ตอนที่ 482
ตกลงในจิ๋วเฉวียน วิกฤติ!
ปัง!
มู่ชิงเกอตกลงบนพื้นอย่างรุนแรงจนเหมือนกระดูกจะแตกออก
หากไม่ใช่ว่านางคอยฝึกฝนร่างกายอยู่ตลอด การโจมตีเมื่อครู่ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ร่างกายของนางแหลกเละ!
มู่ชิงเกอถูกโจมตีจนล้มลง หนวดหลายเส้นก็พุ่งเข้ามา
หานางอย่างรวดเร็ว นางไม่กล้าชักช้ารีบยืนขึ้นมา หันกายวิ่งออกไปด้านหลัง ไม่มีวิธีอื่นแล้วเพราะเส้นทางด้านหน้าถูกขัดขวางเอาไว้หมด ทำได้เพียงแต่วิ่งไปด้านหลัง
ส่วนด้านหลังก็เป็นทิศทางเดียวกับที่มีเสียงร้องโหยหวนดังออกมา และก็น่าจะเป็นรังของตัวประหลาด…
ในใจของมู่ชิงเกอรู้สึกหนักอึ้ง พลังจิตสีทองพันรัดรอบทวนหลิงหลง
หนวดเหล่านี้ฆ่าไปมากเท่าไหร่ก็ไม่มีประโยชน์ในเมื่อหนีไม่พ้นก็ทำได้เพียงไปฆ่าตัวประหลาดตัวนั้นถึงจะรอดออกไปได้!
มู่ชิงเกอพุ่งไปตามเส้นทาง หนวดหลายเส้นด้านหลังเมื่อมองเห็นว่ามู่ชิงเกอไปในทางที่ถูกต้องแล้วก็ไม่ได้ไล่ตามนางอย่างกระชั้นชิดอีก เพียงแต่ตามมาด้านหลังนาง และปิดเส้นทางของนางบีบให้นางได้แต่ไปข้างหน้าต่อ ความรู้สึกเช่นนี้ก็เหมือนกับอยู่ภายในลานล่าสัตว์ ที่ผู้ล่าจะไล่เหยื่อให้ไปอยู่ในกับดักที่วางเอาไว้จากนั้นก็ค่อยจัดการในครั้งเดียว
มู่ชิงเกอมองออกไปแล้วก็ยิ้มเยาะในใจ
มีบางครั้งเหยื่อก็สามารถโจมตีกลับและแว้งกัดได้ บางครั้งก็เป็นการกัดเสียจนจมเขี้ยว!
ลมร้อนและกลิ่นคาวพุ่งเข้ามาจากด้านหน้า
มู่ชิงเกอเกือบจะอาเจียนออกมา นางกลั้นลมหายใจ กระโดดลงไปในทางเส้นนั้น
ใต้เท้าของนางเป็นถํ้าขนาดใหญ่ ขนาดของถํ้าใหญ่จนเหมือนกับเป็นเมืองเมืองหนึ่งที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางเกือบร้อยลี้เลยทีเดียว!
มู่ชิงเกอตกลงไปอย่างรวดเร็ว ผมยาวถูกพัดจนตั้งขึ้น เสื้อผ้าสะบัดปลิว นางก้มลงไปมองแล้วนัยน์ตาก็หดตัวลง ด้านล่างมีกองกระดูกกองอยู่ ส่วนรอบกำแพงถํ้าก็มีหนวดยื่นออกมาพร้อมสั่นไหวไม่หยุด นางรู้สึกได้ว่าร่างกายของตัวประหลาดน่าจะอยู่ใต้กองกระดูก
พลังจิตสีทองถูกส่งเข้าไปในทวนหลิงหลง มู่ชิงเกอแทงทวนเข้าไปในผนังเพื่อควบคุมร่างกายที่กำลังตกลงไป แขวนอยู่ครึ่งทาง
นางเงยหน้าขึ้นไปมองก็พบว่าปากถํ้าที่ตนเองกระโดดออกมานั้นได้มีหนวดหลายเส้นเบียดกันโผล่ออกมาขยับอย่างต่อเนื่องและนางก็พบว่ารอบถํ้าขนาดใหญ่นี้มีรูอยู่เต็มไปหมด
ทันใดนั้นในใจของมู่ชิงเกอก็คาดเดาอะไรบางอย่างขึ้นมาได้!
นั้นก็คือ เดิมทีถํ้าจิ่วเฉวียนน่าจะเป็นเพียงถํ้าใต้ดิน แต่ภายในถํ้ากลับมีสัตว์ประหลาดที่เต็มไปด้วยหนวดครอบครองอยู่ เมื่อเวลาผ่านไปหนวดของมันที่เจาะอยู่ใต้พื้นก็ทำให้ใต้พื้นเกิดรูขึ้นมามากมายจนเหมือนใยแมงมุมและกลายเป็นเขาวงกตในที่สุด
เพียงแค่มีคนเข้ามาในเขาวงกต ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็จะถูกหนวดของมันสัมผัสได้และลากมาที่นี่เพื่อให้ตัวประหลาดกินจนเหลือไว้แค่เพียงกองกระดูก
มู่ชิงเกอเหมือนได้ยินเสียงหัวใจของตนเองเต้น ภาพที่ดูน่าตกใจตรงหน้าของนางยิ่งดูเหนือจินตนาการ ตัวประหลาดใต้กองกระดูกเป็นตัวอะไรกันแน่!
ทันใดนั้นในใจของนางก็เกิดลางสังหรณ์ นางเงยหน้าขึ้นไปอีกครั้งก็พบหนวดหลายเส้นที่ไล่ตามนางมาตลอด ดูเหมือนจะรู้สึกแล้วว่านางไม่ได้ตกลงไปและกำลังพุ่งลงมาจากด้านบนคิดจะจับนาง
ในตอนนี้เองหนวดที่อยู่ด้านล่างเหล่านั้นก็พุ่งเข้ามาหานางอย่างรวดเร็วเช่นกัน
มู่ชิงเกอแขวนอยู่ตรงกลางทั้งด้านบนและด้านล่างล้วนแต่เป็นหนวด เป็นความรู้สึกที่ ‘ฟ้าไร้ทาง ดินไร้ประตู’ จริงๆ!
หนวดทั้งด้านบนด้านล่างพุ่งเข้ามาอย่างดุร้าย
มู่ชิงเกอกัดฟันสะบัดทวนหลิงหลง เคลื่อนไหวพลังจิต ลอยอยู่กลางอากาศ ร่างกายพลิกลอยไปมาระหว่างช่องว่างของหนวด หลบหลีกหนวดที่พุ่งไปมาจนกลายเป็นตาข่ายขนาดใหญ่
การตอบโต้ของนางทำให้หนวดโมโหขึ้นมา หนวดนับไม่ถ้วนพุ่งเข้ามาหานางอย่างรวดเร็ว คิดจะทำลายนาง
มู่ชิงเกอยืนอยู่กลางอากาศ ทวนหลิงหลงในมือต่อสู้กับหนวดอย่างดุเดือด พลังป้องกันของหนวดนั้นแข็งแกร่งมาก อาศัยเพียงแค่พลังจิตไม่สามารถทำลายได้ ได้แต่ยืมความคมของยุทธภัณฑ์ระดับมหาเทพอย่างทวนหลิงหลงเข้าสนับสนุนเพื่อแทงผิวหนังและตัดหนวด
และนี่ก็หมายถึงมู่ชิงเกอจำเป็นต้องต่อสู้ในระยะประชิด!
หนวดนับสิบเส้นเบียดอยู่ข้างกายมู่ชิงเกอ โจมตีนางในทุกๆ มุม ทั้งหน้า หลัง ซ้าย ขวา บนและล่าง ทวนหลิงหลงมีแค่เล่มเดียว ถึงมู่ชิงเกอจะร้ายกาจกว่านี้ก็ยากที่จะต่อต้านอยู่ดี
ด้านหน้า มู่ชิงเกอตัดหนวดไปหลายเส้น ส่วนด้านหลังของนางก็มีหนวดลอบโจมตีเข้ามา ส่วนด้านบนและด้านล่างก็ถูกหนวดปิดกั้นเอาไว้ ทำให้นางไม่มีทางหลบหลีกได้เลย
ทันใดนั้นชุดออกรบของนางก็มีเปลวไฟลุกโชนขึ้นมา เปลวไฟตกลงบนหนวดเหล่านั้นทำให้เกิดเสียง ‘ฉ่า ฉ่า’ ดังขึ้น
หนวดที่โดนเปลวไฟสัมผัสต่างสั่นสะท้านขึ้นมาแล้วรีบหดตัวไปด้านหลัง
ฉากนี้ทำให้ดวงตาของมู่ชิงเกอเปล่งประกายสดใส ลอบยินดีในใจ ‘ดีมาก! กลัวไฟ!’
หนวดถูกเปลวไฟบนชุดรบบีบให้ถอยออกไป มู่ชิงเกอร่ายรำทวนหลิงหลงในมือแล้วก็ใส่พญาเพลิงเข้าไปในนั้น
ปัง!
มังกรเพลิงสามตัวถูกพ่นออกมาจากปลายทวน แยกกันออกไปสามทิศทางและพุ่งเข้าใส่หนวดเหล่านั้น
หัวมังกรดูน่ากลัว ร่างมังกรยาวดุจดั่งงูเหลือมยักษ์ ทุกส่วนสร้างขึ้นมาจากเปลวไฟ มังกรเพลิงทั้งสามตัวพันวนรอบกายของมู่ชิงเกอ เข้าต่อสู้กับหนวด มีหนวดจำนวน
ไม่น้อยที่ถูกเผาจนเกิดกลิ่นไหม้ฉุนออกมา
สถานการณ์ดูน่าตื่นตกใจมาก
กลางอากาศของถํ้าขนาดใหญ่ เงาร่างสีแดงปราดเปรียว ในชุดรบสีแดงเลือด ผมสีดำพลิ้วไสว มือถือทวนสีเงิน รอบกายมีมังกรเพลิงสามตัวกำลังฆ่าล้างหนวดยักษ์อันน่าสยดสยองนับสิบเส้น
แสงเปลวเพลิงส่องสะท้อนให้ถํ้าสว่างขึ้นมา และก็ทำให้ใบหน้าที่ดูเคร่งขรึมของมู่ชิงเกอดูลึกลับ
มีหนวดถูกไฟเผาตกลงไปเรื่อยๆ ก้อนเปลวไฟตกลงบนกองกระดูกสีขาวเหมือนกับดอกไม้ที่เบ่งบานสวยงามแปลกตาและก็เต็มไปด้วยกลิ่นอายของปีศาจ
หนวดค่อยๆ ถอยออกไปไม่รุมโจมตีมู่ชิงเกออีก
มังกรเพลิงสามตัวลอยวนรอบตัวมู่ชิงเกอคอยคุ้มครองนางเอาไว้อย่างหนาแน่น
แต่ใบหน้าของมู่ชิงเกอในตอนนี้กลับดูซีดขาว
พญาเพลิงและมังกรเพลิงล้วนแต่ใช้พลังจิตของนางสนับสนุน นางไม่สามารถใช้ตลอดไปได้ เมื่อนางกลืนยาฟื้นฟูพลังจิตไปเม็ดหนึ่งแล้ว มู่ชิงเกอก็มองไปยังหนวดที่
ถอยหลบออกไปจากนาง แต่ยังคงจับตามองอยู่ตลอด
‘ตัวประหลาดตัวนี้จะต้องมองจุดนี้ออก ดังนั้นถึงได้จงใจโอบล้อมและไม่โจมตี จะรอให้ข้าใช้พลังจิตจนหมดแล้วถึงจะลงมือ!’ มู่ชิงเกอวิเคราะห์ในใจ
ต่อสู้มาตั้งนานแล้วแต่นางก็ยังไม่เห็นร่างทั้งหมดของตัวประหลาด ทำให้รู้สึกหดหู่ใจจริงๆ
ตอนนี้ตัวประหลาดคิดที่จะผลาญพลังจิตของนาง เจ้าเล่ห์เช่นนี้นางจะยอมให้มันสมความปรารถนาได้อย่างไร?
นัยน์ตาของมู่ชิงเกอฉายแววดุดัน นางควบคุมมังกรเพลิงสามตัว และก็พุ่งเข้าไปยังกองกระดูกอย่างกะทันหัน มังกรเพลิงสามตัวรวมเป็นร่างเดียวกัน เปลี่ยนเป็นมังกรขนาดยักษ์ตัวหนึ่งที่ราวกับมีชีวิต มาพร้อมกับพลังอำนาจพุ่งเข้าใส่กองกระดูก
แครก!
เดิมทีกระดูกก็เป็นของที่ติดไฟง่ายอยู่แล้ว
เมื่อถูกมังกรเพลิงที่สร้างขึ้นมาจากพญาเพลิงพุ่งเข้าโจมตีเช่นนี้ ชั่วขณะนั้นก็เกิดเป็นทะเลเพลิงเผาไหม้ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
ส่วนหนวดที่โอบล้อมไม่โจมตีก็เริ่มสับสนวุ่นวายขึ้นมา
ส่วนหนึ่งร้อนใจไปช่วยดับไฟ ส่วนหนึ่งก็พุ่งเข้ามาใส่มู่ชิงเกอ
มู่ชิงเกอยิ้มเยาะ ปลายเท้าเหยียบลงบนหนวดที่พุ่งเข้ามาหานาง ยืมแรงของมันกระโดดขึ้นข้างบน แล้วพลิกตัวกลางอากาศ ส่วนใต้ร่างของนาง หนวดหลายเส้นก็ทะลุผ่านตำแหน่งที่นางเคยอยู่ก่อนหน้านี้
ในช่วงเวลาเดียวกันกับตอนที่นางพลิกตัว ก็มองเห็นว่าในกองกระดูกมีหน้ากากหลายอันตกอยู่
หน้ากากนั้นนางจำได้ว่าเป็นของกลุ่มคนที่ไล่ตามนางมา
‘ดูแล้วคนยี่สิบกว่าคนนี้น่าจะโชคร้ายมากกว่าโชคดี!’ มู่ชิงเกอพูดในใจ
นางควบคุมร่างกายบนอากาศ กุมทวนหลิงหลงแล้วพุ่งลงไปยังด้านล่างอย่างรวดเร็วราวกับลูกธนู
พรึ่บ!
เมื่อทะลุผ่านช่องว่างของบรรดาหนวดเหล่านั้น ร่างกายของมู่ชิงเกอก็มีชั้นเปลวเพลิงลุกโชนขึ้นมา บีบให้หนวดไม่กล้าเข้าใกล้ มังกรเพลิงกลับมาพันรอบทวนหลิงหลง และเริ่มโจมตีไปพร้อมกับมู่ชิงเกออีกครั้ง
บึ้ม!
ในตอนที่ทวนหลิงหลงของมู่ชิงเกอแทงลงไปนั้นก็มีพลังอันแข็งแกร่งดุจดั่งโล่ขัดขวางนางเอาไว้ พลังนี้ปะทะเข้ากับนาง ชั่วขณะนั้นก็สะท้อนจนเลือดลมของนางตีกลับ ร่างกายปลิวออกไปด้านหลัง เปลวไฟและมังกรเพลิงบนร่างถูกโจมตีจนหายไปอย่างไร้ร่องรอย เหลือแค่เพียงเปลวไฟบนกองกระดูกที่ยังคงลุกโชนอยู่ ร่างกายของมู่ชิงเกอหมุนอยู่กลางอากาศหลายรอบ นางยืมแรงนี้ดีดตัวไปยืนบนปากถํ้าแห่งหนึ่งบนกำแพง
นางไม่ได้หนีเพราะรู้ว่าหนีไม่พ้น
นางยืนอยู่ที่ปากถํ้า มือกุมทวนหลิงหลง นัยน์ตาฉายแววดุดัน มองดูกองกระดูกที่เริ่มพังทลายลงอย่างเย็นชา
‘ในที่สุดตัวประหลาดก็จะออกมาแล้ว!’ จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ลุกโชนขึ้นในใจของมู่ชิงเกอ
สูญเสียพลังไปมากมาย ในที่สุดนางก็บีบให้ตัวประหลาดตัวนี้ออกมาได้แล้ว
กองกระดูกใต้ถํ้าลื่นไถลลงรอบด้าน กระดูกที่ไม่ถูกเผาไหม้ปกคลุมกระดูกที่เผาไหม้ทำให้เปลวไฟดับลง
ถํ้ามืดมิดลงอีกครั้ง
แต่ก็ยังมองเห็นได้ชัดเจนอยู่
มู่ชิงเกอมองเห็นบางอย่างค่อยๆ ลุกขึ้นมาจากกองกระดูก ดวงตานางเบิกกว้าง ส่วนลึกของนัยน์ตาเต็มไปด้วยความตกตะลึง
สิ่งที่ปรากฎออกจากกองกระดูกนั้นดูคล้ายเต่า เพียงแต่มีขนาดใหญ่มาก บนหลังเติมไปด้วยหนวด ดุจดงภูเขาน้อยที่ขยับได้
หนวดเหล่านี้ยื่นออกมาจากตัวของมัน สี่เท้าใหญ่โตแข็งแรง ราวกับกรงเล็บเสือ ส่วนหัวของมันกลับเหมือนแร้ง
‘นี่เป็นตัวประหลาดอะไร!’ มู่ชิงเกอพูดอย่างตกตะลึง ตัวประหลาดดวงตาแดงฉานมองไปยังมู่ชิงเกอ เมื่อถูกมันจ้องมองมู่ชิงเกอก็รู้สึกเหมือนตกเข้าไปอยู่ในโลกสีแดงเลือด ร่างกายไร้ซึ่งกำลังและไม่ต้องพูดถึงพลังจิตเลย
‘แข็งแกร่งมาก!’ มู่ชิงเกอตกตะลึงในใจ ตัวประหลาดตัวนี้ไม่ต้องพูดถึงว่าจะต่อสู้กับมันเลย เมื่ออยู่ต่อหน้ามันแล้วแม้แต่มือก็ยกขึ้นมาไม่ได้ มันอยู่ระดับในอะไรกัน?
“โฮก!” ตัวประหลาดส่งเสียงคำรามด้วยความโมโห เสียงคำรามของมันดูคล้ายวัวและก็คล้ายเสือ
หนวดนับสิบเส้นตั้งขึ้นมาลอยอยู่กลางอากาศ โอบล้อมตัวมันเอาไว้
มู่ชิงเกอสูดหายใจเข้าลึกๆ ลางสังหรณ์บอกนางว่าตอนนี้นางต้องรีบหนีไปโดยเร็ว!
แต่ในตอนที่นางเพิ่งจะหันตัวกลับคิดจะวิ่งเข้าไปในถํ้านั้น พลังดูดอันรุนแรงก็ถูกส่งเข้ามาจากด้านหลัง ลากนางให้ลอยไปกลางอากาศและพุ่งลงไปบนพื้น
นางรีบควบคุมร่างกายให้สมดุลแต่กลับพบว่าเมื่อตนเองอยู่ต่อหน้าพลังอันยิ่งใหญ่แล้วก็ไม่สามารถต่อต้านได้เลย
“เป็นเพียงแค่อาหารก็กล้าโอหังต่อหน้าข้า!” ตัวประหลาดพูดภาษาคนออกมา
มู่ชิงเกอพยายามขัดขืนแต่ก็ไม่มีประโยชน์
เวลานี้เองนางก็เห็นว่าตรงตำแหน่งที่ตัวประหลาดนั่งอยู่ นั้นมีตานํ้าพุร้อนแห่งหนึ่ง!
‘หนึ่งในเก้าตานํ้าพุร้อน! เป็นหนึ่งในเก้าตานํ้าพุร้อน!’
มู่ชิงเกอตกตะลึง นางคิดไม่ถึงว่าตัวประหลาดตัวนี้จะหยิบยืมหนึ่งในตานํ้าพุร้อนทั้งเก้ามา’ฝึกปรือ ที่สำคัญก็คือนางไม่รู้ว่านํ้าในตานํ้าพุร้อนนี้จะให้ผลลัพธ์อะไรกันแน่!
ทันใดนั้นร่างกายของมู่ชิงเกอก็พุ่งเข้าไปยังตานํ้าพุร้อน ข้างหูยังได้ยินเสียงหัวเราะอันบ้าคลั่งของตัวประหลาดดังเข้ามาว่า “ล้างสะอาดแล้ว ข้าจะกินให้หมดในหนึ่งคำเชียว!”