ตอนที่ 56
กฎเกณฑ์การคบเพื่อนของคุณชาย!
ตอนแรกฉินอี้เหยาคิดว่าหลังจากที่พบกับมู่ชิงเกอแล้ว พูดคุยธุระเสร็จเรียบร้อยแล้วก็จะจากไปเลย แต่ตอนนี้ราวกับไม่อยากจากไปแบบนี้ ส่วนป๋ายซีเยวี่ย………………………..
ครั้งก่อนนางไปหารุ่ยอ๋อง กลับเจอแต่ประตูที่ปิดอยู่
สุดท้ายต้องลงทุนลงแรง จึงรู้ว่ารุ่ยอ๋องโดนลงโทษให้อยู่ที่อารามหลวงเป็นเวลาสามเดือน คงไม่อาจพบกันได้สักพัก
เหตุใดรุ่ยอ๋องถึงได้รับโทษนั้น นางเองก็สุดรู้
เพราะฉะนั้นที่นางมายังป่าดอกท้อแห่งนี้กับองค์หญิงฉางเล่อก็เพื่อที่จะสืบข่าวคราวจากของมู่ชิงเกอ นางเชื่อว่ามู่ชิงเกอให้ความสำคัญกับรุ่ยอ๋องมากเพียงนั้น เขาจะต้องรู้แน่ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น
แน่นอนว่าก่อนที่จะบรรลุเป้าหมาย นางเองจะไม่ยอมไปไหนแน่
โย่วเหอและฮวาเยวี่ยที่ยืนอยู่ข้างหลังมู่ชิงเกอสบตากันอย่างไม่เข้าใจ
ตอนที่องค์หญิงไปที่จวน ก็ดูเหมือนทรงมีเรื่องด่วนต้องการจะหาคุณชาย แต่ตอนนี้พอได้พบกันแล้วเหตุใดถึงไม่ยอมพูดอะไรเลยเล่า?
“องค์หญิง ทรงมาหากระหม่อมมีเรื่องอันใดรึ?” มู่ชิงเกอพูดขึ้นอย่างจนปัญญา
คนหลายคนที่ยืนอยู่ในป่า ท่ามกลางกลีบดอกไม้ที่ร่วงหล่น มองหน้ากันไปมาแบบนี้นี่มันยังไงกัน?
ฉินอี้เหยาเม้มปาก สายตาที่เยือกเย็นมีความไหวระริกวาบผ่าน แต่ยังคงตอบอย่างเย็นชาว่า “ที่นี่ทิวทัศน์ไม่เลว เดินไปด้วยคุยไปด้วยจะดีกว่า”
มู่ชิงเกอที่ยังเดาใจสาวงามไม่ออกในตอนนี้ทำได้เพียงแค่เดินตามสาวงามเคียงคู่กับบรรยากาศรอบข้างที่สวยสด แต่มู่ชิงเกอไม่ได้สนใจกับสิ่งเหล่านี้เลยแม้แต่น้อย
นางกำลังคิดว่าเหตุใดองค์หญิงฉางเล่อถึงเป็นฝ่ายมาหานางก่อน จากการเจอกันเมื่อครั้งก่อนๆ ที่ผ่านมา องค์หญิงจะต้องไม่อยากไปมาหาสู่กับนางสิจึงจะถูก
แม้ว่าในวันงานเลี้ยงที่วังหลวงนี้นเป็นเพราะองค์หญิงยื่นมือเข้าช่วยเหลือ แต่หลังจากเรื่องนั้นทั้งสองก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย
นอกเสียจากว่า…
“องค์หญิง ไทเฮาทรงมีรับสั่งอะไรใช่หรือไม่?” อยู่ๆ มู่ชิงเกอก็ถามขึ้น ฉินอี้เหยาชะงักฝีเท้า เม้มปากเบาๆ มองมู่ชิงเกอด้วยสายตาอันสว่างสดใส “หรือว่าต้องมีพระบัญชาจากเสด็จย่าเท่านั้น ข้าจึงจะมาหาเจ้าได้?”
เอ่อ…
“แน่นอนว่าไม่ใช่” มู่ชิงเกอยกยิ้มน้อยๆ
ทั้งสองเริ่มพูดคุยกันราวกับว่าทิ้งไปป๋ายซีเยวี่ยไว้อีกด้านหนึ่งทำให้ดวงตาอันงดงามของนางดูเยือกเย็นลงเล็กน้อยและมองทั้งสองอย่างไม่ค่อยชอบใจ ฉินอี้เหยามองไปรอบๆ ป่าดอกท้อ “ได้ยินสาวใช้ของเจ้าบอกว่าวันนี้คนที่นัดเจ้าออกมาคือคนตระกูลเช่าอย่างนั้นหรือ?”
นี่ก็ไม่ได้มีอะไรน่าปิดบัง
มู่ชิงเกอพยักหน้าโดยไม่ต้องคิด
เห็นมู่ชิงเกอยอมรับ ฉินอี้เหยาก็หยุดคิดสักพักแล้วเอ่ยว่า “ต่อไปเจ้าก็อย่าไปไหนมาไหนกับเขาให้มากนัก ข้าได้ยินว่าชื่อเสียงของเขา…ไม่ค่อยจะดีนัก”
นํ้าเสียงนี้มีความสนิทสนมขึ้นมาบ้าง แต่ก็ยังคงเย็นชา แต่ก็ไม่เหมือนคนแปลกหน้าเหมือนเมื่อก่อน
แต่มันกลับทำให้ลีหน้าของมู่ชิงเกอเย็นชาขึ้น นางหยุดเดินและพูดติดตลกว่า “ชื่อเสียงของเขาไม่ค่อยดีอย่างนั้นหรือ หรือว่าองค์หญิงจะไม่ทรงทราบว่าชื่อเสียงของกระหม่อมเองก็ไม่ได้ดีเด่อะไรมากเช่นเดียวกัน จอมเสเพลแห่งแคว้นลั่วตู เขาเป็นอันดับสอง ส่วนกระหม่อมก็อันดับหนึ่ง”
ตอนแรกนางคิดว่าจะอดทนอยู่เป็นเพื่อนองค์หญิงองค์นี้ไปก่อน
แต่กลับไม่คิดว่าคำพูดของนางจะทำให้มู่ชิงเกอหมดอารมณ์ และไม่สนใจว่านางจะเป็นอย่างไร มู่ชิงเกอก็เดินก้าวเท้ายาวๆ ไปยังที่ๆ แยกกับเจ้าอ้วนเช่าทันที
“คุยกันอยู่ดีๆ เหตุใดจึงเป็นแบบนี้ไปได้?”
ฮวาเยวี่ยถามโย่วเหอเบาๆ ทั้งสองมองหน้ากันแล้วรีบ เดินตามมู่ชิงเกอไป
ฉินอี้เหยาอึ้งมองตามเงาร่างของมู่ชิงเกอไปและรู้ว่าตนเองเหมือนพูดอะไรผิดไป แต่ที่นางพูดก็เพราะหวังดีกับเขา ด้วยความรู้สึกผิดและนึกขึ้นได้ว่าเรื่องที่จะมาแจ้งยังไม่ได้พูด นางจึงนำทุกคนเดินตามไป
หลังจากที่ทั้งสองเดินจากไป ป๋ายซีเยวี่ยที่ไม่มีใครสนใจหยุดคิดสักพักแล้วพาลวี่จือรีบเดินตามไป
“คุณหนู คุณชายไม่สนใจพวกเราเลย เรากลับกันเถิดเจ้าค่ะ” ลวี่จือเทียบไม่ได้กับความแข็งแกร่งของป๋ายซีเยวี่ยที่มีพลังขั้นเหลืองชั้นกลาง นางเดินจนหอบเหนื่อยไปหมดและรีบพูดขึ้น แต่ป๋ายซีเยวี่ยมีหรือจะยอมฟังนาง? นางยังคงเดินต่อไปไม่หยุดพร้อมพูดว่า “วันนี้ข้าจะต้องรู้ให้ได้ว่าเหตุใดรุ่ยอ๋องถึงโดนลงโทษข้าถึงจะรู้ว่าข้าควรทำอย่างไรต่อไป” ที่นางมองรุ่ยอ๋องว่าดีและรักเขานั้น นอกจากรูปลักษณ์ภายนอกของรุ่ยอ๋องแล้วยังมีความสูงส่งและพรสวรรค์ที่มากกว่าผู้อื่น เรียกได้ว่ารักในฐานะของเขานั้นเอง
หากวางแผนจัดการให้ดีๆไม่แน่ว่าวันหนึ่งข้างหน้านางอาจจะได้เป็นฮองเฮาของแคว้นก็เป็นได้
แต่หากว่ารุ่ยอ๋องสูญเสียความโปรดปรานจากฮ่องเต้และเสียสิทธิ์ในการแย่งชิงบัลลังก์ไป ถ้าเป็นอย่างนั้น นางก็ต้องไตร่ตรองให้ดีว่าคุ้มหรือไม่ที่จะเทหมดหน้าตักเพื่อวางเดิมพันข้างเขา
ตอนนี้นางยังอยู่ในสถานะที่ได้เปรียบ
ในตระกูลมู่ นางมีฐานะพิเศษ และมู่เหลียนหรงเองก็อยากให้นางแต่งกับมู่ชิงเกอ อีกทั้งรุ่ยอ๋องก็เริ่มมองนางเปลี่ยนไปบ้างแล้ว ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับตัวนางเอง เพราะฉะนั้นนางต้องรวบรวมข้อมูลที่แม่นยำมากกว่านี้มาเพื่อมาวิเคราะห์ว่าควรจะอยู่ข้างใคร จึงจะสามารถยืนอยู่ในจุดที่สูงกว่าเดิมได้
ใช่แล้ว! ฮ่องเต้ยังมีองค์ชายองค์อื่นๆ อีกนี่ อยู่ๆ ป๋ายซีเยวี่ยก็นึกถึงเสียนอ๋องที่ได้ยินในบทสนทนาของมู่ชิงเกอกับองค์หญิงฉางเล่อขึ้นมา นางจำชื่อนี้ได้ลางๆ แต่รู้เพียงว่าองค์ชายองค์นี้เก็บองค์มาก
แล้วยังมีรัชทายาทแห่งวังตะวันออกอีก…
มือของป๋ายซีเยวี่ยที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อค่อยๆ กำแน่น ทันใดนั้น นางก็รู้สึกว่าตัวเลือกของตนเองไม่ได้มีเพียงแค่มู่ชิงเกอกับรุ่ยอ๋องเท่านั้น แต่แน่นอนว่าหากไม่มีอะไรผิดพลาด รุ่ยอ๋องก็ยังคงเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งของนางอยู่ดี
เพราะถึงอย่างไร นางก็หวั่นไหวไปกับเขาแล้วจริงๆ