Skip to content

พลิกปฐพี 900

ตอนที่ 900

เผาหนังสือสมรสไม่ได้ เป็นอัปมงคล

หนังสือสมรส หนึ่งแบบสามฉบับ หนึ่งฉบับเผาบูชาฟ้า หนึ่งฉบับเผาบูชาดิน

ส่วนฉบับสุดท้าย มอบให้บ่าวสาวทั้งคู่เก็บรักษาเอง

ส่วนจะเก็บซ่อนไว้ที่ใด มีเพียงมู่ชิงเกอกับซือมั่วที่รู้มีหนังสือสมรสฉบับนี้จึงจะแสดงถึงความสัมพันธ์สามีภรรยาของพวกเขา สถานะสามีภรรยาได้รับการยอมรับจากฟ้าดิน ได้รับคำอวยพรจากทุกคน

พูดอีกอย่างก็คือ พิธีหนังสือสมรสนี้ เป็นพิธีที่สำคัญที่สุด สำเร็จเสร็จสิ้นก็เท่ากับเป็นสามีภรรยาแล้ว แต่หากไม่สำเร็จก็ไม่นับว่าเป็นสามีภรรยา

ที่เรียกว่าสำเร็จย่อมหมายความว่าต้องเผาหนังสือสมรสสองฉบับให้ไหม้จนหมดสิ้น

หนังสือสมรสที่ถืออยู่ในมือของผู้อาวุโสตระกูลมู่ เป็นฉบับบูชาฟ้า เขาอ่านเนื้อหาในหนังสือสมรสหนึ่งรอบอย่างไม่ตกหล่นแม้แต่คำเดียว เมื่อถึงบรรทัดสุด ท้าย เขาก็มองคู่บ่าวสาว

ซือมั่วเอ่ยปากกล่าว “ฟ้าดินเป็นพยาน สุริยันจันทราเป็นสื่อกลาง สรรพสิ่งปวงชนทั่วหล้าร่วมกันเป็นสักขี วันนี้ข้าซือมั่ว ยอมรับมู่ชิงเกอเป็นภรรยา ทุกภพทุกชาติ ชั่วชีวิตไม่หนีห่าง หากผิดคำสาบาน ขอฟ้าดินจงประณาม”

มู่ชิงเกอเองก็เอ่ยปากตามทันที “ฟ้าดินเป็น พยาน สุริยันจันทราเป็นสื่อกลาง สรรพสิ่งปวงชนทั่วหล้า ร่วมกันเป็นสักขี วันนี้ข้ามู่ชิงเกอ ยอมรับซือมั่วเป็นสามี

ทุกภพทุกชาติ ชั่วชีวิตไม่หนีห่าง หากผิดคำสาบาน ขอฟ้าดินจงประณาม”

คำพูดนี้ เป็นบทบัญญัติประเพณีบนแผ่นดินเทพมาร สามีภรรยาที่แต่งงานใหม่ทุกคู่ต่างก็ต้องให้สัตย์ปฏิญาณตอนนี้

เมื่อพูดจบ ทั้งสองก็หันหน้าหาแขกบนเก้าชั้นฟ้า รวมถึงพ่อแม่ญาติมิตรผู้อาวุโสทั้งหลาย สองมือประสาน โค้งตัวคำนับ กล่าวขอบคุณผู้ที่มาเข้าร่วมพิธีแต่งงานทั้งหมด

ทุกคน นอกจากผู้อาวุโสของมู่ชิงเกอ คนที่เหลือก็ต้องคำนับกลับตามประเพณีด้วยเช่นกัน

หลังจากพิธีนี้เสร็จสิ้น ผู้อาวุโสตระกูลมู่ที่ถือหนังสือสมรสผู้นั้น ก็สามารถประคองหนังสือสมรสสองมือ ชูขึ้นเหนือหัว เดินไปตรงที่ที่เผาหนังสือสมรสนั้นทีละก้าวๆ

สิ่งที่ต้องเผา คือหนังสือสมรสสองฉบับ แน่นอนว่าอุปกรณ์ที่ใช้เผาก็ต้องต่างกันทั้งสองฉบับ

อุปกรณ์ที่ใช้เผาบูชาฟ้า ตั้งอยู่บนเสาสูง อุปกรณ์ที่ใช้เผาดิน ก็วางตํ่าอยู่ข้างหน้า

ผู้อาวุโสตระกูลมู่เดินไปข้างหน้าอุปกรณ์ที่นำออกมาเผาบนที่สูง วางหนังสือสมรสที่ประคองอยู่ในมือลงในนั้นอย่างระมัดระวัง หลังจากนั้นก็ถอยไปข้างหลัง หลายก้าว

“เผาหนังสือบูชาฟ้า” ซวีซิวตะโกนกล่าวเสียงสูง

เขาพูดไม่ทันขาดคำ เซวี่ยนขุยที่รับผิดชอบจุดไฟ จากที่ไกลๆ ก็เล็งธนูไฟในมือ ‘พึ่บ’ เสียงดังหนึ่งครา ยิงออกไปแล้ว

ธนูไฟปะทะอยู่กลางอากาศด้วยความเร็วสูง ทำให้เปลวไฟตรงหัวธนู เผาไหม้จนร้อนมากขึ้น หลังจากลากหางยาวๆ หนึ่งสายออกมากลางอากาศแล้วก็ตกลงในกระถางไฟที่วางหนังสือสมรสไว้อย่างแม่นยำไม่ คลาดเคลื่อน

ทว่า หลังจากที่ธนูไฟตกลงไปแล้ว เปลวไฟที่พวยพุ่งลุกโชนนั้น กลับเดือดพล่านได้ไม่นานก็มอดไหม้ในชั่วพริบตา

ตอนนี้ท้องฟ้าก็มืดลงฉับพลัน เมฆมงคลและแสงในเมฆก่อนหน้านี้ก็หายไปแล้วเช่นกัน

ซ่า

“สวรรค์ไม่ยอมรับหนังสือสมรสฉบับนี้”

“ยามนี้มีเค้าลางว่าสวรรค์จะพิโรธ”

“ข้าบอกแล้วว่าเทพมารผูกสัมพันธ์ไม่ใช่เรื่องง่ายดายเพียงนั้น”

“เทพมารผูกสัมพันธ์หลบๆ ซ่อนๆ เหมือนอย่างเช่นเมื่อก่อนก็ไม่เท่าไร ตอนนี้ คาดไม่ถึงว่าจัดงานใหญ่โตเพียงนี้ซํ้ายังประกาศต่อฟ้าดินทั่วหล้า นี่ไม่ใช่ยั่วยุให้ สวรรค์พิโรธหรอกหรือ”

“ชู่ว พูดให้น้อยหน่อย สองคนนั้นในวันนี้ พวกเราไม่อาจไปยั่วแหย่ได้”

หลังจากเปลวไฟมอดไหม้ท้องฟ้ามืดฉับพลัน รอบด้านก็เริ่มถกเถียง

ถกเถียงไม่จำกัดแต่เพียงบนเก้าชั้นฟ้า แม้แต่ผู้คนด้านล่างเก้าชั้นฟ้าที่ไม่มีคุณสมบัติเข้าไปร่วมพิธีบนเก้าชั้นฟ้าต่างก็เริ่มกระซิบกระซาบขึ้นมาเช่นกัน

พายุโหมกระหน่ำ เมฆดำบนท้องฟ้ารวมตัวกันอย่างรวดเร็ว มีเสียงฟ้าผ่าดังเข้ามารางๆ

เซวี่ยนขุยหน้าซีดเผือด ในมือชูธนูไฟอีกครั้ง เตรียมจะยิงออกมาอีกหนึ่งดอก

แต่ว่า เขายังไม่ขยับ ก็ถูกมั่วหยางกดมือไว้ ส่ายหน้าให้เขาช้าๆ

เวลานี้ หากยังยิงธนูไฟอีกหนึ่งดอก ถ้าจุดไฟได้ก็ดี แต่ถ้าจุดไม่ติด เกรงว่าพิธีแต่งงานในวันนี้คงยากยิ่งที่จะดำเนินต่อไป

ดังนั้น เวลานี้ใครก็ไม่อาจบุ่มบ่ามได้ พวกเขาต้องเชื่อใจว่าคนทั้งสองที่สวมชุดพิธีมงคลสามารถจัดการเรื่องทั้งหมดนี้ได้สมบูรณ์แบบอย่างยิ่ง

“ข้าบอกแล้ว เทพมารผูกสัมพันธ์ไม่ได้ ราชาเทวะมู่ก็ยังจะดันทุรังทำตามใจตัวเองจนได้” ราชาเทวะเฝินไห่ถอนหายใจกล่าว

“เงียบ” ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยกล่าวเสียงเรียบ หยุดการถกเถียงของราชาเทวะทั้งหมด

ไม่ใช่คนในเหตุการณ์ก็ทำได้เพียงเอ่ยกระซิบกระซาบ

ราชาเทวะหลายคน แม้ในใจจะไม่พอใจ แต่กลับยังคงสงบนิ่งลง เพียงแค่ใช้การถ่ายทอดเสียงสื่อสารกันอย่างลับๆ

แน่นอน สิ่งที่พวกเขาพูด ไม่อาจเป็นคำพูดที่ดีได้ ล้วนแต่พูดฉีกหน้าพิธีแต่งงานแห่งยุคครั้งนี้ของมู่ชิงเกอ พิธีสมรสเทพมารที่ขัดต่อฟ้าดิน

“เหตุใดถึงจุดไม่ติด” มู่ซงร้อนใจกำหมัดแน่น กล่าวเสียงต่ำ

“ท่านพ่อ อย่าเพิ่งร้อนใจ ชิงเกอของพวกเราจะต้องมีวิธี” ซางหลันรั่วกล่าวปลอบ

มู่ซงถอนหายใจ พยักหน้าอย่างไม่ต้องคิด “เพียงแค่รู้สึกเป็นอัปมงคลเกินไป”

“ท่านพ่อ อย่าได้สนใจเรื่องเหล่านี้เกินไป บางที อากาศอาจจะเปลี่ยนแปลงกะทันหัน ทำให้มีลมแรง เป่าไฟธนูดับ” มู่เหลียนเฉิงเองก็กล่าวปลอบใจ

“เสี่ยวเกอเอ๋อร์ เจ้าดูสิ เจ้าดีเลิศเกินไปแล้ว แม้แต่สวรรค์ยังตัดใจให้เจ้าแต่งงานกับข้าไม่ได้” สีหน้าซือมั่วเป็นปกติ พูดกับมู่ชิงเกอเสร็จแล้วก็เบนสายตาเบาๆ ตกลงบนเมฆดำที่เกาะกลุ่มนั้น สายตาเย็นเยียบ “มันอิจฉาข้าที่ได้แต่งเจ้าเป็นภรรยา”

มู่ชิงเกอยกริมฝีปากหัวเราะเยาะ กล่าวอย่างลำพองตน “ข้าจะแต่งหรือไม่แต่ง เป็นสิทธิ์ของข้า ไม่ใช่ฟ้าดิน”

พูดจบ นางก็ยกมือโบก พญาเพลิงอัคคีแรกกำเนิดหนึ่งกองก็ปรากฎลุกโชนอยู่บนปลายนิ้วนาง

เมื่อพญาเพลิงปรากฎ ชั่วขณะก็ทำให้คนรอบด้านตกตะลึง

“พญาเพลิง”

“นี่มันพญาเพลิง”

“นึกไม่ถึงว่าราชาเทวะมู่คิดจะใช้พญาเพลิงจุดไฟเผาหนังสือสมรสเสียเอง”

มู่ชิงเกอดีดเปลวเพลิงในมือลงไปในกระถางไฟใบนั้น ส่วนซือมั่วก็ออกมือพร้อมกัน พลังที่แข็งกล้าเหนือผู้ใดหนึ่งสาย ก็พุ่งตรงปะทะในอากาศ ขับไล่เมฆดำที่อึ มครึมนั้นให้แตกซ่าน

ตอนที่เมฆดำถูกตีแตก พญาเพลิงตกลงบนหนังสือสมรสในกระถางไฟก็เผาไหม้ขึ้นมาอย่างร้อนแรง

ตูม

หนังสือสมรสสีแดงฉาน ถูกเผาไหม้จนกลายเป็นเถ้าถ่านท่ามกลางพญาเพลิงอัคคีแรกกำเนิดในชั่วพริบตา

ตอนนี้ฟ้าคล้ายเห็นว่าสถานการณ์ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้แล้วจึงทำได้เพียงละทิ้งอย่างจนใจ ถอนเมฆดำออกไป คืนท้องฟ้าแจ่มใสกลับมาอีกครั้ง

ท่ามกลางความตกตะลึงของทุกคน ซือมั่วมองคนผู้นั้นของแดนมาร คนผู้นั้นเข้าใจในทันที กอบหนังสือสมรสบูชาดินในมือขึ้น อ่านเนื้อหาในหนังสือสมรสออกมาอย่างรวดเร็ว

จากนั้น เขาก็ประคองหนังสือสมรสด้วยสองมือเช่นเดิม ส่งไปข้างหน้ากระถางไฟบูชาดินใบนั้น

เขาวางหนังสือสมรสไว้ในกระถางไฟ ถอยออกไปข้างหลัง

เซวี่ยนขุยชูธนูขึ้นอีกครั้งมู่ชิงเกอเองก็เตรียมตัวอยู่เงียบๆ ทันใดนั้น เงาร่างที่ไม่คาดคิดหนึ่งสาย ก็ปรากฎตัวอยู่บนกระถางไฟ คว้าหนังสือสมรสขึ้นจากกระถางอย่างรวดเร็ว ลอยตัวกลางอากาศกล่าวอย่างหลอกล้อ “วันนี้ครึกครื้นดียิ่งนัก”

คนผู้นี้ ทั่วร่างถูกชุดดำปกคลุม มองเห็นใบหน้าไม่ชัดเจน

เขาค้อมตัว นั่งยองกลางอากาศราวกับลิง มือที่ถือหนังสือสมรสไว้ มีเอกลักษณ์อย่างถึงที่สุด มือข้างนั้นผิวพรรณแห้งอย่างยิ่ง นิ้วมือเรียวยาวเล็บแหลมคม มี แสงสีเขียวปรากฎอยู่

“เจ้าเป็นใคร นึกไม่ถึงว่ากล้ามาก่อกวนพิธีแต่งงาน!” ราชครูตะโกนเสียงเฉียบขาด

องครักษ์เก้าชั้นฟ้า องครักษ์เขี้ยวมังกรของมู่ชิงเกอ องครักษ์มารของซือมั่ว พากันวิ่งเข้ามา ล้อมรอบแท่นบูชาไว้

มู่ชิงเกอกับซือมั่วยืนคู่กันด้วยสีหน้าเย็นชา จ้องมองแขกไม่ได้รับเชิญผู้นี้…

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!