บทที่ 1109 ต้องปล่อยให้พวกเขาลิงโลดกันเสียหน่อย
ข้างกายตี้ฝูอีมีเพียงแค่มู่อวิ๋นกับมู่เหล่ยคอยคุ้มกัน ไหนยังจะมีอูอู๋เหยียนถ่วงอยู่ข้างกาย ไม่ว่าไปที่ใดก็คงไม่ค่อยสะดวกนัก…
ครั้งนี้ท่านเจ้านำคนชั้นยอดร้อยกว่าคนไปลอบทำร้ายตี้ฝูอี บัดนี้คงใกล้ถึงแล้ว ถึงเวลานั้นตี้ฝูอีเองก็เอาตัวไม่รอด ย่อมไม่มีกะจิตกะใจไปสนใจหลงซือเย่…
หลงฟั่นครุ่นคิดเล็กน้อย ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกสบายใจขึ้นเรื่อยๆ เขานำลูกน้องออกมาไม่น้อยเพื่อการไล่ล่าครั้งนี้ สามถึงสี่สิบคนได้ หลังจากเขาวางแผนในใจไว้อย่างดีแล้ว จึงเริ่มมอบหมายหน้าที่เหลือแค่สิบคนไว้คอยสั่งงานข้างกาย ส่วนคนอื่นให้กลับไป
ที่นี่คือฐานที่มั่นใหญ่ของเขา เขาใช้เวลาสร้างมานานหลายสิบปี ไม่อาจให้สูญสิ้นได้ จำต้องมีคนดูแลมากพอถึงจะวางใจ
“ผู้อาวุโสให้พวกข้าไล่ล่าไปทางไหนดี?” ลูกน้องสิบคนถามอย่างกระตือรือร้น
หลงฟั่นมองดูเข็มทิศในมือ จุดแดงนั้นยังคงเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ออกจากภูเขาลูกนี้ไปทางทิศตะวันออกแล้ว และทางนั้นก็เป็นที่ตั้งของเขาถามสวรรค์ ดูเหมือนว่าหลงซือเย่คิดจะพาเธอไปหลบซ่อนตัวที่นั่น…
แต่ด้วยพลังกายของเธอ ไปได้ไม่ถึงหนึ่งร้อยลี้ก็ต้องจบเห่แล้ว…
เมื่อกำหนดเส้นทางการไล่ล่ากู้ซีจิ่วแล้ว หลงฟั่นกลับไม่ได้รีบร้อนเอ่ยเบาๆ ว่า “รีบร้อนทำไม? ต้องปล่อยให้พวกเขาลิงโลดกันเสียหน่อย พวกเจ้าฟังข้าสั่งการ…”
เขาสั่งการให้แปดคนขี่สัตว์พาหนะบินไปทางเขาถามสวรรค์เพื่อสกัดกั้น สัตว์บินพาหนะของเขารวดเร็วยิ่งนัก แม้แต่กระเรียนเทพของหลงซือเย่ก็ไม่อาจทัดเทียม เมื่อปลดปล่อยความเร็วในการบิน จะตามไปสกัดกั้นสองคนนั้นได้ทันท่วงทีอย่างแน่นอน หากพวกเขากลับไปเขาถามสวรรค์จริง ถึงครึ่งทางก็ต้องติดกับดักที่เขาวางไว้แล้ว…
ทุกอย่างลงตัวเหมาะเจาะ แปดคนนั้นรับคำสั่งแล้วจากไป
“ผู้อาวุโส ข้าน้อยสองคนเล่า?”
“พวกเจ้าสองคนคอยติดตามข้าเป็นพอ”
หลงฟั่นสั่งการให้นำสัตว์พาหนะมาเช่นกัน จากนั้นมุ่งหน้าไปทางตะวันออกอย่างสบายอกสบายใจ ความเร็วในการบินของเขาไม่นับว่าเร็วนัก กลับมีกลิ่นอายการทัศนาจรยามวสันต์ฤดูด้วยซํ้า
ลูกน้องทั้งสองงุนงงเล็กน้อย เมื่อสักครู่เจ้านายตัวเองยังร้อนใจดังไฟลน ตอนนี้กลับสงบจิตใจลงแล้ว?
หลงฟั่นดูเหมือนอารมณ์ดี ทว่าก็เป็นคนอารมณ์แปรปรวนเช่นกัน
ลูกน้องทั้งสองจึงไม่กล้าถาม เพียงขี่สัตว์พาหนะตามไปอย่างนั้น พวกเขาเห็นผู้อาวุโสหลงตรวจดูเข็มทิศในมือเป็นครั้งคราว ท่าทางเหมือนมีแผนการในใจแล้ว รอยยิ้มที่มุมปากทำให้พวกเขาทั้งสองเสียวสันหลังไปหมด
ผ่านไปราวครึ่งชั่วยาม จุดสีแดงบนเข็มทิศ พลันหยุดนิ่ง หลงฟั่นคำนวณสถานที่ที่จุดแดงหยุดลงสักครู่ ก่อนยิ้มจางๆ “ดี พวกเราลงมือได้แล้ว!”
สัตว์พาหนะด้านล่างเพิ่มความเร็วขึ้นทันใดรีบเร่งทะยานไปด้านหน้าดั่งลมกรด
…
“ผิดปกติ!” หลงซือเย่เอ่ยเบาๆ ขณะเพิ่งออกมาจากพื้นที่ใกล้เคียงภูเขาไฟที่ยังปะทุอยู่ลูกนั้น
“อะไรผิดปกติ?” กู้ซีจิ่วงุนงง
“ซีจิ่ว มีของพวก GPS บนตัวเธอ!” ขณะเคลื่อนย้ายในพริบตา กู้ซีจิ่วจับมือหลงซือเย่ไว้ตลอดเวลา เป็นครั้งแรกที่หลงซือเย่ได้สัมผัสผิวเธอหลังจากเข้ามาอยู่ในร่างใหม่อีกครั้ง เขารู้สึกว่าบางอย่างผิดปกติไป
กู้ซีจิ่วสีหน้าเปลี่ยน เริ่มค้นหาสิ่งนั้นบนตัวโดยสัญชาตญาณ
“GPS นั่นไม่ได้อยู่ในเสื้อผ้า แต่อยู่ใน…ร่างกายเธอ” หลงซือเย่ยั้งเธอไว้
กู้ซีจิ่วนิ่งอึ้ง
ในที่สุดเธอก็เข้าใจแล้ว ว่าทำไมพวกหลงฟั่นจึงวางใจกล้าปล่อยให้เธอเดินไปมาภายในวังใต้พิภพหลังจากมีชีวิตใหม่ขนาดนี้ หนำซํ้ายังไม่กลัวเธอจะหนีไปไหน ที่แท้ร่างโคลนนิ่งนี้ถูกติดตั้ง GPS ไว้!
เธอขมวดคิ้ว “ติดตั้งอยู่ตรงไหน?”
“ติดไว้ใต้หัวใจเธอ…” หลงซือเย่บอกตำแหน่งโดยละเอียด
กู้ซีจิ่วขับเคลื่อนพลังวิญญาณใช้การพินิจภายในตรวจดู พบว่ามีวัตถุแปลกปลอมขนาดเท่าเมล็ดถั่วอยู่รางๆ