Skip to content

พลิกปฐพี 9

ตอนที่ 9

ฆ่าไม่ได้ใช่ไหม ได้!

“บางทีในโลกนี้ คนที่รู้ว่าข้าเป็นผู้หญิงอาจจะมีแค่เจ้า เพียงคนเดียว” มู่ชิงเกอพลันพูดขึ้น

มู่เกอขมวดคิ้วเงยหน้าขึ้น เหมือนกำลังรอคอยว่าเธอจะ พูดอะไรต่อ แต่ในใจแอบเถียงว่า ผิดแล้ว ยังมีไอ้ถํ้ามอง น่าตายนั่นอีกคน

ตอนที่เขาปรากฏตัว เป็นตอนที่เครื่องมือมายากำลังซ่อมแซมตัวเอง ประกอบกับเธอกำลังอาบน้ำล้างตัว อะไรๆ ก็คงจะถูกเขาเห็นจนหมดแล้ว

ยังดีที่ตอนนี้ร่างแบนเรียบเป็นไม้กระดานนี่ไม่มีอะไรน่าดู และยังมีเอี๊ยมปิดบังอยู่ ก็ไม่ถือว่าจะทำให้เธอต้องเสียเปรียบอะไรมากนัก

“ตอนนี้ข้าจำได้แค่ว่า ในตอนที่ข้ายังเด็ก ท่านแม่เคยบอกกับข้าว่า ถ้าอยากทำให้ท่านปู่มีความสุข ทำให้ตระกูลมู่อยู่อย่างสงบสุขก็ห้ามถอดตุ้มหูนี้” มู่ชิงเกอหลุบตาลงพูดเสียงเบา ราวกับกำลังจมลงสู่ภวังค์ในอดีต มู่เกอยังคงเงียบ

เธออาจจะพอเดาความเกี่ยวโยงบางอย่างออกแล้ว

ตระกูลมู่มีฐานะซับซ้อนในแคว้นฉิน แม่ทัพมู่ซงเองก็มี คุณความชอบทางการทหารมากมาย ถ้าจะนำมาซึ่ง ความหวาดระแวงขององค์ฮ่องเต้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ ถ้าตระกูลมู่ไร้ซึ่งผู้สืบสกุลชาย ฮ่องเต้ก็จะสามารถอ้าง ริบตำแหน่งกลับมาไต้อย่างชอบธรรม และหากเหี้ยมกว่านี้อีกหน่อย ก็ยกเธอให้กับองคชายสักองค์ ตระกูลมู่ก็อาจถูกยืดอำนาจโดยไม่รู้ตัว และยังเป็นการกำจัดมู่ซง อีกด้วย

แต่ถ้าหากว่าตระกูลมู่มีทายาทมารับช่วงต่อ แม้ว่าจะไม่ได้เก่งกาจ แต่ฮ่องเต้ก็คงไม่อาจลงมือกับตระกูลมู่ได้ง่ายๆ แต่กลับต้องระมัดระวังและรีบสร้างความสัมพันธ์อันดีกับตระกูลมู่เอาไว้ไม่ว่าเบื้องหลังจะเป็นอย่างไร แต่ต่อหน้าก็ควรจะแสดงถึงความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันไว้ก่อน หาไม่แล้ว ผู้ที่จะผิดหวังก็คือเหล่าทหารและปวงประชาของแคว้นฉิน

นี่เป็นครั้งที่สองที่มู่เกอรู้สึกสงสัยเกี่ยวกับแม่บังเกิดเกล้า ของเจ้าของร่างนี้ ว่าเป็นคนแบบใดกันแน่

ไม่ใช่แค่มีเครื่องมือมายา แต่ยังใช้ลูกสาวแท้ๆ ของตัวเองมาเป็นหมากแบบนี้

มู่เกอหันหน้ามาหยุดสายตาอยู่ที่ร่างอันโปร่งแสงของมู่ชิงเกอ “เหมือนเจ้าจะเคยบอกว่า สายเลือดใกล้ชิดที่หลงเหลืออยู่มีเพียงท่านปู่และท่านอา แล้วท่านพ่อ ท่านแม่ ของเจ้าล่ะ?”

ท่านพ่อ ท่านแม่……

คำคำนี้ราวกับกระทบจุดต้องห้ามในใจของมู่ชิงเกอเข้า ในดวงตาของนางมีความเจ็บปวดวาบผ่าน นางพูดช้าๆ ว่า “ตอนข้าอายุสี่ขวบ ท่านพ่อเสียชีวิตในสงคราม ท่านแม่ไม่เชื่อเรื่องนี้จึงออกไปตามหาท่านพ่อในสนามรบด้วยตัวเอง จากนั้นก็หายสาบสูญไป ท่านแม่เป็นเด็กกำพร้า รู้จักกับท่านพ่อในสนามฝึก ตอนที่ท่านแม่หายไป ท่านปู่ก็เคยส่งคนออกไปตามหา แต่สุดท้ายก็ยังไร้ซึ่งข่าวคราว”

4 ขวบ…… ตอนนี้มู่ชินเกออายุ 15 แล้ว

11 ปีผ่านมายังไม่มีข่าวคราวอะไรเกรงว่าคงจะ……..

มู่เกอมองมู่ชิงเกอโดยไม่พูดอะไรเหมือนจะเริ่มเข้าใจการ กระทำที่ไม่เหมาะสมต่างๆของมู่ชิงเกอตอนยังมีชีวิตอยู่ ขึ้นมาแล้ว เด็กอายุไม่กี่ขวบ ต้องเก็บรักษาความลับที่สะเทือนฟ้านี้ เอาไว้คนเดียว ต้องรับภาระอันหนักหน่วงของวงค์ตระกูลตั้งแต่ยังเด็ก มู่ชิงเกอไม่เหมือนเธอที่คิดแบบคนที่โตแล้ว นางเพียงอาศัยกำลังของตนเพื่อทำในสิ่งที่แม่นางบอกไว้ให้สำเร็จ

เสียดายที่นางเป็นคนไร้ประโยชน์ไม่สามารถฝึกพลังได้ ภายใต้ความกดดันนี้ นางคงทำไต้แค่ใช้ชื่อเสียงไม่ดีของตนทำให้ผู้คนในแคว้นฉินจดจำตระกูลมู่ได้

หนึ่งคนหนึ่งวิญญาณเงียบไปนาน สุดท้ายมู่เกอก็เป็นคนทำลายความเงียบนั้น “ลองเล่าเรื่องของคนแซ่เหอสิ”

มู่เกอเอามือรองท้ายทอย เอนตัวนอนลงบนพรม จ้องมองหลังคากระโจม

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ แววตาของมู่ชิงเกอก็เกิดแรงอาฆาตอันเข้มข้น

เสียงเยียบเย็นกัดฟันพูดชื่อหนึ่งออกมา “เหอเฉิง”

“เหอเฉิงเหรอ?” มู่เกอนัยน์ตาสั่นไหว แววตาดำมืดยากจะเข้าใจ “ด้วยนิสัยของท่านปูแล้ว ถ้ามีคนคิดร้ายกับหลานรัก หลานคนเดียวของตระกูลมู่ และยังทำให้ทหาร องครักษ์ทั้ง 500 นายต้องตายในทีเดียว ไม่ต้องให้เจ้าพูดอะไร ท่านปูก็คงจะฉีกร่างมันออกเป็นหมื่นๆชิ้น แต่ ทำไมท่านปู่กลับบอกข้าว่าห้ามฆ่ามัน”

มู่ชิงเกอหลับตา “เพราะตระกูลเหอเป็นคนของรุ่ยอ๋อง ถ้าเหอเฉิงไม่ตาย ตระกูลเหอก็คงจะว่าอะไรไม่ได้ แต่ถ้าตาย ตระกูลเหอก็จะถือโอกาสนี้เล่นงานตระกูลมู่ เบื้องบนอาจจะใชัเรื่องนี้ในการยึดอำนาจทางทหารบางส่วนของท่านปู่ ตระกูลมู่ไม่เคยเข้าไปยุ่งเรื่องการแก่งแย่งของเหล่าองค์ชาย แต่เพราะข้าทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลมู่และรุ่ยอ๋องแย่ลง ตอนนี้ฮ่องเต้พระชนมายุมากแล้ว องค์ชายแต่ละองค์ก็เตรียมวางแผนจะเคลื่อนไหว ท่านปูไม่อยากให้ถูกดึงเข้าไปพัวพันด้วย ฉะนั้นท่านจึง ไม่ให้เจ้าฆ่าเหอเฉิง และให้เจ้ารักษาระยะห่างกับรุ่ยอ๋อง ไว้”

“เจ้าก็รู้ดีนี่” มู่เกอพูดพร้อมยิ้มเยือกเย็น เหมือนกำลังประชดและว่าแดกดัน

มู่ชิงเกอไม่ตอบคำ จมเข้าสู่ภวังค์ความคิดของตน

เห็นท่าทางแบบนี้ของนาง มู่เกอพอจะเดาออกว่าในใจ นางยังคงอาลัยอาวรณ์ต่อรุ่ยอ๋อง

ทั้งสองจึงไม่ได้คุยเรื่องนี้กันต่อ มู่เกอแอบคิดในใจว่า เรื่องของเหอเฉิงคงไม่ได้มีคนร้ายแค่คนเดียว รุ่ยอ๋องผู้นั้น ครั้งนี้ที่เขามาพร้อมกับท่านปู เกรงว่านอกจากอยากจะมาดูให้เห็นกับตาว่ามู่เกอเป็นตายอย่างไร แล้ว ก็คงจะมาเพราะเหอเฉิงสินะ คิดจะเอาตัวเหอเฉิงออกจากจวนตระกูลมูรึ?

มู่เกอพลันเผยรอยยิ้มโอหังชั่วร้ายออกมา ดวงตาสดใสนั้นมีแววสนุกสนานเพิ่มขึ้นมาหลายส่วน

ก็ต้องดูว่าเธอจะเห็นด้วยหรือไม่!

‘ฆ่าไม่ได้เหรอ ไม่เป็นไร เก็บเอาไว้ค่อยๆ เล่น รอยยิ้ม ของมู่เกอโหดเหี้ยมขึ้น เธอจะทำให้คนที่กล้ายั่วโมโหเธอได้เข้าใจว่า แบบไหนที่เรียกว่าอยู่ไม่สู้ตาย

แค่ชีวิตของสารเลวคนเดียว จะเทียบชีวิตกับทหารกล้าทั้ง 500 นายของตระกูลมู่ได้อย่างไร?!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version