ถามประโยคนี้ออกมาอย่างกะทันหัน แต่ภายในหัว ก็ยังย้อนคิดไปถึงเหตุการณ์ในวันนั้น

มู่ชิงเกอมีทวนหลิงหลงแต่ไม่ใช้ กลับใช้มือเปล่าเข้าต่อสู้กับเว่ยมั่วลี่

ภาพเหตุการณ์เพิ่งจะปรากฎขึ้นในหัวของเขา หางตาก็เห็นเงาร่างวาบไป เป็นอิ๋งเจ๋อพุ่งตัวออกไปแล้ว

จีเหยาฮั่วทำได้ทันเพียงแค่ด่าเขาในใจว่า ‘ให้ตายเถอะ!’

จากนั้นก็มองเห็นอิ๋งเจ๋อกระโดดขึ้นไปอยู่บนหัวของโครงกระดูกสัตว์อสูรยักษ์

ที่สำคัญก็คือเจ้าบ้านี่ไม่ได้เอาอาวุธไปด้วย!

นัยน์ตาของจีเหยาฮั่วหดตัวลง ส่วนในตอนนี้สัตว์อสูรยักษ์ก็สัมผัสได้ว่ามีคนอยู่บนหัวของมันแล้วก็เริ่มโมโห แต่อิ๋งเจ๋อก็ไม่สนใจ รวบรวมพลังไว้ในสองมือเลียนแบบหมัดดวงตาเฟิ่งของมู่ชิงเกอแล้วชกเข้าไปบนส่วนหัวของสัตว์อสูรยักษ์

ครั้งนี้ทำให้จีเหยาฮั่วเข้าใจการกระทำของอิ๋งเจ๋อแล้ว เมื่อเขาตอบสนองกลับมาแล้วก็ตะโกนใส่สัตว์อสูรยักษ์ ทันที “นี่! เจ้าสัตว์ประหลาดบ้า ข้าอยู่ที่นี่!”

และเสียงร้องก็ดึงดูดความสนใจของโครงกระดูกสัตว์อสูรได้ มันวาดหางยาวมาทางจีเหยาฮั่ว ใต้เท้าของจีเหยาฮั่วเกิดสายลมขึ้น พริบตาเดียวก็หายไปจากจุดเดิม ไปปรากฎตัวอยู่ในที่ไกลออกไปอีก สัตว์อสูรยักษ์โจมตีโดนความว่างเปล่าทำให้ยิ่งโมโหขึ้นไปอีก ลงมือโจมตีจีเหยาฮั่วอีกครั้ง

จีเหยาฮั่วอาศัยความรวดเร็วของตนเองเคลื่อนที่รอบตัวสัตว์อสูรยักษ์ ส่วนอิ๋งเจ๋อก็ชกไปที่พลังป้องกันของโครงกระดูกสัตว์อสูรทีละหมัด…ทีละหมัด

สัตว์อสูรยักษ์ส่งเสียงคำรามด้วยความโมโหไม่หยุด เพียงแค่มดสองตัวกับกล้าทำกับมันเช่นนี้ได้

มันสะบัดหัวคิดจะทำให้อิ๋งเจ๋อตกลงมา ส่วนกรงเล็บก็คว้าไปยังจีเหยาฮั่วคิดจะบีบเขาให้เละ

การโจมตีทางจิตวิญญาณถูกทำลายลงได้ ตัวประหลาดตัวเล็กเผยท่าทีมึนงงออกมา มันไม่ได้โจมตีมู่ชิงเกออีก แต่กลับหันไปมองตัวประหลาดตัวใหญ่เหมือนว่าสื่อสารอะไรกัน

จากนั้นมันก็หันกลับมาแสยะยิ้มน่าเกลียดให้กับมู่ชิงเกอ ใช้แขนขาตะกุยพื้นวิ่งพุ่งเข้ามาหามู่ชิงเกออย่างรวดเร็ว

นอกจากมันแล้วยังมีตัวประหลาดตัวเล็กอีกสองตัวตามมาด้วย ดูเหมือนคิดจะใช้สามรุมหนึ่ง

นัยน์ตาของมู่ชิงเกอฉายแววเยียบเย็นมองไปยังตัวประหลาดตัวใหญ่ที่หลบอยู่ท่ามกลางตัวประหลาดตัวเล็กแล้วออกคำสั่ง มุมปากเผยรอยยิ้มเย็นขึ้น

ซีเซียนเสวี่ยซ่อนตัวอยู่ในมุมลับใช้พลังจิตเพิ่มเกราะป้องกันให้กับส่วนหัวอย่างต่อเนื่อง สองตาจับจ้องมองมู่ชิงเกอ เมื่อมองเห็นตัวประหลาดตัวเล็กสามตัวพุ่งมาที่เขาก็ทำให้นางเกิดความร้อนใจขึ้นมา

“วี้ด วี้ด!”

“วี้ด! วี้ด!”

ตัวประหลาดตัวเล็กสามตัวโจมตีมู่ชิงเกอพร้อมกัน

นัยน์ตาของมู่ชิงเกอฉายแววดุดัน ภายในดวงตาสีทอง ปรากฎแสงสีทองสายหนึ่งออกมากลายเป็นโล่ พุ่งเข้าปะทะกับพลังโจมตีที่ไร้รูปร่างนั่น

ตู้ม!

พลังโจมตีตกลงบนโล่สีทองแล้วหายไป

สิ่งนี้ทำให้ตัวประหลาดตัวเล็กทั้งสามตัวโมโหจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟันโจมตีออกมาไม่หยุด

แต่โล่สีทองโปร่งแสงอันนั้นกลับคุ้มครองมู่ชิงเกอไว้เป็นอย่างดี ทำให้พลังโจมตีทางจิตวิญญาณถูกกันเอาไว้ด้านนอก

นี่เป็นวิชาป้องกันที่นางเรียนรู้มาจากเคล็ดวิชาเทวะส่วนกลาง ตัวประหลาดเหล่านี้จะทำลายได้อย่างไร?

มู่ชิงเกอกุมทวนหลิงหลง สะกิดเท้าพุ่งเข้าไปยังตัวประหลาดตัวเล็ก

มีโล่สีทองเปิดทางอยู่ด้านหน้า นางถือทวนตามไปติดๆ รองเท้าสีแดงเหยียบไปบนซากร่างที่กลายเป็นหินนับหมื่นปีทำให้เกิดเสียงดัง ‘ปัง ปัง’ ออกมา ผมยาวของนางถูกลมพัดขึ้น พลิ้วไหวไปด้านหลัง ผมตรงหน้าผากถูกลมพัดเปิดออกเผยให้เห็นดวงตาที่ดุดันของนาง

ซีเซียนเสวี่ยมองตามไป หัวใจเต้นไปตามจังหวะการเคลื่อนไหวที่ดุดันของมู่ชิงเกอ

การโจมตีทางจิตวิญญาณไร้ผล ทำให้เหล่าตัวประหลาดตัวเล็กร้อนใจจนดวงตาแดงฉาน

ตัวประหลาดตัวเล็กทั้งสามตัวยื่นกรงเล็บที่แหลมคมออกมา กระโดดไปยังมู่ชิงเกอคิดจะฉีกนางออกมาเป็นชิ้นๆ แต่ก็ถูกนางใช้ทวนหลิงหลงขวางเอาไว้ แล้วก็สลัดตัวประหลาดตัวเล็กทั้งสามตัวนั้นออกไป

เมื่อไม่มีตัวประหลาดตัวเล็กสามตัวนั้นขวางทาง มู่ชิงเกอก็เพิ่มความเร็วพุ่งไปยังกลุ่มของตัวประหลาด ดวงตาของนางจับจ้องไปที่ตัวประหลาดตัวใหญ่

ส่วนตัวประหลาดตัวเล็กทั้งสามตัวที่ถูกนางสลัดทิ้งก็พลิกตัวกลับกลางอากาศอย่างรวดเร็ว เปลี่ยนทิศทางใหม่รีบไล่ตามมาด้านหลังของมู่ชิงเกออย่างรวดเร็ว

ตัวประหลาดตัวใหญ่ที่อยู่ในวงล้อมของตัวประหลาดตัวเล็กดูเหมือนจะสัมผัสได้ถึงความคิดของนาง มันรีบส่งเสียงร้องแหลมออกมาคำหนึ่ง เสียงร้องนี้ไม่ได้มีผลร้ายอะไรกับมู่ชิงเกอ แต่เหมือนกับกำลังสั่งการตัวประหลาดตัวเล็กที่อยู่รอบๆ กาย

และก็เป็นอย่างที่คาดคิดเมื่อเสียงของมันหลุดออกมา ตัวประหลาดตัวเล็กที่แต่เดิมรอฟังคำสั่งอยู่ที่เดิมก็ค่อยๆ เผยสีหน้าที่บ้าคลั่งออกมา แยกเขี้ยวพุ่งเข้าโจมตีมู่ชิงเกอ

เหลือตัวประหลาดตัวเล็กแค่เพียงไม่ถึงร้อยที่ยังคงคุ้มครองมันเอาไว้อย่างแน่นหนา

ส่วนตัวประหลาดตัวเล็กสองสามร้อยตัวก็พุ่งเข้ามาหามู่ชิงเกอจากรอบด้าน

ซีเซียนเสวี่ยตกใจมาก กุมกระบี่ระดับเทวะในมือแน่น แต่ว่านางยังคงจำคำพูดของมู่ชิงเกอได้ ‘เขาบอกว่าเขามีวิธีต่อกรกับตัวประหลาดเหล่านั้น’

ซีเซียนเสวี่ย พยายามข่มใจให้สงบลงมา นางไม่รู้ว่าที่มู่ชิงเกอพูดนั้นเป็นวิธีการอย่างไร แต่ก็แน่ใจว่าหากตนเองปรากฎตัวออกไปในตอนนี้ไม่เพียงแต่จะไม่ช่วยอะไร แต่ยังเป็นการเพิ่มความยากลำบากให้แก่มู่ชิงเกอ

ตัวประหลาดตัวเล็กนับร้อยพุ่งเข้ามา แต่มู่ชิงเกอกลับสงบนิ่งมาก ดวงตาของนางฉายแววอำมหิต

นางสะบัดทวนหลิงหลงในมืออย่างต่อเนื่อง สลัดตัวประหลาดตัวเล็กเหล่านั้นออกไป

ตัวประหลาดตัวเล็กเหล่านี้ยิ่งฆ่าก็ยิ่งมากขึ้น ดังนั้นนางจึงไม่ใช้ทวนหลิงหลงแทงพวกมัน

ตัวประหลาดตัวเล็กถูกทวนหลิงหลงสลัดจนตัวลอยออกไป แต่เมื่อตกลงมาแล้วมันก็รีบเข้าไปโอบล้อมตัวของมู่ชิงเกอเอาไว้ มู่ชิงเกอถูกตัวประหลาดตัวเล็กหลายร้อยตัวโอบล้อม ทำให้ยากที่จะก้าวเดินต่อ

ตัวประหลาดตัวใหญ่ยืนอยู่ตรงกลาง มองดูมู่ชิงเกอที่ถูกล้อมแล้วก็เผยรอยยิ้มได้ใจที่ดูน่าสยดสยองออกมา

ตัวประหลาดตัวเล็กไม่สามารถทำร้ายมู่ชิงเกอได้ พวกมันจึงไม่ได้พุ่งเข้าไป เพียงแต่โอบล้อมนางไว้แล้วก็ใช้การโจมตีทางจิตวิญญาณพร้อมกัน

ชั่วขนาดนั้นการโจมตีทางจิตวิญญาณก็ดูเหมือนกับเป็นลูกศรนับหมื่นพุ่งเข้าใส่มู่ชิงเกอ

โล่สีทองที่ตามมู่ชิงเกอมาโดยตลอด ลอยเข้ามาบนหัวของนางอย่างรวดเร็ว ยืดออกไปรอบด้าน พริบตาเดียวก็กลายเป็นเหมือนเกราะปราการล้อมนางเอาไว้ภายใน

การโจมตีทางจิตวิญญาณเหล่านี้ดุจดั่งเม็ดฝนตกลงบนโล่สีทอง เกิดเสียงเหมือนน้ำเดือด

มู่ชิงเกอเงยหน้าขึ้นมองก็พบว่าบนโล่สีทองเกิดรอยร้าวขึ้นมาแล้ว โล่สีทองคงต้านทานได้อีกไม่นาน

นางกุมทวนหลิงหลงแทงลงไปบนพื้นอย่างแรง สีทองในดวงตาเพิ่มความเข้มข้นขึ้น ผมสีดำของนางพลิ้วไหวขึ้นมาทั้งๆ ที่ไม่มีลม ชุดออกรบสีแดงดูโดดเด่น

ในตอนที่โล่สีทองแตกสลายกลายเป็นผงสีทองตกลงมานั้น การโจมตีทางจิตวิญญาณของเหล่าตัวประหลาดก็พุ่งเข้ามาที่นาง นางค่อยๆ ช้อนตาขึ้น นัยน์ตาสีทอง ฉายแววอำมหิต

“อง!”

เสียงหนึ่งที่ดูคล้ายกับเสียงแห่งสวรรค์ให้ความรู้สึกโบราณเก่าแก่ดังออกมาจากปากของมู่ชิงเกอ

พริบตาเดียวตรงหน้าของนางก็ปรากฎอักขระสีทองขนาดใหญ่ ทำให้พลังโจมตีทางจิตวิญญาณของตัวประหลาดตัวเล็กเหล่านั้นแตกสลายหายไปภายใต้เสียง ของมู่ชิงเกอ

ซีเซียนเสวี่ยมองไปยังมู่ชิงเกอแล้วอ้าปากค้างอย่างตกตะลึง

เสียงที่มู่ชิงเกอส่งออกมา ไม่ได้ทำให้นางรู้สึกไม่สบายแต่อย่างใดกลับให้ความรู้สึกเหมือนได้อาบเสียงแห่งเทพชนิดหนึ่งที่ช่วยขับไล่ความรู้สึกไม่สบายตัวที่นางได้รับจากการโจมตีของตัวประหลาดตัวเล็กก่อนหน้านี้ออกไป

‘นี่เป็นวิธีที่เขาพูดถึงงั้นหรือ!’ ซีเซียนเสวี่ยตะลึงมาก นางยิ่งมองก็ยิ่งไม่เข้าใจมู่ชิงเกอ ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรที่ยากสำหรับเขา ฝีมือของเขานั้นลึกลํ้าและไม่มีวัน

สิhนสุด

เสียงที่มู่ชิงเกอส่งออกมา ทำให้ตัวประหลาดตัวเล็กที่โอบล้อมรอบตัวนาง ร่างกายแข็งทื่อ การเคลื่อนไหวดูเชื่องช้าลง

นัยน์ตาของมู่ชิงเกอฉายแววอำมหิต เอ่ยปากอีกครั้ง

“มู!”

เสียงอันเก่าแก่โบราณดังขึ้นมาอีกครั้งแต่เป็นคนละเสียงกับก่อนหน้านี้

นัยน์ตาของซีเซียนเสวี่ยเกิดความตื่นตะลึง หลังจากที่มู่ชิงเกอส่งเสียงที่สองออกมาแล้วนั้น บรรดาเหล่าตัวประหลาดตัวเล็กที่ฆ่าไม่ตายเหล่านั้นก็ถูกทำลายหายไปอย่างไร้ร่องรอย

ตัวประหลาดตัวเล็กนับร้อยดูเหมือนกับถูกสกัดจุดแล้วก็ถูกพลังที่ไร้รูปบีบจนแตกสลายหายไป

ฉากนี้ดูแปลกประหลาดจนเกินไป ในสายตาของซีเซียนเสวี่ยมองเห็นเพียงแต่ร่างกายของตัวประหลาดตัวเล็กเหล่านั้นแตกสลายจนลืมที่จะครุ่นคิดอย่างละเอียด

‘เคล็ดวิชาเทวะส่วนกลางเป็นของดีจริงๆ!’ มุมปากของมู่ชิงเกอเผยรอยยิ้มออกมา แต่สีหน้ากลับดูขาวซีดไปบ้าง แสงสีทองในดวงตาก็ทึบลงไปมาก

เสียงสองเสียงเมื่อครู่เป็นพลังโจมตีที่ใช้จิตวิญญาณในการขับเคลื่อนสองในแปดชนิดของเคล็ดวิชาเทวะส่วนกลาง

ใช้จิตวิญญาณขับเคลื่อนการโจมตีนั้นทำให้สูญเสียจิตวิญญาณไปมาก อาศัยความสามารถของมู่ชิงเกอในตอนนี้สามารถส่งเสียงออกมาได้เพียงแค่สองเสียงเท่านั้น ส่วนวิธีการต่อสู้อีกหกชนิดที่เหลือจำเป็นต้องใช้จิตวิญญาณที่สูงกว่านี้ในการควบคุม

แต่สำหรับมู่ชิงเกอที่ได้ลิ้มรสความหวานของมันแล้ว แม้ว่าจะพบเห็นเพียงแค่สองชนิดก็เพียงพอที่จะดึงดูดความสนใจของนางได้แล้ว ทำให้นางเพิ่มความตั้งใจในการฝึกฝนเคล็ดวิชาเทวะส่วนกลางขึ้นไปอีก มู่ชิงเกอในตอนนี้นั้นไม่สามารถใช้จิตวิญญาณขับเคลื่อนการโจมตีได้อีกแล้ว แต่ว่าศัตรูของนางกลับไม่รู้ เลย

นางเงยหน้าขึ้นไป แสงสีทองจางๆ ในนัยน์ตาของนาง ทำให้ตัวประหลาดตัวใหญ่เผยความหวาดกลัวออกมา มันส่งเสียงสั่งการให้ตัวประหลาดตัวเล็กที่เหลือพุ่งเข้าโจมตีมู่ชิงเกอต่อ ส่วนตัวมันกำลังคิดจะหนี

“คิดจะหนีงั้นหรือ!” มู่ชิงเกอยิ้มอย่างเย็นชา

ก่อนหน้านี้นางถูกไล่ล่าจนต้องวิ่งหนีอย่างอุตลุด ตอนนี้ถึงเวลาแห่งการแก้แค้นแล้ว!

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในใจของนางยังมีความคิดบางอย่างที่ต้องการจะพิสูจน์อยู่! มู่ชิงเกอสะบัดทวนหลิงหลงในมือ ส่งพลังจิตสีทองบริสุทธิ์ออกไปสลัดบรรดาตัวประหลาดตัวเล็กที่พุ่งเข้ามาหานางให้กระเด็นลอยไปกลางอากาศ เปิดเส้นทางไปสู่ตัวประหลาดตัวใหญ่

มู่ชิงเกอเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วมาก ไปปรากฎตัวอยู่ ตรงหน้าของตัวประหลาดตัวใหญ่ก่อนที่มันจะหนีไปได้ ตัวประหลาดตัวใหญ่ทำให้ร่างกายของมู่ชิงเกอดูตัวเล็ก ผอมเพรียวไปบ้าง

แต่กลิ่นอายของมู่ชิงเกอกลับดูแข็งกล้าขึ้นเรื่อยๆ ชกเข้าไปที่ท้องของตัวประหลาดตัวใหญ่

ตัวประหลาดตัวใหญ่ถูกชกโดยไม่ทันได้ตั้งตัว เจ็บปวดจนตัวงอ ในตอนที่ก้มหัวลงมานั้น มู่ชิงเกอก็กระโดดขึ้นกลางอากาศ ใช้ทวนหลิงหลงแทงลงไปที่หัวของตัวประหลาดตัวใหญ่

ในเวลานี้เองบรรดาตัวประหลาดตัวเล็กที่เหลืออยู่ก็พุ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง ฟาดกรงเล็บเข้าแผ่นหลังของมู่ชิงเกอ

แต่มู่ชิงเกอไม่สนใจการโจมตีอย่างกะทันหันของเหล่าตัวประหลาดตัวเล็ก ในสายตาของนางมีเพียงแค่ตัวประหลาดตัวใหญ่

และในตอนที่มู่ชิงเกอใช้ทวนหลิงหลงแทงลงไปที่หัวของตัวประหลาดตัวใหญ่อย่างง่ายดายนั้นเอง บรรดาตัวประหลาดตัวเล็กเหล่านั้นก็ชะงักไปชั่วขณะ ค้างอยู่ กลางอากาศด้วยท่าทางเดิม

ตัวประหลาดตัวใหญ่เบิกตากว้างดูเหมือนไม่อยากจะเชื่อว่าตนเองจะถูกฆ่าตายไปเช่นนี้

ส่วนตัวประหลาดตัวเล็กเหล่านั้นก็เผยท่าทีที่ดูหวาดกลัวออกมา หลังจากตัวประหลาดตัวใหญ่ถูกฆ่าแล้วพวกมันก็กลายเป็นของเหลวสีเขียวตกลงมาจากกลางอากาศ

ซากศพของตัวประหลาดตัวใหญ่ตกลงบนพื้นอย่างรุนแรง ทวนหลินหลงของมู่ชิงเกอยังคงแทงอยู่ในหัวของมัน ส่วนร่างกายของมันก็แห้งเหี่ยวไปอย่างรวดเร็ว สีผิวก็เปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีเทา สุดท้ายก็กลายเป็นฝุ่นผงกองหนึ่ง

ส่วนถุงผ้าด้านหลังของมันก็ตกลงไปอีกข้าง

‘เป็นเช่นนี้จริงๆ ด้วย!’ มู่ชิงเกอมองกองฝุ่นผงสีเทากองนั้นแล้วก็เอ่ยขึ้นในใจ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version