Skip to content

พลิกปฐพี 483

ตอนที่ 483

ซือมั่วฟื้น!

“ล้างสะอาดแล้ว ข้าจะกินให้หมดในหนึ่งคำเชียว!”

คำพูดของตัวประหลาดดังขึ้นข้างหู

มู่ชิงเกอรู้สึกเพียงร่างกายหนักอึ้ง เสียง ‘ตูม’ ดังขึ้นก่อนตกลงไปในตานํ้าพุร้อน

น้ำพุร้อนสาดกระเซ็น มู่ชิงเกอรู้สึกว่าตนเองถูกน้ำพุร้อนเสียดแทงกระดูกโอบล้อมเอาไว้ในพริบตา

‘ให้ตายเถอะ! นํ้าพุร้อนนี้มีสรรพคุณอะไรกันแน่?”

เพียงแต่นางยังไม่ทันได้ตอบสนอง พลังอันแข็งแกร่งก็ดึงเอานางออกมาจากนํ้าพุร้อนแล้ววางร่างเปียกโชกของนางไว้ที่ข้างตานํ้าพุร้อน

“แค่ก แค่ก…” มู่ชิงเกอไออกมา

นํ้าพุร้อนนี้ไม่แตกต่างจากนํ้าอื่นๆ

“เอ? ไม่เป็นอะไรงั้นหรือ!” เสียงของตัวประหลาดดังขึ้นมาอีกครั้ง

มู่ชิงเกอเงยหน้าขึ้น เผชิญหน้ากับหัวที่เหมือนอีแร้งของมัน

‘ไม่เป็นไรอะไรกัน?’

จู่ๆ นางก็รู้สึกสังหรณ์ไม่ดีขึ้นมา

“ดูแล้ว ร่างกายของเจ้าไม่เหมือนกับคนปกติ” ตัวประหลาดตัวนั้นพูดออกมาหนึ่งประโยค หนวดเส้นหนึ่ง ยื่นออกมาม้วนเอาตัวมู่ชิงเกอโยนเข้าไปในตานํ้าพุร้อน

เมื่อถูกโยนเข้าไปในตานํ้าพุร้อนอีกครั้ง ร่างกายของมู่ชิงเกอก็จมลึกลงไปเรื่อยๆ นํ้าพุร้อนเข้าปากตาหูจมูกไปไม่น้อย ทำให้รู้สึกแสบร้อนทรมานมาก

อึก!” ทันใดนั้นมู่ชิงเกอก็รู้ลึกว่าร่างกายเจ็บปวดจนอดขมวดคิ้วไม่ได้

ภายในร่างกายของตนเองเหมือนมีไฟแผดเผา ความเจ็บปวดขนาดนี้เทียบได้กับความเจ็บปวดเมื่อครั้งที่นางกินยาปรับเปลี่ยนพันธุ์กรรมเป็นสิบเท่า

‘นี่มันเกิดอะไรขึ้น? … ตานํ้าพุร้อนนี่!’ มู่ชิงเกอมีปฏิกิริยาในทันที

เวลานี้เองหลังมือของนางก็มีความเจ็บปวดทิ่มแทงเข้ามา นางมองไปที่หลังมือของตนเองถึงได้พบว่าหลังมือเริ่มจะเน่าเปื่อย เมื่อเน่าเปื่อยแล้วก็เกิดเลือดเนื้อขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

‘นี่เป็นนํ้าพุร้อนมีพิษ!’ มู่ชิงเกอเข้าใจแล้ว

ตัวประหลาดตัวนี้ใช้ตาน้ำพุร้อนแห่งนี้เพื่อฝึกปรือและก็รู้ว่าน้ำพุร้อนมีพิษร้าย หากคนธรรมดาสัมผัสโดนก็จะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย แต่เมื่อนางถูกโยนลงมาแล้ว ดึงขึ้นไปกลับไม่เป็นอะไร เพราะพลังในการฟื้นฟูของนางทั้งยังมีความสามารถในการต้านทานพิษจึงทำให้นางไม่ได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นมันจึงเกิดความสงสัยขึ้นมา

มู่ชิงเกอต้องทนรับความเจ็บปวดแสนสาหัส นางไม่รู้ว่าหากแช่อยู่ในนํ้าพุร้อนต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น

ถึงร่างกายของนางจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็ทนต่อความทรมานไม่สิ้นสุดเช่นนี้ไม่ไหวอยู่ดี

อีกอย่างถึงนางจะรอดจากนํ้าพุร้อนไปแล้วจะเป็นอย่างไร? ด้านนอกยังมีสัตว์อสูรยักษ์อันน่ากลัวรออยู่ ยากที่จะหนีรอดไปได้!

‘หลบก่อนดีกว่า!’ มู่ชิงเกอกัดฟัน ฝืนทนต่อความเจ็บปวด เปิดประตูช่องว่างเพื่อกลับเข้าไปในช่องว่าง

เพียงแค่นาง เข้าไปในช่องว่างก็ล้มลงบนพื้นหญ้าทันที นํ้าพุร้อนที่ตามนางเข้ามาสาดลงบนพื้นหญ้าทำให้พื้นหญ้าเกิดกลิ่นไหม้ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

“แค่ก แค่ก…” มู่ชิงเกอไอเอาเลือดผสมน้ำพุร้อนออกมา

ตอนนี้พิษภายในนํ้าพุร้อนเริ่มที่จะกัดกร่อนร่างกายของนางแล้ว พิษนั้นกัดกร่อนจากด้านในสู่ด้านนอก นางฝึกฝนเคล็ดวิชาเทวะส่วนบนทำให้ร่างกายแข็งแกร่งกว่าปกติ แต่นั้นก็หมายถึง ในตอนที่พิษเหล่านี้ยังไม่ถูกความสามารถในการต้านพิษของร่างกายนางขจัดจน หมด นางก็จะต้องทนรับความเจ็บปวดแสนสาหัสนี้

คนอื่นเพียงแค่สัมผัสก็ตาย ส่วนนางกลับไม่ตายแต่ต้องเจ็บปวดทรมาน!

“อา!” มู่ชิงเกอกัดฟันไม่ยอมส่งเสียงร้องออกมา แต่ก็อดร้องออกมาคำหนึ่งไม่ได้ นางขดตัวเป็นก้อน อดทนต่อความเจ็บปวดที่ร่างกายถูกกัดกร่อน รอให้พิษคลายไป

พิษกำลังกัดกร่อน ส่วนพลังแห่งการดัดแปลงพันธุ์กรรมกำลังฟื้นฟู

ศึกการยื้อยุดกันในครั้งนี้คนที่เจ็บปวดที่สุดก็คือมู่ชิงเกอ ตอนนี้นางเหมือนกับไม้ท่อนหนึ่งที่ถูกเลื่อยกลับไปกลับมา

“เจ้านาย!” เหมิงเหมิงพุ่งมากับสายลม

เมื่อมองเห็นสภาพสะบักสะบอมของมู่ชิงเกอแล้ว นางก็ตกใจจนหน้าซีดขาว

นางยังไม่เคยเห็นมู่ชิงเกอมีสภาพยาแย่อย่างนี้มาก่อน ร่างกายเต็มไปด้วยเลือด เลือดเนื้อที่ถูกกัดกร่อนถูกฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง แล้วก็ถูกกัดกร่อนและก็ถูกฟื้นฟูอีก เป็นเช่นนี้กลับไปกลับมา

นางสามารถมองเห็นกระดูกของมู่ชิงเกอได้อย่างชัดเจน

“เจ้านาย ท่านเป็นอะไรไป? ข้าจะทำอย่างไรดี?!” เหมิงเหมิงเดินวนอยู่ที่เดิมอย่างร้อนใจ นางไม่รู้ว่าจะช่วย ให้มู่ชิงเกอคลายความเจ็บปวดลงได้อย่างไร

“ข้าไม่เป็นไร” มู่ชิงเกออดทนต่อความเจ็บปวดกัดฟันพูดออกมา

แก้มของนางเผยให้เห็นกระดูกออกมาเป็นช่วงๆ ดวงตาเต็มไปด้วยเส้นเลือด เส้นเลือดเหล่านี้นูนขึ้นมาแล้วก็ระเบิดออก เลือดสีแดงเต็มไปทั่วทั้งดวงตาของนาง จนดวงตาของนางเปลี่ยนเป็นสีแดงฉาน

“ฮือ ฮือ ฮือ ท่านเป็นถึงขนาดนี้ยังพูดว่าไม่เป็นไรอีก!” เหมิงเหมิงร้อนใจจนร้องไห้ออกมา มู่ชิงเกอเจ็บปวดทำให้นางปวดใจ นางรู้ว่าร่างกายของมู่ชิงเกอนั้นพิเศษ ยาธรรมดาแทบจะไม่มีประโยชน์ นางคิดไปถึงซือมั่วแล้วก็พูดอย่างแค้นใจว่า “เจ้าจอมมารนั้นจะนอนตอนไหนก็ไม่นอน ดันมานอนตอนที่เจ้านายต้องการเขามากที่สุด! เหมิงเหมิงเกลียดเขา! ฮือ ฮือ ฮือ … เจ้านาย ข้าขอร้องท่าน บอกเหมิงเหมิงเถิดว่าควรช่วยท่านอย่างไร…,

เหมิงเหมิงคุกเข่าลงนั่งอยู่ข้างกายมู่ชิงเกอ ร้องไห้จนหน้าลายเหมือนลูกแมวน้อย

เหมิงเหมิงกำลังโมโหที่ซือมั่วนอนหลับ แต่สำหรับมู่ชิงเกอแล้วกลับเป็นโชคดี นางไม่อยากให้เขามองเห็นนางในสภาพจนตรอกเช่นนี้ ยิ่งไม่อยากให้เขาปวดใจเพราะตน

เอง

มู่ชิงเกอมองเหมิงเหมิง เอ่ยกับนางว่า “เหมิงเหมิง พยุงข้าไปบ่อสายฟ้า”

“เจ้านาย ท่านเป็นเช่นนี้แล้วยังจะไปบ่อสายฟ้าอะไรอีก!” เหมิงเหมิงร้องไห้ยืนขึ้นมา ถึงปากจะบอกไม่เห็นด้วยแต่ก็ยังคงพยุงมู่ชิงเกอขึ้นมา

นางสัมผัสโดนร่างกายของมู่ชิงเกอ ทำให้สองมือชุ่มไปด้วยเลือด นางรู้สึกขมขื่นปวดใจจนร้องไห้ออกมาอีก

มู่ชิงเกอหายใจหอบ เอ่ยอย่างอ่อนแรงว่า “เป็นเช่นนี้ต่อไปไม่ใช่เรื่องดี หากข้าไม่ตายด้วยพิษ ก็ต้องเจ็บปวดจนตาย”

เหมิงเหมิงพยุงมู่ชิงเกอเดินมายังบ่อสายฟ้าอย่างทุลักทุเล

มู่ชิงเกอออกแรงผลักเหมิงเหมิงออก แล้วกระโดดลงไปในบ่อสายฟ้า

เพียงแค่นางลงไปในบ่อสายฟ้า สายฟ้าก็ฟาดลงมาที่ร่างกายของนางในทันที ความเจ็บปวดจากสายฟ้าฟาดผสานรวมกันกับความเจ็บปวดจากการกัดกร่อนในร่างกาย แต่กลับทำให้นางรู้สึกสบายขึ้นเล็กน้อย

“เจ้านาย ท่านทำอะไร!” เหมิงเหมิงตะโกนอย่างร้อนใจ

มู่ชิงเกอแช่ตัวอยู่ในบ่อสายฟ้า ผ่อนลมหายใจแล้วเอ่ยกับนางว่า “ใช้ความเจ็บปวดระงับความเจ็บปวด นี่เป็นวิธีที่ไม่เลววิธีหนึ่ง สามารถดึงดูดความสนใจได้ ทำให้ผ่านไปได้ง่ายขึ้น”

คำพูดของนางเหมิงเหมิงเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง เพียงแต่เมื่อนางมองเห็นว่าสีหน้าของมู่ชิงเกอดูผ่อนคลาย ในใจก็รู้ว่านี่อาจเป็นวิธีหนึ่ง ดังนั้นจึงได้คลายความกังวลใจลงเล็กน้อย

“เจ้านาย ท่านยังต้องการให้เหมิงเหมิงทำอะไรอีกไหม?” เหมิงเหมิงคุกเข่าอยู่ข้างบ่อสายฟ้าแล้วเอ่ยถาม

มู่ชิงเกอยิ้มให้นาง”ไปเตรียมนํ้าร้อนกับเสื้อผ้าสะอาดให้ข้า”

เหมิงเหมิงพยักหน้าแล้วหันกายวิ่งออกไป

นางเข้ามาในตำหนักของมู่ชิงเกอ ซือมั่วยังคงนอนอยู่บนเตียงด้านใน

เหมิงเหมิงหาเสื้อผ้าของมู่ชิงเกอจนพบแล้วก็มายืนมองซือมั่วอยู่ข้างเตียง พูดอย่างโมโหว่า “เจ้าจอมมารชั่ว เจ้านายบาดเจ็บถึงขนาดนี้แล้วเจ้ายังจะนอนอยู่อีก!”

ด่าไปประโยคหนึ่งแล้ว เหมิงเหมิงถึงได้หันหน้าวิ่งออกไป

ตอนนี้ร่างกายของซือมั่วฟื้นฟูกลับมาได้พอสมควรแล้ว วิญญาณของเขาเข้าไปภายในช่องว่างในจิตใต้สำนึกของตนเอง มาถึงสถานที่ที่ถูกหลี่ยวนผนึกเอาไว้

ใบหน้าของจิตวิญญาณซือมั่วดูเคร่งขรึมเหมือนเคลือบด้วยชั้นนํ้าแข็ง เขามองไปยังผนึกที่หลียวนทิ้งเอาไว้ บนนั้นยังมีกลิ่นอายของคำสาปหลงเหลืออยู่

“คำสาปงั้นหรือ? ชิ วันนี้ข้าจะดูสิว่าเจ้าลงคำสาปอะไรไว้!” ซือมั่วชี้สองนิ้วลงไปที่หว่างคิ้ว แสงสีดำทองลอยออกมาจากหว่างคิ้วพุ่งเข้าไปยังผนึก

พริบตาเดียว ซือมั่วก็หรี่ตาลง ยิ้มเยาะที่มุมปาก “ถึงกับลงคำสาปร่วมเป็นตาย!”

ในดวงตาของเขาดูเย็นชาเหมือนกับว่าทั้งโลกใบนี้มีแต่การฆ่าล้าง

“น่าเสียดาย คำสาปเพียงแค่นี้มันไร้ผลสำหรับข้า” ซือมั่วยิ้มเยาะ ยกมือขึ้นมาแล้วก็กางนิ้วทั้งห้าไปที่ผนึก พลังอันแข็งแกร่งพุ่งออกมาจากใจกลางฝ่ามือของเขากลายเป็นมีดแหลมพุ่งแทงออกไป

“สลายไปซะ!” สิ่งที่ตามมาพร้อมกับเสียงตะคอกนั้นก็คือคำสาปและผนึกที่หลี่ยวนลงเอาไว้ถูกทำลายลงไป ความทรงจำที่เกี่ยวกับมู่ชิงเกอและทุกอย่างของนางที่ถูกผนึกเอาไว้หลั่งไหลออกมาเหมือนนํ้าไหลบ่า กลับเข้ามาสู่วิญญาณของซือมั่ว

เขายืนอยู่ที่เดิม หลับตาลงรองรับทุกอย่างที่เป็นของเขาและมู่ชิงเกอ

และในขณะเดียวกันที่ผนึกถูกทำลาย ในแผ่นดินเทพสี่สมุทร ตำหนักของราชาเทวะเฟิ่งเทียน หญิงสาวที่กำลังแต่งตัวอยู่หน้ากระจก จู่ๆ ก็รู้สึกถึงความเจ็บปวดเหมือนถูกทิ่มแทงเข้าที่ดวงใจ พลังฝึกปรือทั่วร่างสะท้อนกลับอย่างกะทันหันทำให้นางกระอักเลือดออกมาสาดลงไปบนกระจก

“เกิดอะไรขึ้น! พลังฝึกปรือของข้า…” นางพูดอย่างตกใจ

นางขยับปลายนิ้วคำนวณอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นก็ชะงักค้าง ดวงตาที่สับสนเผยความอำมหิตออกมา รูปโฉมที่งดงามเปลี่ยนเป็นบ้าคลั่ง “ซือมั่ว เจ้าถึงกับสามารถทำลายผนึกของข้าได้! ทำร้ายจนข้าต้องถูกพลังสะท้อนกลับ พลังฝึกปรือถดถอยลงไปถึงพันปี!

แต่หลังจากเอ่ยอย่างบ้าคลั่งแล้ว สีหน้าของนางก็ปรากฎความหวาดกลัว นางตื่นตระหนกจนทรุดจากเก้าอี้ลงมากองกับพื้น พูดอย่างไม่อยากจะเชื่อว่า “ไม่! เป็นไปไม่ได้! หากจะคลายผนึกของข้าได้ พลังของเขาก็จะต้องฟื้นคืนดังเดิมแล้วเท่านั้น”

หากพลังของซือมั่วฟื้นคืนแล้ว นางไม่กล้าคิดเลยว่าผู้ชายที่เย็นชาและไร้หัวใจคนนี้จะทำอะไรเพื่อแก้แค้นเรื่องที่นางได้ทำกับเขา!

ภายในจิตวิญญาณของซือมั่ว ความทรงจำที่ถูกผนึกเหล่านั้นกลับคืนสู่สมองของเขาใหม่อีกครั้ง

เขาค่อยๆ ลืมตาขึ้น ดวงตาสีอำพันเต็มไปด้วยความอบอุ่น จากนั้นก็ถูกแทนที่ด้วยไอสังหารอันเย็นเยียบ เขาพูดว่า “หลี่ยวน เจ้ากล้าผนึกสิ่งสำคัญของข้า หากเจ้าไม่ตาย คงยากที่จะดับความแค้นในใจของข้าลงได้”

“เสี่ยวเกอเอ๋อร์…” เมื่อคิดไปถึงความรักในใจ ไอสังหารในดวงตาของซือมั่วก็ถูกความอ่อนโยนเข้าแทนที่ นํ้าเสียงเต็มไปด้วยความรักใคร่

เขาจำได้ทั้งหมดแล้ว และก็ทนรอที่จะพบหน้าเสี่ยวเกอเอ๋อร์ของเขาไม่ไหวแล้ว

ไม่เจอเพียงไม่กี่วัน แต่สำหรับเขาแล้วกลับเป็นเหมือนทั้งชีวิต

ตอนนี้เขายังนึกหวาดกลัวว่าหากตอนที่ตนเองจำอะไรไม่ได้นั้นได้ทำอะไรผิดพลาดกับเสี่ยวเกอเอ๋อร์ของเขาไปแล้วจะทำอย่างไรดี?

เขาอาจจะเป็นบ้า! อาจจะคุ้มคลั่ง! เขาอาจจะโกรธแค้นจนอยากจะฆ่าตัวตาย!

เงาร่างสูงใหญ่บนเตียงในตำหนักหลับอย่างสงบ ทันใดนั้นดวงตาที่ปิดสนิทอยู่ก็ลืมขึ้นมา ซือมั่วลุกขึ้นนั่งบนเตียง

“เสี่ยวเกอเอ๋อร์” เขามองไปรอบด้าน ความทรงจำระหว่างเขากับมู่ชิงเกอในตอนที่ถูกผนึกพุ่งเข้ามาในหัว

“ชิ! จอมมาร ในที่สุดเจ้าก็ฟื้นแล้ว! เจ้านายของข้า เจ็บปวดจะตายอยู่แล้ว!” เสียงของเหมิงเหมิงดังขึ้นมาในทันใด

มุมปากที่แต่เดิมประดับด้วยรอยยิ้มของซือมั่วแข็งค้างไปในทันที ไอมารเพิ่มพูนขึ้นรอบกาย

พริบตาเดียวเขาก็หายตัวไปจากที่เดิม ในตอนที่ปรากฎตัวขึ้นมาอีกครั้งนั้นก็ได้มาถึงข้างบ่อสายฟ้าและมองเห็นมู่ชิงเกอกำลังยืนรับความเจ็บปวดอยู่ในบ่อสายฟ้า

“เสี่ยวเกอเอ๋อร์!” ซือมั่วกระโดดเข้าไปในบ่อสายฟ้า แล้วโอบมู่ชิงเกอเข้ามาในอ้อมอก

ตอนนี้พิษในร่างกายของมู่ชิงเกอได้ถูกขจัดออกไปหมดแล้ว ร่างกายก็ฟื้นฟูแล้วเช่นกัน เพียงแต่ความทรมานก่อนหน้านี้ทำให้นางเหนื่อยล้ามากจนความง่วงงุนจู่โจมเข้ามา

เมื่อมองเห็นผู้ชายที่กำลังกอดตนเองอยู่นั้น มู่ชิงเกอก็ยิ้มหวานออกมา “เจ้าตื่นแล้วก็ดี”

พูดแล้วนางก็ฟุบลงที่หน้าอกของซือมั่วแล้วสลบไป

นอกช่องว่างตัวประหลาดยังคงรออยู่ มันพูดกับตัวเองว่า “ผ่านไปตั้งนานแล้ว ถึงร่างกายจะพิเศษแค่ไหนก็น่าจะถูกพิษกัดกร่อนกลายเป็นยาเสริมกำลังให้ข้าแล้วล่ะ”

หนวดเส้นหนึ่งค่อยๆ ยื่นลงไปในตานํ้าพุร้อนแล้วควานไปมาในน้ำพุร้อน

แต่ควานไปครู่หนึ่งกลับพบว่าไม่มีอะไรอยู่ในนํ้าพุร้อนเลย

สิ่งนี้ทำให้หัวที่เหมือนอีแร้งของตัวประหลาดเผยสีหน้าบ้าคลั่งออกมา

มันปล่อยหนวดอีกเส้นเข้าไปค้นหาในนํ้าพุร้อน แต่ไม่ว่ามันจะควานหาอย่างไร นอกจากนํ้าพุร้อนแล้วก็ไม่มีอะไรอีก

“หรือว่าถูกพิษในนํ้าพุร้อนกัดกร่อนจนหมดแล้ว?” ตัวประหลาดคิดอย่างขมขื่น

นี่เหมือนจะเป็นข้อสรุปที่สมเหตุสมผลเพียงอย่างเดียวเท่านั้น มิเช่นนั้นแล้ว จะอธิบายเรื่องเหยื่อที่หายไปได้อย่างไร?

เสียอาหารชั้นดีไปโดยเปล่าประโยชน์ทำให้ตัวประหลาดไม่พอใจ มันคำรามเสียงดังออกมาอย่างโมโห เสียงคำรามของมันดังก้องไปทั่วถํ้าขนาดใหญ่อย่างต่อเนื่อง หนวดนับสิบเส้นราวกับถูกกระตุ้นพากันยกฐานดูดแสนน่ากลัวขึ้นมา ฟันถี่ยิบภายในนั้นดูน่าสยดสยองมาก

หนวดยื่นออกมาจากก้นรูแล้วก็พุ่งเข้าไปในรูบนกำแพงเหล่านั้น เหมือนเป็นเพราะว่าการหายไปของมู่ชิงเกอ ทำให้ตัวประหลาดไม่พอใจจึงคิดจะหาเหยื่อใหม่ ภายในช่องว่าง มู่ชิงเกอตื่นขึ้นมาจากภาวะหลับลึก แล้วก็พบว่าตนเองได้เปลี่ยนไปสวมเสื้อผ้าสะอาดแล้ว และถูกใครคนหนึ่งนอนกอดอยู่บนเตียง

นางกะพริบตาสบเข้ากับดวงตาสีอำพันของเขา รู้สึกสงสัยเล็กน้อยต่ออารมณ์ในดวงตาของเขา

นางลุกขึ้นนั่ง พิงอยู่ในอ้อมอกของเขา เอ่ยถามว่า “ข้าหลับไปนานแค่ไหน?”

ซือมั่วถอนหายใจอย่างหมดทางเลือก พูดด้วยนํ้าเสียงที่อ่อนโยนว่า “ไม่นาน เพิ่งจะผ่านไปหนึ่งชั่วยามเท่านั้น”

เอ๋?

มู่ชิงเกอนั่งหลังตรงมองไปทางซือมั่ว ใช้สองมือจับแก้มของเขาแล้วเอ่ยถามอย่างดีใจว่า “ผนึกของเจ้า คลายออกแล้วงั้นหรือ? เจ้าจำเรื่องเมื่อก่อนได้แล้วใช่หรือไม่!”

ซือมั่วมองนางอย่างขบขัน วางสองมือทับลงไปบนมือของนาง ถามกลับไปว่า “เหตุใดเจ้าจึงรู้ว่าข้าจำได้ แล้ว? ข้าที่ถูกผนึกความทรงจำกับข้าในก่อนหน้านี้มีอะไรไม่เหมือนกันงั้นหรือ?”

เอ่อ…

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!