Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 1081

บทที่ 1081 ย่อมไม่ประสงค์ร้ายกับเธอแน่นอน

ขณะที่เธอพูดอยู่ผมยาวๆ ของเธอก็ปลิวระมาด้านหน้า เธอรังเกียจความรุงรัง จึงฉีกชายกระโปรงออกมาเส้นหนึ่ง รวบผมยาวให้เป็นทรงหางม้า

ทุกอากัปกริยาของเธอเปี่ยมด้วยกลิ่นอายของยุคปัจจุบัน บุคลิกทุกอย่างเหมือนตอนที่เธออยู่ในยุคปัจจุบัน และเห็นได้ชัดว่าความทรงจำเธอหยุดอยู่ในขณะที่หลงซีผ่าตัดควักหัวใจเธอ

ความจริงแล้วหลงฟั่นจับตามองปฏิกิริยาของกู้ซีจิ่วอยู่อีกห้องหนึ่งด้านนอกห้องวิจัยมาโดยตลอด

มุกราตรีทั้งหกลูกที่ฝังอยู่ด้านบนในห้องวิจัยของหลงฟั่นดูเผินๆ คล้ายว่าเป็นมุกราตรีธรรมดาๆ อันที่จริงเป็นกล้องวงจรปิดที่เขาติดตั้งไว้ ใช้พลังวิญญาณขับเคลื่อน สามารถมองเห็นทุกอากัปกริยาของกู้ซีจิ่วที่อยู่ในโลงแก้วผลึกได้โดยไร้จุดอับสายตา แม้แต่สีหน้าเล็กๆ น้อยๆ สักอย่างของเธอก็สามารถมองเห็นได้ทั้งสิ้น

เขารู้ว่าเธอเป็นนักฆ่ามือฉมัง และเชี่ยวชาญการเล่นละครตบตา แต่ท่าทางตอนที่เธอเพิ่งตื่นขึ้นมามิใช่การแสร้งทำ ปฏิกิริยาตอบสนองของเธอคล้ายปฏิกิริยาตอบสนองที่เกิดขึ้นตามนิสัยของเธอยามพบเจอสถานการณ์เช่นนี้

แน่นอน เพื่อความปลอดภัย เขายังคงส่งทาสใบ้ไปทดสอบเธอด้วย ดูว่ายามที่ตกอยู่ในอันตรายเธอจะสำแดงวิชายุทธ์แบบไหนออกมา วิชายุทธ์ที่เธอใช้ก็เป็นของยุคปัจจุบันเช่นกัน ไม่มีกระบวนท่าที่เป็นของยุคนี้เลย

หลงฟั่นยังคงเชื่อมั่นในตัวยาที่ตนจัดเตรียมยิ่งนัก หลังจากผ่านการทดสอบอย่างต่อเนื่องเช่นนี้แล้วในที่สุดเขาก็วางใจ เธอฟื้นขึ้นมาตามที่เขาประสงค์ไว้ ไม่มีความทรงจำของโลกนี้…

เขามองดูเธอ ราวกับมองผลงานที่น่าภูมิใจที่สุดของตน นัยน์ตาเปี่ยมด้วยความปลาบปลื้มพอใจ “ซีจิ่ว นี่ไม่ใช่การถ่ายละคร เธอถูกหลงซีฆ่าตายในโลกนั้น ฉันเลยฟื้นคืนชีพให้เธอในโลกนี้ ตอนนี้พวกเราไม่ได้อยู่ในยุคสมัยนั้นของพวกเราอีกแล้ว…”

กู้ซีจิ่วถูกเขาทำให้มึนงงอยู่บ้าง เลิกคิ้วมองดูเขาเหมือนมองคนไข้โรคประสาท “คุณแน่ใจนะว่าไม่ได้ทำการทดลองทั้งวันทั้งคืนจนเป็นโรคประสาทแล้ว? โลกนี้โลกนั้นอะไรกัน? ความหมายของคุณคือฉันทะลุมิติมา? คุณก็ทะลุมิติมาด้วย? แล้วที่ฉันทะลุมิติมาก็เป็นเพราะคุณงั้นเหรอ?”

หลงฟั่นเองก็ทราบว่าการพูดแบบนี้ค่อนข้างน่าเหลือเชื่อสำหรับเธอ จึงยิ้มแวบหนึ่ง “เธอตามฉันมาสิ”

พลางเดินนำไปด้านหน้า กู้ซีจิ่วเม้มริมฝีปาก เธอเป็นคนใจกล้าอยู่แล้ว จึงเดินตามหลังไป ระหว่างทางพบเห็นนักรบที่สวมชุดประหลาดมากมาย แต่ละคนล้วนไว้ผมยาวแต่งกายแบบโบราณทั้งสิ้น

จู่ๆ กู้ซีจิ่ว ก็ยื่นมือออกไปฉวยสิ่งหนึ่งไว้ ดึงผมของผู้อื่นออกมา เห็นได้ชัดว่าต้องการพิสูจน์ดูว่าอีกฝ่ายสวมวิกผมอยู่หรือไม่…

หลงฟั่นยิ้มออกมาอย่างอดไว้ไม่อยู่ เพียงไม่ได้พูดอะไรออกมายอมให้เธอพิสูจน์

ทั้งสองเดินลอดเส้นทางที่ทอดยาวสายหนึ่ง ทางเดินสายนี้เป็นอุโมงค์ครึ่งวงกลม กำแพงทางเดินล้วนเป็นอิฐสีเขียวกึ่งโปร่งใสที่กันร้อนกันไฟชนิดหนึ่ง เหนือศีรษะก็เป็นอิฐชนิดนี้เช่นกัน แต่ด้านบนของอิฐนั้นกลับมีสิ่งที่คล้ายกับเปลวเพลิงถมอยู่ชั้นหนึ่ง

กู้ซีจิ่วจับจ้องอย่างเงียบๆ อยู่หลายครา ด้านบนคือลาวาเหรอ?

สถานที่แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นใต้ลาวาหรือไง?

“คุณจะพาฉันไปดูอะไรกันแน่?” เห็นได้ชัดว่ากู้ซีจิ่วระแวงคนที่มีใบหน้าเหมือนหลงซี

หลงฟั่นยิ้มแวบหนึ่ง “วางใจเถอะ ในเมื่อฉันสิ้นเปลืองจิตใจคืนชีพให้เธอ ย่อมไม่ประสงคร้ายกับเธอแน่นอน”

หลงฟั่นพาเธอเข้าไปในโถงใหญ่ห้องหนึ่ง ในห้องโถงจัดวางเสาแก้วผลึกที่มีสีสันต่างกันไปไว้ห้าต้น มีเอกลักษณ์ไม่ซํ้าใคร

“ซีจิ่ว เธอวางมือลงไปบนเสาแก้วผลึกพวกนี้ทีละต้นสิ”

กู้ซีจิ่วไม่ขยับเขยื้อน เม้มริมฝีปากมองเขา

หลงฟั่นอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาอีกครั้ง “กลัวว่าฉันจะวางกับดักไว้บนเสาแก้วผลึกพวกนี้เหรอ? เธอกังวลมากไปแล้ว ด้วยพลังยุทธ์ของเธอในตอนนี้ถ้าฉันคิดจะลอบทำร้ายเธอก็เป็นเรื่องที่ไม่คณามือเลย ไม่จำเป็นต้องสิ้นเปลืองความคิดมาวางกับดักไว้ที่นี่หรอก”

เมื่อเห็นกู้ซีจิ่วยังคงนิ่งอยู่ เขาก็ส่ายศีรษะนิดๆ เดินเข้าไปวางมือบนเสาแก้วผลึกสีเขียวต้นนั้นด้วยตัวเองก่อน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!