Skip to content

พลิกปฐพี 927

ตอนที่ 927

เดินเรือต้าเซียนครั้งแรก

แผนที่

เป็นแผนที่จริงๆ

แผนที่ที่ปกคลุมท้องฟ้าเหนือป่าอสูรก็คือแผนที่ที่สุดแผ่นหนึ่ง ข้างในรวบรวมโลกไว้นับไม่ถ้วน

เหตุการณ์ไม่คาดฝันนี้ สั่นสะเทือนทั่วป่าอสูร ทำให้ประชาชนที่ใช้ชีวิตอยู่ในป่าอสูรต่างก็พากันเงยหน้ามองแผนที่มหึมาแผ่นนี้อย่างตกตะลึง ราวกับไม่ว่าพวกเขาจะมองจากมุมไหนก็มองเห็นเพียงเสี้ยวเสี้ยวหนึ่ง ไม่มีทางมองเห็นทั้งแผ่น

“นี่คือแผนที่สามพันโลก” มู่ชิงเกอดีใจเหลือล้นอยู่ในใจ

“หาแผนที่เจอแล้ว แต่จะเก็บลงมาได้อย่างไร แผนที่ใหญ่เพียงนี้ ต่อให้ใช้ป้ณญาเทวะจดจำก็จำได้ไม่เยอะเพียงนั้น ไม่แม่นยำเพียงนั้น” อินเจวี๋ยเองก็กล่าวอย่างตกใจ

นั้นสิ จะเก็บลงมาอย่างไร

ขณะที่ความดีใจในใจของมู่ชิงเกอถูกคำพูดของอินเจวี๋ยดึงสติกลับมาหลายส่วน แผนที่ที่แผ่คลุมท้องฟ้าเหนือป่าอสูรก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง

ท่ามกลางสายตาของคนทั้งห้า มันหดตัวอย่างรวดเร็ว รวมตัวกันเป็นก้อนกลมหนึ่งก้อน ร่วงลงมาจากท้องฟ้าด้วยความรวดเร็ว

มู่ชิงเกอยื่นมือออกไปรับตามจิตสำนึก ก้อนกลมก้อนนั้นก็หล่นลงมายังฝ่ามือของนางทันที

ตุบ

ความรู้สึกเต็มอิ่มในฝ่ามือ ทำให้ความรู้สึกของมู่ชิงเกอจมดิ่งลง ความรู้สึกของโลหะ ความรู้สึกที่เย็นเยียบเล็กน้อย

ทว่า บนพื้นผิวของก้อนกลม ยังมีแสงระยิบระยับกระจายออกมา

มู่ชิงเกอเก็บมือกลับ มองก้อนกลมในมือ

คนที่เหลือก็ส่งสายตาเข้ามาเช่นกัน

ก้อนกลมนี้ ถูกนางกำไว้ข้างในคล้ายกำลังบอกให้แผนที่ย่อส่วนนับไม่ถ้วนแต่ละชั้นๆ เคลื่อนไหว

แสงสว่าง ทะลุผ่านร่องนิ้วของนาง สาดแสงออกมาข้างนอก

มู่ชิงเกอเหลือบตาขึ้น มองต้นไม้โบราณ

ตอนนี้ ต้นไม้โบราณยังคงมีชีวิตชีวาดี มองไม่ออกว่ามีความผิดปกติใดๆ

“เสี่ยวเกอเอ๋อร์ลองใช้เรือต้าเซียนดู” ซือมั่วกล่าวเตือน

มู่ชิงเกอตาลุกวาว พยักหน้าอย่างแทบจะไม่ต้องคิด

เรือต้าเซียน สำหรับอินเจวี๋ย อินเล่อ โห่วแล้ว ล้วนแต่เป็นสิ่งที่แปลกตาอย่างถึงที่สุด

ดังนั้น ตอนที่พวกเขาเห็นสิ่งของที่มีขนาดเท่าเมล็ดพุทราลอยออกมาจากข้างในหว่างคิ้วของมู่ชิงเกอ ทั้งหมดต่างก็สะดุ้งตกใจ

ตอนนี้มือขวาของมู่ชิงเกอถือก้อนกลมสีทอง เมล็ดพุทราก็ตกลงในฝ่ามือข้างซ้ายของนาง

ทันใดนั้น ‘เมล็ดพุทรา’ ก็ขยายใหญ่ขึ้นหลายเท่า ถูกนางวางไว้ในฝ่ามือ

หลังจากการเปลี่ยนแปลง อินเจวี๋ยและคนทั้งสองก็เห็นชัดเจน คาดไม่ถึงว่า ‘เมล็ดพุทรา’ ก่อนหน้าคือเรือที่มีลักษณะเฉพาะตัวหนึ่งลำ

ท้องเรือใหญ่อย่างยิ่ง ส่วนโค้งสมบูรณ์ส่วนหัวสองฝั่งแหลมเปรียว และบนเรือก็มีชั้นหลายชั้น มองดูแล้วงดงามอย่างถึงที่สุด

มือขวามู่ชิงเกอถือก้อนกลมสีทอง ยื่นเข้าใกล้เรือต้าเซียน

ก่อนหน้านี้นางเคยนำภาพต้นไม้ที่ประกอบเสร็จแล้วเข้าไปใกล้เรือต้าเซียน แต่กลับไม่มีการตอบสนองแม้แต่นิดเดียว แต่ครั้งนี้ตอนที่นางเอาก้อนกลมสีทองเข้าไปใกล้นางรู้สึกถึงการสั่นไหวที่มาจากเรือต้าเซียนได้อย่างชัดเจน

การสั่นไหวชนิดนั้น เป็นการสั่นไหวจากความดีใจ คล้ายปลาที่ขาดน้ำมาเป็นเวลานานในที่สุดก็พบผืนน้ำกว้างใหญ่ไพศาล

ตูม

เสียงดังสนั่นหนึ่งครา เรือต้าเซียนขยายใหญ่จากมือมู่ชิงเกอด้วยความรวดเร็ว

การขยายใหญ่ครั้งนี้ไม่อาจเทียบได้กับขนาดก่อนหน้านี้

จู่ๆ มันก็ขยายใหญ่เท่าบ้านเรือน ตัวเรือดูเหมือนงดงามขึ้นเหนือสิ่งอื่นใด ลวดลายที่แกะสลักแต่ละเส้นๆ ต่างปรากฎออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน

เรือต้าเซียนทั้งลำเป็นสีดำ วัสดุคล้ายเหล็กแต่ก็ไม่ใช่เหล็ก คล้ายไม้ แต่ก็ไม่ใช่ไม้ มองไม่ออกว่าใช้วัสดุอะไร เพียงแต่ให้ความรู้สึกที่มั่นคงแก่คน

“ยุทธภัณฑ์จอมเทพ”

อินเจวี๋ยกับโห่วกล่าวพร้อมกัน

เพียงแต่ เมื่อคนทั้งสองพูดจบก็ขมวดคิ้วมุ่น

“เหตุใดในยุทธภัณฑ์จอมเทพถึงสัมผัสการมีอยู่ของวิญญาณยุทธภัณฑ์ไม่ได้” อินเจวี๋ยกล่าวถามตรงๆ

มู่ชิงเกอยิ้มบางๆ ไม่ได้อธิบาย

เรือต้าเซียนลำนี้บรรพบุรุษตระกูลซางปฎิบัติขัดหลักวิถี เรือต้าเซียน คือวิญญาณยุทธภัณฑ์ซ่อนอยู่ในปัญญาเทวะของเจ้าของและในขณะเดียวกันปัญญาเทวะก็คือวิญญาณยุทธภัณฑ์ของเรือต้าเซียน คนกับเรือรวมเป็นหนึ่ง ไม่แบ่งแยกออกจากกัน

พูดได้ว่า นอกจากมู่ชิงเกอแล้ว ไม่ว่าใครก็ไม่อาจควบคุมเรือต้าเซียนได้

เรือต้าเซียนลอยอยู่กลางอากาศ ขวางอยู่ตรงกลางมู่ชิงเกอกับซือมั่ว ทั้งสองส่งสายตาให้กัน

ทันใดนั้น ก้อนกลมสีทองที่วางอยู่ในมือมู่ชิงเกอก็คล้ายถูกเรียก

คาดไม่ถึงว่าค่อยๆลอยขึ้นจากมือนาง ลอยไปยังเรือต้าเซียนช้าๆ

“นี่…” อินเจวี่ยกล่าวอย่างตกใจ

มู่ชิงเกอรู้ว่าไม่อาจปิดบังการมีอยู่ของเรือต้าเซียนได้จึงเอ่ยปากเสียงเรียบ “นี่คือเรือต้าเซียน กล่าวกันว่าขอแค่เพียงมีแผนที่สามพันโลก ก็สามารถข้ามมิติจักรวาลได้”

“อะไรนะ บนโลกนี้นึกไม่ถึงว่ามียุทธภัณฑ์ที่ฝืนชะตาเช่นนี้อยู่” อินเจวี๋ยกล่าวอย่างตกใจ

ซือมั่วอ้อมเรือต้าเซียน เดินมากล่าวข้างกายมู่ชิงเกอ “มีเรือต้าเซียนแล้ว ตอนนี้ก็หาแผนที่พบแล้ว ต่อจากนี้พวกเราก็สามารถทำตามแผนการก่อนหน้านี้ แฝงตัวเข้าไปในจักรวาลขนาดใหญ่ของเผ่าฝู สืบหาที่มาและข้อเท็จจริงของพวกเขาให้แน่ชัดได้”

“แต่ว่า พวกเราจะรู้ได้อย่าไรว่าจักรวาลขนาดใหญ่ที่เผ่าฝูอาศัยอยู่ที่ใด” อินเจวี๋ยถาม

แกรก

เขาเพิ่งพูดจบ บนเรือต้าเซียนก็ส่งเสียงดังสนั่นออกมาหนึ่งครา ตัดบทสนทนานี้ลง

ทุกคนหันตามเสียง เห็นเพียงก้อนกลมสีทองถูกดูดเข้าไปในเรือ และเรือต้าเซียนก็เหมือนถูกกระตุ้น มีชีวิตชีวาขึ้นมา แสงทองหนึ่งสายส่องออกมาจากตัวเรือ

มองแวบแรก เรือต้าเซียนไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง

ทว่า เมื่อมองดูอย่างละเอียด กลับพบว่ามันดูมีชีวิตจิตใจกว่าก่อนหน้านี้เล็กน้อย

เมื่อดูดก้อนกลมสีทองเข้าไปแล้ว เรือต้าเซียนก็ย่อส่วนลงทันที กลับคืนสู่สภาพเมล็ดพุทรา ลอยเข้าไปในหว่างคิ้วของมู่ชิงเกออีกครั้ง

ฉากฉากนี้ เร็วอย่างถึงที่สุด ใช้เวลาเพียงชั่วพริบตาเดียว

มู่ชิงเกอกะพริบตา ยกมือนวดหว่างคิ้วตน

นางเหลือบตามองโห่วและคนทั้งสองกล่าว “ในเมื่อหาแผนที่พบแล้ว ข้าตัดสินใจว่าจะไปหาที่อยู่ของเผ่าฝูกับเจ้าแห่งมารทันที เรื่องนี้อย่าได้เปิดเผยกับคนภายนอกชั่วคราว เพียงแค่แจ้งต่อราชาเทวะฮ่วนเยวี่ย ราชาเฟิ่ง ราชาเทวะเทวะจงซานก็พอแล้ว สำหรับราชาเทวะคนอื่นๆ ค่อยบอกพวกเขาเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมที่สุด อีกทั้ง…”

มู่ชิงเกอกล่าวกับโหว่เพียงคนเดียว “ข้ารับปากเผ่ามังกรว่าจะปรุงยาลูกกลอนให้หนึ่งชุด เจ้ากลับเก้าชั้น ฟ้า ไปหาศิษย์พี่ข้า หลังจากให้เขาควบคุมการปรุงยาเสร็จแล้วส่งไปที่เขตมังกรด้วยตัวเอง ความปลอดภัยของศิษย์พี่ข้า ข้าต้องฝากฝังเจ้าแล้ว”

“วางใจเถอะ” โห่วพยักหน้ากล่าว

แต่ว่า เขากลับพึมพำอย่างไม่พอใจหนึ่งประโยค “ปรุงยาอะไรให้ไส้เดือนเฒ่าฝูงนั้นกัน”

“เรือต้าเซียนนี้ข้ามมิติจักรวาลได้จริงหรือไม่ พวกท่านไปเช่นนี้ อันตรายเกินไปจริงๆ อีกทั้ง ไปครั้งนี้จะกลับมาเมื่อไร” อินเจวี๋ยกล่าวอย่างไม่สบายใจ

“อย่างไรเสียก็ต้องมีคนไปลอง”ซือมั่วเอ่ยปากกล่าว

“ไม่ต้องกังวล พวกข้ามีแผนในใจ เร็วก็หนึ่งเดือน ช้าก็สามเดือน พวกข้าจะต้องกลับมาแน่นอน” มู่ชิงเกอรับปาก

เห็นอินเจวี๋ยยังคิดจะห้าม มู่ชิงเกอก็ตัดบทเขา “เวลาไม่คอยท่า พวกข้าจะออกเดินทางแล้ว”

พูดจบ นางก็มองซือมั่ว ซือมั่วพยักหน้า เปิดช่องว่างกับนาง หายไปต่อหน้าคนทั้งสาม

ตอนที่ปรากฎตัวอีกครั้ง ก็อยู่ในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวแล้ว ส่วนมู่ชิงเกอก็ยิงลำแสงหนึ่งสายออกมาจากหว่างคิ้ว เรือต้าเซียนขยายใหญ่อยู่ ตรงหน้าคนทั้งสองอย่างรวดเร็ว ราวกับภูเขาลูกใหญ่ ใหญ่กว่าตอนที่อยู่ในอาณาเขตภูติภูเขาก่อนหน้านี้ไม่รู้กี่เท่า

ทั้งสองคนสบตากับปราดหนึ่ง ทะยานขึ้นไปพร้อมกัน ตกลงบนดาดฟ้าเรือต้าเซียน

ในอาณาเขตภูติภูเขา อินเจวี๋ยมองบริเวณที่คนทั้งสองหายไป ขมวดคิ้วมุ่น

โห่วกล่าวปลอบ “วางใจเถิด ปีศาจสองตัวอยู่ด้วยกัน ไม่มีทางเกิดเรื่อง”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!