Skip to content

พลิกปฐพี 954

ตอนที่ 954

ข้าอยากไปที่ๆ หนึ่งคนเดียว

มู่ชิงเกอหลับตาทั้งคู่ลงช้าๆ กลืนความรู้สึกที่เจ็บปวดใจชนิดนั้นลงไป เมื่อลืมตาอีกครั้ง ดวงตาทั้งคู่ก็กลับมาใสสะอาดสงบนิ่งแล้ว นางมองตำแหน่งที่มู่ซงยืนอยู่ก่อนหน้านี้ แต่กลับไม่มีคนแล้ว

เมื่อเหลือบตาขึ้นอีกครั้งก็มองเห็นเพียงแผ่นหลังของมู่ซงที่เดินไป ท่ามกลางมหาสมุทรซากศพใต้แสงอาทิตย์ยามเย็น แผ่นหลังนั้นยังคงยืดตรง แต่กลับมีความเป็นวีรบุรุษไม้ใกล้ฝั่งที่ทำให้คนปวดใจ

มู่ชิงเกอเก็บสายตากลับมาอย่างเย็นชา มองคนที่ชัดจังหวะนางกับมู่ซงก่อนหน้านี้

ราชาเทวะเฝินไห่ยิ้มเหยเก ในสีหน้ามีความอึดอัดเล็กน้อย

เขาทราบดีว่าตนเข้ามาในเวลาที่ไม่เหมาะสม แต่ไร้หนทาง ตอนนี้การยืนยันว่าเผ่าฝูไม่มีทางเข้ามาบุกรุกได้จึงจะเป็นข้อสำคัญ มิใช่หรือ

สายตาที่ใสสะอาดของมู่ชิงเกอตกลงบนร่างเขา ทำให้เขาไอเบาๆ อย่างไม่เป็นธรรมชาตินัก

“การผนึกนี้ แม้แต่ข้าหรือเจ้าแห่งมารก็ทลายไม่ได้” ท่ามกลางการเฝ้ารอของราชาเทวะเฝินไห่ มู่ชิงเกอให้คำตอบที่ทำไท้เขาถอนหายใจอย่าง ผ่อนคลายออกมา

เมื่อได้รับคำตอบที่ยืนยันแล้ว ราชาเทวะเฝินไห่ก็เผยรอยยิ้มออกมา พยักหน้ากล่าว “เช่นนั้นก็ดี ข้าไม่รบกวนราชาเทวะมู่แล้ว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป

ถูกเขารบกวนเช่นนี้อารมณ์ของมู่ชิงเกอกลับไม่ได้ซึมเซาอย่างเช่นก่อนหน้านี้แล้ว

นางมองศพที่ก้นสมุทรทะเลแห่งความจริงอีกครั้ง ออกแรงสูดหายใจ กลิ่นคาวเลือดที่แสบจมูก เต็มอวัยวะภายในของนางริมฝีปากนางเผยอเล็กน้อย ถอนลมหายใจที่กดทับอยู่ในเบื้องลึกของจิตใจ

มู่ชิงเกอหมุนตัว ออกจากสนามรบ มุ่งหน้าไปยังทิศทางที่กองทัพตระภูลมู่อยู่

อีกด้านหนึ่ง ซือมั่วก็จัดการธุระของเผ่ามารที่ร่วมรบเสร็จเรียบร้อยแล้วเช่นกัน เห็นมู่ชิงเกอเดินไปกากองทัพตระกูลมู่ เขาก็คิดครู่หนึ่ง ไม่ได้ตามไปทันที

ศพเยอะอย่างยิ่ง ใช่ว่าจะเก็บเสร็จได้ในระเวลาสั้นๆ

ตอนนี้สภาพอากาศในหลินชวนหนาวเย็น เดิมพวกเขาจะค่อยเก็บกวาดต่อหลังจากพักผ่อนครู่หนึ่งก็ได้

แต่ว่าตอนที่ราตรีย่างกรายมาถึง ทหารผู้รอดชีวิตแต่ละนายยังคงชูคบไฟ ค้นหาที่ก้นทะเลแห่งความจริงต่อ พวกเขาต้องการพาสหายร่วมรบของตนกลับไปให้ครบ

ราตรีผ่านไป ตอนที่ฟ้าสางเล็กน้อย ก้นสมุทรทะเลแห่งความจริงก็มีศพอยู่ไม่มากแล้ว การเก็บกวาดยังคงดำเนินต่อไป

นอกเขตชายฝั่งทะเลแห่งความจริง บนพื้นวางเรียงศพแต่ละร่างๆ อย่างเป็นระเบียบ ข้างบนคลุมด้วยผ้าขาว พวกเขาล้วนเป็นวีรบุรุษของหลินชวนศึกครั้งนี้ไม่แบ่งแยกระดับแคว้นไม่แบ่งฝักฝ่ายไม่แบ่งอายุ

เหล่านักรบที่รอดชีวิตต่างก็สงบเงียบอย่างยิ่ง คุ้มกันอยู่ข้างกาย สหายร่วมรบของพวกเขา

ตอนที่มู่ชิงเกอปรากฎตัวต่อหน้าพวกเขาจึงทำให้ดวงตาพวกเขาสั่นไหวเล็กน้อย แต่ละสายตาตกลงบนร่างของนางอย่างไม่ได้นัดหมาย

นางคือคุณชายของหลินชวน เป็นบุคคลที่คนทั้งหมดในหลินชวนต่างก็รู้จัก ต่างก็เคารพยำเกรง

ซือมั่ว คือมหาปราชญ์ของหลินชวน มีคนมากน้อยเพียงใดเคยไปขอพรที่สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ล่างตีนเขาตำหนักหลีกงที่เขาอยู่ ให้เขาปกปักรักษา

พวกเขาสองคนร่วมมือผนึกหลุมดำนั้น หมายความว่าอะไร

ทุกสิ่งทุกอย่างสิ้นสุดแล้วใช่หรือไม่ ผู้บุกรุกจำนวนมากที่น่ากลัวแข็งแกร่งกว่าพวกเขามากเหล่านั้นไม่อาจเข้ามาได้อีกใช่หรือไม่

แววตาของพวกเขาเกิดข้อสงสัยเหมือนกัน ในแววตาที่มองมู่ชิงเกอต่างก็อยากค้นหาคำตอบ

การรอคอยนี้ มู่ชิงเกอรับรู้ได้แล้ว ซือมั่วเองก็รับรู้ได้เช่นกัน

สายตาของทั้งสองประสานกันในอากาศ ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนไม่ต้องใช้คำพูดมาอธิบาย

“สิ้นสุดแล้ว” ท่ามกลางการรอคอยของเหล่าทหารหลินชวน มู่ชิงเกอพูดคำสามคำออกมา

สิ้นสุดแล้ว ไม่ว่าจะสิ้นสุดจริงหรือไม่ นางก็หวังว่าสงครามครั้งนี้จะไม่เกี่ยวข้องกับหลินชวนอีก

หากจะต่อสู้ก็ให้พวกเขาที่อยู่ในระดับเดียวกันไปต่อสู้ดีกว่า

สำหรับการผนึกนั้น นางยังมีความมั่นใจอยู่

สิ้นสุดแล้ว?

สิ้นสุดแล้ว!

ในดวงตาของเหล่าทหารหลินชวน แววตาเช่นนั้น ในที่สุดก็ถูกความดีใจเข้ามาแทนที่แล้ว

ความรู้สึกที่กดเก็บไว้หนึ่งวันหนึ่งคืนในที่สุดก็ปะทุออกมาในวินาทีนี้ พวกเขาไม่เคยเสียน้ำตาลูกผู้ชายแม้แต่หยดเดียวเพียงเพราะว่าเจ็บปวด เศร้าโศก เคียดแค้น แต่กลับน้ำตาไหลหลังจากที่มู่ชิงเกอพูดคำสามคำนี้ ออกมา

ไม่ว่าพวกเขาจะรู้จักคนข้างๆ หรือไม่ แต่ก็ยังกอดกันด้วยความดีใจ แสดงความรู้สึกของพวกเขา

พวกเขาร้องไห้ หัวเราะ ทั้งยังมีคนโผลงไปตรงหน้าสหายร่วมรบที่เสียชีวิต กอดศีรษะร้องไห้พูดคำพูดที่มีเพียงพวกเขาเท่านั้นจึงจะเข้าใจ

“เผ่าฝูไม่อาจล้มเลิกด้วยเหตุนี้” อินเจวี๋ยมองฉากๆ นี้ กล่าวเสียงตํ่ากับโห่วข้างกาย

โห่วยิ้ม รอยยิ้มไม่ได้ผ่อนคลาย “ชิงเกอรู้ดี แต่นางจำเป็นต้องพูดเช่นนี้นางต้องการปลอบใจคนเหล่านี้ สงครามครั้งนี้ เดิมก็ไม่ควรเป็นศึกที่พวกเขาควรเข้าร่วม หวังเพียงแต่ว่า การผนึกครั้งนี้จะทำให้สัตว์ร้ายเหล่านั้นของเผ่าฝูล้มเลิกแผนการใช้หลินชวนเป็นทางเข้า หากจะสู้ พวกข้า ก็จะสู้ให้ถึงที่สุด เก่งนักก็มาโจมตีที่แผ่นดินเทพมารเสีย”

อินเจวี๋ยละสายตามองเขา มุมปากค่อยๆ กระตุกขึ้น ในที่สุดทะเลแห่งความจริงก็สงบลง ทหารแต่ละแคว้นต่างก็นำศพที่เก็บขึ้นมาส่งกลับแคว้น พวกเขาเป็นวีรบุรุษของแว่นแคว้น เป็นวีรบุรุษของหลินชวน ควรได้รับการประกอบพิธีเซ่นไหว้จากประชาชน

คนเผ่าเทพมารที่อาศัยยาเลื่อนขั้นเข้ามาในหลินชวนเหล่านั้น ก็กลับแผ่นดินเทพมารก่อนที่ยาจะหมดฤทธิ์

คนนับหมื่นที่ตามมู่ชิงเกอมาตอนแรก ตอนนี้เหลือเพียงห้าพันกว่าคน พวกเขายังคงอยู่ต่อ คุ้มกันบริเวณโดยรอบทะเลแห่งความจริงสังเกตทางเข้าที่ถูกผนึกนั้นอยู่ลับๆ

โห่วเองก็อยู่ต่อ ซือมั่วก็ย่อมไม่ไปไหน

เพียงแต่ว่า ซือมั่วกับมู่ชิงเกอ ตามกองทัพตระกูลมู่ รวมถึงกองทัพของแคว้นฉิน กลับไปที่ลั่วตูพร้อมกัน

หลังจากกลับไปที่ลั่วตูแล้ว นางก็เข้าร่วมพิธีฝังศพของผู้เสียสละกองทัพตระกูลมู่ มอบเงินบำเหน็จให้บ้านของผู้เสียสละด้วยตัวเองพร้อมกับรองแม่ทัพ

ทุกครั้งที่เดินออกมาจากบ้านคนเหล่านี้นางล้วนแต่รู้สึกหนักอกหนักใจ อึดอัดจนจิตใจว้าวุ่น

“คุณชาย นี่เป็นครอบครัวสุดท้ายแล้ว”

เวลาเกือบหนึ่งเดือน ในที่สุดมู่ชิงเกอก็จัดการเรื่องนี้เสร็จ แน่นอนคนที่จัดการเรื่องนี้ไม่ได้มีเพียงนาง แต่ยังมีมู่เหลียนเฉิง มู่อี้เฉินทำด้วยเช่นกัน

พวกเขาแบ่งเบาภาระหน้าที่ ก็ยังใช้เวลามากถึงเพียงนั้นกว่าจะจัดการงานศพครั้งนี้เสร็จ

สายตาของมู่ชิงเกอมองท้องฟ้า ได้ยินคำพูดของรองแม่ทัพข้างหลัง จึงเก็บสายตากลับมา พยักหน้าอย่างแทบจะไม่ต้องคิด ก้าวยาวออกไป

หลังจากศึกใหญ่ครั้งนั้น นางก็คล้ายติดนิสัยมองท้องฟ้าทุกวันทุกเวลาแล้ว

ในใจนางเป็นกังวลอะไร ในใจนางรู้ดี แต่กลับพูดกับผู้อื่นไม่ได้ จัดการเรื่องที่หลินชวนเสร็จแล้ว คืนนั้น มู่ชิงเกอก็เอ่ยถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมากับซือมั่วที่อยู่ข้างกายนางมาโดยตลอด

“มีที่ที่หนึ่ง ที่ข้าอยากไปด้วยตัวเอง”

“ให้ข้าไปเป็นเพื่อนเจ้า” ซือมั่วไม่ได้ขัด แต่กลับเอ่ยเหตุผลที่จะไปด้วยกัน

ดวงตาที่หลุบลงของมู่ชิงเกอ กะพริบแสงสลัว นางส่ายหน้าช้าๆ กล่าวปฏิเสธ “ที่แห่งนั้น ข้าไปได้เพียงคนเดียว เจ้าอยู่ที่นี่ ข้าสบายใจกว่า”

คำพูดของนางทำให้ซือมั่วขมวดคิ้วเล็กน้อย เสี่ยวเกอเอ๋อร์ของเขา มีเรื่องปิดบังเขาอยู่

ทว่า เขากลับไม่ได้ยืนกราน

หลังความเงียบสงัดชั่วขณะ เขาก็พยักหน้า “ตกลง จะไปนานเพียงใด”

“เร็วก็หนึ่งวัน ช้าก็สามวัน” มู่ชิงเกอกล่าว

ซือมั่วจ้องมองนาง พยักหน้าช้าๆ ภายใต้การจับจ้องของนาง กำชับหนึ่งประโยค “ระวังตัวด้วย”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!