Skip to content

พลิกปฐพี 806

ตอนที่ 806

แผนการของศิษย์พี่!

ความสัมพันธ์ของเจ้าสำนักวิถีโอสถกับมู่ชิงเกอ ทั้งคู่ต่างไม่ได้ป่าวประกาศออกไป เพียงแค่รู้กันภายในเท่านั้น ดังนั้นคำเรียกศิษย์พี่เช่นนี้ แรงสั่นสะท้านจึงนับว่าสูงมาก

ทั้งสี่คนขึ้นเรืออากาศของมู่ชิงเกอ ห่างไกลจากแท่นบ่อบินไปเรื่อยๆ

อิ๋งเจ๋อละสายตาที่มองแท่นบ่อบินแล้วถามมู่ชิงเกอว่า “เจ้าสังหารพวกเขาจะไม่เกิดปัญหาหรือ”

เขารู้ว่า มู่ชิงเกอทำเพื่อพวกเขา แต่ไม่อยากให้มู่ชิงเกอต้องเดือดร้อนเพราะพวกเขา ถึงแม้เวลานี้ดูแล้ว มู่ชิงเกอทำได้ไม่เลวทั้งยังมีฐานะสูงส่งมากก็ตาม

“ไม่เป็นไรหรอก สังหารเพียงไม่กี่คนทำอะไรข้าไม่ได้” มู่ชิงเกอพูดอย่างไม่ใส่ใจแม้แต่นิด

“เจ้าต้องปลอดภัยจริงๆ จึงจะดี” จีเหยาฮั่วก็เก็บงำอาการเล่นหัว พูดอย่างจริงจัง

เว่ยมั่วลี่ถึงแม้ไม่ได้พูดแต่แววตาที่มองมู่ชิงเกอ ความหมายที่ต้องการสื่อนั้นก็เช่นเดียวกัน

ความเป็นห่วงของเพื่อนเก่า ทำให้ความอบอุ่นในดวงตามู่ชิงเกอเพิ่มมากขึ้น นางยิ้มว่า “ข้าไม่เป็นอะไรจริงๆ อย่าว่าแต่สังหารพวกเขาไม่กี่คนเลย ต่อให้คน มากกว่านี้ถูกข้าสังหาร ก็ไม่มีเรื่องอะไรหรอก”

“ตอนนี้เจ้าร้ายกาจขนาดนี้เลยหรือ!” จีเหยาฮั่วพูดอย่างสะท้านใจ

มู่ชิงเกอยิ้ม ไม่ได้เอ่ยคำ

เจ้าสำนักวิถีโอสถกลับเอ่ยขึ้นในเวลานี้ “ฐานะของราชาเทวะน้อยในแผ่นดินเทพมารเทียบเคียงได้กับนายน้อยตระกูลอันดับต้นๆ ของพวกเจ้าในโลกแห่งยุคกลาง อีกทั้งทั่วแผ่นดินเทพมาร มีเพียงสิบหกดินแดนเทพ พวกเจ้าต้องรู้ว่าฐานะนี้ลํ้าค่ามากแค่ไหน ชิงเกอพูดไม่ผิด การสังหารลูกศิษย์ดินแดนเทพไม่กี่คน ไม่ส่งผล กระทบอะไรต่อนางหรอก”

การอธิบายของเขาทำให้จีเหยาฮั่ว อิ๋งเจ๋อ เว่ยมั่วลี่สามคนตะลึง ต่างรู้ชัดเจนถึงฐานะของมู่ชิงเกอในแผ่นดินเทพมาร

“ดูแล้ว ระยะห่างของพวกเรากับเจ้า นับวันยิ่งห่างไกลออกไปเรื่อยๆ” อิ๋งเจ๋อสะท้อนใจ

มู่ชิงเกอยิ้มพูด “พวกเจ้าเพียงแค่ขึ้นมาช้าไปหน่อย ไม่ได้มีความหมายอะไร รอให้ผ่านมหาสมุทรดวงดาวนี้ไปแล้ว ข้าจะพาพวกเจ้าไปยังแผ่นดินเทพตะวันออก เวลานี้ข้าเป็นราชาเทวะน้อยดินแดนฮ่วนเยวี่ยแห่งแผ่นดินเทพตะวันออก เหยาชิงไห่กับเซียนเสวี่ยต่างอยู่ในดินแดนฮ่วนเยวี่ย หลังจากพวกเจ้าเข้าไปในแผ่นดิน เทพตะวันออกแล้ว จะต้องไปยังสถานที่ที่เรียกว่าเสี่ยวเทียนอี้…”

มู่ชิงเกอเล่าเรื่องขณะที่นางเพิ่งเข้าสู่แผ่นดินเทพ สิ่งที่จวงซานบอกนางไว้ให้คนทั้งสามได้รับรู้ให้พวกเขารู้เรื่องแผ่นดินเทพทั้งสี่สมุทรคร่าวๆ

“ระยะนี้ แผ่นดินเทพทั้งสี่สมุทรจะวุ่นวายอยู่บ้าง พวกเจ้าอยู่ที่เสี่ยวเทียนอี้ก่อนก็ดี หวังว่าขณะที่พวกเจ้าออกจากเสี่ยวเทียนอี้ทุกอย่างจะสงบลงแล้ว เมื่อถึงเวลา นั้น ข้าจะส่งคนไปรับพวกเจ้า” มู่ชิงเกอพูดในตอนท้าย

“ที่แท้เหยาชิงไห่กับเซียนเสวี่ยก็มาที่นี่ก่อนแล้ว ข้ายังว่าเหตุใดจู่ๆ พวกเขาก็หายตัวไป” จีเหยาฮั่วพูดอย่างเข้าใจ

“พวกเขามาเพราะความผิดพลาด ต้องทนทุกข์อยู่ไม่น้อยเลย” มู่ชิงเกอบอก

“ชิงเกอ เจ้าว่าแผ่นดินเทพทั้งสี่สมุทรจะยุ่งเหยิงหรือ” อิ๋งเจ๋อพูดขึ้น

มู่ชิงเกอพยักหน้า “จะเกิดมรสุมใหญ่น่ะ”

“พวกเรามาช้าเกินไปแล้ว” เว่ยมั่วลี่พูดขึ้นท่ามกลางความเงียบ

คำพูดของเขาคนธรรมดาเข้าใจยาก แต่คนที่เข้าใจเขาจะฟังออกถึงความหมายของเขา เขารู้ว่าเวลานี้ความสามารถของตัวเองเมื่ออยู่ในแผ่นดินเทพมารนอกจากจะช่วยอะไรไม่ได้แล้ว ยังจะกลายเป็นตัวถ่วง ดังนั้นจึงโทษตัวเองที่มาช้าทำให้ไม่สามารถเข้าร่วมในมรสุมใหญ่ครั้งนี้ได้

กระทั่งฐานะและกำลังที่มีของมู่ชิงเกอ มรสุมใหญ่นี้ยังไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้พวกเขาเองก็คงทำได้เพียงหลบภัยอยู่ในเสี่ยวเทียนอี้

ดังนั้นเขาจึงพูดเช่นนี้

เวลานี้ทั้งเขาทั้งจีเหยาฮั่วและอิ๋งเจ๋อ ต่างไม่รู้ว่ามรสุมที่มู่ชิงเกอพูดถึงนั้นความจริงจะเกิดขึ้นจากตัวนางเอง

“บำเพ็ญให้ดีๆ ต่อไปยังมีเรื่องต้องทำอีกมาก” มู่ชิงเกอยิ้มบอกเขา

กำชับเรียบร้อยแล้ว มู่ชิงเกอจึงถามว่า “โลกแห่งยุคกลางเป็นอย่างไร ลั่วซิงเฉิงเป็นอย่างไร ตระกูลซางเป็นอย่างไรบ้าง”

“ทุกสิ่งล้วนอยู่ดี” อิ๋งเจ๋อพูดเหมารวม

จีเหยาฮั่วพูดต่อว่า “เจ้าหนูจิงไห่ไม่เลวเลย หลังจากเจ้าไปแล้ว เขากลับมาจากตระกูลจิง จัดการลั่วซิงเฉิงอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย เวลานี้โลกแห่งยุคกลางไม่ มีตำหนักเทพ แต่ลั่วซิงเฉิงกลายเป็นศูนย์กลางของโลกแห่งยุคกลาง ส่วนตระกูลซาง ท่านตาเจ้ายังคงเหมือนเดิม ตระกูลซางค่อยๆ ฟื้นฟู น้องสาวเจ้าเวลานี้กำลัง ทะลวงขอบเขตอาจารย์หลอมศาสตราชั้นมหาเทพ มีพี่สาวเช่นเจ้าคนนี้อยู่ที่นี่ การที่นางจะเป็นอาจารย์หลอมศาสตราชั้นมหาเทพก็เป็นเพียงเรื่องช้าเร็วเท่านั้น”

รอยยิ้มที่มุมปากมู่ชิงเกอกดลึกขึ้น จีเหยาฮั่วดูเหมือนเป็นคนไม่สนใจสังคม แต่กลับรู้ว่าสิ่งที่นางใส่ใจที่สุดนั้นคืออะไร

ความจริงเวลานี้มู่ชิงเกออยู่ขั้นศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงแล้ว การคิดกลับไปโลกแห่งยุคกลางหรือไปเยี่ยมเยียนหลินชวนนั้นเป็นเรื่องที่ง่ายมาก

แต่เวลานี้นางยังมีเรื่องราวมากมายต้องจัดการ ไม่สามารถปลีกตัวไปได้จริงๆ

หลายเรื่องถาโถมเข้ามา ทำให้นางไม่อาจแบ่งสมาธิกลับไปโลกแห่งยุคกลาง กลับไปหลินชวนเยี่ยมเยียนครอบครัวได้

“พวกเจ้าไปพักผ่อนกันก่อนเถอะ การเปลี่ยนพลังจิตเป็นพลังเทพต้องใช้เวลาช่วงหนึ่ง” มู่ชิงเกอบอกคนทั้งสาม

ทั้งสามก็ไม่ใช่คนโง่ รู้ว่ามู่ชิงเกอมีธุระคุยกับเจ้าสำนักวิถีโอสถเป็นการส่วนตัวจึงทำตามที่นางว่า กลับเข้าไปในห้องพัก

เมื่อดาดฟ้าเรือเหลือเพียงมู่ชิงเกอสองคน นางจึงเอ่ยว่า “ที่ศิษย์พี่กลับมาแผ่นดินเทพมาร คงเพราะเหลียนเฉียวใช่ไหม”

เจ้าสำนักวิถีโอสถพยักหน้า แล้วก็ส่ายหน้า “ใช่ แต่ก็ไม่เชิง สำนักวิถีโอสถสร้างขึ้นเนื่องจากท่านอาจารย์ต้องการคุ้มครองผู้อาวุโสบรรพบุรุษ เวลานี้ผู้อาวุโส บรรพบุรุษแอบกลับมาแล้ว ข้าเฝ้าอยู่ข้างล่างก็ไม่มีประโยชน์ แค้นของท่านอาจารย์ข้าไม่สามารถทำเฉยอยู่ได้”

พูดแล้วเขาถามว่า “ใช่แล้ว ในเมื่อเจ้ารู้ว่านางกลับมาแล้ว ทั้งได้พบชิงไห่ด้วย แล้วได้พบนางหรือไม่”

มู่ชิงเกอเม้มปาก ไม่ได้เอ่ยขึ้นในทันที

ปฏิกิริยาของนางทำให้ตาดำเจ้าสำนักวิถีโอสถหดลงทันที ถามว่า “เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือ”

มู่ชิงเกอถอนใจ บอกเรื่องเหลียนเฉียวออกมาพอสังเขป “…เหลียนเฉียวว่า ท่านอาจารย์ไม่อยู่ในโลกนี้แล้ว นางอยู่คนเดียวก็เปล่าประโยชน์การจากไปก็ถือเป็นการปลดปล่อย เพียงแต่หวังให้ข้าแก้แค้นให้ท่านอาจารย์ อย่าปล่อยให้พวกละโมบลอยนวล”

เจ้าสำนักวิถีโอสถถอนใจยาว พูดอย่างหมดหนทางว่า “นิสัยผู้อาวุโสบรรพบุรุษหัวดื้อหัวรั้น เป็นการตัดสินใจของนางเอง เจ้าอย่าคิดมากจนเกินไป ความแค้นของท่านอาจารย์ไม่ใช่เรื่องของเจ้าคนเดียว ข้าเองก็จะทุ่มเทเต็มที่ เมื่อไปถึงแผ่นดินเทพตะวันออกแล้ว ขอข้ายืมเรืออากาศด้วย”

“ศิษย์พี่จะทำอะไร” มู่ชิงเกอถาม

เจ้าสำนักวิถีโอสถว่า “เจ้ารูไหมว่าท่านอาจารย์มีฐานะอะไรในหมู่อาจารย์ปรุงยาของแผ่นดินเทพมาร”

มู่ชิงเกอส่ายหน้า “ข้าไม่เคยได้พบปะกับอาจารย์ปรุงยาคนอื่นในแผ่นดินเทพมาร”

เจ้าสำนักวิถีโอสถยิ้มว่า “ไม่เป็นไร ต่อไปจะมีโอกาสแน่”

ตาดำมู่ชิงเกอหดลง ถามว่า “ศิษย์พี่จะไปติดต่ออาจารย์ปรุงยาหรือ”

เจ้าสำนักวิถีโอสถพยักหน้า “หากพวกเขายอมร่วมมือด้วย ก็ถือเป็นกำลังช่วยได้ไม่น้อย เจ้าต้องจำไว้ว่า ความหมายของอาจารย์ปรุงยาหนึ่งคนนั้น ไม่ได้หมายถึงตัวคนเพียงคนเดียวเท่านั้น”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!