บทที่ 1216 ไม่มีทางสิ่งสู่เข้าร่างได้สำเร็จ
โดยเฉพาะดินแดนห่างไกลในทวีป ยิ่งไม่มีผู้ใดย่างกรายไปถึง แต่ภายในยอดเขาลูกหนึ่งในดินแดนห่างไกลของทวีปนี้ กลับมีตำหนักนํ้าแข็งแห่งหนึ่ง หากบอกว่าเป็นตำหนักนํ้าแข็งไม่สู้เรียกถํ้านํ้าแข็ง เพราะที่นี่มีขนาดเล็กมาก พื้นที่ของตำหนักนํ้าแข็งเพียงแค่สี่สิบถึงห้าสิบตารางเมตร มีเสานํ้าแข็งแปดต้นตั้งอยู่รอบด้านของตำหนักนํ้าแข็ง ซ่อนยันต์แปดทิศของพระเจ้าฝูซี ทั้งที่เป็นเสานํ้าแข็งแต่ด้านบนกลับมีลวดลายซับซ้อนราวกับ เป็นคาถาบางอย่าง เปล่งแสงวิบวับภายในถํ้านํ้าแข็งสีน้ำเงินเข้ม
เสานํ้าแข็งทั้งหนาและสูงอยู่ใจกลางของตำหนักนํ้าแข็ง ขนาดสามคนโอบไม่มิด ภายในเสานํ้าแข็งมีเงาร่างเลือนรางซ่อนอยู่…
คนผู้นั้นยืนอยู่ด้วยท่าทางแปลกประหลาด ไม่รู้ว่าถูกผนึกไว้ภายในนานเท่าไรแล้วไม่ขยับเขยื้อน
เสานํ้าแข็งทั้งแปดต้นภายในตำหนักนํ้าแข็งพลันสว่างไสว คาถาเหล่านั้นเหมือนถูกกระตุ้นด้วยบางสิ่งที่หมุนวนอย่างบ้าคลั่ง เมื่อมองอย่างละเอียด คาถาเหล่านั้นไม่ได้ถูกสลักไว้ แต่เป็นแมลงจิ๋วที่เปล่งแสงสีนํ้าเงินชนิดหนึ่งกำลังบิดตัวไปมา แมลงจิ๋วชนิดนี้ยังมีขนาดเล็กกว่าเมล็ดข้าวเสียอีก ปีกที่เปล่งแสงสีนํ้าเงินคู่หนึ่ง เมื่อกระพือจะมีระลอกแสงระยิบระยับ หากหยุดนิ่ง ลำแสงนั้นก็จะหายไป…
โดยปกติ แมลงจิ๋วนี้เหมือนกำลังจำศีล ไม่ได้กระพือปีกมาเนิ่นนาน ยามนี้ราวกับตื่นตระหนก กระพือปีกบ่อยครั้งขึ้น ทำให้คาถานั้นประหนึ่งพลันเปลี่ยนเป็นมีชีวิตขึ้นมา หลังจากนั้นแมลงจิ๋วเหล่านี้ก็ทะยานสู่ท้องนภาดังหมู่มวลดารา โผไปทางเสานํ้าแข็งตรงกลางต้นนั้น พุ่งชนและค่อยๆ ร่วงหล่น…
พุ่งชนเข้าไปทีละชั้น ร่วงหล่นทีละชั้น เป็นเช่นนี้ จนเสานํ้าแข็งต้นนั้นเหมือนถูกกัดเซาะ เริ่มละลายอย่างรวดเร็วเมื่อมองด้วยตาเปล่า หลังจากแมลงจิ๋วเหล่านั้นพุ่งชนเสานํ้าแข็ง ในที่สุดคนที่ถูกผนึกในเสานํ้าแข็งก็ปรากฏรูปลักษณ์ออกมา คนผู้นั้นมีรูปโฉมงดงาม สดใส ท่าทางสง่างาม แม้ถูกผนึกในนํ้าแข็งนานขนาดนี้ ใบหน้ากลับยังเหมือนมีชีวิต
ผ่านไปอีกครู่หนึ่ง หน้าอกของเขาเริ่มกระเพื่อม หลังจากนั้นอีกครู่ แพขนตาของเขาสั่นระรัว ในที่สุดก็ลืมตาขึ้น…
เขาขยับตัวในเสานํ้าแข็ง อ้าปากราวกับจะหายใจออกมา คาดไม่ถึงเมื่อริมฝีปากเปิดกว้างแล้ว กลับไม่มีลมหายใจสักเพียงน้อย ดวงตาของเขาฉายแววความตื่นตระหนก ริมฝีปากบางเปิดกว้างยิ่งกว่าเดิม ท้ายที่สุด ลมหายใจยังคงไม่อาจปลดปล่อยออกมาได้…
ใบหน้าที่เมื่อสักครู่ยังมีเลือดฝาดกลับกลายเป็นสีเขียวคลํ้าเป็นซีดเผือด ราวกับจมนํ้า จากนั้นก็ไม่มีลมหายใจอีก สถานการณ์ของเขาประหนึ่งกายจิตอ่อนแอเกินไป ดังนั้นจึงไม่มีทางสิงสู่เข้าร่างได้สำเร็จ และก็ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าใด คนในเสานํ้าแข็งนั้นมีความคิดที่จะมีชีวิตขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ทว่าไม่ทันได้มีลมหายใจก็หยุดการเคลื่อนไหวไปอีกครั้ง
หากมีคนมองอยู่ ณ ที่แห่งนั้น ก็จะมองเห็นเงาสีเขียวอ่อนเงาหนึ่งกำลังเคลื่อนไหววนรอบร่างกายนั้น พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อโผเข้าสู่ร่างนั้น บางคราวก็ถูกขับไล่ออกมา บางคราวก็ยากนักที่จะโผเข้าร่างนั้นแต่ผ่านไปไม่นานก็ถูกขับไล่ออกมาอีกครั้ง…
ไม่รู้ว่าล้มเหลวไปกี่ครั้งกี่หน ในที่สุดก็สำเร็จจนได้ ตอนที่เขาลืมตาอีกครั้งก็ปล่อยลมหายใจเฮือกแรกออกมาอย่างลำบากยากเข็ญ ร่างกายสั่นเทา ร่วงหล่นลงมาจากเสานํ้าแข็งอย่างรุนแรง!
เห็นได้ชัดว่าเขาควบคุมร่างกายเอาไว้ไม่ได้ นอนลงบนพื้นนํ้าแข็ง ไม่มีทางนิ้วมือเหยียดงอได้ มือและเท้ากลับไม่ฟังเขาแม้แต่น้อย…
“สมควรตาย!” เขาบ่นพึมพำออกมาสามคำ ที่แห่งนี้เพียงนํ้าหยดเป็นนํ้าแข็ง ขนาดลมหายใจที่เพิ่งปล่อยออกมาก็ควบแน่นกลายเป็นนํ้าแข็งลูกเล็กๆ ได้