Skip to content

พลิกปฐพี 412

ตอนที่ 412

โง่เช่นนี้อยู่ได้ไม่เกินสองตอน

“เจ้าเมืองย่อยเยี่ยนหย่าคิดมากเกินไปแล้ว ที่ข้าพูดล้วนแต่เป็นความจริง องค์ราชาปกครองทั้งแดนมาร วังหลังของเขาจะเงียบเหงาได้อย่างไร?” มู่ชิงเกอหรี่ตายิ้ม

คำพูดของมู่ชิงเกอทำให้เยี่ยนหย่าลอบดีใจขึ้นมา นางต่อว่าในใจ ‘ผู้หญิงคนนี้โง่จริงๆ พูดไปไม่กี่ประโยคก็ทำให้นางยอมทำตามจนหลงทิศทางแล้ว ยังไม่พูดเรื่องที่วังหลังขององค์ราชาก็ไม่ใช่ว่านางอยากจะเรียกใครก็เรียกได้ ยังไม่ได้แต่งงานก็แสดงตนว่าเป็นพระชายาแล้ว สิ่งนี้แหละที่จะทำให้องค์ราชารังเกียจ’

หลังจากยิ้มเยาะในใจแล้ว เยี่ยนหย่าก็ยืนขึ้น แสดงความเคารพตามพิธี “เช่นนั้นข้าก็ต้องขอขอบคุณน้องสาวล่วงหน้าแล้ว”

พูดแล้วนางก็เหมือนกับคิดอะไรขึ้นได้ นางโบกมือก็มีถาดใบหนึ่งปรากฎขึ้นในมือของนาง บนถาดมีหม้อสีดำร้อนกรุ่นวางอยู่ เมื่อสายตาของมู่ชิงเกอมองไปบนถาดแล้วก็เลิกคิ้วขึ้น ถอนหายใจในใจว่า ‘ยังมีคนกล้ามาหาที่ตายถึงที่จริงๆ โง่ขนาดนี้จะอยู่ต่อไปได้อย่างไร?’

“น้องสาว ข้าเกือบลืมไปเลย ร่างกายของน้องสาวในตอนนี้ต้องการการบำรุง ข้าจึงตั้งใจตุ๋นนํ้าแกงมาให้หาก น้องสาวไม่รังเกียจก็ดื่มเถอะ” เยี่ยนหย่าถือถาดแล้วยิ้มให้มู่ชิงเกอ

“ดีเลย ขอบคุณเจ้าเมืองย่อยเยี่ยนหย่า” มู่ชิงเกอยิ้มอย่างจริงใจ ดูเหมือนซาบซึ้งใจในความเป็นห่วงของนาง จริงๆ

เยี่ยนหย่าได้ยินประโยคนี้แล้วก็ยินดีมาก

นางถือถาดคิดจะส่งมอบให้นางกำนัลมารับไป

แต่มู่ชิงเกอกลับเอ่ยขึ้นในตอนนี้ว่า “ระยะห่างระหว่างเจ้าข้าก็ไม่ไกล รบกวนเจ้าเมืองย่อยเยี่ยนหย่ามาส่งเองเถอะ”

เยี่ยนหย่าชะงัก มองมู่ชิงเกออย่างไม่เข้าใจ เพียงแต่มองไม่เห็นอะไรผิดปกตินอกจากรอยยิ้มของนาง

เมื่อนางกำนัลได้ยินคำพูดนี้แล้วก็ถอยออกไป

ในใจของเยี่ยนหย่าเพียงแต่คิดว่ามู่ชิงเกอคิดจะถือตนเองว่าเป็นพระชายาเลยจงใจใช้งานนางถึงแม้ในใจจะไม่พอใจ แต่เมื่อคิดถึงแผนการของตนเองแล้วนางก็อด ทนยิ้มออกมา เดินไปยังข้างกายของมู่ชิงเกอ วางถาดลงเบาๆ บนโต๊ะ ทั้งยังเปิดฝาออก ชั่วขณะนั้น กลิ่นหอมสายหนึ่งก็ลอยออกมายั่วนํ้าลายคน

“หอมจริงๆ” มู่ชิงเกอสูดหายใจเข้าแล้วชมออกมา

เยี่ยนหย่าคลายความตึงเครียดลงเพราะรอยยิ้มที่ไร้การระวังตัวนี้ของนาง นางถอยหลังออกไปไม่กี่ก้าว ยิ้มและพูดว่า “หากว่าน้องสาวชอบ ข้าสามารถมาส่งให้ได้ทุกวัน จะได้เป็นเพื่อนคุยกับน้องสาวด้วย”

“หอมจริงๆ! ความหวังดีของเจ้าเมืองย่อยเยี่ยนหย่าทำให้ข้าซาบซึ้งใจยิ่งนัก” มู่ชิงเกอถือช้อนคน ค่อยๆ คนในหม้อ ปากก็พูดไป แต่น้ำเสียงกลับดูเย็นชาขึ้น

แต่เยี่ยนหย่าที่กำลังจมอยู่กับความสุขของตนเองอยู่นั้น ไม่ได้รู้สึกว่ามันแตกต่างเลยสักนิด เพียงแต่รู้สึกว่า ตนเองใช้ความสามารถเพียงเล็กน้อยก็ทำให้พระชายาผู้นี้ยอมสยบได้แล้ว นางไม่ได้กังวลใจว่ามู่ชิงเกอจะรู้ว่านางวางยาแท้งบุตรลงไปในนํ้าแกงเลย

เพระว่ายาแท้งบุตรนี้เป็นสูตรยาลับที่มารดาของนางเหลือเอาไว้ให้นาง ไร้สีไร้กลิ่น คนธรรมดาสัมผัสไม่ได้ อีกทั้งหลังจากดื่มลงไปแล้วก็จะไม่แท้งลูกในทันที แต่ พิษจะแอบซ่อนอยู่ในร่างกายจนถึงสามเดือนแล้วถึงจะออกฤทธิ์

ถึงตอนนั้นเมื่อไม่มีลูกแล้ว ทุกคนก็จะโทษว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ระมัดระวังตนเอง ไม่มีความสามารถจะปกป้องลูกในท้องได้ ใครจะมาสงสัยถึงนาง?

นัยน์ตาของเยี่ยนหย่าฉายแววได้ใจ

เพียงแค่นางมองเห็นมู่ชิงเกอดื่มน้ำแกงนี้ลงไปแล้ว ทุกอย่างก็แน่นอนแล้ว

“ทหาร” ทันใดนั้นเสียงช้อนตกพื้นก็ทำใท้เยี่ยนหย่าตื่นขึ้นจากฝัน นางยังไม่ทันได้รับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ก็ได้ยินเสียงอันเย็นชาของมู่ชิงเกอดังขึ้นที่ข้างหูแล้ว กู่หยาและกู่เย่ที่เฝ้าอยู่ด้านนอกมานาน ก็พุ่งเข้ามาทันทีที่ได้ยินเสียงเรียก

ไม่เพียงเท่านี้ เขายังพาองครักษ์มารสิบนายเข้ามาด้วย

เสียงชุดเกราะทำให้เยี่ยนหย่าได้สติขึ้น

นางมองไปยังมู่ชิงเกออย่างไม่เข้าใจ กลับพบว่าพระชายาที่ยิ้มให้นางอย่างอ่อนโยนมาเสมอ กลับไม่มีรอยยิ้มเลย เหลือไว้แต่ความเย็นชา ในใจของนางรู้สึกไม่ดี ลุกขึ้นมาจากเก้าอี้ มองไปยังมู่ชิงเกออย่างระมัดระวัง

มู่ชิงเกอกลับมองนางอย่างเย็นชา ค่อยๆ เอ่ยปากขึ้นว่า “เจ้าเมืองย่อยเยี่ยนหย่า ข้าอุตส่าห์เห็นแก่ความรักที่เจ้ามีต่อองค์ราชา รับปากจะให้เจ้าเข้าวังแล้ว แต่เจ้ากลับ คิดร้ายต่อทายาทองค์ราชา ช่างทำให้ข้าผิดหวังจริงๆ”

สีหน้าของเยี่ยนหย่าเปลี่ยนไป นางตะโกนว่า “เจ้าพูดอะไร! เจ้าคิดจะใส่ร้ายข้าหรือ?”

“ใส่ร้ายเจ้า?” มู่ชิงเกอยิ้มเยาะ นางชี้ไปยังนํ้าแกงแล้ว พูดกับเยี่ยนหย่าว่า “นํ้าแกงนี้เจ้าส่งมาเองนี่? ตั้งแต่ต้นก็ไม่มีใครเคยสัมผัสมันมาก่อน”

เยี่ยนหย่าเบิกตากว้าง มองมู่ชิงเกออย่างไม่อยากจะเชื่อ นางไม่ยอมรับในใจว่า ‘ไม่! เป็นไปไม่ได้! นางรู้ได้อย่างไร! ไม่มีทางรู้มาก่อนแน่! เรื่องนี้นางไม่ได้บอกใครมาก่อน!’

มู่ชิงเกอส่ายหน้าอย่างผิดหวัง เอ่ยกับกู่หยาว่า “ไปเชิญหมอหลวงแล้วก็บรรดาเจ้าเมืองย่อยมา เรื่องนี้พูดให้ชัดเจนต่อหน้าพวกเขาจะดีกว่า”

กู่หยาถอยออกไปอย่างไม่ลังเล ไปตามคนที่มู่ชิงเกอต้องการมาโดยเร็วที่สุด

“เจ้าคิดจะทำอะไร?” เยี่ยนหย่าตะโกนออกไปอย่างหวาดกลัว

มู่ชิงเกอมองนางอย่างเย็นชา “หากพูดว่าข้าใส่ร้ายเจ้า ทำร้ายเจ้า ข้าเองก็มีศักดิ์ศรี ไม่อาจยอมให้มีคำติฉินนินทาเกิดขึ้นได้ในเมื่อเจ้าบอกว่าข้าใส่ร้ายเจ้า เช่นนั้นก็ เชิญบรรดาเจ้าเมืองย่อยมาแล้วพูดกันต่อหน้าพวกเขาเถอะ”

สีหน้าของเยี่ยนหย่าซีดขาว ร่างกายสั่นสะท้านขึ้นมา

ส่วนมู่ชิงเกอก็ยังคงเอนตัวอยู่บนเก้าอี้อย่างผ่อนคลาย แกล้งลูบท้องน้อยๆ ของตนเอง ท่าทางดูเหมือนกับคนท้องไม่มีผิด

กู่หยาไม่ได้ทำให้มู่ชิงเกอและเยี่ยนหย่ารอนาน พาคนที่สมควรมากลับมาด้วย

นอกจากหมอหลวงในพระราชวังไท่ฮวง ยังมีหลิงจิว จี่ฝู ชิงเจ๋อ ชิงเหยียน สั่วเซิ่ง เซ่อฉิน ซู่เหยียนและซูเฉวียนมาด้วย เมื่อคนกลุ่มนี้เข้ามาในวังซานไห่แล้วก็ต้องตกตะลึงกับฉากในตำหนัก

สั่วเซิ่งขมวดคิ้วขึ้น พูดด้วยท่าทีรำคาญว่า “พระชายา ท่านเรียกพวกเรามาอย่างเร่งด่วนเช่นนี้ เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

ท่าทางของเขาไม่มีความเคารพเลยแม้แต่น้อย

แต่มู่ชิงเกอก็ไม่ได้ใส่ใจ เพียงแต่ยิ้มบางๆ ว่า “มีเรื่องเกิดขึ้นจริงๆ เดิมทีก็ไม่ควรจะรบกวนไปถึงเจ้าเมืองย่อยทั้งหลาย เพียงแต่ว่าสถานะของคนในเรื่องนี้นั้นพิเศษ ข้าจึงต้องเรียกให้ทุกท่านมาเป็นพยาน”

“เอ? เจ้าเมืองย่อยเยี่ยนหย่าก็อยู่ที่นี่ เรื่องนี้คงไม่ใช่ว่าเกี่ยวกับเจ้าหรอกนะ?” ถึงแม้ว่าหลิงจึวจะไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่เมื่อมองเห็นเยี่ยนหย่ามีท่าทีอึดอัดแล้วจึงพูดออกไป

ใครจะรู้ว่าคำพูดนี้ของเขาจะทำให้เยี่ยนหย่าสั่นสะท้านขึ้นมา

ส่วนมู่ชิงเกอก็เอ่ยปากว่า “เจ้าเมืองย่อยหลิงจิวมีสายตาเฉียบคมจริงๆ ดูออกได้เร็วถึงขนาดนี้”

เกี่ยวกับผู้หญิงคนนี้จริงๆ!

นัยน์ตาของหลิงจิวหดตัวลง ยิ้มให้มู่ชิงเกอ

ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น เช่นนั้นก็นิ่งเงียบรอดูละครดีกว่า

ตอนที่มากู่หยาก็ไม่ได้ส่งสัญญาณลับอะไรให้พวกเขา เพียงแต่พูดว่าไปดูละคร

เช่นนั้นก็ดี พวกเขาก็จะดูละครอย่างสงบ ดูสิว่าพระชายาของพวกเขาคิดจะเล่นอะไร

“เยี่ยนหย่า? เกี่ยวกับเจ้าหรือ?” สั่วเซิ่งมองไปที่เยี่ยนหย่า ขมวดคิ้วดังเดิม

“หมอหลวงเฒ่า รบกวนท่านเข้ามาตรวจนํ้าแกงนี้หน่อย ว่ามีของอะไรที่ไม่สมควรมีอยู่หรือไม่ จะต้องตรวจให้ละเอียดเล่า อย่าได้ใส่ความคนดี” มู่ชิงเกอเอ่ยปากขึ้น ทำให้ภายในตำหนักเงียบลง

หมอหลวงชราเดินเข้ามาตามคำสั่ง

เยี่ยนหย่าจับจ้อง มองหมอหลวงเฒ่า ในใจภาวนาไม่หยุดว่า ‘หาไม่เจอ!

หาไม่เจอ! จะต้องหาไม่เจอ!’

เพียงแค่หาอะไรออกมาไม่ได้ วันนี้นางก็จะกลายเป็นผู้ชนะ ทำให้ผู้หญิงสารเลวคนนี้ได้ลิ้มรสความร้ายกาจของนาง!

หมอหลวงเฒ่าเดินไปถึงหน้าโต๊ะแล้วก็ตรวจสอบอย่างละเอียด

เขาคนนํ้าแกงก้มลงดมกลิ่น แล้วก็เทนํ้าแกงออกมาตรวจสอบอย่างละเอียด ใช้เวลาไปไม่น้อย แต่ก็เหมือนจะหาอะไรออกมาไม่ได้

ความตึงเครียดในใจของเยี่ยนหย่าค่อยๆ ผ่อนคลายลง รอยยิ้มที่หายไปค่อยๆ โผล่ขึ้นมาอีกครั้ง

แต่หมอหลวงเฒ่าก็ไม่ได้ยอมแพ้ล้วงถุงผงยาสีชมพูออกมาจากอกแล้วเทลงไปในคราบนํ้าแกง

ทันใดนั้น ผงสีชมพูก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นโปร่งแสงตามมา พร้อมกับไอสีดำลอยขึ้นมาจากคราบนํ้าแกง ชั่วขณะนั้นหมอหลวงเฒ่าก็ตกตะลึงหน้าถอดสีรีบเอ่ยกับมู่ชิงเกอว่า “รายงานพระชายา นี่…ในนํ้าแกงนี้มีคนวางยาแท้งบุตร!”

“อะไรนะ!” หลิงจิวหรี่ตาเล็กลง เขามารอดูละคร แต่ไม่คิดว่าจะได้ยินถึงประโยคนี้ เขาเบิกตากว้าง ดวงตาฉายแววอำมหิต

จี่ฝูมองไปยังเยี่ยนหย่าแล้วพูดเรียบๆ ขึ้นว่า “มีคนกล้าลอบทำร้ายทายาทขององค์ราชางั้นหรือ?”

ชิงเหยียนก็มองเยี่ยนหย่าแล้วยิ้มเยาะออกมา ความหมายในรอยยิ้มนั้นไม่ต้องก็รู้ดี “นํ้าแกงนี้ เจ้าเมืองย่อยเยี่ยนหย่าส่งมางั้นหรือ?” ชิงเจ๋อ พูดไปประโยคหนึ่ง ถึงแม้จะเป็นคำถามแต่ทุกคนล้วนรู้คำตอบดี

พวกสั่วเซิ่งสี่คนไม่ได้สนิทกับเยี่ยนหย่า ตอนนี้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นแล้วพวกเขาก็ยิ่งต้องปกป้องตนเอง มิเช่นนั้นอาจจะถูกลากเข้าไปเกี่ยวข้องจนได้รับโทษไปด้วย ใครจะไปเสนอหน้ารับความผิดไว้เองเล่า?

ทั้งสี่คนมองตากันครู่หนึ่ง ซูเฉวียนก็ตะคอกออกมาว่า “เยี่ยนหย่า เจ้ากล้าดีมากนะ!”

“ไม่! ไม่ใช่ข้านะ!” เยี่ยนหย่าแก้ตัวด้วยสีหน้าซีดขาว ภายใต้ความร้อนใจนางก็ชี้ไปหามู่ชิงเกอ “เป็นนาง! นางใส่ร้ายข้า!”

“ใส่ร้ายเจ้า?” มู่ชิงเกอยิ้มเยาะ “เหตุใดข้าต้องใส่ร้ายเจ้าด้วย? ในนํ้าแกงนี้ไม่มียาพิษหรือจะพูดว่าข้าวางยาพิษเองงั้นหรือ? ใส่ร้ายเจ้าแล้วข้าจะได้ประโยชน์อะไร?”

เยียนหย่าถูกคำถามของมู่ชิงเกอทำให้ชะงักไป

หมอหลวงเฒ่ากลับไม่พอใจแล้ว เขามองเยี่ยนหย่าแล้วก็พูดว่า “เจ้าเมืองย่อยเยี่ยนหย่า ตัวข้านั้นอยู่ในวงการแพทย์มานับหมื่นปี ไม่เคยพูดโกหก ในน้ำแกงนี้มียาแท้งบุตรจริงๆ อีกทั้งยานี้ยังมีความพิเศษมาก หลังจากใช้มันแล้วจะไม่ส่งผลในทันที รอจนถึงสามเดือนแล้วถึงจะออกฤทธิ์ เด็กในครรภ์จะกลายเป็นนํ้าเลือดไหลออกมา ส่วนยาแท้งบุตรนี้ข้าเคยเห็นมาก่อนและสถานที่ที่ข้าพบเห็นก็คือในจวนของท่าน ในครั้งนั้นนางเล็กๆ จำนวนไม่น้อยของบิดาท่านล้วนแต่แท้งลูก ซึ่งก็เกิดจากยาแท้งบุตรนี้!”

‘ไอหยา! ที่แท้เบื้องหลังของการขึ้นครองตำแหน่งของเจ้าเมืองย่อยหญิงผู้นี้ก็ยังมีความลับเช่นนั้นซ่อนอยู่!’ มู่ชิงเกอได้ยินแล้วก็เลิกคิ้วขึ้น เหลือบมองไปยังหมอหลวงเฒ่าแวบหนึ่ง ลอบพูดในใจว่า ‘พูดกันว่าคนในวงการแพทย์รู้เรื่องสกปรกที่ซ่อนอยู่ในบ้านมากที่สุด’

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!