บทที่ 1246 เป็นเพียงการตัดชุดวิวาห์ให้ผู้อื่นหรือ?
ตี้ฝูอีไม่ยินดีสลับร่างคืนให้เธอ นี่เป็นเรื่องที่เธอรู้อยู่นานแล้ว เธอนึกมาโดยตลอดว่าเป็นเพราะพลังวิญญาณของเขายังไม่พอถึงเป็นเช่นนี้ แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่ใช่แบบนั้นแล้ว เรื่องบางอย่างไม่ควรรู้ให้ละเอียด เพราะเมื่อรู้อย่างละเอียดแล้วจะหวาดหวั่นยิ่งนัก!
ยกตัวอย่างเช่นก่อนที่เธอจะทะลุมิติมา ตี้ฝูอีก็ได้หมั้นหมายกับกู้ซีจิ่วน้อยในวัยแบเบาะไว้นานแล้ว แน่นอนว่าการแต่งงานนั้นมีเงื่อนไขอยู่ แต่ก็เป็นการหมั้นหมายจริงๆ มิใช่หรือ?
ด้วยนิสัยเช่นนี้ของตี้ฝูอี ไหนเลยจะยอมใช้เรื่องสมรสของตนมาชดใช้หนี้นํ้าใจของหลัวซิงหลานได้?
บางทีอาจเป็นเพราะร่างนี้มีกลิ่นอายคล้ายคลึงกับประมุขเผ่าเงือกที่ล่วงลับไปแล้วผู้นั้น เขาถึงจงใจทำเช่นนี้ อย่างเช่นตี้ฝูอีรู้จักเธอได้ไม่นานก็ตามพัวพันเธอไม่ยอมเลิกรา คิดสารพัดวิธี เพื่อเอาเธอไปโยนเข้าป่าทมิฬ เพื่อฝึกฝนประสบการณ์ ซํ้ายังแปลงกายเป็นซือเฉินมาพิทักษ์อยู่ข้างกายเธอด้วย สิ่งที่เขาปกป้องในตอนนั้นน่าจะเป็นร่างกายนั้นกระมัง?
เธอไม่ใช่สานุศิษย์สวรรค์ ทว่าเขากลับใช้เส้นสายบีบให้เธอเข้าศึกษาที่สำนักศึกษาชุมนมสวรรค์ ใช้ท่าทางปกป้องคุ้มครองทำให้เธอยืนหยัดอยู่ในสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์อย่างมั่นคง กดดันให้เธอฝึกฝนอยู่เสมอ สรรหาวิธีให้เธอฝึกฝนได้รวดเร็ว เมื่อเธอบรรลุขั้นเขาจึงดีใจยิ่งกว่าเธอเสียอีก…
เธอกับตี้ฝูอีตัดสินใจครองคู่กันชั่วชีวิต ในตอนนั้นข้อมือเธอมีกำไลคู่บุพเพเพิ่มขึ้นมา ยามนี้กำไลคู่บุพเพวงนั้นยังอยู่ที่ร่างเดิม ผู้ใดก็ถอดออกไม่ได้ มีเพียงคนที่ฟื้นคืนชีพขึ้นในร่างนั้นเท่านั้นถึงจะใช้สอยกำไลคู่บุพเพวงนั้นได้ ดูเหมือนตี้ฝูอีจะวางแผนไว้แล้วคิดจะใช้ร่างเดิมนั้นฟื้นคืนชีพให้ประมุข หญิงเผ่าเงือกนางนั้น เช่นนี้กำไลวงนี้มิกลายเป็นกำไลของประมุขหญิงเผ่าเงือกไปด้วยหรือ?
นางในดวงใจที่เขาอยากหมั้นหมายด้วยจริงๆ คือประมุขหญิงเผ่าเงือกคนนั้น…
จากที่ได้ยินบทสนทนาของสามคนนั้น ตี้ฝูอีกับประมุขหญิงเผ่าเงือกนางนั้นเคยหมั้นหมายกันมาก่อน มิเช่นนั้นหลานจิ้งอี๋คงไม่เรียกเขาว่าพี่เขยอย่างเต็มปากเต็มคำ และเขาก็ไม่ได้บอกปัดด้วย
ชาติก่อนเขากับประมุขหญิงเผ่าเงือกก็เป็นคู่หมั้นกัน เมื่อประมุขหญิงเผ่าเงือกฟื้นคืนชีพอีกครั้งทั้งสองคนก็ยังเป็นคู่หมั้นกันเหมือนเดิม…
กู้ซีจิ่วมองดูมือตน สัมผัสได้เพียงว่าทรวงอกตนมีโลหิตอุ่นร้อนซัดโหมขึ้นมาเป็นระลอก
ที่แท้เขาก็แค่ใช้เธอฝึกฝนสังขารนั้นให้บรรลุพลังวิญญาณขั้นแปด ยามนี้สังขารนั้นบรรลุพลังวิญญาณขั้นแปดแล้ว นับว่าบรรลุตามความต้องการของเขาแล้ว ย่อมไม่ใช้เธอฝึกฝนสังขารนนั้นอีกต่อไป ดังนั้นเขาจึงหาสารพัดเหตุผลมาปฏิเสธคำขอเปลี่ยนกลับร่างเดิมของเธอ ถึงขั้นไล่หลงซือเย่ที่มาช่วยเธอสลับร่างคืนกลับไป ไม่อนุญาตให้เธอติดต่อกับหลงซือเย่อีก ที่แท้ก็เป็นแบบนี้สินะ?
เป็นแบบนี้ใช่ไหม?
เมื่อเห็นเช่นนี้แล้ว ตั้งแต่เกิดจนตายตนวุ่นวายมายาวนานถึงป่านนี้ เป็นเพียงการตัดชุดวิวาห์ให้ผู้อื่นหรือ?
เป็นแค่ตัว ‘ฟาร์มเวล’ ตัวหนึ่งสินะ?!
แต่ว่าชีวิตของเธอไม่ใช่เกมออนไลน์ ไม่ง่ายเลยกว่าเธอจะฝึกฝนร่างกายออกมาได้และไม่ใช่แอคเคาท์ที่ทิ้งร้างไปแล้วด้วย อาศัยสิ่งใดถึงประเคนให้คนอื่นเช่นนี้?!
ก็ใช่ที่ตอนนี้เธอมีร่างอื่นแล้ว อีกทั้งร่างนี้ก็แข็งแกร่งกว่ามาก และสอดคล้องกับดวงวิญญาณของเธอยิ่งนัก ถึงขั้นที่เขายังคงอยากแต่งงานกับเธอ แถมยังเตรียมข้าวของไว้มากมายถึงเพียงนั้นด้วย แต่ว่าวินาทีที่ความจริงเผยออกมาสู่สายตา เธอก็อดไม่ได้ที่จะไม่พอใจขึ้นมา!
หากว่าหลงฟั่นไม่ได้สร้างร่างโคลนนิ่งร่างนี้ขึ้นล่ะ?
เช่นนั้นเมื่อเธอฝึกฝนร่างนั้นจนบรรลุขั้นที่เพียงพอแล้วเขาจะยังคงหาวิธีขะบไล่ดวงวิญญาณของเธอออกมาหรือเปล่า?
ในยุคนี้การสิงสู่ร่างนั้นยากเย็นนัก เมื่อเธอหลุดจากร่างเดิมแล้ว เกรงว่าจะไปสิงสู่ร่างอื่นไม่ได้อีกแล้ว เช่นนั้นก็มีแต่ต้องเป็นวิญญาณเร่ร่อนแล้ว
แน่นอน ไม่แน่ว่าเขาอาจจะเห็นแก่ความเหนื่อยยากของเธอจัดสรรให้เธอไปเกิดใหม่ในครรภ์ที่ดีอีกครั้ง…
อารมณ์ด้านลบนับไม่ถ้วนปานคลื่นสมุทรซัดถาโถมอยู่ในทรวงของเธอ ร่างกายเดี๋ยวร้อน เดี๋ยวหนาวเป็นพักๆ เธอนั่งอยู่ในพุ่มไม้นั้นบังคับให้ตัวเองสงบใจแล้ว สงบใจอีก