Skip to content

พลิกปฐพี 875

ตอนที่ 875

ชมดอกไม้ไฟแห่งยุคด้วยกัน

หลังจากที่แตะและผละออก นางก็ลุกขึ้นท่ามกลางสายตาที่มีไฟปรารถนาเดือดพล่านของซือมั่ว ยกริมฝีปากยิ้ม “แต่ว่าอย่างไรเสียก็อยู่ในที่สาธารณะ ระวังภาพลักษณ์หน่อยก็ดี”

มู่ชิงเกอนั่งตัวตรงจัดเสื้อผ้าด้วยสีหน้าไม่สะทกสะท้าน ส่วนซือมั่วก็พลิกตัวนอนตะแคง มือข้างหนึ่งคํ้าศีรษะตนเอง ไม่ลุกขึ้น เพียงแค่ดวงตาปรากฎรอยยิ้ม มองนางด้วยความรักใคร่ที่แต้มไปทั้งใบหน้า

จัดเสื้อเรียบร้อยแล้ว มู่ชิงเกอก็กลอกตาเล็กน้อย มองชิงเหยียนนอกราชรถ มุมปากกระตุกขึ้น แล้วกล่าวถาม “น่าดูไหม”

อึก!

ชิงเหยียนขนหัวลุกรีบเบือนหน้าหนีไปพลางกล่าวไปพลาง “ข้าน้อย…ข้าน้อยไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น”

ทว่ามู่ชิงเกอยังคงไม่ปล่อยเขาไป ยิ้มหยอกล้อ กล่าวว่า “เห็นก็ไม่ได้ว่าอะไร กล้าทำก็ไม่กลัวถูกเห็น ชมชอบสิ่งของสวยงามเป็นเรื่องตามสัญชาตญาณ เป็นเพียงอารมณ์ทั่วไปของมนุษย์ก็เท่านั้นเอง”

มุมปากชิงเหยียนกระตุกเบาๆ ยิ้มเจื่อน

คำพูดนี้เขาจะรับได้อย่างไร

ชิงเหยียนผู้น่าสงสาร แอบชำเลืองมองนายท่านของตน หวังว่านายท่านจะกู้หน้าให้ ทว่า เขากลับสังเกตเห็นด้วยความเศร้าว่าตอนนี้นายท่านของตนกำลังมอง พระชายาของพวกเขาด้วยความรักใคร่ไปทั้งใบหน้า ในดวงตาที่ปกติมีเพียงความเย็นชาโหดเหี้ยม และมีความโดดเดี่ยวเปลี่ยวเหงาคู่นั้น ปล่อยฟองสีชมพูออกมาด้านนอกไม่ขาดสาย ไหนเลยจะสังเกตเห็นว่าผู้ใต้บังคับบัญชาคนสนิทของตนกำลังถูกภรรยาของตนรังแก

ทันใดนั้น ชิงเหยียนก็ตระหนักได้ในทันที

‘ยอมผิดใจกับองค์ราชา ดีกว่าผิดใจกับพระชายา’

ขบวนที่ไปรับมู่ชิงเกอ วนรอบอยู่ในอากาศเหนือแดนมารอย่างโอ่อ่าอลังการครู่หนึ่ง เมื่อฤกษ์มงคลใกล้เข้ามาแล้ว ซือมั่วจึงออกคำสั่งให้กลับไปยังวังไท่ฮวง

และในวังไท่ฮวงก็จัดเตรียมทุกอย่างไว้เรียบร้อยอยู่ก่อนแล้ว

บิดามารดาของซือมั่วไม่อยู่แล้ว ท่ามกลางการแย่งชิงบัลลังก์นั้น พี่น้องทะเลาะกัน ญาติมิตรฆ่าฟัน เขาเลยกลายเป็นตัวคนเดียวอย่างแท้จริง แต่กลับลดขั้นตอนที่ซับซ้อนลงได้จำนวนมาก

ราชรถร่อนลงบนพื้นช้าๆ ท้ายที่สุดก็ถูกวางลงบนลานกว้างหน้าตำหนักฮวง เตี้ยนเบาๆ

หีบไม้สีแดงเคลือบเงาเหล่านั้นที่มู่ชิงเกอนำมา ต่างก็ถูกจัดวางไว้ในลานอย่างเป็นระเบียบ เมื่อจัดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทุกคนก็พบว่า แม้แต่ลานที่ใหญ่เพียงนี้ยังวางได้ไม่หมด

ต้องบอกก่อนว่า ลานแห่งนี้จุองครักษ์มารได้หนึ่งแสนนายเต็มๆ

ซือมั่วยิ้มเจื่อนอย่างจนปัญญา ถามมู่ชิงเกอข้างกาย “ตอนนี้เจ้าย้ายของทั้งหมดมาที่แดนมารแล้วหรือ”

แต่มู่ชิงเกอกลับยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “ข้าไม่ขาดทุน สินเดิมข้านำมาเยอะเพียงนั้น ตอนไปต้องนำสินสอดไปด้วย เจ้าอย่าได้เอาเปรียบข้าแล้วกัน”

“ข้าเป็นของเจ้า แดนมารทั้งหมดก็เป็นของเจ้า เจ้าชอบอะไร ข้าจะเอามาเป็นสินสอดให้เจ้าทั้งหมด” ซือมั่วถือโอกาสสารภาพความในใจ

มู่ชิงเกอเม้มปากยิ้ม กล่าวเพียงหนึ่งประโยค “พูดจากะล่อน”

ขั้นตอนทั้งหมดต่อจากนี้ล้วนดูแลโดยผู้ดำเนินพิธีในวัง แม้ว่าทั้งสองคนต่างก็เป็นคนที่ไม่สนใจเรื่องเล็ก เรื่องน้อย แต่เพื่อยืนยันฐานะชื่อเสียงนี้ ทั้งสองจึงต้อง พยายามให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่

โชคดีที่นี่เป็นเพียงแค่พิธีหมั้น ไม่ใช่พิธีสมรส มิเช่นนั้นจะต้องทำให้มู่ชิงเกอรำคาญแทบตายแน่ๆ

เมื่อราตรีย่างกรายมาถึง คนของเทพมารสองเผ่าก็ชนแก้วดื่มสุราในตำหนักอย่างครื้นเครง มู่ชิงเกอทนไม่ไหวลากซือมั่วหนีไปก่อนแล้ว

“ข้าสาบาน ในพิธีสมรสทุกอย่างจะต้องสั้นกระชับ ทรมานคนเกินไปแล้ว!” มู่ชิงเกอเดินออกไปข้างนอก แขวะอย่างอดไม่ได้

กฎระเบียบเยอะเกินไปแล้ว

แต่งงานเป็นปัญหาถึงเพียงนี้ จู่ๆ มู่ชิงเกอก็เสียใจเล็กน้อยที่กำหนดวันสมรส

ซือมั่วกล่าวอย่างขบขัน “เอาตามเจ้าว่าทั้งหมด เจ้าว่าอย่างไรก็ทำตามนั้น”

มู่ชิงเกอถอนหายใจ หากไม่ใช่ว่าภพนี้ไม่รู้จักว่า อะไรคือการฮันนีมูน นางจะวางแผนจดทะเบียนสมรสกับซือมั่วสองคนให้สิ้นเรื่องจริงๆ

น่าเสียดาย ความฝันดีงาม ความเป็นจริงโหดร้าย

ด้วยฐานะของนางกับซือมั่วที่นี่ การสมรสของคนทั้งสองจึงส่งผลกระทบกับศูนย์กลางของแผ่นดินเทพและดินแดนมาร ดังนั้นพิธีที่ควรทำก็ต้องทำ

ยิ่งไปกว่านั้น หากท่านปู่ล่วงรู้ความคิดที่เกียจคร้านนี้ของนาง เกรงว่าคงจะผ่านางทั้งเป็น!

มู่ชิงเกอสูดหายใจเข้าลึก ให้สายลมเย็นในคํ่าคืนเข้าไปในปอด “เอาเป็นว่า วันสมรสที่เก้าชั้นฟ้าก็จัดทุกอย่างให้สั้นกระชับแล้วกัน”

“ตกลง” ซือมั่วกล่าวคล้อยตาม

ที่แดนมาร เขาต้องทำให้คนทั้งหมดรับรู้ถึงตำแหน่งสูงสุดของนาง

แต่ว่าที่แผ่นดินเทพเขากลับไม่จำเป็นต้องบีบบังคับให้เป็นเช่นนี้ เพราะว่าแต่ไหนแต่ไรมู่ชิงเกอไม่เคยพึ่งพากำลังของผู้อื่น ที่นางพึ่งพาล้วนเป็นตัวเองมาโดย ตลอด

“เสี่ยวเกอเอ๋อร์ ข้าจะพาเจ้าไปที่แห่งหนึ่ง” ซือมั่วกล่าวกับมู่ชิงเกอ

มู่ชิงเกอเบนสายตา มองตำหนักใหญ่ที่ครึกครื้น

คนหนึ่งกลุ่มข้างในนี้ ไม่แบ่งแยกเทพมารนานแล้ว แต่ละคนต่างกินดื่มอย่างมีความสุข

“ไม่ต้องเป็นห่วงพวกเขา” ซือมั่วกล่าว

มู่ชิงเกอเก็บสายตากลับมา กล่าวออกมาหนึ่งประโยค “ใครบอกว่าเทพมารอยู่ร่วมกันอย่างสันติไม่ได้”

แววตาซือมั่วกะพริบวาบ พยักหน้ายิ้มกล่าว “ใช่แล้ว ใครบอกว่าเทพมารอยู่ร่วมกันอย่างสันติไม่ได้”

ทั้งสองเดินไปในแสงราตรี ไม่มีใครสังเกตเห็น แม้ว่าจะเห็น ตอนนี้ก็ไม่อาจมีใครตามไปอย่างโง่เขลาหรือว่ารบกวน

มู่ชิงเกอถูกซือมั่วพาไปที่วังซานไห่

นางสงสัยเล็กน้อย ที่นี่ไม่ใช่ว่านางไม่เคยมา ครั้งแรกที่นางเข้ามาในแดนมารก็เคยเข้าไปอาศัยตามอำเภอใจ

“ที่นี่คือบริเวณที่ดีที่สุดของวังไท่ฮวงทั้งหมด ที่นี่สามารถมองเห็นวังไท่ฮวงทั้งหมด และสามารถมองเห็นภูเขาทอดยาวเป็นคลื่น ทิวทัศน์งามราวกับภาพวาดข้างนอกได้” ซือมั่วอธิบายให้มู่ชิงเกอฟัง

มู่ชิงเกอเลิกคิ้ว ทอดมองไปรอบด้าน

ครั้งก่อนที่เข้ามาอาศัย จิตใจนางกังวลอยู่กับซือมั่วจึงไม่ได้สนใจต่อทัศนียภาพนอกวังซานไห่สักเท่าไหร่

แต่ตอนนี้…

“มืดหมดแล้ว มองเห็นไม่ชัด” มู่ชิงเกอส่ายหน้า ละสายตากลับมามองซือมั่ว

ซือมั่วยิ้มแต่ไม่พูด เพียงแค่ล้วงขวดโปร่งแสงหนึ่งใบออกมาจากอก ข้างในคล้ายใส่ของที่มีสีสันแพรวพราวอยู่ ทำให้ตัวขวดส่องแสงเล็กน้อยออกมา งดงามอย่างถึงที่สุด

“นี่คืออะไร” มู่ชิงเกอกล่าวด้วยความประหลาดใจ

แสงสีนั้นสะท้อนสีหน้าของมู่ชิงเกอ ขับใบหน้าเล็กๆ ของนางให้ดูพร่าเลือนลวงตา

ซือมั่วไม่ตอบ เพียงแค่ยิ้มอย่างมีเลศนัย

เขาเปิดฝาขวดออก แสงเหล่านั้นในขวดพุ่งออกมาอย่างร้อนใจ

ฟิ้ว! ปัง!

แสง หางที่ลากยาวพุ่งขึ้นไปยังท้องฟ้ายามคํ่าคืน ตอนที่มันขึ้นไปถึงจุดที่สูงที่สุดบนท้องฟ้าก็ส่งเสียงดังสนั่น ผลิบานเป็นดอกไม้สีสันงามตา ชั่วพริบตาก็หายไป แต่กลับกลายเป็นแสงดาวนับไม่ถ้วน ร่วงลงมาราวกับดาวตก

ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!

ปัง ปัง ปัง ปัง!

แสงเหล่านั้นดันตัวออกมาจากขวดในมือซือมั่วไม่หยุด ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า

แสงสีหลากหลาย ผลิบานงามตาอยู่กลางนภายามราตรี ส่องสว่างทั่วท้องฟ้าตอนกลางคืนในวังไท่ฮวง

และทำให้มู่ชิงเกอเห็นทิวทัศน์ที่งดงามที่สุดในวังไท่ฮวง

“ดอกไม้ไฟสวยยิ่งนัก!” มู่ชิงเกอกล่าวอย่างประหลาดใจ ในดวงตาของนาง สะท้องลวดลายของดอกไม้ไฟที่ผลิบาน

การเคลื่อนไหวนี้ก็ทำให้เทพมารที่เมาสุราเล็กน้อยในตำหนักฮวงเตี้ยนตกใจ พวกเขาพากันเดินออกไปนอกตำหนัก แหงนหน้ามองดอกไม้ไฟที่แวววับเหล่านั้น

“งามยิ่งนัก!”

“งามอย่างยิ่งจริงๆ!”

ทุกคนพากันร้องอุทาน

“ดอกไม้ไฟนี้ทำอย่างไร เหตุใดถึงสวยกว่าที่เคยเห็นมา” มู่ชิงเกอถามอย่างสงสัย แต่สายตากลับละจากไปไม่ได้

ความงามของดอกไม้ไฟ งดงามในวินาทีที่ปะทุออก เพียงแค่ชั่วพริบตา นางจึงไม่ยอมพลาดโอกาสนี้ไป

ซือมั่วเคลิบเคลิ้มอยู่ภายใต้การปะทุของดอกไม้ไฟเป็นเพื่อนนาง กล่าวเสียงเบา “พวกมันทำมาจาก วิญญาณ”

วิญญาณ!

มู่ชิงเกอเข้าใจโดยพลัน ตอนนั้นแม้ว่าซือมั่วจะลืมไป แต่ก็ยังรวบรวมสะสมร่างวิญญาณไปตามจิตใต้สำนึกเป็นเพราะเหตุใด…

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!