Skip to content

พลิกปฐพี 54

ตอนที่ 54

จับองค์หญิงผู้น่ารักบริสุทธิ์ได้องค์หนึ่ง

มู่ชิงเกอหัวเราะ ‘หึๆ’ แล้วละสายตาจากร่างอ้วนๆ เปียกๆ พร้อมพูดว่า “อสนีบาตฟาดพิภพ ก็คงใช้เปรียบเทียบฉากๆ นี้นี่แหละ”

มีเจ้าอ้วนเช่ามาเข้าร่วม มีเสียงกรีดร้องด้วยความตกใจและขอความช่วยเหลือดังมาไม่หยุด

มู่ชิงเกอขยับตัวเปลี่ยนท่าทาง หันหลังให้กับริมนํ้า ขี้เกียจจะดูภาพสวยงามนั้นต่อ

ทันใดนั้น นางก็มองไปเห็นบริเวณกิ่งไม้สั่นไหวทีหนึ่ง เห็นเป็นแพรเนื้อดีสีเหลืองอ่อนอยู่ท่ามกลางดอกท้อสีชมพู

มู่ชิงเกอหรี่ตาลงแล้วค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งขัดสมาธิ

ในมือขวาของนางมีขวดเหล้าขวดใหญ่มือซ้ายวางอยู่บนน่องกำหมัดเกยคางเอาไว้ มุมปากยิ้มอย่างเกียจคร้านและอวดดี พร้อมพูดกับคนที่แอบมองอยู่หลังต้นไม้ว่า

“ออกมา”

เงาคนที่แอบอยู่เหมือนรู้สึกตกใจจึงทำให้กิ่งไม้สั่นยิ่งกว่าเดิม

หลังจากที่ลังเลไปสักพักนางก็เดินออกมา

คนที่หลบอยู่เดินออกจากด้านหลังของต้นดอกท้อ มู่ชิงเกอพบว่าที่แท้ก็เป็นองค์หญิงตัวน้อยที่บังเอิญเจอในวันที่มีงานเลี้ยงในพระราชวังวันนั้นนั่นเอง แต่ว่าวันนี้ข้างๆ นางมีเด็กสาวที่ดูอายุรุ่นราวคราวเดียวกันแต่ดูระมัดระวังมากกว่าคนหนึ่งเพิ่มมาด้วย

คิดว่าเด็กสาวที่ดูไม่คุ้นหน้าคนนี้คงจะเป็นชิงเอ๋อร์ที่องค์หญิงตัวน้อยพูดถึงมากกว่าหนึ่งครั้งในวันนั้น

“พี่ชาย เป็นท่านเองเหรอ!”

ในขณะที่มู่ชิงเกอจำนางได้ ฉินอี้เหลียนเองก็จำมู่ชิงเกอได้เช่นกัน

หลังจากที่จดจำชายหนุ่มในชุดแดงผู้งดงามราวกับเทพเซียนในภาพวาดที่นางพบในวันที่มีงานเลี้ยงพระราชวังได้ ดวงตาอันกลมโตของฉินอี้เหลียนก็เป็นประกายขึ้นในทันที ขนตาที่ยาวงอนราวขนนกขยับหลายที ใบหน้าซาลาเปาอันน่ารักเผยรอยยิ้มที่สดใส ยกกระโปรงขึ้นแล้ววิ่งเข้าไปหามู่ชิงเกอ

“ตายแล้ว! องค์หญิง” ชิงเอ๋อร์ยื่นมือออกมาหมายจะหยุดยั้งการกระทำของฉินอี้เหลียน แต่หลังจากที่หลุดคำเรียกขานไปเพราะความตื่นตระหนกแล้วนางก็รีบเอามือปิดปากของตนเองอย่างรวดเร็ว พร้อมคอยสังเกตรอบข้าง

พอสังเกตว่าไม่มีใครสนใจตนเอง จึงค่อยลอบถอนหายใจแล้วรีบตามไป

“พี่ชาย เป็นท่านจริงๆ ด้วย” ร่างเล็กๆ เดินไปหยุดตรงหน้าของมู่ชิงเกอแล้วคุกเข่าลงตรงหน้านาง พยักหน้าไม่หยุดมองนางอย่างไม่ละสายตา นัยน์ตากลมโตนั้นใส สะอาดบริสุทธิ์

มู่ชิงเกอก็ค่อยๆ นั่งตัวตรง เขย่าขวดเหล้าในมือเบาๆ แล้วพูดกับองค์หญิงตัวน้อยว่า “ทำไมท่านถึงมาอยู่ตรงนี้?”

“ข้ามากับพี่เฉินแต่ว่าข้าไม่สนุกเลยและพี่เฉินเองก็ไม่สนใจเหลียนเหลียนเลยด้วย ข้าก็เลยพาชิงเอ๋อร์มาเดินเล่นในป่า พอได้ยินเสียงคนก็เลยเดินเข้ามาแต่ไม่คิดว่า จะถูกพี่ชายพบเข้า” พูดจบใบหน้าน้อยนั้นก็ก้มลงท่าทางดูเสียใจ

“องค์…คุณหนู” ชิงเอ๋อร์ที่ตามมาจากด้านหลัง คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้านายของตนเองจะพูดต้นสายปลายเหตุเสียชัดเจนในเวลาอันสั้นแบบนี้

พี่เฉินอย่างนั้นเหรอ? มู่ชิงเกอทวนคำพูดขององค์หญิงตัวน้อยในใจ ความคิด กระตุกนิดหนึ่ง แล้วก็ได้คำตอบ

พี่เฉินที่นางหมายถึงแน่นอนว่าต้องเป็นต้องเป็นฉินจิ่นเฉิน

เพียงแต่ไม่คิดว่าคนที่เย็นชาขนาดนั้นจะสนิทสนมกับองค์หญิงตัวน้อยที่ไร้เดียงสาองค์นี้ได้

ชิงเอ๋อร์เงยหน้ามองมู่ชิงเกออย่างระมัดระวังครู่หนึ่ง นัยน์ตาผุดความตื่นตะลึงออกมาราวกับว่านางไม่คิดว่าชายหนุ่มในชุดแดงผู้นี้จะมีรูปโฉมที่งดงามได้ถึงเพียงนี้ แม้ว่านางจะเห็นผู้คนที่มีรูปโฉมงดงามในพระราชวังมามากมายจนเคยชิน แต่ก็รู้สึกว่าเมื่อนำมาเทียบกับชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าแล้ว เหล่าสาวงามที่คัดสรรมาจากทั้งใต้หล้ากลับกลายเป็นเพียงหญิงสาวรูปโฉมดาษดื่นเท่านั้น

ทันใดนั้นชิงเอ๋อร์ก็ถูกเสียงหัวเราะสดใสทำให้ตื่นจากภวังค์นางจึงค่อยหันหน้าไปมองตรงแม่นํ้าที่มีคนกกลุ่มหนึ่งกำลังเล่นนํ้ากันอยู่อย่างสนุกสนาน พวกเขาเหมือนไม่ได้ลังเกตเห็นสองคนที่อยู่บนฝั่ง ยังคงเล่นกันอย่างมีความสุข

ท่าทางระหว่างเจ้าอ้วนเช่าและเหล่าสาวงามทำให้ชิงเอ้อร์ที่มองอยู่แล้วหน้าแดงรีบดึงองค์หญิงตัวน้อยเอาไว้ แล้วเอ่ยเร่ง “คุณหนูเรากลับกันเถอะเจ้าค่ะ ไม่อย่างนั้นคุณชายจะเป็นห่วงเอา”

แต่ฉินอี้เหลียนกลับไม่ยอมทำตาม นางทำปากจู๋ ปฏิเสธ “แต่กว่าข้าจะได้เจอพี่ชายอีกครั้งมันไม่ง่ายเลยนะ พี่เฉินจะดีดพิณอีกนานแค่ไหนก็ไม่รู้ไม่เป็นห่วงอะไร หรอก”

“โธ่ คุณหนู!” ความตรงไปตรงมาขององค์หญิงน้อยจนทำให้ชิงเอ้อร์เกือบจะร้องไห้ด้วยความร้อนใจ นางเกือบจะหลุดปากพูดออกมาแล้วว่า “คนพวกนี้ไม่ใช่ คนดีอะไร! ท่านไม่เห็นหรือว่าทางโน้นชายหญิงเหล่านั้นกอดรัดกันกลมแล้ว”

หากเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นกับองค์หญิงหย่งฮวนแล้วล่ะก็ เกรงว่าให้นางตายสักสิบรอบก็คงไม่พอ

“คุณหนู พวกเราไปกันเถิดเจ้าค่ะ อย่ารบกวนคุณชายท่านนี้เลย” ชิงเอ๋อร์ขอร้อง

ฉินอี้เหลียนยังคงส่ายหน้าและเข้าไปใกล้มู่ชิงเกอกว่าเดิม : “ไม่! ชิงเอ๋อร์คนดี เจ้าให้ข้าเล่นกับพี่ชายอีกสักพักได้หรือไม่? จริงด้วย ข้าลืมบอกเจ้าไปเมื่อครั้งก่อนที่ข้าเท้าแพลงแล้วเจ้าไปตามหมอหลวงเป็นพี่ชายคนนี้นี่แหละที่คอยนั่งเป็นเพื่อนข้า”

ชิงเอ๋อร์อึ้งไป ด้วยนิสัยขององค์หญิงตัวน้อย คงจะปิดบังเรื่องที่เจอมู่ชิงเกอในคราวก่อนกับนางกำนัลใกลชิดไม่ได้

เพราะฉะนั้น ชิงเอ๋อร์ที่รู้เรื่องนี้อยู่แล้ว ตอนนี้คำพูดนี้ขององค์หญิงตัวน้อยทำให้นางคาดเดาไปต่างๆ นานา

ในเมื่อชายหนุ่มหน้าตางดงามตรงหน้านี้สามารถไปปรากฏกายอยู่กลางพระราชวังได้อย่างนี้ก็สามารถบอกได้ว่าฐานะของเขาต้องไม่ธรรมดาน่ะสิ? และเขาเองก็รู้ฐานะขององค์หญิง?

คิดถึงตรงนี้ชิงเอ๋อร์ก็ลอบถอนหายใจอยู่ในใจ

จากที่นางดู ในเมื่ออีกฝ่ายก็เป็นผู้ที่มีฐานะแล้วก็รู้สถานะขององค์หญิงน้อยดีแน่นอนว่าคงจะไม่ได้มีจิตคิดร้ายอะไร

“พี่ชาย ข้าให้ลูกอมท่านนะ!” องค์หญิงน้อยล้วงถุงผ้าแพรใบหนึ่งออกมาจากอก ค่อยๆ เปิดออกอย่างระมัดระวังแล้วเอาลูกอมหลายเม็ดในนั้นยื่นให้กับมู่ชิงเกอ เดิมมู่ชิงเกอที่กำลังฟังบทสนทนาของนายบ่าวทั้งสองอยู่ อย่างเงียบๆ เมื่อเห็นลูกอมที่ยื่นมาตรงหน้านางก็ดันออกแล้วพูดกับฉินอี้เหลียนว่า “ท่านพาสาวใช้มาแค่คนเดียว ไม่ควรออกมาเดินเพ่นพ่านในป่าแบบนี้”

ต้องรู้ว่าป่าดอกท้อแห่งนี้เป็นที่สาธารณะที่ไม่ว่าใครก็สามารถเข้ามาได้อีกอย่างในป่าก็กว้างขวางหากหลงทางอยู่ในนี้แล้วเจอกับคนร้ายเข้า ยิ่งไม่ใช่จะเป็นการส่งแกะเข้าปากเสือรึ?

เสียนอ๋องผู้นี้ นับว่าใจกล้ามาก

ลูกอมที่ยื่นออกไปถูกผลักคืนมา ในแววตาขององค์หญิงตัวน้อยเต็มไปด้วยความผิดหวัง แต่กลับไม่ดื้อดึงอีกต่อไป ค่อยๆ เอาลูกอมใส่คืนถุงอย่างระมัดระวัง

“เหลียนเหลียนรู้แล้ว” เพราะนํ้าเสียงตำหนิของมู่ชิงเกอ ทำให้องค์หญิงตัวน้อยเชื่อฟังแต่โดยดี

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version