Skip to content

พลิกปฐพี 57

ตอนที่ 57

หนุนตักคนงาม ช่างงามและเย้ายวนเหลือเกิน!

ด้านหลังมีคนกลุ่มหนึ่งตามมา แต่มู่ชิงเกอก็คร้านจะไปสนใจ พาสาวใช้ทั้งสองของตนเองเลี้ยวเข้าไปยังป่าดอกท้อ

“พวกเจ้าสองคนจำไว้ให้ดีว่า ข้าต่างหากที่เป็นเจ้านายของพวกเจ้า อย่าทำอะไรเพื่อคนอื่นอีก ยิ่งไม่ต้องกลัวว่าจะทำให้เชื้อพระวงศ์พวกนั้นไม่พอใจ” อยู่ๆ มู่ชิงเกอก็พูดขึ้นมา

โย่วเหอและฮวาเยวี่ยที่เดินอยู่ด้านหลังพอได้ยินก็รู้ว่าเจ้านายโกรธเรื่องในวันนี้

ทั้งสองรีบพูด “นายท่านอย่าโกรธเลย ตอนนี้พวกบ่าวรู้แล้ว และเรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีกเป็นครั้งที่สอง”

มู่ชิงเกอเดินช้าลงยิ้มอย่างโอหังชั่วร้ายพร้อมพูดว่า “หากยังมีครั้งต่อไปพวกเจ้าก็ไม่ต้องกลับมาเรือนสวนสระเมฆาอีกตลอดไป”

“นายท่าน!”

“นายท่านไม่นะ!”

ครั้งนี้ ทั้งสองรับรู้ได้ถึงความโกรธของมู่ชิงเกออย่างแท้จริง ไม่กล้าท่าพลาดอีกแล้ว

พวกนางไม่ใช่ไม่ซื่อสัตย์ต่อมู่ชิงเกอ แต่ว่าเพราะซื่อสัตย์มากจนเกินไป คิดเผื่อมู่ชิงเกอมากเกินไป เพราะฉะนั้นจึงถูกมู่เหลียนหรงควบคุมคิดว่าเจ้านายของตนเองควรจะดีกับองค์หญิงฉางเล่อเข้าไว้

สืบทอดทายาทให้กับตระกูลมู่เหมือนจะกลายเป็นเป้าหมายหลักและเรื่องสำคัญมากสำหรับตระกูลมู่ หลังจากที่แน่ใจว่ามู่ชิงเกอไม่อาจฝึกฝนพลังได้ เห็นทั้งสองรู้สึกผิดมู่ชิงเกอก็ไม่ถามอะไรอีก เดินเลี่ยงต้นดอกท้อที่อยู่ตรงหน้า ไปตามเส้นทางสายเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยโคลนและกลีบดอกไม้ทั้งสามคนก็กลับไปถึงแม่นํ้าสายเล็กๆ ที่เปิดโล่ง ฉินอี้เหยาและป๋ายซีเยวี่ยที่ห่างจากพวกนางไม่ไกลก็รีบตามมา

เสียงร้องรำทำเพลงดังมาจากพื้นหญ้าข้างแม่น้ำ เจ้าอ้วนเช่าที่เปียกไปทั้งตัว ถูกคนเอาผ้าปิดตาไว้เล่นไล่จับอยู่ท่ามกลางเหล่าหญิงงาม เสียงหัวเราะทำให้โย่วเหอและฮวาเยวี่ยอึ้งจนดวงตาโตเบิกกว้าง

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงฉินอี้เหยา ป๋ายซีเยวี่ยและคนอื่นๆ ที่เดินตามมา

ชื่อเสียงความเสเพลที่ได้ยินมากับสิ่งที่ได้เห็นกับตานั้นไม่เหมือนกัน

ฉินอี้เหยายืนอึ้งอยู่กับที่ มองบรรดาหญิงสาวที่อยู่ตรงนั้นแล้วทำอะไรไม่ถูกในทันที

“ว้าย! คุณชายกลับมาแล้ว!”

“คุณชาย!”

“คุณชาย รีบมานั่งพักก่อนเจ้าค่ะ ประเดี๋ยวข้าน้อยจะรินสุราให้”

“คุณชาย ข้าน้อยปอกเปลือกองุ่นไว้ให้ท่านแล้ว”

พอมู่ชิงเกอปรากฎตัว เหล่าหญิงงามก็ทิ้งเจ้าอ้วนเช่า แล้วต่างก็โผเข้ามาหาชายหนุ่มชุดแดงราวกับผีเสื้อ ฉากตรงหน้าทำให้สาวใช้ทั้งสองยังไม่ทันได้ทำอะไรก็เห็นเจ้านายของตนเองถูกหญิงสาวพายังไปยังผ้าสี่เหลี่ยมผืนใหญ่ผืนหนึ่ง

เจ้าอ้วนเช่าที่ถูกทิ้งดึงผ้าปิดตาลง แต่ก็ไม่โกรธรีบเดินตามไป

“คุณชายรีบนั่งลงก่อน”

หญิงงามคนหนึ่งนั่งคุกเข่าอยู่บนผ้า ใช้ตนเองต่างเก้าอี้ให้มู่ชิงเกอนั่ง

มู่ชิงเกอเองก็ไม่ลังเลสะบัดแขนเสื้อแล้วนั่งลงไปอย่างเป็นธรรมชาติเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของหญิงงามทันที

การกระทำนี้ทำให้หญิงงามยิ้มไม่หุบ

สาวงามอีกสองคนเดินออกมาจากบรรดาพี่น้องนั่งอยู่ข้างซ้ายและขวาของมู่ชิงเกอ คนหนึ่งป้อนสุราให้กับมู่ชิงเกอ อีกคนป้อนองุ่นที่ปอกเปลือกแล้วเข้าไปที่ปากแดงๆ ของนาง

สาวงามหลายคนที่แพ้การแย่งชิง ทำได้แค่นั่งอยู่ข้างขาของนางและนวดขาให้นาง

ป่าดอกท้อแห่งนี้ประดับไปด้วยเหล่าสาวงาม เป็นความงามไม่มีที่สิ้นสุด ดูไกลห่างราวกับเทพเซียน…

ชุดสีแดงสดและผมสีดำดั่งเส้นไหม

กลิ่นหอมอบอวล ดอกท้อปลิดปลิวลงพื้นดิน

แม้จะถูกสาวงามหลายคนกอด แต่ก็ไม่อาจปิดบังความงดงามนั้นได้

ราวกับว่าหญิงสาวที่อยู่ข้างหน้าชายชุดแดงท่าทางเจ้าชู้นั้นเป็นเพียงตัวประกอบเท่านั้น

ฉากที่ควรชวนให้รู้สึกรังเกียจนั้น แต่เมื่อนางเป็นคนแสดงมันออกมา กลับดูเพลิดเพลินและชวนให้คนหวั่นไหว

ความโกรธที่ฉินอี้เหยาซ่อนอยู่ลึกๆ ก็ค่อยๆ ดับมอดลง

ภาพที่นางเห็นไม่ได้ดูน่ารังเกียจเลยแม้แต่น้อยและไม่ได้ดูตํ่าช้าน่าละอายแต่อย่างใด สิ่งที่มีคือความตั้งใจที่จะทำเพื่อชายหนุ่ม ราวกับว่ามู่ชิงเกอเป็นเทพบุตรในป่าแห่งนี้ เป็นภูตพรายเจ้าเสน่ห์แห่งสวนบุปผาและภูผาทั้งหลายที่แค่อยากลองใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางมนุษย์ก็เท่านั้น

นางมองไม่เห็นการฝืนใจและการยั่วยวนที่น่ารังเกียจในแววตาของผู้หญิงพวกนี้เลยแม้แต่นิด

ราวกับว่าพวกนางก็แค่อยากจะปรนนิบัติให้มู่ชิงเกอสบายขึ้นกว่าเดิม

มู่ชิงเกอเองแม้จะนั่งอยู่ในอ้อมกอดของหญิงงามแต่ก็ไม่ได้มีท่าทีต้องการล่วงเกิน สายตานั้นดูนิ่งสงบเหมือนกับตอนที่ได้ใกล้ชิดกับนางตอนเต้นรำเคียงคู่ด้วยกันในวันนั้น

ในใจของฉินอี้เหยาค่อยๆ สงบลงเหลือเพียงความตกตะลึงเท่านั้นที่ยังไม่จางหายไป

“คุณชาย ท่านไปเชิญเหล่าหญิงงามที่สวยปานนางฟ้าพวกนี้มาจากที่ใดกัน หรือว่าท่านรังเกียจว่าพวกข้ารูปโฉมธรรมดาเจ้าคะ” หญิงงามคนหนึ่งปอกเปลือกองุ่นให้มู่ชิงเกอแล้วถามออดอ้อน

การปรากฏตัวของฉินอี้เหยา ป๋ายซีเยวี่ยและอีกหลายคนพวกนางเห็นตั้งนานแล้ว

แต่ว่าพวกนางทำเป็นไม่สนใจ จะบอกว่าเหยียดเพศเดียวกันหรือจะบอกว่าไม่อยากให้ใครมาแย่งชิงความรักของมู่ชิงเกอไปก็ดี สรุปว่าพวกนางจงใจให้เป็นแบบนี้!

มู่ชิงเกอยังไม่ทันจะได้ตอบเหล่าสาวงามเจ้าอ้วนเช่าก็เดินมาเข้ามาใกล้นางแล้วกระซิบที่ข้างหูนางเบาๆ ว่า “โอ๋ๆ ลูกพี่ทำไมท่านไปครู่เดียวถึงไปขนภูเขานํ้าแข็งอย่างองค์หญิงฉางเล่อมาด้วยได้ล่ะ? อีกอย่างสาวชุดขาวนั่นเป็นใครกัน ดูท่าทางรู้สึกคุ้นๆ หรือว่าจะเป็นหญิงสาวในจวนท่านนางนั้น ที่ท่านอาเหลียนเคยบอกว่าเป็นว่าที่สะใภ้ที่เตรียมไว้ให้กับท่าน หากไม่ต้องการให้ข้าคิดเหลวไหล แล้วเหตุใดวันนี้เมียหลวงและเมียน้อยถึงมารวมตัวอยู่ด้วยกันได้ล่ะ? โอ๊ย!”

เจ้าอ้วนเช่าที่กำลังพูดอยู่ถูกมู่ชิงเกอเขกหัวจนต้องหยุดพูด

“ฉา BB ให้มันน้อยๆ หน่อย” มู่ชิงเกอพูดตักเตือน

เจ้าอ้วนเช่ากะพริบตาเล็กๆ ของตนเองแล้วถามอย่างงงๆ ว่า “ลูกพี่อะไรคือ ฉา BB (ศัพท์วัยรุ่นสมัยนี้แปลว่า พูดไปเรื่อย ใช้บอกให้อีกฝ่ายหุบปาก)”

มู่ชิงเกอเบะปาก นางโมโหเจ้าอ้วนเช่าจนหลุดปากพูดคำศัพท์จากโลกที่ทะลุมิติมา แล้วค่อยอธิบายอย่างไม่พอใจ “แปลว่าพูดไปเรื่อยไงเล่า”

“ข้าไม่ได้พูดไปเรื่อย ท่านอาเหลียนเองก็พูดเช่นนี้” เจ้าอ้วนเช่าพูดอย่างน้อยอกน้อยใจ แต่ตอนที่มู่ชิงเกอจะลงมืออีกครั้ง เจ้าอ้วนเช่าก็รีบล้มลุกคลุกคลานยืนขึ้นมา จัดการกับเสื้อผ้ายับๆ ของตนเองแล้วเดินไปทางฉินอี้เหยา

“เช่าเย่เจ๋อถวายพระพรองค์หญิงฉางเล่อ” องค์หญิงว่าที่ภรรยาท่านนี้ไม่ใช่คู่หมั้นของเขาและเขาก็ไม่ได้มีฐานะเป็นทายาทสายตรงและมีท่านปู่สุดเก่งกาจเช่นมู่ชิงเกอ อยู่ต่อหน้าองค์หญิงแน่นอนว่าจะต้องทำความเคารพ

พอสิ้นเสียงของเจ้าอ้วนเช่า เสียงเซ็งแช่ทั้งหมดก็ค่อยๆ เงียบลง

ตอนแรกพวกนางอิจฉารูปโฉมของฉินอี้เหยา ความบริสุทธิ์งดงามของป๋ายซีเยวี่ย แต่ตอนนี้พอรู้ว่าฐานะของทั้งสองไม่ธรรมดาจึงไม่กล้าทำตัวยโสโอหังอีกต่อไป

ภายใต้สายตาสบายอกสบายใจของมู่ชิงเกอ พวกนางต่างก็คุกเข่าลงทำความเคารพฉินอี้เหยา

“ไม่ต้องมากพิธี” ฉินอี้เหยาพูดอย่างเย็นชาแล้วเดินผ่านเจ้าอ้วนเช่าไปหามู่ชิงเกอ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version