ตอนที่ 528
ระเบิดปีศาจเฒ่าราศีธนู
‘แข็งแกร่งมาก!’
มู่ชิงเกอเผชิญหน้ากับศัตรูโดยตรง แม้ว่าในตอนนี้นางจะอยู่ระดับข้ามผ่าน แต่ในตอนที่เผชิญหน้ากับปีศาจเฒ่าราศีธนูแล้ว ก็ยังรู้สึกว่าออกแรงไม่ได้ดั่งใจ
มู่ชิงเกอกุมทวนหลิงหลงแน่น ออกแรงสะบัดไปตรงหน้าของตนเอง
นางใช้พลังระดับข้ามผ่านเหมือนกันต้านทานการโจมตีของปีศาจเฒ่าราศีธนู
“ระดับข้ามผ่าน! ชิ เจ้าเด็กน้อยมีความสามารถไม่น้อย เพิ่งจะเข้ามาในสุสานเทพก็ทะลวงขอบเขตถึงระดับข้ามผ่านแล้ว แต่ก็เทียบไม่ได้กับระดับข้ามผ่านของข้าที่ผ่านเคราะห์อัสนีมาสองครั้งหรอก วันนี้เจ้ายากที่จะหนีจากมือข้าไปได้” ปีศาจเฒ่าราศีธนูทำลายพลังป้องกันของมู่ชิงเกอบีบเข้าใกล้นางเรื่อยๆ
มู่ชิงเกอถอยหลังอย่างต่อเนื่อง ใช้กระบวนท่าสังหารออกต้านทาน
แต่ความห่างชั้นระหว่างระดับข้ามผ่านนั้นกว้างใหญ่กว่าที่นางคิดเอาไว้ไม่ว่านางจะต่อต้านอย่างไรพลังโจมตีก็ไม่เกิดผลต่อปีศาจเฒ่าราศีธนูเลย
“ฮ่าๆๆๆๆๆ! เจ้ายอมเสียเถอะ เจ้าไม่ใช่คู่มือของข้าหรอก!” ปีศาจเฒ่าราศีธนูหัวเราะอย่างหยิ่งผยอง
มู่ชิงเกอเม้มปากแน่น นัยน์ตาฉายแววหนักอึ้ง
นางสะบัดทวนหลิงหลงอีกครั้ง มังกรเพลิงตัวหนึ่งพ่นออกมาพุ่งเข้าใส,ปีศาจเฒ่าราศีธนู สีหน้าของปีศาจเฒ่าราศีธนูเปลี่ยนไป หลบออกด้านข้าง แต่มังกรเพลิงตัวนั้นกลับเลี้ยวไปไล่ล่าเขาไม่หยุด เขาทั้งปัดป้องความร้อนจากพญาเพลิง ทั้งเอ่ยว่า “พญาเพลิง! ที่แท้เจ้าก็มีรากวิญญาณเพลิง! ข้ามีโชคไม่เลว! ฮ่าๆๆๆๆๆ”
ท่าทีของเขาทำให้มู่ชิงเกอรู้สึกเคร่งเครียด
ภายในข้อมูลของหานฉายไฉ่นั้นปีศาจเฒ่าราศีธนูไม่มีรากวิญญาณและก็หมายถึงหากเขาคิดจะเข้าไปยังแผ่นดินใหญ่แห่งเทพมารก็ต้องกินยาชนิดพิเศษให้เกิดรากวิญญาณเทียมหรือแย่งรากวิญญาณของคนอื่นมาเป็นของตนเอง
นางเผยไพ่ตายของนางออกมาทำให้ปีศาจเฒ่าราศีธนูยิ่งจับจ้องมาที่ตนเอง
ต่อสู้ไม่ได้ก็ถอย
มู่ชิงเกอฉวยโอกาสรีบหันกายเพื่อหนี หากใช้คำศัพท์เฉพาะของกองทัพในปัจจุบันมากล่าวก็เรียกว่า ปรับกลยุทธ์ตามสถานการณ์
“คิดจะหนีงั้นหรือ ไม่ง่ายเช่นนั้นหรอก!” ปีศาจเฒ่าราศีธนูสลัดการพัวพันของมังกรเพลิง มองเงาหลังของมู่ชิงเกอที่กำลังรีบวิ่งหนีแล้วหัวเราะเยาะออกมา
เขาสะบัดชายเสื้อ เงาร่างพุ่งไปทางที่มู่ชิงเกอหนีไป
คนหนึ่งหนีอยู่ด้านหน้า อีกคนไล่ตามมาด้านหลัง
ไม่ว่ามู่ชิงเกอจะเร่งความเร็วอย่างไร ก็ยากที่จะเว้นระยะห่างจากปีศาจเฒ่าราศีธนูได้
นางทั้งหนีทั้งใช้หางตาสังเกตความเคลื่อนไหวด้านหลัง
ชุดสีแดงดุจเปลวเพลิงวาดผ่านกลางอากาศดุจดั่งดาวตก
‘วิชาเฉพาะของปีศาจเฒ่าราศีธนูคือการปิดกั้น บนข้อมูลของหานฉายไฉ่ระบุว่าเขาสามารถปิดกั้นช่องว่างเป็นวงกลมในระยะหนึ่งลี้นี่ไม่ใช่พลังของช่องว่างแต่ เป็นวิชาลับอย่างหนึ่ง ไม่รู้ว่าเขาได้มาจากที่ไหน หากว่าถูกเขาปิดกั้นแล้ว เกรงว่าคงจะต้านทานไม่อยู่ แม้แต่โอกาสจะเข้าไปในช่องว่างก็ไม่มี’ มู่ชิงเกอเอ่ยในใจ
ในเมื่อรู้ว่าปีศาจเฒ่าราศีธนูมีวิชาลับเช่นนี้ นางก็จะไม่มอบโอกาสให้เขาปิดกั้นตนเองอย่างเด็ดขาด
มู่ชิงเกอเร่งความเร็วหนีไปด้านหน้า ในภาวะวิกฤตทำให้แยกทิศทางไม่ออก ทำได้แค่หนีไปตามสัญชาตญาณเท่านั้น ระหว่างทางก็ผ่านกลุ่มคนหลายกลุ่มไป
มีคนที่กำลังหาสิทธิ์แห่งเทพและมีที่กำลังต่อสู้แย่งชิงสิทธิ์แห่งเทพ
เมื่อพวกเขารู้สึกว่ามีกลิ่นอายอันแข็งแกร่งสายหนึ่งผ่านไปกลางอากาศ ชั่วขณะนั้นก็หยุดเคลื่อนไหวพลางเงยหน้าขึ้นมองฟ้า แต่สิ่งที่พวกเขามองเห็นก็คือเปลวไฟสีแดงสะท้อนเจิดจ้าสายหนึ่งวาบผ่านไปดุจดั่งดาวตก
ส่วนด้านหลังของนางก็มีปีศาจเฒ่าสวมชุดหมู่ดาวไล่ตามมา ปีศาจเฒ่าคนนั้นดูผ่อนคลายมาก ดวงตาเต็มไปด้วยความยั่วยุ
“คนคนนั้นเป็นใครน่ะ”
“ดูเหมือนจะเป็นเจ้าเมืองมู่นะ”
“เป็นเจ้าเมืองมู่? เป็นนางจริงๆ”
“คนที่แข็งแกร่งขนาดนั้นกลับถูกไล่จนต้องหนีอย่างทุลักทุเลเพียงนี้เลยหรือ”
“พูดเหลวไหล เผชิญหน้ากับเหล่าปีศาจเฒ่าระดับข้ามผ่าน พวกเราเกรงว่าคงเทียบกับเจ้าเมืองมู่ไม่ได้ หนีหรือ เกรงว่ายังไม่ทันได้ขยับก็ตายแล้ว”
“ก็ไม่รู้ว่าเจ้าเมืองมู่ไปยั่วยุปีศาจเฒ่าผู้นี้อย่างไรถึงได้ถูกตามกัดไม่ปล่อยเช่นนี้”
“ปีศาจเฒ่าผู้นั้นดูมั่นใจมากเชียวนะ เกรงว่าเจ้าเมืองมู่คงกำลังตกอยู่ในอันตรายแล้ว”
ผู้คนพากันวิเคราะห์
เวลานี้เอง ผู้เฒ่าเหนือมังกรก็พาพวกซีเซียนเสวี่ยมาถึงตรงนี้แล้วได้ยินที่พวกเขาพูดพอดี
“เมื่อครู่นี้เจ้าพูดว่าอะไรนะ” ซีเซียนเสวี่ยพุ่งออกไปจับ คอเสื้อของหนึ่งคนในนั้นแล้วเอ่ยขึ้น
“ธิ…ธิดาเทพซี!” คนที่ถูกนางจับตกตะลึงจนพูดติดอ่าง
แต่ซีเซียนเสวี่ยกลับเอ่ยถามอย่างร้อนใจว่า “เมื่อครู่นี้เจ้าพูดว่าใครกำลังตกอยู่ในอันตราย”
“ธิดาเทพซี เมื่อครู่นี้พวกเราเห็นเจ้าเมืองมู่ถูกปีศาจเฒ่าผู้หนึ่งไล่ตาม” คนคนนั้นเอ่ย
จีเหยาฮั่วเดินเข้ามาช่วยเขาออกมาจากมือของซีเซียนเสวี่ย แล้วเอ่ยถามว่า “เจ้าพูดให้ชัดเจนสิว่าเป็นใครตามเจ้าเมืองมู่เจ้าแน่ใจหรือว่าคนที่ถูกไล่ตามคนนั้นคือเจ้า เมืองมู่”
คนคนนั้นพยักหน้า ชี้ไปที่คนอื่นๆ แล้วเอ่ยว่า “ไม่ใช่แค่ข้าคนเดียวที่เห็น คนที่ถูกไล่คือเจ้าเมืองมู่จริงๆ ส่วนปีศาจเฒ่าที่ไล่ล่านาง สวมชุดลายหมู่ดาว…”
“เป็นปีศาจเฒ่าราศีธนู!” นัยน์ตาของซีเซียนเสวี่ยหดตัวลง ตัดบทพูดของเขา
อิ๋งเจ๋อหรี่ตาเล็กลง เอ่ยเสียงเข้มว่า “คิดไม่ถึงว่าเขาก็โชคดีเดินออกมาจากภูเขาค่ายกลได้”
“เจ้าเฒ่าผู้นี้ถูกพวกเรายั่วให้โมโหไม่น้อยในภูเขาค่ายกล ครั้งนี้พบกับชิงเกอ ก็จะต้องไม่ยอมปล่อยไปง่ายๆ พวกเรารีบตามไปเถอะ” จีเหยาฮั่วเอ่ย
คำพูดของเขาเพิ่งจะจบลง เว่ยมั่วลี่ก็พุ่งออกไปด้านหน้าก่อนแล้ว
อิ๋งเจ๋อมองมาทางผู้เฒ่าเหนือมังกร ฝ่ายหลังยิ้มเอ่ยว่า “ข้าก็จะไปกับพวกเจ้าด้วย”
สวี่สวี่เอ่ยกับอิ๋งเจ๋ออย่างไม่พอใจว่า “ปู่ของข้าพูดแล้วว่าจะไม่ไปไหนก็จะไม่ไปไหน พวกเจ้าไม่ต้องคอยส่งสายตาสงสัยมามองพวกเราจะได้ไหม”
พูดแล้วนางก็พูดเสริมอีกว่า “อีกอย่าง พี่สาวมู่ก็เป็นผู้มีพระคุณช่วยชีวิตข้า ข้ายังไม่ทันได้ขอบคุณนางด้วยตนเองเลย จะไม่ยอมจากไปไหนเด็ดขาด”
“เป็นเช่นนั้นก็ดี” จีเหยาฮั่วเอ่ยขึ้นประโยคหนึ่ง
กลุ่มคนพากันมุ่งหน้าไปทางทิศที่มู่ชิงเกอไปอย่างเร่งรีบ ส่วนอีกด้านหนึ่ง เหยาชิงไห่หาสิทธิ์แห่งเทพที่เหมาะสมกับตนเองพบแล้วก็ไล่ตามทุกคนไป เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาด ก่อนที่จะจากมาเขาได้จงใจสาดกลิ่นหอมพันลี้เอาไว้ มู่ชิงเกอไม่รู้ว่าด้านหลังของนางนอกจากปีศาจเฒ่าราศีธนูแล้วยังมีคนตามมาอีกมากมาย
เพื่อนฝูงที่พลัดหลงกันก็ไล่ตามนางมา
ตอนนี้อารมณ์ของนางไม่ดีเป็นอย่างมาก
เพราะตรงหน้าของนางปรากฎปีศาจเฒ่าขึ้นอีกคนหนึ่ง คํ้าไม้เท้าเดินกะโผลกกะเผลก สามารถมองเห็นได้ในแวบเดียว
“อีกาทองสามเท้า!” มู่ชิงเกอเอ่ยเสียงเข้ม
เสียงของนางเพิ่งหลุดออกไป ด้านหลังก็มีเสียงของปีศาจเฒ่าราศีธนูดังเข้ามา “เด็กน้อย เหตุใดถึงไม่หนีแล้วเล่า”
จากนั้นพลังอันแข็งแกร่งที่ส่งมาจากด้านหลังก็พัดจนผมของมู่ชิงเกอปลิวไสว
ด้านหน้ามีอีกาทองสามเท้าขวางทาง ด้านหลังมีปีศาจเฒ่าราศีธนู โชคของนางนั้นแม้แต่ตัวนางเองก็อดอยากจะกัดสักคำไม่ได้ ช่างโชคร้ายจริงๆ!
“อีกาทองสามเท้า?” นัยน์ตาของปีศาจเฒ่าราศีธนูฉายแววดุดัน มองเห็นคนที่ปรากฎขึ้นขวางทางอยู่ด้านหน้า ตัวขัดจังหวะที่โผล่มากลางทางทำให้นัยน์ตาของเขาฉายแววหนักอึ้ง เคร่งเครียดขึ้นมา สามารถเอ่ยว่ามีมู่ชิงเกอมาอีกสิบคนเขาก็ไม่กลัว แต่อีกาทองสามเท้ากลับเป็นคนที่มีพลังสูสีกับเขา ตอนนี้มาปรากฎตัวอยู่ที่นี่ยัง ไม่รู้ว่าเป็นมิตรหรือศัตรู
อีกาทองสามเท้าสูดลมหายใจเข้าลึกๆ กลิ่นอายพญาเพลิงที่ยังติดอยู่ปลายทวนหลิงหลงกลับถูกลมหายใจของเขาดูดลอยไปกลางอากาศและพุ่งไปยังเขาดุจอสรพิษ
ฉากนี้ทำให้มู่ชิงเกอชะงัก
พญาเพลิงที่หลงเหลือนี้ถูกอีกาทองสามเท้าสูดเข้าจมูกไป เขาเอ่ยว่า “กลิ่นอายของพญาเพลิง ยังมี…รากวิญญาณเพลิง!”
เขาเบิกตากว้าง ดวงตาเปล่งประกายวาววาบมองไปที่มู่ชิงเกอ
มู่ชิงเกอหรี่ตาลง นัยน์ตาฉายแววเย็นชา
นางมองเห็นความโลภและความตื่นเต้นในแววตาของอีกาทองสามเท้า
“อีกาทองสามเท้า เจ้าคิดจะทำอะไร” ปีศาจเฒ่าราศีธนูพูดอย่างดุดัน
อีกาทองสามเท้ายิ้มอย่างบ้าคลั่งมองปีศาจเฒ่าราศีธนู “ข้าคิดอะไร แน่นอนว่าข้าหมายตารากวิญญาณเพลิงของนาง”
ในใจของมู่ชิงเกอรู้สึกหนักอึ้ง
นางยังไม่ได้รับเคราะห์อัสนี รากวิญญาณยังไม่ทันได้ปรากฎก็ดึงดูดคนโลภมากเหล่านี้มาแล้ว
“ข้าพบนางก่อน!” ปีศาจเฒ่าราศีธนูเอ่ย
อีกาทองสามเท้ากลับหัวเราะขึ้นอย่างชั่วร้าย “มาถึงที่นี่ก็เพื่อแย่งชิง หรือว่ายังมีหลักการเรื่องมาก่อนได้ก่อนอยู่อีก หากว่าเจ้ามีความสามารถ เจ้าก็แย่งจากมือข้าไปได้”
ปีศาจเฒ่าราศีธนูเอ่ยอย่างบ้าคลั่งว่า “อีกาทองสามเท้า! เจ้ามีรากวิญญาณแล้ว ยังคิดแย่งกับข้าอีกหรือ”
อีกาทองสามเท้ากลับสูดจมูก “รากวิญญาณของกาทองจะเทียบกับของคนได้อย่างไร” เขาหรี่ตาเล็กลง นัยน์ตาฉายแววหมายมาด
กลิ่นอายของพญาเพลิงเมื่อครู่ทำให้เขารับรู้ถึงความบริสุทธิ์และสะอาดของรากวิญญาณเพลิงของมู่ชิงเกอ
กลิ่นอายรากวิญญาณเพลิงที่บริสุทธิ์เช่นนี้หาได้ยากมาก เขาไม่เคยพบเห็นมาก่อน ครั้งนี้เมื่อมาพบเข้าแล้ว จะปล่อยไปได้อย่างไร
“เจ้าแน่ใจหรือว่าจะแย่งกับข้า” ปีศจาเฒ่าราศีธนูเอ่ยอย่างแค้นเคือง
เขาไม่ได้กลัวอีกาทองสามเท้า เพียงแต่ไม่อยากให้เกิดปัญหาวุ่นวายก็เท่านั้น
อีกาทองสามเท้าหัวเราะอย่างบ้าคลั่งขึ้นมา “ข้าพูดได้ไม่ชัดเจนพออย่างนั้นหรือ”
“พวกเจ้าสองคนมองข้ามข้าเกินไปหน่อยแล้วกระมัง” มู่ชิงเกอยิ้มเยาะ ตัดบทโต้เถียงระหว่างทั้งสองคน ปีศาจเฒ่าสองคนเห็นนางเป็นสิ่งของต่อหน้าต่อตา แม้ เป็นพระก็ยังโมโหเลย แล้วมู่ชิงเกอจะเหลือหรือ!
เสียงของนางทำให้ปีศาจเฒ่าราศีธนูและอีกาทองสามเท้ามองนางพร้อมกัน
ในแววตาของคนทั้งสองเต็มไปด้วยความไม่พอใจ ดูเหมือนพวกเขาไม่ได้สนใจนางเลย ในสายตาของพวกเขานั้นนางเป็นเพียงแค่สิ่งของเท่านั้น
“รูปร่างงดงามเช่นนี้หากว่าตายแล้วก็น่าเสียดาย สาวน้อย หากว่าเจ้ายอมเอารากวิญญาณเพลิงให้ข้าเอง ข้ารับรองว่าจะไม่ให้เจ้าตาย ทั้งยังรับเจ้าเอาไว้ข้างกายเป็น สาวใช้อีกด้วย” นัยน์ตาของอีกาทองสามเท้าฉายแววหยาบคาย
นัยน์ตาของมู่ชิงเกอเกิดไอสังหาร นางยิ้มเย็น พูดอย่างขี้เล่นว่า “พวกเจ้าสองคนอยากได้รากวิญญาณเพลิงของข้า แต่ว่ารากวิญญาณเพลิงมีแค่รากเดียว เช่นนี้จะดีได้อย่างไร”
นัยน์ตาของอีกาทองสามเท้าฉายแววหนักอึ้ง พูดอย่างดุดันว่า “เจ้าเด็กเหม็น เจ้าคิดจะให้พวกเราฆ่ากันตายหรือ น่าเสียดายที่การยั่วยุนี้ชัดเจนเกินไป”
มู่ชิงเกอหัวเราะเอ่ยว่า “แม้ข้าไม่พูดระหว่างพวกเจ้าจะสามารถพูดคุยและยอมวางมืออย่างสงบได้งั้นหรือ นี่ไม่เรียกว่าการยั่วยุ แต่เป็นสิ่งที่ชัดเจนว่าพวกเจ้าจะต้องต่อสู้แย่งชิงกันจนตายไปข้างหนึ่ง”
อีกาทองสามเท้าและปีศาจเฒ่าราศีธนูคิดไม่ถึงว่ามู่ชิงเกอจะสามารถพูดคำเช่นนี้ออกมาได้ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้
เผชิญหน้ากับปีศาจเฒ่าระดับข้ามผ่านสองคน นางกลับยังสงบนิ่งได้อยู่
คำพูดของนางทำให้อีกาทองสามเท้าและปีศาจเฒ่าราศีธนูนิ่งเงียบไป
สายตาเปลี่ยนเป็นระวังขึ้นมา
คำพูดของมู่ชิงเกอนั้นเป็นความจริง
แม้รู้ว่าต้องเป็นเช่นนี้ แต่พวกเขาก็ไม่อยากจะให้เป็นอย่างที่มู่ชิงเกอต้องการ
แต่รากวิญญาณเพลิงมีแค่อันเดียว ไม่สามารถแบ่งเป็นสองได้ แล้วจะทำอย่างไร
มุมปากของปีศาจเฒ่าราศีธนูกระตุก เอ่ยเสียงเย็นชาว่า “เด็กน้อย เจ้าคิดจะให้พวกเราบาดเจ็บล้มตายกันทั้งสองฝ่ายใช่ไหม ข้าจะไม่ยอมให้เป็นอย่างที่เจ้าคิด หรอก!”
พูดแล้วเขาก็พุ่งเข้าหามู่ชิงเกอ
นัยน์ตาของมู่ชิงเกอฉายแวววาววาบ ก้าวถอยหลังหนึ่งก้าว หลบการโจมตีของปีศาจเฒ่าราศีธนู
อีกาทองสามเท้าฉวยโอกาสยื่นมือออกมาคว้ามู่ชิงเกอ
มู่ชิงเกอสัมผัสได้ถึงความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติด้านหลัง ใช้ท่าก้าวดาราก่อกำเนิดหลีกหนีในพริบตา เหลือเพียงแค่เงามายาสายหนึ่งตรงจุดเดิม ในตอนที่มือของอีกาทองสามเท้าทะลุผ่านร่างมายานั้นเองถึงได้รู้ว่าตนเองติดกับเข้าแล้ว!
ร่างกายของอีกาทองสามเท้ามีไอพลังอันดุดันพุ่งออกมา พลังสูสีกับปีศาจเฒ่าราศีธนู
มู่ชิงเกอยืนอยู่ตรงหน้าของพวกเขา ยิ้มเยาะให้ทั้งสองคนว่า “สองท่านต่อสู้กันไปก่อนเถอะ” ความหมายในคำพูดก็คือ ถึงแม้ว่านางจะต่อสู้กับพวกเขาไม่ได้ แต่ยังหนีได้อยู่
“คิดหนีหรือ เช่นนั้นเจ้าก็ต้องดูว่าข้ายินยอมหรือไม่!” ปีศาจเฒ่าเอ่ยอย่างบ้าคลั่ง
ไม่ดีแล้ว!
ในใจของมู่ชิงเกอลอบเอ่ยว่าไม่ได้การณ์ นางรู้ว่าคำพูดของตนเองยั่วให้ปีศาจเฒ่าราศีธนูโกรธจน คิดจะใช้วิชาลับปิดกั้นช่องว่างนี้แล้ว
ทันใดนั้นร่างกายของปีศาจเฒ่าราศีธนูก็มีแสงสีทองพุ่งออกมา เขาใช้ตัวเองเป็นใจกลาง แสงสีทองพุ่งไปรอบด้าน กลายเป็นวงกลมโปร่งแสงปกคลุมพวกเขาทั้งสามคนเอาไว้ด้านใน
ในใจของอีกาทองสามเท้ารู้สึกหนักอึ้งในทันที ตะคอกใส่ปีศาจเฒ่าราศีธนูว่า “ปีศาจเฒ่าราศีธนู เจ้าคิดจะทำอะไร!”
ปีศาจเฒ่าราศีธนูยิ้มเยาะ แต่กลับไม่ได้เอ่ยตอบ เพียงพุ่งไปที่มู่ชิงเกอ
มู่ชิงเกอกะพริบตา เอ่ยในทันทีว่า “ได้! ข้าเอารากวิญญาณให้เจ้า เจ้าจงรักษาชีวิตข้า!”
พูดแล้วนางก็พุ่งเข้าไปด้านหลังอีกาทองสามเท้า
ประโยคนี้ของนางและการเคลื่อนไหวทำให้ปีศาจเฒ่าราศีธนูโกรธจนหน้าแดงหูแดง ตะคอกด่าว่า “เจ้าเล่ห์นัก!”
ส่วนอีกาทองสามเท้ากลับหัวเราะอย่างได้ใจขึ้นมา พุ่งเข้าไปหาปีศาจเฒ่าราศีธนู ดูเหมือนเขาจะคิดว่ามู่ชิงเกอนั้นเป็นของในมือของเขาแล้ว หนีไปไหนไม่ได้อีก
อีกาทองสามเท้าต่อสู้กับปีศาจเฒ่าราศีธนูอย่างดุเดือด ส่วนมู่ชิงเกอกลับกลายเป็นผู้เฝ้ามอง ยืนดูการต่อสู้ของทั้งสองคนด้านข้าง
แม้ว่าอีกาทองสามเท้ากับปีศาจเฒ่าราศีธนูจะรู้ว่านางจงใจให้เป็นเช่นนี้ก็ไม่มีประโยชน์ เพราะไม่ว่าใครในหมู่พวกเขาก็ไม่อยากพลาดรากวิญญาณเพลิงของนางไป อีกาทองสามเท้ากับปีศาจเฒ่าราศีธนูต่อสู้กันจนยากจะแยกออก สายตาของมู่ชิงเกอมองไปมองมาระหว่างร่างของพวกเขาสองคน ดูเหมือนจะคิดหาวิธีแก้ปัญหานี้ ทันใดนั้นในตอนที่อีกาทองสามเท้ากับปีศาจเฒ่าราศีธนูแยกออกจากกัน มู่ชิงเกอก็พุ่งเข้าไปหาปีศาจเฒ่าราศีธนู เอ่ยด้วยนัยน์ตาที่ดุร้ายว่า “เจ้าต้องการรากวิญญาณของข้ามิใช่หรือ ข้าให้เจ้า!”
พูดแล้ว จิตวิญญาณก็พุ่งออกมาจากหว่างคิ้วของนาง เข้าไปในหว่างคิ้วของปีศาจเฒ่าราศีธนูอย่างบ้าคลั่ง
“อ๊าก!” การโจมตีอย่างกะทันหันเช่นนี้ทำให้ปีศาจเฒ่าราศีธนูเตรียมป้องกันไม่ทัน จะคิดอย่างไรเขาก็คิดไม่ถึงว่ามู่ชิงเกอจะสอดมือเข้ามาอย่างกะทันหัน
สิ่งที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันนี้ทำให้อีกาทองสามเท้าตกตะลึงยืนอยู่ที่เดิมไม่ลงมือ จิตวิญญาณของมู่ชิงเกอไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะรับไหว
นางฉวยโอกาสลงมือตรงช่องโหว่ ลอบโจมตีปีศาจเฒ่าราศีธนู ฉวยโอกาสที่เขาไม่ได้ป้องกันตัวใช้จิตวิญญาณโจมตีเขา นางจะใช้จิตวิญญาณของตนเองทำให้ปีศาจเฒ่าราศีธนูระเบิด
นัยน์ตาของมู่ชิงเกอฉายแววบ้าคลั่ง จิตวิญญาณทะลวงเข้าสู่ร่างกายของปีศาจเฒ่าราศีธนูอย่างบ้าคลั่ง ทำให้ศีรษะของเขาบวมขึ้นมา…