ตอนที่ 480
ตัวประหลาดอะไร!
“คนอื่นๆ ล่ะ?” ระดับสีทองคนนั้นเอ่ยถามเสียงดัง
แต่จะมีใครสามารถตอบเขาได้?
ระดับสีเงินคนหนึ่งพูดอย่างหวาดกลัวว่า “ด้านในมีเส้นทางมากมายเกินไป พวกเราแยกออกจากกันไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายก็เหลือเพียงแค่คนเดียว”
“บางที…บางทีอาจจะถูกซุ่มโจมตี?” ระดับสีเงินอีกคนพูดขึ้นมา
แต่เดิมนี่ก็เป็นความจริงของเรื่องราว แต่ว่า…
“เป็นไปไม่ได้!” คนระดับสีทองคนนั้นปฏิเสธ
เพียงแค่เขาออกเสียงคนอื่นๆ ก็เงียบไปไม่กล้าพูดอะไรอีก
ระดับสีทองเอ่ยว่า “หากพวกเจ้าพบเจอกับการลอบโจมตีก็ถือว่าแล้วไป แต่อย่าลืมล่ะว่ายังมีระดับสีทองอีกห้าคน พวกเจ้าคิดว่าระดับสีทองชั้นหนึ่งแค่คนเดียวจะสามารถฆ่าคนที่แข็งแกร่งกว่าเขาได้โดยไม่มีเสียงอะไรงั้นหรือ? หรือจะบอกว่าหลังจากพวกเขาพบเจอกันแล้วต่อสู้กันจะไม่มีแม้แต่โอกาสส่งสัญญาณอะไรเลยหรือ?”
นี่…ดูเหมือนว่าจะมีเหตุผล…
ระดับสีเงินยี่สิบกว่าคนมองหน้ากันและก็เห็นด้วยกับความเป็นไปได้นี้
มู่ชิงเกอหลบซ่อนอยู่ในที่ลับ ลบการมีอยู่ของตนเองให้อยู่ในจุดต่ำที่สุด เมื่อฟังคำวิเคราะห์ของคนระดับสีทองคนนั้นแล้วก็รู้สึกขบขัน
แน่นอนเพราะพวกเขาไม่รู้ว่านางยังมีปืนไรเฟิลอยู่ในมือ ดังนั้นการคาดเดาเช่นนี้ก็ไม่ถือว่าผิด
ระดับสีทองนิ่งเงียบไปสักครู่ถึงได้พูดอย่างเคร่งขรึมว่า “ดูจากท่าทีแล้ว พวกเราอาจจะพบเจอกับอันตรายอื่นๆ ภายในถํ้า ภายในนี้มีอันตรายมากมาย พวกเจ้าตามข้ามาไม่ต้องเดินแยกกันแล้ว”
“ไม่…ไม่สู้พวกเรากลับไปกันเถอะ?” มีคนเสนอความคิดเห็นด้วยนํ้าเสียงที่สั่นเทา แม้แต่ผู้แข็งแกร่งระดับสีทองก็ยังต้องตายไปอย่างไม่รู้ตัว แล้วพวกเขาเหล่านี้จะหนีพ้นงั้นหรือ?
“กลับ? จะกลับอย่างไร? เจ้าจำทางมาได้งั้นหรือ?” คนระดับสีทองหัวเราะเยาะ
หลังจากที่ทุกคนเงียบไปแล้ว เขาถึงเอ่ยว่า “เมื่อได้เข้ามาแล้ว พวกเราก็ทำได้แต่เดินต่อไป หากโชคดีก็จะสามารถหาทางออกเจอ หากโชคไม่ดีก็ต้องแก่และตายที่นี่”
คำพูดของเขาทำให้บรรยากาศเปลี่ยนเป็นน่ากลัว
“น่าตายนัก! ล้วนแต่เป็นเจ้านั่นที่ทำให้เรื่องมันแย่ลง!” คนระดับสีทองชกหมัดเข้ากับกำแพงด้านข้าง ทำให้เศษหินตกลงมา ส่งเสียงสะท้อนดังไปทั่วทั้งถํ้า
เสียงสะท้อนนี้ดำดิ่งเข้าไปสู่ใต้ดินปลุกให้สิ่งมีชีวิตบางอย่างตื่นขึ้นมา
หนวดของมันเบียดเต็มไปทั่วถํ้า ในตอนที่มีเสียงสะท้อนมานั้น มันก็ขยับเล็กน้อยแล้วก็ยื่นออกไปตามรูของถํ้า
“รอให้ข้าหาเขาพบ จะต้องสับเขาให้เป็นหมื่นๆ ชิ้น!” คนระดับสีทองพูดอย่างโมโห สิ่งที่เขาคิดก็คือ หากว่ามู่ชิงเกอไม่กระโดดลงมาในถํ้า พวกเขาก็ไม่ต้องถูกบังคับให้กระโดดลงมาตาม ทำให้ต้องมาตกอยู่ในเขาวงกตที่ไม่รู้ว่าจะรอดออกไปได้หรือไม่แบบนี้
มู่ชิงเกอหัวเราะเยาะในใจ
คนเหล่านี้ช่างน่าสนใจจริงๆ เห็นได้ชัดว่าเพราะเขาไล่ตามนางมาไม่ยอมถอยทำให้นางจำเป็นต้องกระโดดเข้ามาในถํ้า ตอนนี้กลับเปลี่ยนเป็นนางที่ทำไม่ถูกต้องแล้ว
‘บางทีข้าควรจะเปลี่ยนแผนเล็กน้อย จับคนเป็นๆ สักคนมาสอบถาม เช่นนั้นไม่แน่ว่าอาจจะลดความวุ่นวายลงได้ไม่น้อย’ มู่ชิงเกอคิดอยู่ในใจ
ในตอนที่มู่ชิงเกอคิดจะจับคนเป็นๆ นั้น ก็มีเสียงบางอย่างดังออกมาจากทางแยกสายหนึ่ง
เสียงนี้ดูแปลกประหลาดมาก ไม่เหมือนเสียงคนกำลังเดิน แต่ดูเหมือนของบางอย่างกำลังคืบคลานมากับพื้นมากกว่า
มู่ชิงเกอได้ยินแล้ว ระดับสีทองก็ได้ยินเช่นเดียวกัน
“เสียงอะไรกัน?! เป็นใครอยู่ที่นั้น?” ระดับสีทองคนนั้นตะโกนออกไป
แต่กลับไม่มีคนตอบ มีแต่เสียงนั้นที่ยังคงเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
“เจ้า เข้าไปดูซิ” คนระดับสีทองชี้ไปที่คนคนหนึ่ง ให้เขาเข้าไปสืบ
คนคนนั้นกลัวจนยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับ
นัยน์ตาของระดับสีทองฉายแววดุดัน พูดข่มขู่ว่า “หากว่าเจ้าไม่ไป ข้าจะฆ่าเจ้าเดี๋ยวนี้”
คนคนนั้นใจสั่น หมดทางเลือก ทำได้แต่เดินไปบริเวณหน้าถํ้าที่มีเสียงดังเข้ามา เขาเดินไปถึงหน้าถํ้าแล้วยื่นหน้าเข้าไปสืบดู ภายในถํ้าจิ่วเฉวียนนั้นมืดมิดมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางเดินแคบๆ ที่ทั้งมืดและชื้น
เขามองดูครู่หนึ่ง ก็ไม่พบเห็นอะไรผิดปกติ จึงหันกลับไปพูดกับเพื่อนของตนเองว่า “ไม่เห็น…”
เพียงแต่เขายังพูดไม่จบ หนวดเส้นหนึ่งก็พุ่งออกมาจากถํ้าด้านหลังของเขาและพันเข้าที่รอบเอวยกตัวเขาขึ้นมา จนสองเท้าลอยขึ้นจากพื้น
การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันนี้ ทำให้เขาหวาดกลัว จนหุบปากลง
ส่วนคนที่เหลือ แม้แต่คนที่มีระดับสีทองก็ยังตกใจกับฉากนี้
มู่ชิงเกอซ่อนตัวอยู่ในมุมลับ นัยน์ตาก็หดตัวลงเช่นกัน ‘อะไรกัน!’
หนวดอันนั้นมีขนาดใหญ่โตมาก ด้านล่างเหมือนเป็นที่ดูด หนวดนั้นเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องดูดร่างของคนคนนั้น ดูเหมือนจะดูดเลือดและเนื้อของเขาเข้าไป
“ช่วย…ช่วยข้า…” คนที่ถูกหนวดรัดพันร้องขอความช่วยเหลือจากเพื่อนของตน
คนที่มีระดับสีทองตวัดดาบยักษ์ออกไป พลังจิตสีทองสายหนึ่งกลายเป็นใบมีดพุ่งเข้าใส่หนวดอันนั้น
แต่เมื่อแสงสีทองสัมผัสบนหนวดนั้นแล้วกลับเกิดเพียงเสียงดังก้องออกมาเท่านั้น แต่หนวดอันนั้นกลับไม่ได้รับอันตรายอันใดเลย
พลังป้องกันที่แข็งแกร่งเช่นนี้ ไม่เพียงแต่ทำให้คนที่มีระดับสีทองตกใจ แม้แต่มู่ชิงเกอเองก็รู้สึกหัวใจหนักอึ้งเช่นเดียวกัน
“อา! ไม่ ไม่นะ อา!” ทันใดนั้นหนวดอันนั้นก็เหมือนกับถูกกระตุ้นให้โมโห มันเริ่มที่จะออกแรงรัดแน่นขึ้น ส่วนคนที่ถูกรัดก็ส่งเสียงร้อง สองมือของเขาพยายามขัดขืนคิดจะคว้าโอกาสสุดท้ายเพื่อเอาชีวิตรอด
จนกระทั่งหน้ากากบนใบหน้าของเขาหลุดออกมาตกลงพื้นเผยให้เห็นใบหน้าที่หวาดกลัวนั้น
หน้ากากสีเงินที่ตกลงมาถูกหนวดอันนั้นทำลาย
อา!
คนที่ถูกรัดส่งเสียงร้องโหยหวน เลือดเนื้อถูกรัดจนขาดกลายเป็นสองส่วนตกลงบนพื้น
ฉากนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เพียงแค่พริบตาเดียวหลังจากที่คนระดับสีทองลงมือ
รวดเร็วจนยังไม่ทันได้ช่วยเหลือ สหายก็ได้ตายไปแล้ว
ซากร่างที่ตกลงบนพื้น อวัยวะภายในไหลลงมาจากรอยแผลกองเต็มพื้น กลิ่นคาวเลือดกระจายไปทั่วถํ้าที่พวกเขาอยู่อย่างรวดเร็ว
จากนั้นฉากที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็เกิดขึ้น
หนวดอันนั้นยกขึ้นมาเผยให้เห็นแผ่นดูดเรียงรายอันน่าสยดสยอง
ท่ามกลางแผ่นดูดเหล่านี้เต็มไปด้วยฟันหนาแน่นแหลมคม เป็นแถวๆ ชั้นๆ สะท้อนแสงสีเงินอันอำมหิต ดูแล้วน่าขนลุก
‘นี่คือตัวประหลาดอะไรกัน!’ มู่ชิงเกอถูกภาพตรงหน้าทำให้ตกตะลึงไป
นางแน่ใจว่าหนวดอันนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของร่างกายของตัวประหลาดบางอย่าง แต่เพียงแค่หนวดส่วนหนึ่งก็ยังน่าตกใจถึงขนาดนี้แล้ว หากว่าทั้งหมดของมันปรากฎออกมาล่ะจะเป็นอย่างไร?
คนยี่สิบกว่าคนถอยหลังออกไป มองหนวดอันนั้นอย่างหวาดกลัว
ซูด!
แผ่นดูดมากมายด้านล่างหนวด ส่งเสียงเบาๆ ออกมา ฟันหนามที่แหลมคมปิดเข้าหากันอย่างรวดเร็ว มันพุ่งไปยังซากร่างที่ถูกตัด เพียงแค่พริบตาเดียวก็ดูดกลืนซากร่างที่เละกลายเป็นชิ้นเนื้อเข้าไป เศษเลือดเนื้อกระดูกถูกส่งผ่านหนวดไปยังที่ไหนก็ไม่รู้
“ไป!” คนระดับสีทองมองดูฉากที่เกิดขึ้นนี้อย่างหวาดกลัว เขาไม่มีความกล้าที่จะต่อสู้แล้ว จึงตะโกนสั่งออกมา ส่วนตนเองก็หันตัวพุ่งเข้าไปในถํ้าด้านหลังทันที
เมื่อเขาหนีไป คนยี่สิบกว่าคนที่ตามเขามาก็พยายามพุ่งเข้าไปอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนว่าหากช้าไปก้าวเดียวก็อาจจะถูกหนวดอันน่าสยดสยองนั้นรัดได้ จากนั้นก็อาจจะเป็นเหมือนเพื่อนของพวกเขาที่ถูกแผ่นดูดนั้นกลืนกินลงไป
เมื่อพวกเขาออกวิ่ง ก็เหมือนจะทำให้หนวดอันนั้นโกรธขึ้นมา มันยกขึ้นมา แล้วก็พุ่งไล่ตามคนเหล่านั้นเข้าไปในถํ้า
มู่ชิงเกอหลบอยู่ในที่ลับ มองหนวดยาวที่ขยับอย่างต่อเนื่องผ่านตรงหน้าของนางเข้าไปยังถํ้าอีกถํ้าแล้วก็รู้สึกขนลุก
‘พลังป้องกันและพลังโจมตีของหนวดอันนี้ ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะต่อกรได้!’ มู่ชิงเกอสรุปอยู่ในใจ
ตอนนี้ คนเหล่านั้นล่อให้หนวดนั้นจากไปแล้ว นางควรจะใช้โอกาสนี้หนีไปถึงจะถูก
มีเสียงร้องโหยหวนดังออกมาจากในถํ้า
นี่ทำให้มู่ชิงเกอคาดเดาว่าด้านในคงจะมีคนพบเจอกับอะไรที่เหนือความคาดหมาย
‘ไป! ตอนนี้แหละ!’ มู่ชิงเกอตัดสินใจ
ตัวประหลาดด้านในน่ากลัวยิ่งกว่าคนเหล่านี้เสียอีก นางไม่อาจเดินไปมาในถํ้าอย่างสุ่มสี่สุ่มห้าต่อได้ จะต้องย้อนกลับขึ้นสู่พื้นดิน
มู่ชิงเกอเดินออกมาจากที่ซ่อนคิดจะใช้ทางแยกเส้นหนึ่งออกไป
แต่ในตอนที่นางก้าวออกมาและเตรียมตัวจะเข้าไปในทางแยกเส้นนั้น แผ่นหลังของนางก็รู้สึกเย็นยะเยือกขึ้นมาในทันที รู้สึกเหมือนว่าถูกอะไรบางอย่างจ้องมอง
ทันใดนั้นเงาร่างของนางก็วาบหายไปจากที่เดิม
ในเวลาเดียวกันกับที่นางจากไป หนวดเส้นหนึ่งก็ตกลงมาจากกลางอากาศฟาดลงตรงตำแหน่งที่นางยืนอยู่เมื่อครู่อย่างรุนแรง
อีกเพียงนิดเดียวเท่านั้นนางก็จะตกอยู่ในเงื้อมมือของหนวดนั้นแล้ว
นัยน์ตาของมู่ชิงเกอฉายแววอำมหิต เวลานี้นางถึงได้พบว่ามีหนวดอีกเส้นหนึ่งที่ซ่อนตัวอยู่ในถํ้าแห่งหนึ่งอยู่ตลอดเวลา เมื่อครู่เกิดเรื่องขึ้นมากมายขนาดนั้นแต่มันกลับอดทนไม่ยอมออกมา!
หนวดอันนั้นดูเหมือนกับสามารถมองเห็นได้ก็ไม่ปาน มันยกขึ้นมาเผชิญหน้ากับมู่ชิงเกอ
บรรดาแผ่นดูดอันน่ากลัวที่ส่วนล่างของมันเผยตัวออกมาให้มู่ชิงเกอได้เห็นทั้งหมด ทำให้นางรู้สึกคันคอขึ้นมา พลังระดับสีทองไม่สามารถทำลายพลังป้องกันของตัวประหลาดตัวนี้ได้!
มู่ชิงเกอไม่ได้ลืมว่าคนระดับสีทองคนนั้นได้ลองไปแล้วเมื่อครู่ ดังนั้นนางจึงไม่ได้เสียเวลาอีกและพุ่งเข้าไปในถํ้าอีกถํ้าหนึ่งโดยไม่ลังเล
ซึ่งไม่ใช่ถํ้าที่นางเลือกเมื่อครู่
เมื่อนางกล้าเข้ามาในถํ้าก็แน่นอนว่านางเตรียมทุกอย่างเอาไว้แล้วและมีวิธีออกไป นางถึงได้กล้าวิ่งไปมาอย่างสุ่มสี่สุ่มห้าได้
ก่อนที่จะกระโดดลงมาในถํ้า นางได้พรมร่างกายของตนเองด้วยเครื่องหอมสะกดรอย เพียงแค่เป็นที่ที่นางเคยผ่านก็จะมีกลิ่นของนางติดอยู่
ถํ้าที่นางเลือกในก่อนหน้านี้ก็คือถํ้าที่นางเคยผ่านและเป็นเส้นทางออกไปจากที่นี่
แต่ในตอนนี้นางกลับถูกหนวดอันนั้นบีบให้เข้ามาในถํ้าอีกถํ้าหนึ่ง ซึ่งไม่รู้ว่าจะห่างไปจากถํ้าก่อนหน้านี้แค่ไหน
เมื่อมู่ชิงเกอหนีไปได้ หนวดอันนั้นก็เหมือนถูกกระตุ้นให้โกรธพุ่งเข้าไปในถํ้าแล้วไล่ตามนางอยู่ที่ด้านหลัง
ในถํ้ามีทางแยกมากมาย หนวดสองเส้นแบ่งออกไปยังถํ้าที่แตกต่างกันเพื่อไล่ล่าเหยื่อของ ตนเอง
สถานการณ์พลิกกลับอีกครั้ง
ในตอนนี้มู่ชิงเกอไม่ใช่นักล่าอีกต่อไป แต่เปลี่ยนเป็นเหยื่อผู้ถูกไล่ล่า
ส่วนนักล่าที่แท้จริงก็คือสัตว์ประหลาดที่อาศัยอยู่ในถํ้าจิ่วเฉวียนแห่งนี้
ตอนนี้แม้แต่ร่างกายทั้งหมดของสัตว์ประหลาดนางก็ยังมองไม่เห็น เพียงแค่ถูกหนวดเส้นหนึ่งของมันไล่ตามทำให้ต้องวิ่งหนีอย่างสะเปะสะปะแล้ว
ด้านหลังของนาง หนวดอันนั้นก็เข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ มู่ชิงเกอจึงเพิ่มความเร็วอีกครั้ง
แต่ไม่ว่านางจะเพิ่มความเร็วแค่ไหน หนวดอันนั้นก็เหมือนจะเร็วกว่านางขั้นหนึ่ง ระยะห่างระหว่างทั้งสอง ค่อยๆ สั้นลงเรื่อยๆ จนมู่ชิงเกอสามารถสัมผัสได้ว่าปลายของหนวดสัมผัสโดนเสื้อด้านหลังของตนเองแล้ว นัยน์ตาของมู่ชิงเกอฉายแววหนักอึ้งขึ้น ส่งแรงไปที่ใต้เท้าอีก นางเลือกเส้นทางที่ค่อนข้างคดเคี้ยวเพื่อเพิ่มความยากลำบากให้แก่หนวดที่ตามนางมาด้านหลัง แต่หนวดอันนั้นก็ยังไม่ยอมหยุดไล่ตามมู่ชิงเกอ
มู่ชิงเกอพุ่งตัวออกมาจากทางแยกแล้วเข้าไปในถํ้าขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง
ถํ้าแห่งนี้กว้างใหญ่นับสิบจั้ง ภายในนั้นตรงกลางมีเสาหินธรรมชาติค้ำยันอยู่ มู่ชิงเกอเข้ามาในถํ้า หนวดอันนั้นก็ไล่ตามมาติดๆ
กลิ่นคาวด้านหลังแทบจะทำให้มู่ชิงเกออาเจียนออกมา
นางเม้มริมฝีปากแน่น เล็งเป้าหมายแน่นอนแล้วก็วิ่งไปยังเสาหินต้นนั้น
นางวิ่งอ้อมเสาหิน ส่วนหนวดอันนั้นก็ไล่ตามนางไปติดๆ วนรอบเสาหิน จากนั้นในที่สุดหนวดที่พันรอบเสาหินก็เริ่มเว้นระยะห่างออกไปจากตัวมู่ชิงเกอ
เมื่อพอประมาณแล้วมู่ชิงเกอจึงวิ่งพุ่งไปด้านหน้า นางหันไปมองแวบหนึ่งก็พบว่าหนวดอันนั้นพันอยู่บนเสาหิน และกำลังพยายามดิ้นรนเพื่อให้หลุดออกมา
มุมปากของมู่ชิงเกอปรากฎรอยยิ้มเยาะและวิ่งหนีต่อ
และในตอนนี้เองก็ได้ยินเพียงเสียง ‘แครก’ ดังมาจากด้านหลัง ใต้พื้นดินและถํ้าทั้งหมดสั่นสะเทือน เมื่อมู่ชิงเกอหันกลับไปมองก็พบว่าหนวดอันนั้นทำลายเสาหินไปแล้ว และเมื่อมันสลัดเสาหินหลุดมันก็พุ่งตรงมาที่นางอีกครั้ง
ดูเหมือนแค่พริบตาเดียวหนวดอันนั้นก็พุ่งมาถึงตรงหน้า ของมู่ชิงเกอแล้ว
มู่ชิงเกอเบิกตากว้าง กลั้นลมหายใจ
บึ้ม!
หนวดอันนั้นฟาดเข้าใส่มู่ชิงเกอย่างรุนแรง แต่กลับกลายเป็นการฟาดลงไปทำลายพื้นหินแทน
ส่วนมู่ชิงเกอกลับหายไปไม่เห็นแม้แต่เงา
หนวดหยุดลง มันขยับอยู่บนพื้นราวกับงู ยกขึ้นมาเผยให้เห็นแผ่นดูดด้านล่าง
แผ่นดูดเหล่านี้ดูเหมือนกำลังดูด เดี๋ยวดูดเดี๋ยวคลาย ดูเหมือนว่า…มันกำลังค้นหากลิ่นอายของมู่ชิงเกอ แต่ไม่ว่ามันจะหาอย่างไรกลิ่นอายที่เป็นของมู่ชิงเกอก็เหมือนกับสลายหายไปเสียอย่างนั้น
หนวดนั้นหยุดอยู่ที่เดิมเนิ่นนาน ดูเหมือนกำลังรอให้มู่ชิงเกอปรากฎตัวขึ้นอีกครั้ง
แต่ว่าเวลาก็ค่อยๆ ผ่านไปและมันก็ไม่เห็นมู่ชิงเกอกลับมา
ผ่านไปพักใหญ่ ในที่สุดมันก็ยอมถอดใจค่อยๆ ถอยกลับคืน หายไปจากถํ้าขนาดใหญ่แห่งนี้
หลังจากมันจากไปนานแล้ว ร่างกายของมู่ชิงเกอถึงค่อยปรากฎขึ้นตรงที่เดิม
เมื่อสองเท้านางยืนอยู่บนพื้น ในมือก็ยังถือกระจกอยู่อันหนึ่งด้วย นางรู้สึกโล่งอก ‘ดีที่ของรักของเหมิงเหมิงสามารถมองเห็นสถานการณ์ภายนอกได้’
หลังจากโยนกระจกกลับเข้าไปในช่องว่างแล้ว มู่ชิงเกอถึงได้มองถํ้ายักษ์ตรงหน้า แล้วก็เริ่มหาทางออกไปจากที่นี่ทันที
แน่นอนว่าไม่สามารถกลับไปทางเดิมได้แล้ว
ไม่แน่ว่าหนวดอันนั้นอาจจะกำลังรอนางอยู่มุมใดมุมหนึ่งก็เป็นไปได้
ในเมื่อไม่สามารถเดินทางเส้นเดิมได้แล้วก็ทำได้เพียงหาทางใหม่
มู่ชิงเกอเงยหน้าขึ้นมองไปยังเส้นทางที่ซับซ้อนเหมือนใย แมงมุมเหล่านั้นแล้วก็พูดในใจว่า ‘เพียงแค่เดินขึ้นไปเรื่อยๆ ไม่หยุดก็จะต้องใกล้กับพื้นดินมากขึ้นเรื่อยๆ ถึง ตอนนั้นแล้วหากยังไม่มีทางออกอีกก็เจาะถํ้าออกไป เพื่อกลับคืนสู่พื้นดิน!’