ตอนที่ 858
สามเดือนให้หลัง วันมงคลสมรส
ในโลกนี้คนงามมีมากมาย
พูดได้ว่าคนที่อยู่ในตำหนักนี้ไม่ว่าจะเป็นใครล้วนงามลํ้าเลิศในโลกมนุษย์
แต่คนคนหนึ่งจะสามารถงามจนเปล่งประกายออกมาจากภายในกระดูก งามจนทุกอิริยาบถ ล้วนดึงดูดสายตาผู้คนได้ทำให้ผู้คนใจเต้นระทึกจนไม่ต้องการทำลายความงามนั้นลง ช่างหาได้ยากยิ่งนัก
คนงามเมื่อมองมากไปก็จะรู้สึกเบื่อ รู้สึกไร้รสชาติ
แต่คนที่งามเช่นนี้กลับทำให้พวกเขาต่างมีความรู้สึกเห็นพ้องกันว่ามองได้ไม่เบื่อเลยสักนิดกลับมีความ รู้สึกว่ายิ่งมองก็ยิ่งงาม
นางเป็นใครหรือ
เหตุใดจึงเหมือนมู่ชิงเกอราวกับแกะออกจากพิมพ์เดียวกันเช่นนี้
ในเวลานี้ทุกคนต่างลืมไปแล้วว่าเสียงที่เอ่ยพูดเมื่อครู่นี้เป็นมู่ชิงเกออย่างไม่ต้องสงสัย
ความตื่นตกใจในความงามของผู้คนไม่ส่งผลกระทบต่อมู่ชิงเกอ สีหน้านางยังคงเย็นชา แววตาที่แหลมคมกวาดมายังหลียวน “ราชาเทวะเฟิ่งเทียน ที่นี่เป็นเก้าชั้นฟ้า เซวี่ยนหย่าเป็นสาวใช้ข้า ไม่ว่านางจะไม่รู้จักธรรมเนียมสักเพียงไหนก็ไม่ใช่จะให้ท่านมาสั่งสอน ขอให้ราชาเทวะโปรดสำรวม อย่าได้ทำให้ตัวเองต้องเสื่อมเสียเกียรติ”
เดิมทีนางตั้งใจทักทายผู้คนก่อนแล้วจึงแจ้งให้ทุกคนรู้ความจริงที่นางเป็นหญิง แต่ไม่นึกว่ากลับถูก หลียวนก่อกวน
เวลานี้นางต้องเปิดเผยตัวตนว่าเป็นหญิงอย่างฉุกละหุก ดูจากปฏิกิริยาของทุกคนแล้วไม่มีใครเตรียม ตัวเตรียมใจมาก่อนเลยแม้แต่นิด
อย่าว่าแต่คนเหล่านี้เลย แม้แต่ซวีซิวก็ยังเบิกตาโตมองมู่ชิงเกอด้วยความตื่นตะลึงยิ่ง เขานึกไม่ถึงเลยว่า นายน้อยตระกูลมู่จะเป็นหญิงสาวคนหนึ่ง
ผู้หญิงคนหนึ่งถึงขนาดมีแรงดึงดูดมากมายเพียงนี้ มีพรสวรรค์ราวกับปีศาจเช่นนี้และมีพลังที่ฝืนชะตาฟ้าเช่นนี้
ซวีซิวสูดลมหายใจเข้าลึกหันมองราชครูที่อยู่ด้านข้างอย่างรวดเร็ว
กลับเห็นแววตาเขานิ่งสงบไม่มีสีหน้าเกินคาดแม้แต่นิด ราวกับถอนใจโล่งอกด้วยซํ้า
เขาเข้าใจในทันที เค้นถามว่า “เจ้ารู้อยู่แต่แรกแล้วหรือ”
ราชครูยกยิ้มแล้วพยักหน้าแสดงท่าทีขออภัย
ซวีซิวหน้าดำคลํ้ากระซิบถามว่า “เหตุใดเจ้าไม่บอกข้าก่อนเล่า”
“เรื่องที่นายน้อยไม่ได้พูดเอง พวกเราที่เป็นลูกน้องจะไปเจ้ากี้เจ้าการได้อย่างไร” ราชครูยิ้มแห้งๆ เขา เองก็ลำบากใจมากจริงๆ
ซวีซิวมุมปากกระตุกอย่างแรง ไม่ได้เอ่ยคำอีก
ระหว่างช่วงเวลาที่ติดตามมู่ชิงเกอนี้ เขาย่อมดูออกถึงนิสัยใจคอของมู่ชิงเกอ ดังนั้นคำพูดของราชครู เขาจึงทำได้เพียงถอนใจยอมรับเท่านั้น
เพียงแต่นายน้อยเป็นหญิง…นี่…การสืบทอดทางสายเลือดตระกูลมู่ต่อไป…
ซวีซิวมองไปที่ราชครูอีกคำถามในสายตาสามารถมองเห็นได้ชัดเจน
ส่วนราชครู…เขาเป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องกับซวีซิวมายาวนาน จะอ่านสายตาอีกฝ่ายไม่ออกได้อย่างไร เพียงแต่เรื่องนี้เขาก็พูดไม่ได้ ได้แต่เอ่ยในใจอย่างจนปัญญาว่า ‘ศิษย์พี่ หวังว่าท่านจะสามารถรับได้’
ภายในตำหนักหน้าวังราชาเทวะเก้าชั้นฟ้านั้น เปลี่ยนเป็นเงียบสงัดเพราะเรื่องการแต่งเป็นหญิงของมู่ชิงเกอ ราวกับว่าทุกคนล้วนถูกดึงดูด หรือพูดได้ว่า ยินยอมที่จะถูกดึงดูดจนไม่ยอมตื่นขึ้นมา
มีเพียงคนเดียวที่หลังจากสะท้านและตกใจในความงามแล้ว ใบหน้าที่สลักเสลาแต่งแต้มอย่างประณีต กลายเป็นบิดเบี้ยวดุร้าย
‘มู่ชิงเกอเป็นผู้หญิง มู่ชิงเกอเป็นผู้หญิง เป็นไปได้อย่างไร มู่ชิงเกอจะเป็นผู้หญิงได้อย่างไร ราชาเทวะหญิงหนึ่งเดียวในแผ่นดินเทพทั้งสี่สมุทรมีเพียงข้าหลียวนดินแดนเฟิ่งเทียนเท่านั้น!’ หลียวนกรีดร้องอยู่ในใจ อารมณ์อิจฉาริษยาและแค้นเคืองผุดขึ้นจากส่วนลึกภายในจิตใจค่อยๆ ลุกลามบั่นทอนสติของนางไปเรื่อยๆ
‘ข้าหลียวนเป็นหญิงงามที่สุดในดินแดนเฟิ่งเทียน เป็นหญิงที่มีฐานะสูงส่งที่สุดในแผ่นดินเทพทั้งสี่สมุทร เจ้ามู่ชิงเกอคนนี้เป็นแค่ตัวอะไร ชายก็ไม่ใช่หญิงก็ไม่เชิงแต่ถึงขนาดกล้ามาแย่งชิงกับข้า! อาศัยอะไรกัน!’ หลียวน คำรามอย่างโกรธแค้นในใจ
แววตาที่เต็มไปด้วยความอิจฉาริษยากวาดผ่านสีหน้าของคนทุกคน ท่าทางตื่นตะลึงในความงามเช่นนั้น สมควรเป็นของนาง แต่เวลานี้พวกเขา…เหล่าชายที่มีฐานะสูงส่งในแผ่นดินเทพทั้งสี่สมุทรกลับพากันใช้แววตานี้จ้องมองตัวที่ชายก็ไม่ใช่หญิงก็ไม่เชิงคนนี้
เป็นเพราะนางอ่อนเยาว์กว่าหรือ
แววตาที่โกรธแค้นและอิจฉาริษยาผสมปนเปเข้าด้วยกัน จนกลายเป็นวัตถุเสมือนจริงพุ่งออกจากนัยน์ตานางโดยตรง
แววตาที่รุนแรงเช่นนี้ มู่ชิงเกอมีหรือจะมองไม่เห็น
เพียงแต่หลียวนยิ่งโกรธแค้นนางก็ยิ่งพอใจ ท่าทางหลียวนยิ่งดุร้ายนางก็ยิ่งยินดี
ปลายนิ้วของมู่ชิงเกอราวกับแตะถูกกระดิ่งสีทองที่เอวโดยไม่ได้ตั้งใจ
ความเคลื่อนไหวนี้บังเอิญหลียวนซึ่งจับจ้องนางอยู่มองเห็นเข้าพอดี
กระดิ่งกลวงสีทองอันนั้นทำให้ตาดำนางหดลงทันที นัยน์ตาเปล่งประกายเหลือเชื่ออย่างรุนแรง กระทั่งมีความรู้สึก…แค้นเคือง
กระดิ่งนั้นนางเคยเห็น
นางเคยเห็นบนร่างซือมั่ว แต่เวลานั้นนางไม่ได้ใส่ใจ นึกเพียงว่าเป็นของประดับธรรมดาเท่านั้น แต่วันนี้นางพบอีกครั้งบนร่างมู่ชิงเกอจึงไม่ได้คิดแบบนั้นอีกแล้ว
‘เหตุใดครั้งก่อนข้าจึงไม่สังเกตเห็น’ หลียวนถามตัวเองในใจ
นางไม่รู้ว่าครั้งที่มู่ชิงเกอไปดินแดนเฟิ่งเทียน เพื่อป้องกันไม่ให้นางจับได้จึงตั้งใจใช้อาคมพรางตาที่กระดิ่งทำให้ยากที่จะสังเกตเห็น
‘นางเกี่ยวข้องอะไรกับซือมั่วนะ’ หลียวนกัดฟันกรอด ถามตัวเองในใจ
เวลานี้เองมู่ชิงเกอก็กระแอมขึ้นเบาๆ ทำลายความเงียบสงัดในตำหนักใหญ่
คนอื่นๆ ล้วนได้สติจากเสียงกระแอมเบาๆ นั้นของนาง
“ลูกรัก เจ้ารู้อยู่แต่แรกหรือไม่” ราชาเฟิ่งตั้งสติได้จึงเค้นถามชูเนี่ยนที่อยู่ข้างๆ เป็นคนแรก ชูเนี่ยนมีพันธสัญญาเป็นตายกับมู่ชิงเกอย่อมรู้ว่ามู่ชิงเกอเป็นชายหรือหญิง
ชูเนี่ยนผงกศีรษะนิดๆ ด้วยแววตาที่สัตย์ซื่อ นางเองก็เพิ่งเห็นการแต่งหญิงของมู่ชิงเกอเป็นครั้งแรก เกิดความรู้สึกที่ไม่ว่าใครอยู่ข้างนางก็ล้วนต้องเห็นความด้อยกว่าของตัวเอง แต่ใจจริงแล้วนางกลับรู้สึกว่ามู่ชิงเกอยิ่งสมบูรณ์แบบนางก็ยิ่งยินดี
คนในที่นั้นทั้งหมดถึงอย่างไรก็เป็นระดับสุดยอดทั้งนั้น
หลังจากตั้งสติได้แล้วทุกคนต่างก็เก็บงำอาการตกตะลึงในความงามก่อนหน้านี้
“ไม่นึกว่านายใหม่ตระกูลมู่ ราชาเทวะของเก้าชั้นฟ้ารุ่นนี้ ถึงขนาดเป็นหญิง” ราชาเทวะจงซานหรี่ตาพูดช้าๆ
เขามองไปทางราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยที่ยังเงียบสงบ ถามยิ้มๆ ว่า “ฮ่วนเยวี่ย ราชาเทวะมู่เคยเป็นลูกศิษย์ดินแดนฮ่วนเยวี่ยของเจ้าแม้แต่เจ้าก็ยังไม่รู้ว่านางเป็นหญิงหรือ”
ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยเม้มปากไม่พูด
เขาไม่เคยรู้เลยว่ามู่ชิงเกอเป็นหญิง วันนี้เห็นนางสวมชุดผู้หญิงอย่างกะทันหัน ความตื่นตะลึงของเขาแทบจะทำให้เขาลืมฐานะตัวเอง
ยังดีที่เขาเป็นคนเยือกเย็นควบคุมตัวเองได้ดีมาตลอดจึงไม่ได้เสียกริยา
คำถามของราชาเทวะจงซานเวลานี้กลับทำให้เขาไม่รู้ว่าควรจะตอบอย่างไร
เวลานี้มู่ชิงเกอกลับยิ้มพูดว่า “เนื่องจากก่อนนี้ข้อกล่าวหาตระกูลมู่ของข้ายังไม่ได้รับการเปิดเผย ความแค้นยังคงอยู่ ดังนั้นจึงต้องแต่งเป็นชายต่อหน้าผู้คน ขอทุกท่านโปรดให้อภัยด้วย”
พูดจบนางก็คารวะราชาเทวะฮ่วนเยวี่ย “ราชาเทวะ ต้องขออภัยต่อการปกปิดครั้งก่อนนั้นด้วย”
“เวลานี้ราชาเทวะมู่กลับคืนสู่สภาพหญิงสาวเนื่องจากสถานการณ์มั่นคงแล้วหรือ” ราชาเทวะซุยชิงถาม เมื่อรู้ว่ามู่ชิงเกอเป็นหญิงทั้งยังเป็นหญิงที่งามลํ้าเช่นนี้น้ำเสียงของเขาก็อดไม่ได้ที่จะนุ่มนวลลงไปหลายส่วน
ใครจะรู้ว่ามู่ชิงเกอกลับสั่นศีรษะแล้วอมยิ้มพูดว่า “ที่ข้ากลับคืนสู่สถานะหญิงสาว เนื่องจากจะอาศัยโอกาสที่ทุกท่านมารวมตัวกันประกาศให้รู้เรื่องหนึ่ง”
นางหยุดนิ่งไปเล็กน้อย ภายใต้สายตาที่จับจ้องอยู่ของทุกคนเอ่ยว่า “หลังจากนี้สามเดือนจะเป็นวันมงคลสมรสของข้า”