Skip to content

พลิกปฐพี 481

ตอนที่ 481

น้ำพุแห่งอนาคต พรหมลิขิต

ถํ้าจิ่วเฉวียนมีเส้นทางพันเกี่ยวกันไปมาเหมือนกับใยแมงมุมจนแยกทิศทางไม่ออก

แม้แต่ปัญญาการหยั่งรู้ก็ยังสูญเสียความสามารถในการเสาะหาเมื่อมาอยู่ที่นี่

มู่ชิงเกอทำได้เพียงอาศัยความรู้สึกเลือกเส้นทางอย่างต่อเนื่อง มุ่งหน้าขึ้นไปยังด้านบน หวังว่าจะสามารถเข้าไปใกล้กับพื้นดินได้

“คนที่เข้ามามีเพียงแค่ครึ่งเดียว อีกอย่างข้าก็ยังไม่เห็นคนในหน้ากากสีทองเลย ดูจากท่าทีแล้วเขาคงรออยู่ด้านบนพร้อมกับคนอีกครึ่งหนึ่ง” มู่ชิงเกอเดินไปแล้วก็คิดคำนวณในใจ

ในถํ้าจิ่วเฉวียน มีตัวประหลาด

นอกถํ้าจิ่วเฉวียน ก็มีทหารเฝ้าอยู่

นานมากแล้วที่นางไม่เคยตกอยู่ในสถานการณ์ที่เข้าและถอยได้ยากเช่นนี้ แต่นางก็ไม่เคยลังเลในการตัดสินใจ ตัวประหลาดของถํ้าจิ่วเฉวียนต่อกรได้ยากกว่าคนที่อยู่บนพื้นเหล่านั้น

ดังนั้นตอนนี้นางต้องหาทางออกไป

“สูงขนาดนี้เชียวหรือ?” เงยหน้ามองขึ้นไปยังเส้นทางที่มองไม่เห็นจุดสิ้นสุด นางรู้สึกว่าในตอนที่ตนเองกระโดดลงมานั้น ไม่ได้สูงขนาดนี้ เหตุใดตอนนี้เดินมาตั้งนานแล้วก็ยังไม่ถึงจุดสิ้นสุดอีก?

ทันใดนั้นนางก็รู้สึกว่าใต้เท้าอ่อนยวบ

นางยังไม่ทันได้ตั้งตัว พื้นดินใต้เท้าก็ไหลเหมือนกับทราย เผยให้เห็นถํ้าสีดำแห่งหนึ่ง ส่วนมู่ชิงเกอก็ตกเข้าไปในถํ้าแห่งนั้นอย่างรวดเร็ว

วินาทีที่ตกลงไปนั้น ในใจของมู่ชิงเกอก็คิดอะไรได้บางอย่าง ‘ให้ตายเถอะ! เสียแรงปีนมาตั้งนาน เสียเปล่าแล้ว!’

ใต้ถํ้านั้นดำมืดเหมือนเป็นช่องว่างที่ไร้จุดสิ้นสุด แทบไม่มีของอะไรให้เกาะยึดได้เลย

มู่ชิงเกอเพียงรู้สึกว่าตนเองตกลงไปอย่างรุนแรง ดูเหมือนว่าได้กลับไปยังส่วนลึกที่สุดของพื้นอีกครั้งและคว้าจับอะไรไม่ได้เลย

ปัง!

ดูเหมือนมู่ชิงเกอจะตกลงไปในสถานที่ที่ค่อนข้างชื้นแห่งหนึ่ง ในตอนที่นางตกลงไปนั้นก็ออกแรงม้วนตัวเพื่อป้องกันการกระแทกและไม่ให้ร่างกายต้องได้รับบาดเจ็บหนัก จากนั้นก็ลุกขึ้นมา

เพียงแต่นางเพิ่งจะยืนได้นั้นก็พลันมีหมอกสีขาวเข้าโอบล้อมนางเอาไว้ ทำให้นางต้องยืนอยู่ที่เดิมไม่กล้าขยับสุ่มสี่สุ่มห้า

‘ทุกอย่างของที่นี่ล้วนแต่อันตรายมาก ทางที่ดีที่สุดก็คือห้ามขยับโดยพลการ’ มู่ชิงเกอกลอกตาไปมาแล้วพูดขึ้นในใจ นางไม่สามารถระบุได้เลยว่าภายในหมอกสีขาวนี้

จะมีตัวประหลาดอะไรซ่อนอยู่หรือไม่

หมอกขาวโอบล้อมนางเอาไว้อย่างหนาแน่น ดูเหมือนกำลังสำรวจว่านางเป็นอันตรายหรือไม่

หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง มันก็ถอยออกไปเล็กน้อยดู เหมือนว่าได้ผ่านการตรวจสอบแล้ว

มู่ชิงเกอมองไปรอบด้าน คาดเดาในใจว่าที่นี่คือสถานที่อะไรกัน? นางตกลงมาที่ไหนกันแน่? แล้วจะออกไป จากที่นี่ได้อย่างไร?

ทันใดนั้นนางก็ได้ยินเสียงนํ้าไหลเบาๆ

‘มีน้ำ!’ ในใจของมู่ชิงเกอเย็นยะเยือก ตอบสนองอย่างรวดเร็ว ‘หรือจะเป็นหนึ่งในบ่อนํ้าพุร้อนทั้งเก้า?’

การคาดเดานี้ทำให้นางก้าวออกไปอีกหนึ่งก้าว

เพียงแค่นางขยับ หมอกสีขาวก็ถอยหลังออกไปก้าวหนึ่งเผยให้เห็นในระยะหนึ่งก้าว

สิ่งที่สะท้อนเข้ามาในครรลองสายตาก็คือหินเงาเรียบลื่น บนหินซ้อนเป็นชั้นๆ เหมือนกับกลีบดอกบัว ดูเหมือนว่าได้รองรับนํ้าไหลมานับพันหมื่นปีจนกลายเป็นรูปร่างเช่นนี้

มู่ชิงเกอเดินไปอีกหนึ่งก้าว หมอกขาวก็ถอยไปอีกหนึ่งก้าว

และก็เป็นเช่นนี้ เมื่อมู่ชิงเกอเดิน หมอกขาวก็ถอย ทุกก้าวที่นางเดินด้านหลังก็จะถูกหมอกขาวเข้าเติมเต็ม ดังนั้นนางจึงมองเห็นเพียงแค่ระยะก้าวเดียวเท่านั้น

มู่ชิงเกอเดินติดต่อกันไปสิบกว่าก้าว เข้าไปใกล้เสียงนํ้าขึ้นเรื่อยๆ

ภายในสิบกว่าก้าวนี้ไม่ได้มีอันตรายใดๆ นี่ทำให้มู่ชิงเกอเพิ่มความเร็วมากขึ้น มุ่งหน้าไปยังที่ที่มีเสียงนํ้าดังมา นางเข้าไปใกล้เสียงนํ้าขึ้นเรื่อยๆ ในตอนที่นางรู้สึกว่าเสียงนํ้าอยู่ข้างหน้าแล้วนั้น นางก็ยื่นมือออกไปในหมอกขาวเพื่อสำรวจ ส่วนหมอกขาวที่ถูกปลายนิ้วของนางสัมผัสก็ดูเหมือนกับเอียงอายรีบถอยออกไป ทำให้นางมองเห็นภาพตรงหน้าได้อย่างชัดเจน

ตานํ้าพุร้อนที่ดูเก่าแก่บ่อหนึ่งปรากฎห่างจากตรงหน้าของนางไปไม่ถึงห้าก้าว

ภายในตานํ้าพุร้อน สายนํ้าค่อยๆ ไหลส่งเสียงซ่าซ่า ออกมา ส่วนหมอกขาวเหล่านี้ก็ลอยออกมาจากตานํ้าพุร้อนแผ่กระจายไปทั่วช่องว่างนี้

“เป็นหนึ่งในเก้านั้าพุร้อนจริงๆ!” มู่ชิงเกอตกตะลึง

นางเคยได้ยินตำนานเกี่ยวกับเก้าน้ำพุร้อนแต่กลับคิดไม่ถึงว่าการเดินมั่วในครั้งนี้จะทำให้นางได้พบกับหนึ่งในเก้านํ้าพุร้อนได้

“พูดกันว่าผลลัพธ์ของเก้าน้ำพุร้อนนั้นไม่เหมือนกัน มีที่สามารถกำจัดกล้ามเนื้อที่เน่าเปื่อยได้ มีที่รักษาความอ่อนเยาว์ มีที่เป็นยาพิษ มีที่รักษาอาการเจ็บป่วยได้ ยังพูดอีกว่าหากมองไปที่ตาน้ำพุร้อนจะสามารถล่วงรู้อดีต อนาคตและทำนายโชคชะตาได้ ก็ไม่รู้ว่าตาน้ำพุร้อนตรงหน้าของข้านั้นมีผลลัพธ์อย่างไร?” มู่ชิงเกอก้าวไปยังข้างตาน้ำพุร้อนอย่างรวดเร็ว ยื่นหัวเข้าไปดูตาน้ำพุร้อน

นํ้าพุร้อนที่เดิมทีกำลังไหลค่อยๆ หยุดลงทันใด

ภายในตานํ้าพุร้อนสะท้อนเงาของมู่ชิงเกอ รูปโฉมค่อยๆ ชัดเจนขึ้นมา นํ้าพุร้อนสงบนิ่งเหมือนดังกระจกและชัดเจนมาก

พริบตานั้นมู่ชิงเกอก็แยกไม่ออกแล้วว่าคนในกระจกนั้นเป็นตนเองตัวจริงหรือว่าคนที่ยืนข้างตานํ้าพุร้อนนั้นต่างหากถึงเป็นตัวนาง

และในตอนที่นางกำลังรู้สึกแปลกใจอยู่นั้น ภาพบนตานํ้าพุร้อนใต้เท้าของนางก็เกิดการเปลี่ยนแปลง

คนในภาพยังคงเป็นนาง

เพียงแต่นางได้เปลี่ยนไปอยู่ในชุดผู้หญิงและรอบด้านก็เป็นสงคราม

มู่ชิงเกอเบิกตากว้าง ส่วนลึกของนัยน์ตาเผยร่องรอยตกตะลึง คิดในใจว่า ‘หรือตำนานจะเป็นความจริง?

ตานํ้าพุร้อนที่สามารถมองเห็นอนาคตได้ ตานํ้าพุร้อนทั้งเก้านั้นกลับถูกข้าโชคดีพบเจอเข้าแล้ว?’

เพิ่งจะเกิดความยินดีได้ไม่นาน นัยน์ตาของนางก็ค่อยๆ เยียบเย็นลงมา

ไม่รู้ว่าภายในตานํ้าพุร้อนปรากฎภาพอะไรออกมา ในตอนที่ภาพหายไปนั้น นํ้าพุร้อนก็กลับมาไหลอีกครั้งและไม่ได้สะท้อนภาพใดออกมาอีก แต่มู่ชิงเกอกลับซวนเซ ถอยหลังไปก้าวหนึ่ง สีหน้าซีดขาวไร้สีเลือด

‘เหตุใดถึงเป็นเช่นนั้นได้? หรือว่านี่ก็คือจุดจบงั้นหรือ?’ ดูเหมือนมู่ชิงเกอจะได้รับรู้เรื่องที่น่าสะเทือนใจอย่างหนักหน่วงเข้า ท่าทางนางเหมือนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวพึมพำกับตนเองไม่หยุด

“ไม่! ข้าจะไม่ยอมให้เรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้น! ในเมื่อให้ข้าได้รู้แล้ว ข้าก็จะต้องไม่ให้มันปรากฎขึ้นอีก!” สายตาของมู่ชิงเกอเปลี่ยนเป็นแน่วแน่ขึ้นมา

ที่นางฝึกก็คือวิถีฝืนชะตาฟ้า

ที่นางต้องการก็คือชะตาชีวิตต้องขึ้นอยู่กับนาง! ส่วนอะไรที่เรียกว่าพรหมลิขิตหรือโชคชะตาที่ถูกกำหนด เมื่อสามารถทำนายอนาคตได้ก็สามารถทำลายได้!

หยดนํ้าตาหยดหนึ่งไหลลงมาจากดวงตาของนาง แต่ก็ถูกนางยกมือขึ้นเช็ดออกอย่างรุนแรง

นางหันหน้าไปมองตานํ้าพุร้อนแล้วก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ พูดเสียงเข้มว่า “ขอบคุณเจ้ามากที่ทำให้ข้าได้เห็นฉากนี้ แต่ว่าข้าจะไม่ให้ทุกอย่างนี้เกิดขึ้นอย่างเด็ดขาด!”

พูดแล้วนางก็ก้าวยาวๆ จากไป

ส่วนหมอกสีขาวเหล่านี้ก็ถอยหลังไปไม่หยุดแล้วก็เติมเต็มเข้ามาเช่นเดิม

มู่ชิงเกออยู่ในหมอกขาวจึงแยกทิศทางไม่ออก ทำได้เพียงเดินไปตามความรู้สึก นางไม่รู้ว่าตนเองจะได้พบตานํ้าพุร้อนอื่นๆ อีกหรือไม่…

‘ถึงแม้จะได้พบแล้วจะเป็นอย่างไร?’ มู่ชิงเกอพูดในใจ

ในการเดินทางครั้งนี้นางได้พบกับตานํ้าพุร้อนที่สามารถทำนายอนาคตได้ก็ถือว่าเป็นโชคดีอย่างมากแล้ว อย่างน้อยนางก็รู้จุดจบและสามารถคิดหาวิธีหลีกเลี่ยงและเปลี่ยนแปลงมันได้!

มู่ชิงเกออยู่ในหมอกสีขาว ไม่รู้ว่าเดินมานานแค่ไหนแล้ว

หมอกสีขาวค่อยๆ เปลี่ยนเป็นจางลง ถึงแม้จะยังคงมีอยู่แต่ก็ไม่ได้ปิดบังสายตาอีก ทำให้นางสามารถมองเห็นบรรยากาศภายในอาณาเขตสามจั้งได้

ที่นี่ยังคงเป็นถํ้าที่มีเส้นทางมากมาย เพียงแต่เส้นทางเหล่านั้นกลับทำให้คนรู้สึกว่าเล็กแคบและหนาแน่น

มู่ชิงเกอมองเส้นทางเหล่านั้นแล้วก็รู้สึกแปลกใจ

เพราะว่าเส้นทางเหล่านี้ดูเหมือนจะมีลักษณะเดียวกัน คือเป็นรูปวงกลมดูเหมือนว่ามีของอะไรบางอย่างเจาะออกไป

อา!

ทันใดนั้นก็มีเสียงร้องโหยหวนดังมาจากสถานที่ที่ไกลออกไป ทำให้มู่ชิงเกอหันไปมองยังทิศที่มีเสียงดังมา เวลานี้เองลมสายหนึ่งก็พัดเอากลิ่นคาวจากอีกด้านหนึ่งเข้ามาหานาง

ในตอนที่มันจะสัมผัสโดนแก้มของนางนั้น มู่ชิงเกอก็ถอยหลังออกไป ใช้ท่าก้าวดาราก่อกำเนิด บิดตัวหลีกเลี่ยงสายลมที่พัดมา

นางยังไม่ทันยืนได้มั่นคงดีก็รู้สึกได้ว่ามีอะไรบางอย่างคิดจะโจมตีตนเอง

มู่ชิงเกอถอยไปด้านข้างสร้างระยะห่าง ครั้งนี้ทำให้นางมองเห็นแล้วว่าสิ่งที่ต้องการจะโจมตีนางนั้นคืออะไร

หนวด!

‘เป็นตัวประหลาดตัวนั้นอีกแล้ว!’ เมื่อมองเห็นหนวด และแผ่นดูดที่เต็มไปด้วยฟันของมัน มู่ชิงเกอก็ไม่รู้สึกแปลกหน้าแต่อย่างใด ในใจของนางรู้สึกหนักอึ้ง คิดไม่ถึงว่าตนเองวนไปรอบหนึ่งแล้วก็ยังมาพบเจอกับมันอีก ทันใดนั้นสายตาของมู่ชิงเกอก็มองไปยังรูรูปวงกลมบนกำแพงถํ้าด้านหลังหนวด

ก่อนหน้านี้นางยังรู้สึกแปลกใจว่าเหตุใดรูถํ้าของที่นี่ถึงได้มีรูปร่างเหมือนกัน เหมือนกับใช้ของอะไรบางอย่างเจาะออกมา มาตอนนี้นางเข้าใจแล้ว รูเหล่านี้ล้วนแต่ถูกหนวดเหล่านี้เจาะออกมา!

‘นี่ข้าเข้ามาในรังของตัวประหลาดงั้นหรือ!’ มู่ชิงเกอรู้สึกนับถือโชคชะตาฝืนชะตาฟ้าของตนเองจริงๆ!

หนวดไม่ให้เวลาแก่มู่ชิงเกออีก มันโจมตีนางในทันที มู่ชิงเกออาศัยเรือนร่างที่ปราดเปรียวของตนเอง หลบหลีกอย่างต่อเนื่องพร้อมกับคิดหาโอกาสหนี

โอกาสของนางก็คือรูที่ถูกหนวดเจาะบนผนังถํ้าเหล่านั้น เพราะไม่ว่าจะเป็นรูไหนก็จะต้องมีทางออกไปจากที่นี่

ดังนั้นนางเพียงแต่ต้องใช้รูอันหนึ่งออกไปก็พอแล้ว

สำหรับเสียงร้องเมื่อครู่

นางไม่ใช่พระโพธิสัตว์ ตอนนี้ตนเองก็ยากที่จะเอาตัวรอดอยู่แล้ว ยังจะคิดไปช่วยคนอื่นอีกทำไม? อีกอย่าง คนที่อยู่ในถํ้าจิ่วเฉวียนนอกจากนางแล้วยังจะเป็นใครได้อีก?

มู่ชิงเกอเล็งเป้าหมายชัดเจนแล้วก็ค้นหารอบด้าน ในที่สุดก็ได้โอกาสทำให้นางสามารถพุ่งตัวผ่านช่องว่างของหนวดไปยังปากรู

ในตอนที่เหลืออีกเพียงก้าวเดียวนางก็จะสามารถเข้าไปในรูได้นั้น หนวดอีกเส้นหนึ่งก็ไม่รู้ว่าโผล่มาจากไหนมาขวางอยู่ด้านหน้านาง

หนวดที่มาปรากฎตัวอย่างกะทันหันนี้ทำให้นัยน์ตาของมู่ชิงเกอหดตัวลงและถอยไปด้านหลังอย่างรวดเร็ว

หนวดอันนี้เพียงแค่ถูกสัมผัสก็ยากที่จะสลัดหลุดได้ มู่ชิงเกอถอยออกไปด้านหลัง หนวดด้านหลังของนางก็ไล่ตามนางมา ชั่วขณะนั้นนางก็ตกอยู่ตรงกลางระหว่างหนวดทั้งสอง และกำลังจะถูกหนวดทั้งสองพันรัดแล้ว

ในช่วงเวลาอันตรายนี้เอง ร่างกายของมู่ชิงเกอก็ไหลลื่นเหมือนกับปลา นางลอดผ่านช่องว่างออกมาได้สำเร็จ

ส่วนหนวดสองเส้นก็พนรัดเข้าด้วยกัน

มู่ชิงเกอไม่ทันได้ดีใจก็ต้องรีบคว้าโอกาสวิ่งไปยังปากรู เพียงแต่เท้าของนางเพิ่งจะกระโดดขึ้นก็รู้สึกว่าข้อเท้าถูกรัดแน่น เมื่อนางหันมองไปก็พบว่าหนวดเส้นที่สามพุ่งขึ้นมาจากด้านล่างพันรัดเข้าที่ข้อเท้าของนาง

นัยน์ตาของมู่ชิงเกอฉายแววเย็นยะเยือก ทวนหลิงหลงปรากฎขึ้นและแทงลงไปที่หนวดอันนั้น

ทวนหลิงหลงเป็นยุทธภัณฑ์ระดับมหาเทพ ระดับความแหลมคมเหนือกว่าอาวุธธรรมดามากนัก

ฉึก!

ทวนหลิงหลงแทงเข้าไปในหนวด หนวดอันนั้นเจ็บปวดจนต้องปล่อยข้อเท้าของมู่ชิงเกอ

เวลานี้เองก็มีหนวดอีกเส้นสะบัดเข้าโจมตีที่ส่วนท้องของมู่ชิงเกอ พละกำลังอันแข็งแกร่งปะทะเข้ากับร่างกายของนาง ทำให้นางกระเด็นกลับไปและกระอักเลือดออกมา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!