Skip to content

พลิกปฐพี 440

ตอนที่ 440

ทำเรื่องนี้ไม่เจ็บ

“เจ้าจะพาข้าไปไหน?” มู่ชิงเกอถูกซือมั่วลากเดินไปในตำหนักจื่อเฉินอย่างรวด เร็ว

อาศัยรูปร่างสูงเพรียวของนางยังต้องวิ่งเล็กน้อยเพื่อตามความเร็วของชายคนนั้น ท่าทางที่เร่งรีบเช่นนี้ทำให้นางรู้สึกแปลกใจ

แต่ซือมั่วกลับไม่พูดอะไร เพียงแต่จับมือนางแล้วเพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อยๆ

“องค์ราชา!”

“องค์ราชา!”

นางกำนัลและองครักษ์มารตามทางพากันคุกเข่าลงกับพื้น ซือมั่วแผ่พลังออกไปทิ่มแทงตัวพวกเขา ทำให้ผิวหนังของพวกเขาเจ็บจนต้องกลั้นลมหายใจ ไม่กล้า หายใจเสียงดัง

“นี่…”

มู่ชิงเกออดพูดอีกไม่ได้

เพียงนางเอ่ยปาก ทั้งตัวก็ถูกหิ้วขึ้นมา ถูกซือมั่วโอบเข้าไว้ในอ้อมอก

มู่ชิงเกอตะลึง เงยหน้ามองเขา

“เจ้าเดินช้าเกินไป” ซือมั่วเอ่ย

“…” มู่ชิงเกอบ่นในใจว่า ‘เจ้าเดินเร็วเกินไปต่างหาก!’

แต่ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาจะไล่เอาความเรื่องนี้ แต่เป็น…

“รอเดี๋ยว เจ้าจะพาข้าไปไหนกันแน่?” มู่ชิงเกอเอ่ยถาม

ซือมั่วหลุบตาลงมองผู้หญิงในอ้อมอก นัยน์ตาสีดำค่อยๆ ลึกลํ้าขึ้นมา ดวงตาแวววาวเหมือนทะเลแห่งดวงดาว

มู่ชิงเกอมองเขาอย่างตกตะลึง นางคิดมาตลอดว่าซือมั่วนั้นดูดีมาก

แต่ซือมั่วในตอนนี้กลับต่างไปจากปกติ ดูเหมือนจะมีเสน่ห์และป่าเถื่อนมากขึ้น

เสน่ห์ดึงดูดแผ่ออกมาจากร่างกายของเขา ทำให้ตัวเขาเหมือนกับ…มี…

มู่ชิงเกอมองเขา ดวงตาสะท้อนเงาร่างของเขา หัวใจของนางเต้นเร็วขึ้น ความสงสัยก่อนหน้านี้ก็ถูกความงดงามตรงหน้าพุ่งชน

มู่ชิงเกอมองดูซือมั่วแล้วก็รู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมา

‘ร่างกายของเขาแผ่…ฮอร์โมนเพศชายออกมา…’ มู่ชิงเกอมองซือมั่วอย่างตกตะลึง ในที่สุดก็หาคำที่เหมาะสมมาอธิบายได้

ผู้หญิงในอ้อมอกเงียบลงไปอย่างกะทันหันทำให้ซือมั่วเร่งความเร็วขึ้นอีก เขาพามู่ชิงเกอเข้าไปในห้องบรรทมในตำหนักจื่อเฉิน ประตูสูงใหญ่เปิดออกเอง ซือมั่วโอบมู่ชิงเกอเข้าไป ในที่สุดปลายชุดคลุมที่ปลิวพลิ้วขึ้นก็ตกลง

ปัง!

ประตูใหญ่ปิดลงเอง ขวางกั้นโลกภายนอกเอาไว้

เสียงปิดประตูทำให้มู่ชิงเกอได้สติตื่นขึ้นมา นัยน์ตาของนางฉายแววสับสนวุ่นวาย ขืนตัวอยู่ในอ้อมอกของซือมั่ว “นี่ เจ้าจะทำอะไร? ทำไมถึงพาข้ามาที่นี่? หากว่าเจ้าคิดจะพักผ่อน ข้าจะไม่รบกวนเจ้า”

เพียงแต่นางยิ่งขัดขืนสองมือของซือมั่วยิ่งโอบแน่นขึ้น เขาพามู่ชิงเกอไปที่เตียงขนาดใหญ่แล้ววางนางลงไปบนผ้าปูเตียงกำมะหยี่สีดำหนานุ่มอย่างอ่อนโยน

ผ้ากำมะหยี่อ่อนนุ่มอบอุ่นมาก มู่ชิงเกอรู้สึกเหมือนตนเองตกลงไปในก้อนเมฆ นางยังไม่ทันได้ตั้งตัว เงาร่างสีดำสายหนึ่งก็กดทับลงมา กังขังนางเอาไว้ทำให้หนีไปไหนไม่ได้

มู่ชิงเกอยันสองมือเอาไว้กับอกของเขา พูดอย่างตกตะลึงว่า “เจ้าคิดจะทำอะไร?” หลังจากพูดจบแล้ว นางก็ด่าตนเองในใจว่า ฉากนี้แสดงถึงอะไรยังจะถามอีก? ช่างโง่จริงๆ!

คำถามนี้ทำให้นัยน์ตาของซือมั่วเปลี่ยนเป็นขุ่นมัว เต็มไปด้วยเสน่ห์ดึงดูด เขาถามด้วยนํ้าเสียงแหบพร่าว่า “เสี่ยวเกอเอ๋อร์คิดว่าข้าจะสามารถทำอะไรได้?”

แค่ก แค่ก…

มู่ชิงเกอหลบสายตา นางรู้ดีอยู่แล้วว่าผู้ชายคนนี้จะทำอะไร หากไม่รู้ก็โง่แล้ว

“อา เรื่องนั้น บาดแผลของเจ้ายังไม่หาย ห้ามใช้แรงมากเกินไป” มู่ชิงเกอหลบสายตาเอ่ยออกมา

นางลืมได้อย่างไรว่าถึงผู้ชายคนนี้จะลืมเรื่องราวที่เกี่ยวกับนางไป แต่นับตั้งแต่ที่เห็นหน้ากันครั้งแรกก็อยากจะกลืนนางไปทั้งตัวแล้ว

สามารถอดทนมาจนถึงวันนี้ได้ก็ถือว่ามีความอดทนสูงมากแล้ว

มู่ชิงเกอไม่ตำหนิซือมั่ว แต่เป็นห่วงร่างกายของเขา

“ไม่ต้องห่วง” ซือมั่วเอ่ย

“…” มู่ชิงเกอมองเขาอย่างไร้คำจะเอ่ยต่อ กัดฟันพูดออกไปว่า “ร่างกายของเจ้าในตอนนี้เจ็บปวดไปหมด ยังจะมีกะจิตกะใจคิดเรื่องเหล่านี้อีก? ตอนนี้เจ้าต้องพักผ่อนรักษาตัว”

“การทำเรื่องนี้ สามารถห้ามความเจ็บปวดได้” ซือมั่วพูดอย่างจริงจัง ยื่นศีรษะไปที่บริเวณซอกคอของมู่ชิงเกอ แล้วหลับตาดอมดมกลิ่นอายบนตัวของนาง

กลิ่นนี้ทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายและสบายใจ

เขาไม่เคยรู้สึกเช่นนี้มาก่อน ความรู้สึกเช่นนี้ทำให้เขาเสพติด ขาดไม่ได้ ทำให้เขาต้องการอยู่ตลอดเวลา

มือใหญ่เริ่มซุกซนขึ้นมา ไต่ตอมไปตามร่างกายของมู่ชิงเกอ

ลมหายใจของเขาบนคอของนางเริ่มกระชั้นชิดขึ้น

“เจ้า…” คำตอบที่ไร้ยางอายของเขาทำให้มู่ชิงเกออาย แต่ดูเหมือนนางจะได้รับอิทธิพลจากลมหายใจของเขา ทำให้ร่างกายของนางร้อนรุ่มและไร้เรี่ยวแรงขึ้น มา

“เสี่ยวเกอเอ๋อร์…” ซือมั่วพึมพำ ค้นหาริมฝีปากของนางแล้วจูบลงไป

เขาจูบอย่างละเอียดอ่อนอบอุ่นเป็นพิเศษ

ริม’ฝีปากและลมหายใจเกี่ยวพันกัน สองมือของมู่ชิงเกอถูกเขาครอบครองเอาไว้อย่างเผด็จการ นิ้วทั้งสิบพันเกี่ยวกัน ทำให้นางไม่อาจขัดขืนได้

“เสี่ยวเกอเอ๋อร์ข้าต้องการเจ้า…” ริมฝีปากของซือมั่ว ไม่เต็มใจจะปล่อยกลิ่นหอมที่น่าหลงใหลไป เพียงแต่แทรกคำพูดที่ไม่อาจจะปฏิเสธได้ออกมาจากไรฟัน

เสียงอ้อนวอนของเขาทำให้หัวใจของมู่ชิงเกออ่อนยวบ นางละทิ้งความขัดขืนในใจ ‘เอาเถอะ ตามใจเขาแล้วกัน’

เสื้อผ้าถูกนิ้วมืออันลื่นไหลของเขาคลายออก มือใหญ่แนบลงมายังผิวอ่อนนุ่มที่ไร้อาภรณ์ สัมผัสที่มือแทบจะทำให้ซือมั่วทนไม่ไหว

นัยน์ตาของซือมั่วเปลี่ยนเป็นมืดทึบลง ความปรารถนาที่ถูกควบคุมมาเป็นเวลานานระเบิดออกมาในตอนนี้

ซือมั่วอดทนไม่ได้อีกต่อไป เขาสะบัดมือทำให้เสื้อผ้าของทั้งสองคนกลายเป็นชิ้นๆ ปลิวลอยออกไป

ความเย็นบนผิวทำให้มู่ชิงเกอได้สติขึ้นมา

แต่นางยังไม่ทันได้สติอย่างสมบูรณ์ เรือนร่างของซือมั่วก็กดทับลงมา โอบล้อมนางเอาไว้ ร่างกายที่สมบูรณ์แบบสะท้อนอยู่ในดวงตา

นัยน์ตาของซือมั่วมีเปลวไฟลุกโชน ความเจ็บปวดที่มีในร่างกายเหมือนค่อยๆ จางหายไป ทำให้เขาลืมมันไปจนหมด ตอนนี้ในหัวของเขาเหลือเพียงแต่ความคิดเดียว นั่นคือการครอบครอง!

ครอบครองนางโดยสมบูรณ์!

ผ้าม่านบนเตียงค่อยๆ ตกลงมาปิดบังฉากบนผ้าปูเตียงกำมะหยี่

ซือมั่วและมู่ชิงเกอส่งเสียงครวญครางดังสะท้อนอยู่ภายในห้องบรรทมอย่างยาวนาน

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน มู่ชิงเกอลืมตาฟื้นคืนสติขึ้นมาจากความเหนื่อยล้า ความรู้สึกปวดกระดูกทำให้นางอดสูดหายใจเข้าลึกๆ ไม่ได้ จ้องมองไปยังซือมั่วที่หลับอยู่ข้างกาย

เขาทรมานนางจนสะบักสะบอมจริงๆ

หากไม่ใช่ว่าร่างกายของนางมีพลังฟื้นฟูที่ยอดเยี่ยม เกรงว่าคงต้องสลบไปไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งถึงจะเติมเต็มความต้องการของผู้ชายคนนี้ได้!

“น่าตายนัก เจ้าอดอยากมานานแค่ไหนกัน?” มู่ชิงเกออดด่าออกมาไม่ได้

ภายใต้ผ้ากำมะหยี่ในตอนนี้ มือของเขายังคงโอบกอดอยู่บนตัวของนาง แขนหนึ่งหนุนอยู่ที่คอโอบไหล่ของนาง อีกแขนวางอยู่บนเอวของนาง ส่วนมือใหญ่ก็ทาบ บนท้องของนาง

นางหันมองไปยังขนตางอนยาวดุจพัดของเขา เขาหลับอย่างสบายใจ ลมหายใจสม่ำเสมอ นางพยายามยกมือที่วางอยู่บนเอวของตนเองออกอย่างระมัดระวัง พลิกมือใหญ่แล้วก็ตรวจชีพจรให้เขา

เมื่อพบว่าไม่มีอะไรผิดปกติแล้วนางถึงได้ถอนหายใจ

ทันใดนั้นมือใหญ่ที่อยู่ในมือของนางก็พลิกกลับมาโอบที่เอวของนางใหม่ ซือมั่วที่กำลังหลับลึกขยับเบาๆ แนบร่างกับร่างนางแน่นกว่าเดิม

ร่างกายของมู่ชิงเกอแข็งทื่อขึ้นมา ไม่กล้าหายใจเสียงดัง นางกลัวว่าหากซือมั่วตื่นขึ้นมาแล้วจะไม่สนใจร่างกายของตนเอง…แค่ก…หักโหมหนักจนเกินไป ดีที่เขาเพียงแต่ขยับเล็กน้อยเท่านั้น นอกจากที่โอบกายนางแน่นขึ้นแล้วก็สงบนิ่งลงอีกครั้ง นี่ทำให้มู่ชิงเกอถอนหายใจออกมา แต่เพียงพริบตาเดียว แผ่นหลังของนางก็แข็งทื่อขึ้นอีกครั้ง หันไปมองซือมั่ว

ความรู้สึกเสียดสีจากช่วงเอวและการเปลี่ยนแปลงของผู้ชาย ทำให้นางรู้สึกอับอายและโมโหขึ้นมา

‘น่าตายนัก เจ้าบ้านี่แกล้งหลับ!’ มู่ชิงเกอแค้นจนอยากจะกัดเขา

นางกำลังคิดจะจากไปก็ถูกมือใหญ่ออกแรงลากนางกลับมาแนบชิดอีกครั้ง

ซือมั่วอิงแอบอยู่กับใบหน้าของมู่ชิงเกอ กระซิบที่ข้างหูนางว่า “เสี่ยวเกอเอ๋อร์ข้าหิวแล้ว…”

มู่ชิงเกอคว้าจับมือใหญ่ที่อยู่ตรงเอวของตนเอง พูดอย่างไม่พอใจว่า “หิวก็รีบลุกไปหาอะไรกินสิ!”

ประโยคนี้ทำให้นัยน์ตาของซือมั่วฉายแววยินดี เขาพลิกร่างกลับในทันที ปัดป้องการขัดขืนของมู่ชิงเกอ ผมสีดำตกลงมาปิดบังใบหน้าที่ทั้งเอียงอายและโมโหของมู่ชิงเกอเอาไว้

“รับคำสั่ง” ซือมั่วยิ้มบางๆ ดวงตาปิดบังความดีใจไว้ไม่มิด จูบมู่ชิงเกอ

เขาพบว่าเขากินนางเท่าไหร่ก็ไม่รู้จักพอ!

มู่ชิงเกอเบิกตากว้างมองซือมั่วที่เข้ามาใกล้ รู้สึกทั้งอับอายทั้งโมโห

ปัง!

ทันใดนั้นซือมั่วก็คว้าได้แต่ความว่างเปล่า มู่ชิงเกอที่อยู่ในอ้อมกอดเขาหายไปอย่างไร้ร่องรอย

สิ่งนี้ทำให้เสน่ห์ดึงดูดในดวงตาของเขาหายไป กลับคืนสู่ความเย็นชา “เสี่ยวเกอเอ๋อร์!”

มู่ชิงเกอหลบอยู่ในช่องว่าง สูดลมหายใจเข้าลึกๆ แค้นใจในความไม่เอาไหนของตนเองที่ต้องหลบหนีเข้ามาในช่องว่างอย่างทุลักทุเลเพียงเพราะพบเจอเรื่องราว ระหว่างชายหญิง

“หากไม่อาจกู้หน้ากลับคืนมา ข้าคงจะเสียชื่อผู้กล้าไปอย่างแน่นอน!” มู่ชิงเกอส่ายหน้าพูดอย่างมั่นใจ

เมื่อคิดแล้วนางก็ล้างตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่

ทันใดนั้นนางก็คิดขึ้นมาได้

ซือมั่วในตอนนี้ลืมเรื่องเมื่อก่อนไปหมดแล้ว และคงไม่รู้เรื่องที่นางมีช่องว่าง นางหายตัวมาอย่างกะทันหันเช่นนี้ ไม่รู้ว่าเขาจะเป็นอย่างไรบ้าง ความคิดนี้ทำให้ท่าทีของมู่ชิงเกอเปลี่ยนไป นางรีบออกไปจากช่องว่างทันที

เพียงแค่ออกมาจากช่องว่างนางก็กลับมายืนอยู่ในห้องบรรทมอีกครั้งและรับรู้ได้ถึงความหนาวเย็นเสียดกระดูก

นางยังไม่ทันได้มองว่ากลุ่มคนที่คุกเข่าอยู่เต็มพื้นนั้นเป็นใคร ก็มีแขนยาวข้างหนึ่งยื่นมาจากด้านหลังของนาง โอบกุมเอวนางและลากนางเข้าไปในอ้อมอกแล้ว

“เสี่ยวเกอเอ๋อร์อย่าทำให้ข้ากลัว!” เสียงน่าฟังสั่นสะท้านเล็กน้อยดังขึ้นที่ข้างหูของนาง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!