Skip to content

พลิกปฐพี 53

ตอนที่ 53

เคยพบกัน?

“ขอบพระทัยเสียนอ๋อง” เจ้าอ้วนเช่ารีบลุกขึ้นยืนความรวดเร็วของการยืนบ่งบอกว่าเขาเป็นคนอ้วนที่คล่องแคล่วอย่างที่เขาบอก

เหล่านางโลมก็พากันลุกขึ้นยืน แต่ไม่ได้ทำตัวตามสบายเหมือนเมื่อครู่อีก ดูเพิ่มความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น

ไม่ว่าอย่างไร คนตรงหน้าก็เป็นองค์ชายโดยแท้

พบกันครั้งแรก ก็ไม่กล้าที่จะทำตัวไม่สำรวมจนเกินไป หากเกิดไม่ระวังไปล่วงเกินองค์ชายเข้าแล้วถูกปลิดชีพมันจะไม่คุ้มกัน

หลังจากที่ถามไถ่กันตามมารยาทเรียบร้อยแล้ว รอบด้านก็เงียบสงบลงอีกครั้ง

และในบรรยากาศก็ราวกับมีความอึดอัดเพิ่มเข้ามา

โชคดีที่มู่ชิงเกอไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับเชื้อพระวงค์นัก แม้เขาจะไม่ใช่ลูกรักของฮ่องเต้ และแม้ว่าเขาจะสร้างความประทับใจที่ดีให้กับนางก็ตาม

มู่ชิงเกอยิ้มพร้อมพูดว่า “ถ้าอย่างนั้น พวกกระหม่อมไม่รบกวนเสียนอ๋องแล้ว” นางพูดเหมือนจะขอตัวออกไปก่อน

การที่มู่ชิงเกอจะออกไปจากตรงนี้ คนที่ดีใจก็คงหนีไม่พ้นเจ้าอ้วนเช่าและเหล่าหญิงงามทั้งหลาย

บรรยากาศในศาลามันอึดอัดและกดดันมากจริงๆ ทำให้ไม่กล้าแม้กระทั่งจะหายใจเสียงดัง

ชายหนุ่มที่เงียบสงบผู้นั้น อยู่ๆก็พูดประโยคนี้ขึ้นมา

“เจ้า…จะไปแล้วหรือ?”

แต่กลับคิดไม่ถึงว่าเจ้าอ้วนเช่าที่ท่าทางตื่นเต้นยังไม่ทันจะได้ยิ้มออกมา ในใจก็รํ่าไห้ ไม่จริงนะ! ช่วงเวลาดีๆ แบบนี้ เขาไม่อยากจะเสียมันไปเพราะต้องอยู่เป็นเพื่อนองค์ชายที่นิ่งเฉยราวกับท่อนไม้ผู้นี้นะ

มู่ชิงเกอที่กำลังจะหันหลังกลับได้ยินแล้วจึง ค่อยๆ หันมามองศาลาหลังคาแปดเหลี่ยมพร้อมพยักหน้า “ชิงเกอมาโดยไม่ได้รับเชิญ แน่นอนว่าไม่ควรอยู่รบกวนเสียนอ๋องต่อ ยิ่งไปกว่านั้น…”

นางหันหน้ามามองเหล่าหญิงสาวที่ยืนอยู่ด้านหลังตัวนาง ยิ้มพร้อมพูดอย่างเข้าอกเข้าใจว่า “หากยังอยู่ต่อ กลัวว่าเหล่าสาวงามจะไม่คุ้นชิน อีกอย่าง พระองค์ก็มีฐานะสูงส่ง พวกนางก็คงกลัวว่าจะไปล่วงเกินพระองค์เข้าโดยไม่ได้ตั้งใจ”

คำพูดพวกนี้ของนางทำให้เหล่าสาวงามรู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างมาก

ดวงตาเย้ายวนทุกคู่เต็มไปด้วยความซาบซึ้ง ราวกับจะยอมพลีกายเพื่อตอบแทนนางอย่างไรอย่างนั้น

“คุณชายช่างเป็นผู้ที่ห่วงใยหญิงสาวจริงๆ” ฉินจิ่นเฉินหลุบตาลง คำพูดดูคลุมเครือ

“ขอบพระทัยที่ทรงชม สาวงามพวกนี้ก็เปรียบดั่งดอกไม้ที่ผู้ชายอย่างเราควรจะทะนุถนอม” มู่ชิงเกอกระตุกยิ้มพูดขึ้นโดยไม่อาจรู้ได้เลยว่าคำพูดของนางทำให้มีหญิงสาวมากมายลอบมอบหัวใจให้กับนางไปแล้ว

“ถ้าอย่างนั้นก็ไปเถอะ” ฉินจิ่นเฉินดีดพิณโดยไม่ได้ใส่ใจทีหนึ่ง เสียงพิณดังขึ้นเหมือนเป็นการส่งแขก

สายตาของมู่ชิงเกอมองสายพิณที่สั่นอยู่แวบหนึ่ง แล้วยิ้มพร้อมพาทุกคนเดินจากไป

คนกลุ่มหนึ่งหายไปจากสายตาของฉินจิ่นเฉินราวกับสายลม

หลังจากที่มองส่งจนเงาคนหายลับไปจากสายตาท่ามกลางป่าดอกท้อแล้ว นิ้วมือที่กดสายพิณของฉินจิ่นเฉินขาวซีดราวกระดาษ สักพักใหญ่ๆ เขาจึงค่อยๆ คลายมือออก สายของพิณทิ้งรอยลึกหลายสายไว้บนนิ้วมือของเขา

ใบหน้าที่สงบนิ่งค่อยๆ จางหายไป เขามองไปยังที่ๆ มู่ชิงเกอมาเยือนและจากไปแล้วพึมพำว่า “สุดท้ายเจ้าก็จำข้าไม่ได้แล้ว”

หลังจากที่เดินวนอยู่ในป่าท้อได้สักพัก

พอรู้สึกว่าห่างไกลจากศาลาหลังคาแปดเหลี่ยมแล้ว เจ้าอ้วนเช่าก็เดินเข้าไปใกล้มู่ชิงเกอ พร้อมถามอย่างระมัดระวังว่า “ลูกพี่ ทำไมข้ารู้สึกว่าเสียนอ๋องผู้นี้ให้ความรู้สึกเหมือนมีไอสยดสยองอยู่เลยล่ะ”

พูดจบ ก็ถูแขนอ้วนๆ ของตนเองอย่างเห็นภาพ

มีไอสยดสยองอย่างนั้นหรือ? นี่มันการเปรียบเทียบแบบไหนกัน

มู่ชิงเกอแอบเถียงในใจ

แต่ต่อหน้ากลับทำเพียงกลอกตาแล้วพูดว่า “ข้าจะรู้ได้อย่างไร ถ้าเจ้าอยากรู้ ก็กลับไปถามเขาสิ”

“ไม่มีทาง!” ร่างอ้วนๆ ของเจ้าอ้วนเช่าสั่นทีหนึ่ง ปฏิเสธโดยไม่คิดทันที

มู่ชิงเกอยิ้มและไม่แกล้งเขาต่อ

“คุณชาย คุณชายเช่า เราไปไหนกันดีเจ้าคะ?” หญิงนางโลมผู้หนึ่งเดินเข้ามาถามอย่างอ่อนโยน

เจ้าอ้วนเช่าหันไปมองมู่ชิงเกอเหมือนให้เขาเป็นคนตัดสินใจ

มู่ชิงเกอมองเข้าไปยังสวนดอกท้อ พูดอย่างไม่ค่อยใส่ใจว่า “หาพื้นที่กว้างๆ หน่อย แล้วปูผ้าสะอาดๆ ให้ทุกคนนั่งก็พอแล้ว”

แบบนี้ถึงจะเป็นการเที่ยวป่าอย่างถูกวิธี!

เสียดาย ถ้าเตรียมให้พร้อมกว่านี้ ยังสามารถเอาอะไรมาปิ้งย่างกันได้!

มู่ชิงเกอแอบคิดด้วยความเสียดาย ชาติที่แล้ว นางไม่ค่อยมีเวลาได้พักผ่อนหย่อนใจแบบนี้เลย ประสบการณ์การออกไปปิกนิกทั้งสองครั้งในชีวิต ก็ไปกับเพื่อนในร่วมรบในช่วงที่หยุดยาวหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจใหญ่สองอย่าง

รู้สึกโหยหาความรู้สึกของการได้ทำตามใจตนเอง โดยไม่ต้องมีกฎเกณฑ์มาควบคุมแบบนั้นเหลือเกิน

แต่ในชาตินี้ หากไม่ใช่เพราะนางต้องใช้ฐานะของจอมเสเพลเพื่อกลบเกลื่อนแล้วล่ะก็ นางก็คงจะทุ่มเทเวลาทั้งหมดไปกับการฝึกพลัง ไม่มาเสียเวลากับการเที่ยวเล่นชมธรรมชาติแบบนี้แน่นอน

เพราะคำชี้แนะของมู่ชิงเกอ ทำให้ทุกคนไม่เดินอย่างไม่รู้จุดหมายในป่าแห่งนี้อีกต่อไป

แต่มีจุดมุ่งหมายคือการหาสถานที่ๆ เหมาะสม

สักพัก ตาคมๆ ของเจ้าอ้วนเช่าก็หาที่เหมาะๆ

เจอ

ท่ามกลางต้นดอกท้อมีพื้นที่ว่างรูปวงกลมแห่งหนึ่ง มีพื้นที่อยู่ประมาณ 10 จ้าง หญ้าเขียวขจี พร้อมทั้งก้อนหินที่กระจายไปทั่ว ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือ อีกฝังหนึ่งของพื้นหญ้ามีแม่นํ้าที่นํ้าไหลเอื่อยอยู่สายหนึ่ง

นํ้าที่ไหลผ่านก้อนหินส่งเสียงไพเราะ บวกกับ สียงพูดคุยและเสียงหัวเราะของเหล่าหญิงงามแล้วราวกับเป็นแดนเซียนในโลกมนุษย์สวยงามมีเอกลักษณ์

พอปูผ้าที่เตรียมมาลงบนพื้นหญ้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็นำถาดอาหาร และอุปกรณ์สุราต่างๆ ออกมาวางตรงหน้าแล้วเปิดออก

เพียงเสี้ยวนาที อาหารและเครื่องดื่มอันเลิศรสก็วางอยู่ใต้ต้นดอกท้อ ราวกับภาพวาดร้องเล่นสนุกสนานอันงามประณีตอย่างไรอย่างนั้น

มู่ชิงเกอนอนตะแคงอยู่บนผ้าด้วยท่าทางโอหังสง่างาม ในมือถือแก้วสุราที่มีกลิ่นหอมอบอวล มองดูเหล่าหญิงงามที่กำลังเล่นสนุกอยู่ท่ามกลางสายนํ้า

ท่อนแขนงามราวบัวหยก เท้าที่อยู่ท่ามกลางสายนํ้า ดวงตาที่มองมุ่งไปข้างหน้า…

สายนํ้าอันใสสะอาดถูกสาวงามสาดขึ้นบนท้องฟ้า ส่องแสงระยิบระยับประกายทองท่ามกลางแสงแดด ทำให้ผมของเหล่าหญิงสาวเปียกชุ่มติดแนบอยู่บริเวณใบหน้าและลำคอ

ชุดกระโปรงตัวบางก็ยับเพราะการหยอกล้อกัน บริเวณเสื้อผ้าที่โดนนํ้าแนบติดกับผิวหนัง

ภาพตรงหน้า ทำให้เจ้าอ้วนเช่าที่ดูอยู่นํ้าลายไหล

มู่ชิงเกอมองเขาทีหนึ่ง พูดพร้อมหัวเราะว่า “สุราไม่ทำให้เมา แต่มนุษย์ทำให้ตัวเองมัวเมาโดยแท้” พูดจบก็ยกมือขึ้นด้วยท่าทางสูงสง่า ของเหลวสีส้มอมแดงในแก้วที่ถืออยู่ไหลโค้งในอากาศแล้วไหลลงสู่ปากที่อ้าอยู่น้อยๆ ของนางอย่างแม่นยำ

ท่าทางงามสง่าตรงหน้า ทำให้ตาเล็กๆ ของเจ้าอ้วนเช่าเต็มไปด้วยความอิจฉาและนับถือ

มู่ชิงเกอกลืนสุรารสเลิศในปากลงไป แล้วเด็ดองุ่นมาเม็ดหนึ่ง กระทั่งเปลือกก็ยังขี้เกียจจะปอกแล้วโยนเข้าปากทั้งอย่างนั้น เคี้ยวพร้อมพูดกับเจ้าอ้วนเช่าว่า “หากเจ้าอยากไปร่วมสนุกกับพวกนางก็ไปเถอะ ไม่จำเป็นต้องมาทนทุกข์ทรมานเฝ้าข้าอยู่แบบนี้”

เล้าอ้วนเช่าล่งเสียงหัวเราะ “ชี่ๆ” แล้วรีบพูดว่า “ได้อยู่เป็นเพื่อนลูกพี่ไม่ได้เสียใจอะไรเลย แต่ถือเป็นเกียรติของข้า แต่ว่าหากเราทั้งสองไม่ช่วยกันดูแลสาวงามทั้งหลายให้ดีๆ ก็คงจะฝ่าฝืนหลักการของสุภาพบุรุษ ถือเป็นโทษหนัก เพราะฉะนั้นหากลูกพี่ไม่อยากอยู่เป็น เพื่อนหญิงงาม น้องชายอย่างข้าก็คงจะต้องทำแทนเสียแล้ว”

ทันทีที่พูดจบ แก้วสุราใบหนึ่งก็ฟาดลงมาที่พุงกลมๆ ของเจ้าอ้วนเช่าทันที จนทำให้เขาร้อง “โอ๊ย”

มู่ชิงเกอตำหนิอย่างขบขันว่า “เจ้าน่ะ ตัวเองบ้ากามก็ยอมรับเสีย อย่าดึงข้าเข้าไปเกี่ยวข้อง ไสหัวไปสิ!”

เจ้าอ้วนเช่าลูบท้อง แล้วยิ้มพร้อมพูดว่า “ข้าน้อยไปเดี๋ยวนี้แหละ ไปอยู่กับสาวงามแล้วนะ หากลูกพี่เกิดความปรารถนาขึ้นมาละก็ ไม่ต้องเก็บกดไว้นะรีบๆ ตามมาล่ะ!”

พูดจบเขาก็ลุกขึ้นยืนอย่างคล่องแคล่ว ร้องตะโกนอย่างมีความสุขพร้อมพุ่งลงไปยังแม่นํ้าสายน้อยที่ห้อมล้อมไปด้วยบรรยากาศอันงดงามทันที

ซูม!

เสียงดังเสียงหนึ่งมาพร้อมกับสายนํ้าที่พุ่งกระจายไปทั่ว ทำให้หญิงงามทั้งหลายตกใจ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version