Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 1108

บทที่ 1108 เล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวเช่นจิ้งจอก

เขาเดินดูโดยรอบเรือลำนั้น พร้อมทิ้งซากศพกะลาสีลงในลาวา

จากนั้นเขาเห็นเครื่องส่งสัญญาณเตือนที่ถูกทุบจนบุบ จากคราบเลือดบนเรือสันนิษฐานได้ว่ากู้ซีจิ่วยึดครองเรือได้เมื่อใด…

เขายังพบกระดาษหนึ่งแผ่นที่มุมหนึ่งของห้องโดยสารเรือ ด้านบนใช้เลือดของกะลาสีเขียนประโยคที่เปี่ยมด้วยพลังหนึ่งบรรทัดว่า ‘ข้าจะกลับมาแน่!’

หลงฟั่นจ้องกระดาษแผ่นนั้นที่ไม่รู้ว่าเป็นการแสดงอำนาจหรือแจ้งเตือน ขณะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ก็รู้สึกเลื่อมใสสาวน้อยคนนี้อยู่บ้าง ถึงขั้นภาคภูมิใจในตัวเองด้วยซํ้า สมกับเป็นผลงานที่สมบูรณ์แบบที่สุดของเขา ไม่เพียงเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวเช่นสุนัขจิ้งจอก ยังปราดเปรื่องจนน่ากลัว…

ดูเหมือนว่าหนีไปแล้วแม่นางน้อยจะเบิกบานใจเสียเหลือเกิน จึงทิ้งข้อความไว้ให้เขาบรรทัดหนึ่ง…

หากแต่ฟ้าลิขิตให้แม่นางน้อยหนีไม่พ้น เพราะเขาติดตั้ง GPS ไว้ภายในร่างกายของเธอแล้ว เขาสามารถหาตำแหน่งและจับตัวเธอกลับมาได้อย่างง่ายดาย อย่างไรเสียท่านเจ้าเพิ่งออกไปไม่นาน ปล่อยให้แม่นางน้อยได้ใจอีกสักหนึ่งถึงสองชั่วยาม ไม่ต้องรีบร้อน

หลงฟั่นยกมุมปากยิ้มบางๆ ‘เสี่ยวซีจิ่ว เธอหนีไม่พ้นเงื้อมมือของพ่อหรอก!’

เขาพลันตั้งตารอคอย รอคอยว่าสาวน้อยจะมีปฏิกิริยาอย่างไรเมื่อเห็นเขาโบยบิน ลงมาจากฟากฟ้า…

หากให้ใครคนหนึ่งซึ่งเดิมทีกำลังผิดหวังถูกจับได้เธอคงมึนงง หรืออาจจะรู้สึกโล่งใจด้วยซํ้าแบบนั้นคงจะไม่สาแก่ใจ ต้องปล่อยให้เธอเข้าใกล้ความสำเร็จมากที่สุดแล้วจัดการในคราวเดียว ถึงจะโจมตีเธอได้หนักหน่วงที่สุดและจำฝังใจ

แม่นางน้อยผู้นี้ทำลายเรื่องดีๆ ของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำให้เขาเสียเปรียบอยู่หลายครา ถึงแม้เขาเอ็นดูเธอ ทว่าก็ควรให้บทเรียนที่โหดร้ายกับเธอเสีย บ้างจะได้รู้จักลดราวาศอก!

เขาไม่คิดจะแจ้งท่านเจ้า เพื่อไม่ให้ท่านเจ้าจิตใจวอกแวก ตอนนี้ท่านเจ้ากำลังทำการใหญ่ซึ่งเกี่ยวพันกับว่าเหล่ามารจะปกครองใต้หล้าได้หรือไม่ ไม่อาจทำให้ใจไม่สงบเพราะผู้หญิงคนเดียว อีกอย่างเขาก็เชื่อมั่นว่าเขาจะจับสาวน้อยกลับมาได้

เขาหลุบตาลงเล็กน้อย หยิบสิ่งของที่คล้ายกับเข็มทิศขึ้นมา ก่อนเริ่มการเหนี่ยวนำค้นหาตำแหน่งของกู้ซีจิ่วเห็นด้านบนปรากฏจุดสีแดงของเธอซึ่งกำลังเคลื่อนที่อย่างบ้าระห่ำ เห็นได้ชัดว่าเธอใช้วิชาเคลื่อนย้ายในพริบตาอยู่บ่อยครั้ง ยามนี้เคลื่อนย้ายออกจากเขาลูกนี้ไปแล้ว…

เขาแน่นิ่ง เพียงคอยท่าอยู่เงียบๆ ไปไล่ล่าขณะเธอใช้วิชาเคลื่อนย้ายอยู่บ่อยครั้ง เห็นทีจะไม่ฉลาด รอจนเธอคิดว่าปลอดภัยหยุดการเคลื่อนย้ายในพริบตาแล้วค่อยไล่ล่าก็ยังไม่สาย วิชาเคลื่อนย้ายในพริบตาสิ้นเปลืองพลังวิญญาณยิ่งนัก ต้องต้อนเธอตอนที่เธอเหนื่อยจนไม่อาจเคลื่อนย้ายได้!

เขาเหมือนแมวที่ซ่อนตัวอยู่ในมุมมืด รอให้เหยื่อหลบหนี เมื่อใดที่เหยื่อจะหนีไปได้ก็ค่อยตะครุบ…

ที่นี่คือภูเขาไฟซึ่งยังปะทุอยู่ ไร้ซึ่งผู้คนโดยรอบในระยะร้อยลี้ เขาจึงไม่กลัวว่าหลังจากกู้ซีจิ่วออกไปแล้วจะติดต่อขอความช่วยเหลือ

หนึ่งคือเธอไม่มีเครื่องมือติดต่อสื่อสารใดติดตัว ต่อให้อยากติดต่อใครก็ไม่มีทางเป็นไปได้ สองคือเธอสูญเสียความทรงจำในชาตินี้ไปแล้ว น่าจะจำตี้ฝูอีไม่ได้อีก อีกทั้งยังจำสหายเหล่านั้นไม่ได้ เธอคงไม่รู้ว่าจะไปหาใครดี นอกเสียจากว่าเธอจะแสร้งทำเป็นสูญเสียความทรงจำ…

คนที่น่าจะเปิดเผยความลับได้ก็มีแต่หลงซือเย่เขาเป็นถึงเจ้าสำนักถามสวรรค์ เมื่อออกไปได้แล้ว ต้องส่งข่าวให้กับบริวารเป็นอย่างแรก ไม่แน่ยังอาจหาหนทางแจ้งเตือนตี้ฝูอีด้วย แต่เขาเพิ่งทำร้ายกู้ซีจิ่วเล่นงานจนเธอบาดเจ็บสาหัสเกือบถึงแก่ชีวิต เกรงว่าตี้ฝูอีคงอยากฆ่าเขาให้ตาย ไยจะมาเชื่อคำพูดของเขา?

จากข่าวที่ท่านเจ้าได้รับมา ยามนี้ตี้ฝูอีหยุดพักอยู่ในเมืองใหญ่รุ่งเรืองห่างไกลออกไปเป็นพันลี้ มีผู้ทรงศีลสองคนที่เขาส่งออกมาสืบเสาะหาร่องรอยมาร

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!