บทที่ 1007 เจ้าเด็กนี่ช่างนิสัยเสียนัก
การรักษานี้ดำเนินอยู่ถึงสามชั่วยามเต็ม สามชั่วยามนี้กู้ซีจิ่วและหลงซือเย่ไม่ได้จิบนํ้าสักอึก หรือกินอะไรสักหน่อยเลย ยุ่งวุ่นวายอยู่ตลอดโดยไม่หยุดพักสักครู่
ส่วนอิงเหยียนนั่ว ท้ายที่สุดแล้วก็ยังเป็นเด็กคนหนึ่ง เขาออกไปหลายครั้งแล้ว ระยะเวลาสั้นบ้างยาวบ้าง ชัดเจนนักว่าออกไปปลดทุกข์บ้าง เดินเล่นสูดอากาศบ้าง
ยามนี้ความสนใจของทุกคนล้วนจดจ่ออยู่ร่างของหรงเจียหลัวที่ถูกรักษา ย่อมไม่มีใครสนใจเขามากนัก
ที่พักแห่งนี้ก็ได้รับความคุ้มครองจากสำนักถามสวรรค์เช่นกัน ขอเพียงเด็กน้อยไม่วิ่งออกไปนอกประตูก็ไม่ต้องเกรงว่าจะถูกผู้ใดลักตัวไป
หรงเช่อเริ่มแรกเห็นเขาออกไปยังกำชับกำชาอยู่สองสามประโยค จากนั้นก็ไม่สนใจเขาแล้วเช่นกัน
หรงเจียหลัวยังไม่ตายจริงๆ แต่ถูกพิษนั้นควบคุมอย่างสมบูรณ์แล้ว สีเขียวคลํ้าบนใบหน้าของเขาค่อยๆ จางไป หลังจากพิษถูกขับออกจากร่างเล็กน้อยแล้ว ในที่สุดพลังวิญญาณในร่างเขาก็ค่อยๆ หมุนเวียนอีกครั้ง หัวใจเต้น มีลมหายใจ เริ่มฟื้นฟูขึ้นทีละนิด…
เมื่อจิ้งจอกดำเห็นทรวงอกของนายตนเริ่มกระเพื่อมน้อยๆ วินาทีที่ดวงตาค่อยๆ ลืมขึ้นแล้วมองมาทางเขา ชายชาตรีอกสามศอกผู้นี้พลันรํ่า
ไห้อย่างไร้เสียง คุกเข่าอยู่บนพื้นลุกไม่ขึ้นอยู่นาน เขาทราบว่าในที่สุดชีวิตของเจ้านายเขาก็ถูกชิงกลับมาได้แล้ว!
กู้ซีจิ่วและหลงซือเย่ล้วนเหนื่อยจนเหงื่อโซมร่าง แต่ยังคงยินดียิ่งนัก
กู้ซีจิ่วแปะก้นลงบนก้าอี้ทันที เหนื่อยจนไม่อยากพูดสักประโยคเลย ระหว่างที่รักษามีขั้นตอนบางส่วนที่กู้ซีจิ่วต้องลงมือด้วยตัวเอง
มีคนยื่นนํ้าถ้วยหนึ่งมาถึงริมปากเธอ กู้ซีจิ่วหันไป มองเห็นดวงตางดงามคู่นั้นของอิงเหยียนนั่ว
“ดื่มสิ เจ้าคงจะกระหายนํ้าแล้ว”
กู้ซีจิ่วก็ไม่เกรงใจเขา ดื่มนํ้าถ้วยนั้นในมือเขาเข้าไป ในนํ้าแฝงกลิ่นหอมหวานเอาไว้ เดิมทีเธอเหนื่อยแทบตายแล้ว พอดื่มนํ้าถ้วยนี้ลงไป กำลังวังชาก็ฟื้นฟูขึ้นมาไม่น้อย ชัดเจนยิ่งนักว่าเขาเติมบางสิ่งลงไปในนํ้าถ้วยนี้ กู้ซีจิ่วยื่นมือไปลูบหัวเขา “เป็นเด็กดีจริงๆ!”
อิงเหยียนนั่วนิ่งงัน
กู้ซีจิ่วตบมือเล็กๆ ของเขาเบาๆ “เด็กดี รินให้เจ้าสำนักหลงอีกถ้วยสิ”
อิงเหยียนนั่วไม่พูดอะไร เขาเหลือบมองเธอแวบหนึ่ง วางถ้วยน้ำลงโต๊ะเสียงดังปึก แล้วหันหลังวิ่งจากไป
เจ้าเด็กนี่ช่างนิสัยเสียนัก
โชคดีที่จิ้งจอกดำเข้าอกเข้าใจผู้อื่นเป็นอย่างดี เขากุลีกุจอรินนํ้าผสมนํ้าผึ้งถ้วยหนึ่งส่งให้หลงซือเย่
วิธีรักษานี้ของกู้ซีจิ่วได้ผลอย่างยิ่ง หลังจากผ่านไปอีกหนึ่งชั่วยาม ในที่สุดหรงเจียหลัวก็ฟื้นคืนสติอย่างแท้จริงแล้ว การกลายเป็นผีดิบในช่วงหลายวันมานี้ของเขาทำให้เรี่ยวแรงทั้งหมดสูญสิ้นไป ถึงแม้จะฟื้นขึ้น แต่กำลังวังชาก็ยังใช้ไม่ได้ พอจะฝืนเอ่ยวาจาออกมาได้เท่านั้น
ทันทีที่เขาฟื้นขึ้นมา สายตาก็จับจ้องอยู่ที่ร่างกู้ซีจิ่ว “ซีจิ่ว…”
ถึงแม้เขาจะไม่ได้พูดพรํ่ารำพันซาบซึ้งในบุญคุณอันใด แต่การมองก็แสดงทุกอย่างออกมาได้โดยไม่ต้องพูดแล้ว
เมื่อเขาเปิดปากพูดได้ ทุกคนล้วนรู้สึกโล่งอก จิ้งจอกดำขอบคุณฟ้าดิน ขอบคุณท่านเทพศักดิ์สิทธิ์หนักกว่าเดิม และรีบโขกศีรษะให้กู้ซีจิ่วกับหลงซือเย่ด้วย
กู้ซีจิ่วนวดหว่างคิ้วอย่างทนไม่ได้ “จิ้งจอกดำ เจ้าโขกศีรษะไปกี่ร้อยครั้งแล้ว ไม่เวียนหัวบ้างหรือ? ลุกขึ้นมาเถอะ”
จิ้งจอกดำกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “บุญคุณอันยิ่งใหญ่ของแม่นางกู้และเจ้าสำนักหลงต่อให้จิ้งจอกดำแล่เนื้อเถือกระดูกก็ยากจะทดแทนได้ การโขกศีรษะไม่กี่ร้อยครั้งนับเป็นอันใดได้? ต่อให้จิ้งจอกดำต้องโขกจนตายอยู่ตรงนี้ก็ยินดี”
เย่หงเฟิงที่ถูกละเลยไว้ด้านข้างมานานกล่าวออกมาประโยคหนึ่งอย่างอดไว้ไม่อยู่แล้ว “อันที่จริง ล้วนเป็นผลงานของอาจารย์ข้าทั้งนั้น เป็นอาจารย์ข้าลงมือรักษาตลอด แม่นางกู้เพียงออกปากชี้แนะลงมือบ้างไม่กี่ครั้งเท่านั้น…”
กู้ซีจิ่วเพียงยิ้มแวบหนึ่งโดยไม่พูดอะไร
หลงซือเย่ขมวดคิ้วนิดๆ มองเย่หงเฟิงแวบหนึ่ง “เย่หงเฟิง เจ้าไม่พูดก็ไม่มีผู้ใดคิดว่าเจ้าเป็นใบ้หรอก! ออกไปซะ!”