ตอนที่ 916
พวกเรากลับไปเยี่ยมแดนมารกัน
มีเจ้าอยู่ ดีจริงๆ
มุมปากมู่ชิงเกอเผยรอยยิ้มเล็กน้อยออกมาอย่างไม่รู้ตัว พิงหัวไหล่ซือมั่วอีกครั้ง มือทั้งคู่โอบคอของเขาไว้
ทันใดนั้น นางก็หลุดหัวเราะออกมา
เสียงหัวเราะ ทำให้ซือมั่วกดคิ้วตํ่ากล่าวถาม “ขำอะไร นึกถึงเรื่องตลกอะไรหรือ”
มู่ชิงเกอส่ายหน้าช้าๆ เหลือบตาขึ้นในอ้อมอกเขา กล่าวอย่างตั้งใจ “จู่ๆ ข้าก็คิดว่า พวกเราเหมือนสามีภรรยาที่แก่เฒ่า”
“เอ้” ซือมั่วเลิกคิ้ว ดวงตาสีอำพันหรี่ลงเล็กน้อย
จ้องมองใบหน้าที่หล่อเหลาในระยะใกล้อย่างถึงที่สุด แววตาของมู่ชิงเกอก็พร่าเลือนเล็กน้อย ยื่นมือออกไปอย่างไม่รู้ตัว ใช้นิ้วมือลูบอยู่บนเครื่องหน้าทั้งห้าของเขาเบาๆ กล่าวพึมพำ “ใครๆ ก็พูดว่า ระหว่างสามีภรรยาแก่เฒ่า ความรู้สึกที่ร้อนแรงส่วนนั้นจะจางลง เวลาที่อยู่ด้วยกันเพียงลำพังก็เพียงแต่หวังว่า กาลเวลาจะสงบสุข อิงแอบซึ่งกันและกัน ชมอาทิตย์ตกดินร่วมกัน”
แสงในดวงตาของซือมั่วกะพริบอย่างแปลกประหลาดครู่หนึ่ง ริมฝีปากบางสีแดงยกขึ้นน้อยๆ “เสี่ยวเกอเอ๋อร์กำลังเชื้อเชิญข้าอยู่หรือ”
มุมปากสีแดงของมู่ชิงเกอ ยกขึ้นชัดเจนยิ่งกว่าเดิม เครื่องหน้าทั้งห้าที่งดงามผึ่งผายเปล่งแสงสว่างละลานตาชนิดหนึ่งออกมา นางกล่าว “เดิมทีพวกเราก็เป็นสามีภรรยากันมิใช่หรือ”
“ถูกต้อง เดิมทีพวกเราก็เป็นสามีภรรยา อีกทั้งยังเป็นสามีภรรยาที่เพิ่งแต่งงานใหม่” เสียงของซือมั่วพลันแหบพร่าเล็กน้อย
ทันใดนั้น เขาก็อุ้มนางขึ้นมา ส่วนมู่ชิงเกอก็ไม่ได้ขัดขืน
เมื่อหมุนตัว ทั้งสองก็หายไปในตำหนัก
ตอนที่ปรากฎตัวอีกครั้งก็อยู่ในตำหนักบรรทมในวังราชาเทวะของมู่ชิงเกอแล้ว และประตูใหญ่ ของตำหนักบรรทมก็ปิดสนิทอยู่กั้นเรื่องราวข้างนอกทั้งหมด
ซือมั่ววางมู่ชิงเกอลงบนเตียงเบาๆ คร่อมร่างลงไป เขาสะบัดมือไปข้างหลัง พลังหนึ่งกลุ่มก็แผ่ขยายไปรอบด้าน ติดอยู่บนผนังประตูหน้าต่าง
“ช่วงนี้ มีเรื่องมากมายรบกวนเจ้าและข้าเยอะจริงๆ วันนี้ พวกเรามาชดเชยคืนวันแต่งงานกันเถอะ” ซือมั่วพูดจบ ผ้าม่านโปร่งบางบนเตียงก็ร่วงลงมาเอง ปิดบังเงาร่างสองสายที่ตวัดรัดพันกันอยู่บนเตียง
ภายใต้สถานการณ์ที่คนจำนวนมากไม่รู้ชัด บรรยากาศของแผ่นดินเทพมารก็ตึงเครียดขึ้น
การร่วมมือตรวจสอบของแดนเทพแต่ละแห่ง เพิ่งจะดำเนินการไปได้สองวัน ก็สงบนิ่งลงเงียบๆ พวกเขาคล้ายไม่สงสัยเมืองมนุษย์เหล่านั้นอีก รวมถึงเมือง มนุษย์เทพนอกแดนด้วย
จุดๆ นี้ ทำให้คนไม่น้อยจับต้นชนปลายไม่ถูกและทำให้สายลับเผ่าฝูที่หมอบซุ่มอยู่ในแผ่นดินเหล่านั้น สัมผัสได้ถึงนัยเล็กน้อย
“ไม่สืบหาข้างนอกอีก แต่ตรวจสอบภายในอย่างละเอียด ไม่เลว ประหยัดเวลาไปได้มาก” ซือมั่ว พยักหน้ากับมู่ชิงเกอ
มู่ชิงเกอยิ้มกล่าว “ในเมื่อต้องสืบถามข้อมูล พวกเขาส่วนใหญ่จึงต้องหมอบซุ่มอยู่ในพื้นที่ใจกลาง พวกเราก็ไม่ได้ต้องการจับกุมทั้งหมด ขอเพียงแค่จับกุมได้จำนวนหนึ่งก็พอแล้ว”
ซือมั่วพยักหน้าอีกครั้ง
คำพูดของมู่ชิงเกอถูกต้อง ที่พวกเขาต้องการคือหาช่องโหว่ให้เจอ รับรู้ข้อมูลของเผ่าฝู กระทั้งกวาดล้างช้าๆ นั่นเป็นขั้นตอนที่ใช้เวลานาน รีบไม่ได้
“ทำเช่นนี้ กลับเป็นเก้าขั้นฟ้าที่สถาปนาใหม่สะอาดที่สุด” ซือมั่วยิ้มกล่าว
มู่ชิงเกอเลิกคิ้ว พยักหน้า “รากฐานของเก้าชั้นฟ้าล้วนเป็นผู้จงรักภัคดีของตระกูลมู่ รวมถึงคนของข้าเอง คนที่รับมาในภายหลัง แต่ละคนผ่านการคัดเลือกที่เข้มงวด ตอนแรก เพียงเพื่อที่จะเลือกหน่ออ่อนที่ดีที่สุด กลับไม่คิดว่า วันนี้จะลดภาระได้”
ซือมั่วพยักหน้า กล่าวกับนาง “เสี่ยวเกอเอ๋อร์ มานี่สิ”
มู่ชิงเกอเดินไปข้างเขา ในมือกลับปรากฎของชิ้นหนึ่ง
ซือมั่วจ้องมองสิ่งของที่ขนาดพอๆ กับเมล็ดพุทราในฝ่ามือนางอย่างสงสัย กล่าวถาม “นี่คืออะไร”
“เรือต้าเซียน” มู่ชิงเกอวาง ‘เมล็ดพุทรา’ ในมือลงบนมือของซือมั่ว
ซือมั่วรู้สึกได้ในชั่วพริบตาว่า ‘เมล็ดพุทรา’ ในมือหนักอย่างถึงที่สุดราวกับอุ้มเขาหนึ่งลูกไว้ในมือ
“เรือต้าเซียน? ยุทธภัณฑ์ชั้นจอมเทพ!” ตาทั้งคู่ของเขาหดลงทันที กล่าวด้วยความตกใจ
เขาสัมผัสได้แล้วว่าพลังงานของ ‘เมล็ดพุทรา’ กำลังเคลื่อนไหว วิเคราะห์ระดับชั้นของมันออกมา
มู่ชิงเกอพยักหน้า ‘เมล็ดพุทรา’ ในมือซือมั่ว พลันเปลี่ยนเป็นแสงสีทองหนึ่งสาย ลอยเข้าไปในหว่างคิ้วของมู่ชิงเกอ
ซือมั่ววางมือลง มองนางอย่างตกใจ
มู่ชิงเกออธิบาย “นี่คือสมบัติที่บรรพบุรุษตระกูซางทิ้งไว้ การลาลับของเขาในปีนั้นมีความเกี่ยวข้องกับเรือต้าเซียนนี้อย่างใหญ่หลวง ข้าเจอมันในโลกใบเล็กของเส้าเทียน”
“ฟังจากชื่อ เรือต้าเซียนนี้ไม่ธรรมดา?” ซือมั่วกล่าว
มู่ชิงเกอพยักหน้ากล่าว “ตามคำอธิบายของบรรพบุรุษตระกูลมู่ เรือต้าเซียนนี้สามารถทะลุผ่านโลกพันใหญ่ที่แตกต่างกันได้”
“นี่คือสมบัติลํ้าค่า!” ซือมั่วตาลุกวาว ปรากฎความดีใจ
“แม้ว่าสมบัติจะดี แต่ยังใช้ไม่ได้” มู่ชิงเกอกล่าวอย่างจนใจ
ตาทั้งคู่ของซือมั่วหรี่ลง กล่าวถาม “เพราะว่าไม่มีแผนที่หรือ”
มู่ชิงเกอเม้มปากพยักหน้า “ไม่มีแผนที่ก็เท่ากับว่าไม่มีพิกัด ไม่มีพิกัด เรือต้าเซียนแล่นไปก็ออกจากโลกพันใหญ่ไม่ได้ เมื่อมีแผนที่แล้ว พวกเรามั่นใจตำแหน่งของเผ่าฝูก็สามารถแฝงตัวเข้าไปผ่านเรือต้าเซียน ล่วงรู้ความจริงของพวกเขา”
“ดังนั้น ประเด็นสำคัญยังคงอยู่ที่แผนที่” ซือมั่วกล่าวสรุป
มู่ชิงเกอถอนหายใจ พยักหน้าอย่างจนปัญญา
“รู้ตนเองไม่รู้ศัตรู แม้ว่าเทพสงครามจะมีชีวิต อยู่ก็ยากยิ่งที่จะมั่นใจได้เต็มร้อย’’ มู่ชิงเกอถอนหายใจ
“เสี่ยวเกอเอ๋อร์ อย่ากดดันตัวเองหนักเกินไป” ซือมั่วปลอบขวัญ
เขามักจะรู้สึกว่า ครั้งนี้มู่ชิงเกอให้ความสำคัญกับสงครามระหว่างเผ่าฝูมากเป็นพิเศษ นางในอดีต เมื่อเผชิญหน้ากับเรื่องใดๆ ก็ตาม ล้วนแต่สุขุมสงบนิ่ง แต่ครั้งนี้ นางคล้ายให้ความสนใจมากเกินไปเล็กน้อย
“ก็แค่เผ่าฝูเล็กๆ ไม่ควรค่าให้หวาดกลัว” ซือ มั่วจ้องมองนางแล้วกล่าว
มู่ชิงเกอยกมุมปากยิ้ม ไม่ได้พูดต่อ
“เรื่องแผนที่เจ้าไม่มีเบาะแสแม้แต่นิดเดียวจริงๆ หรือ” ซือมั่วเปลี่ยนหัวข้อสนทนากล่าวถาม
มู่ชิงเกอส่ายหน้า “ตอนที่ข้าหลอมรวมสิทธิ์แห่งเทพฮุ้นตุ้น ได้เห็นความทรงจำช่วงหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับคนผู้นั้น รู้ว่าแผนที่มีอยู่จริง แต่ว่าแผนที่อยู่ที่ใด มี ลักษณะอย่างไร ข้ากลับไม่รู้”
ซือมั่วขมวดคิ้วเล็กน้อย
รู้ว่ามีแผนที่ แต่กลับไม่รู้เบาะแส จะค้นหาได้อย่างไร
“อย่าเพิ่งคิดให้มากนัก เรื่องนี้ร้อนใจไปก็เท่านั้น สองวันนี้เจ้าอยู่แต่เก้าชั้นฟ้า ตอนนี้แดนมารเป็นอย่างไรบ้าง ไหนๆ วันนี้ก็ไม่มีอะไรทำแล้ว ข้าจะกลับไป เยี่ยมเป็นเพื่อนเจ้า” มู่ชิงเกอกล่าว
“เอาสิ” ซือมั่วพยักหน้า
ทั้งสองออกจากเก้าชั้นฟ้า เข้าไปในแดนมารทันที
เข้าแดนมารแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างก็กำลังดำเนินการอย่างเป็นระเบียบ
ภาพอันน่าเวทนาของแดนมารเมื่อไม่กี่วันก่อน มู่ชิงเกอไม่ได้เห็น แต่ตอนนี้ แดนมารที่ปรากฎอยู่ตรงหน้านาง เป็นดั่งที่นางเคยเห็นเมื่อตอนแรก
สิ่งเดียวที่ไม่เหมือน คือจันทร์สีเลือดดวงนั้นในท้องฟ้ายามราตรี
มู่ชิงเกอเงยหน้า มองจันทร์สีเลือดที่ลอยสูงอยู่กลางนภา ในใจพลันเกิดความรู้สึกซับซ้อนยากจะอธิบายชนิดหนึ่ง
เสียงของซือมั่ว ดังแผ่วเบาอยู่ข้างกายนาง “ตอนสุดท้ายจี่ฝูใช้วิชามารสลายร่าง เลื่อนขั้นตบะบำเพ็ญของตนขึ้นสิบเท่า บีบบังคับให้เผ่าฝูถอยทัพ รักษาความสงบสุขของแดนมารไว้ได้ จันทร์สีเลือดบนท้องฟ้าดวงนี้ก็คือข้อแลกเปลี่ยนของวิชามารสลายร่าง ภายในสามเดือน แดนมารไม่อาจมีดวงอาทิตย์ได้อีก สำหรับข้าแล้วจันทร์สีเลือดดวงนี้ ก็คือการเซ่นไหว้จี่ฝู”