บทที่ 102
ผู้อื่น…ใครหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์!
ทุกคนพากันตกตะลึง นี่เป็นครั้งแรกกู้เทียนเฉาถูกบิดาบังเกิดเกล้าทิ้งไว้ที่นี่ เขาค่อยๆ กำหมัดแน่นอยู่ภายในแขนเสื้อ…
สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้วจริงๆ!
ไม่ได้ เขาไม่มีทางยอมให้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น!
นังเด็กคนนั้นก็เป็นแค่ต้นหญ้า ต้นหญ้าก็ควรจะเติบโตอยู่บนพื้นเพื่อถูกคนเหยียบย่ำเท่านั้น ได้รับความรักใคร่อีกครั้งได้อย่างไร!
เขามองกู้เทียนฉิงน้องสาวร่วมอุทรของตน กู้เทียนฉิงเองก็เม้มริมฝีปากเล็กๆ ไว้แน่น
ประกายแสงจางๆ วาบผ่านนัยน์ตาของเขา “เทียนฉิง ตามข้ามา พี่มีเรื่องจะถามเจ้า”
พลางสาวเท้าก้าวใหญ่ๆ เดินนำออกไป
ดวงตากู้เทียนฉิงเปล่งประกาย แล้วติดตามไป
ตอนนี้มีแค่พวกเขาสองพี่น้องเท่านั้นที่เป็นทายาทสายตรง และเป็นเจ้านายของจวนแม่ทัพแห่งนี้ในอนาคต ผู้อื่น…ใครหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์!
กู้ซีจิ่วที่อยู่ในห้องหนังสือของกู้เซี่ยเทียนนั้นได้พบลาภก้อนเล็กๆ กู้เซี่ยเทียนรีบร้อนอยากจะชดเชยให้เธอ จึงพาเธอเข้าไปในคลังสมบัติ ปล่อยให้เธอเลือกสมบัติในห้องได้อย่างใจกว้าง จวนแม่ทัพดำเนินการมาหลายปีขนาดนี้ สิ่งของดีๆ ใน คลังสมบัติย่อมมีอยู่ไม่น้อย หลากหลายละลานตา วางเรียงกันอยู่บนชั้นวางไม้จันทน์แดงหลายชั้น
กู้ซีจิ่วย่อมไม่เกรงใจเขา เลยเลือกมาหลายชิ้น แถมเธอยังตาถึงนัก สมบัติทั้งหมดที่เลือกมาล้วนเป็นของที่มีประโยชน์อย่างยิ่ง
ยกตัวอย่างเช่นมีดสั้นลํ้าค่าหนึ่งเล่ม เสื้อกั๊กไหมทองที่เล่าลือกันว่าฟันแทงไม่เข้าหนึ่งตัว และถุงเก็บของสีนํ้าเงินสดใสหนึ่งใบ
“จิ่วเอ๋อร์เหตุใดจึงเลือกสิ่งนี้หรือ?” กู้เซี่ยเทียนมองถุงเก็บของที่อยู่ในมือบุตรสาว ถึงแม้ว่าในโลกนี้ถุงเก็บของจะเป็นสิ่งที่ลํ้าค่าและหายากมาก แต่ในคลังสมบัติของจวนแม่ทัพก็ยังมีอยู่สองใบ
ถุงเก็บของมีอยู่หลายระดับ ระดับสูงย่อมดีที่สุด รองลงมาก็คือระดับกลางและระดับตํ่า
ทั้งสองชิ้นที่เก็บไว้ที่นี่เป็นระดับกลางหนึ่งใบ ระดับต่ำหนึ่งใบ ที่กู้ซีจิ่วเลือกมานี้คือถุงระดับตํ่า วางอยู่ในซอกมุมหนึ่งที่อับสายตายิ่ง
แต่อีกใบหนึ่งวางไว้ในจุดที่ค่อนข้างโดดเด่น แม้กระทั่งกล่องที่บรรจุมันไว้ก็คุณภาพดีกว่าของกู้ซีจิ่วมาก
กู้ซีจิ่วมองถุงเก็บของที่อยู่ในมือ ที่จริงเธอก็รู้ว่าอันนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่เจ้ากำไลหยกนภาที่อยู่บนข้อมือเธอนั้นส่งเสียงรบเร้าถี่ๆ อยู่ในสมองเธอ ให้เธอเลือกใบนี้
กู้เซี่ยเทียนหยิบถุงอีกใบยื่นมาใกล้ๆ เธอ “จิ่วเอ๋อร์นี่เป็นถุงเก็บของระดับกลาง ที่เจ้านั้นเป็นระดับต่ำ เจ้าเอาอันนี้ไม่ดีกว่าหรือ?”
ถุงเก็บของในมือกู้เซี่ยเทียนเป็นสีชมพูอ่อน มีแสงเหลือบรุ้งจางๆ มองปุ๊บก็รู้แล้วว่าเป็นของลํ้าค่า มีระดับสูงกว่าอันที่อยู่ในมือของกู้ซีจิ่วมาก แถมยังเหมาะกับเด็ก ผู้หญิงมากกว่าด้วย
‘เอาอันนี้ เจ้านาย เอาอันนี้ไม่เอาของหรูหราหมาเห่าพรรค์นั้น! แค่ดูดีแต่ไร้ประโยชน์!’ กำไลหยกนภาเกรงว่ากู้ซีจิ่วจะอยากเปลี่ยน จึงส่งเสียงต่อไป
ท้ายที่สุดกู้ซีจิ่วก็ไม่ได้เปลี่ยน เก็บถุงเก็บของใบนั้นเข้าไปในแขนเสื้อ ตอบอย่างแน่วแน่ “จิ่วเอ๋อร์ค่อนข้างถูกชะตากับมันและต้องการมัน กล่าวอีกแง่คือข้าวของลูกก็มีไม่มาก มีแค่มันก็เพียงพอแล้วเจ้าค่ะ”
เห็นได้ชัดว่าประโยคเหล่านี้แสนจะธรรมดานัก ทว่ากลับทำให้กู้เซี่ยเทียนเหม่อลอยไปครู่หนึ่ง
หลังจากที่คอยจนกู้ซีจิ่วจากไปแล้ว เขาก็เงยหน้ามองท้องฟ้า ทอดถอนใจเบาๆ “อาซิง ไม่นึกเลยว่านางจะเลือกของสองชิ้นที่เจ้าเคยใช้ นี่…เป็นเจ้าที่แอบดลใจนางใช่ไหม?”
เขาหลุบตามองถุงเก็บของระดับกลางที่อยู่ในมือแล้ว ถอนหายใจออกมาอีกครั้ง “อาซิง ถุงสมบัติใบนี้ข้าเตรียมไว้มอบให้เจ้าในปีนั้น อยากให้เจ้าเปลี่ยนใจอย่า ถือโทษโกรธเคือง แต่คิดไม่ถึงเลยว่าข้ายังไม่ทันได้มอบให้ เจ้า…เจ้าก็อุ้มลูกหนีไปเสียแล้ว ยอมกระโดดหน้าผา แต่ไม่ยอมกลับมากับข้า… อาซิง หากเจ้ายังมีชีวิตอยู่ จะนึกเสียใจหรือไม่…”
เดิมทีจวนแม่ทัพจะมีการจัดเลี้ยงภายในครอบครัว แต่ไม่นึกเลยว่าคนยังไม่ทันได้นั่งลงด้วยซํ้า แขกผู้สูงศักดิ์สองท่านก็มาเยือนเสียแล้ว!