บทที่ 1308 นี่เป็นเหตุบังเอิญจริงๆ หรือ?
นิ้วมือของทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายที่นั่งสมาธิอยู่ขยับเล็กน้อย เจ้าหอยยักษ์กลัวว่าเขาจะลงโทษตัวเอง “หลายวันมานี้ ข้าอยากชดใช้ความผิดมาตลอด จึงขุดหาทางออกไปอีก ผลก็คือสถานที่แห่งนี้เข้าได้ออกไม่ได้ ข้าดำดินไปหลายทิศทางก็ไม่พบทางออก…”
ในที่สุดตี้ฝูอีลืมตาขึ้น มองเจ้าหอยยักษ์ที่ประจบประแจง เขาหรี่ตาเล็กน้อย “นางเมางั้นรึ? เล่ามาตั้งแต่ต้น!”
เจ้าหอยยักษ์ไม่กล้าปิดบัง เล่าเรื่องที่กู้ซีจิ่วพาพวกมันมาป่าทมิฬอย่างตรงไปตรงมาทั้งหมด วาทศิลป์ของเจ้าหอยยักษ์ไม่เลวทีเดียว เล่าเรื่องเหล่านี้ออกมาได้อย่างมีเหตุมีผลชัดเจนแจ่มแจ้ง
ตี้ฝูอีมองดูเจ้าหอยตัวนี้ ในที่สุดก็เข้าใจว่ากู้ซีจิ่วพาเจ้าสามตัวนี้เข้ามาที่นี่ได้อย่างไร!
ที่แท้เป็นเจ้าหอยยักษ์ที่จับพลัดจับผลูเข้ามา!
ทว่า นี่เป็นเหตุบังเอิญจริงๆ หรือ?
ป่าทมิฬแม้ไม่รู้วันรู้คืน แม้ฝนตก ทว่าแทบจะไม่มีฟ้าผ่า พบเจอได้ไม่เกินครั้งสองครั้งต่อปีเท่านั้น แต่เจ้าหอยยักษ์ตัวนี้กลับได้พบเจอ!
เสียงฟ้าผ่าที่ทำให้เจ้าหอยยักษ์ตัวนี้ตกใจจนมุดดินมั่วซั่วได้จะต้องอันตรายเป็นอย่างมาก บางทีอาจไม่ใช่ฟ้าผ่าธรรมดา แต่เป็นอัสนีสวรรค์!
อัสนีสวรรค์ชนิดนี้สามารถประทับลงบนเปลือกหอย และถูกเจ้าหอยยักษ์พามุดลงดินไปด้วย ประจวบกับวันนั้นเป็นเวลาที่ใจกลางค่ายกลค่อนข้างเปราะบางที่สุด จึงทำให้เจ้าหอยยักษ์ที่นำพาอัสนีสวรรค์ขุดทำลายเขตแดนใต้ต้นถันภังคี จนกระทั่งเข้ามาใจกลางค่ายกล
อัสนีสวรรค์ เจ้าหอยยักษ์ที่รู้วิชาดำดิน แถมยังเป็นจอมหลงทาง ช่วงเวลาที่ใจกลางค่ายกลเปราะบางที่สุด ปัจจัยสำคัญเหล่านี้ล้วนเป็นเหตุบังเอิญที่ไม่คาดคิดว่าจะมาประจวบเหมาะกัน เกรงว่านี่คงไม่ใช่ความบังเอิญธรรมดา หากแต่เป็นลิขิตสวรรค์…
เจ้าหอยยักษ์เห็นเขาไม่พูดไม่จา ไม่รู้ว่าในใจกำลังคิดวางแผนอันใดอยู่ จึงถูๆ เขาอย่างเอาอกเอาใจ “ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย ท่านตั้งใจเข้ามาที่นี่กระมัง? ทั่วทั้งร่างกายบาดเจ็บก็เป็นกลยุทธ์ทุกข์กาย[1]? เพื่อทำให้เจ้านายของข้าสงสาร? หากนางเห็นเข้าต้องสงสารเป็นแน่ ท่านบาดเจ็บขนาดนี้ยังใช้กระบวนท่าทำให้คนเหล่านั้นตะลึงงันได้อีก ยอดเยี่ยมจริงๆ”
มันพูดจาไร้สาระไม่รู้จบ ตี้ฝูอีหลุบตาลงเล็กน้อย พูดเพียงแค่หกคำว่า “หยุดไร้สาระ รีบไป!”
ดังนั้น เจ้าหอยยักษ์จึงปิดปากเงียบ ตั้งใจเร่งรีบ มันต้องชดใช้ความผิด หาทางพาท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายไปส่งให้ถึงข้างกายภรรยาโดยเร็ว…
ประสาทสัมผัสรับกลิ่นของเจ้าหอยยักษ์ว่องไวยิ่งนัก บวกกับการนำทางของลู่อู๋น้อย มันจึงพบเส้นทางที่กู้ซีจิ่วเคยผ่านได้อย่างรวดเร็ว จากนั้นติดตามกลิ่นอายของนางไปด้านหน้า เมื่อกลิ่นอายของเจ้านายชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ เจ้าหอยยักษ์ก็โล่งใจ “ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย พวกเราใกล้จะเจอนางแล้วขอรับ น่าจะห่างจากที่นี่ไปไม่เกินยี่สิบลี้…”
“โฮก…”
เสียงคำรามประหลาดของสัตว์ร้ายส่งผ่านมาจากไกลๆ ในฉับพลัน เจ้าหอยยักษ์เงยหน้ามองดู ตกใจยกใหญ่!
เงาสายรุ้งทอดยาวปรากฏขึ้นกลางอากาศดังเกลียวไหม เกล็ดส่องแสงวิบวับเป็นประกายบนท้องฟ้าดังสายรุ้งวันฝนพรำ…
เจ้าหอยยักษ์หยุดฝีเท้าอันรวดเร็วลงโดยสัญชาตญาณ เปลือกหอยสั่นสะท้าน!
มังกรปีศาจเงาสีรุ้ง!
นั่นมันมังกรปีศาจเงาสีรุ้ง สัตว์ขั้นแปดนี่!
หตุใดจึงมีสัตว์ขั้นสูงเช่นนี้ที่หลังเขานี้ได้?
ขั้นสูงสุดมิใช่ขั้นเจ็ดเท่านั้นหรือ?!
มังกรปีศาจเงาสีรุ้งนั้นเปล่งเสียงดัง ลากยาวแทบจะสะท้านโลก หลังจากเสียงลากยาวนั้น เจ้าหอยยักษ์เห็นเงาดำรอบกายมังกรปีศาจกระโดดไปมาดั่งลอยละล่อง ลำแสงอันทรงพลัง แทบจะตัดอากาศขาดจากกัน ทั้งที่อยู่ห่างจากพวกมันตั้งไกล ทว่าพายุลมแรงพัดกรรโชกผ่านภายในภูเขา ขนาดเจ้าหอยยักษ์ยังต้องกลั้นหายใจเอาไว้!
เจ้านาย!
เงาดำนั่นคือเจ้านายกู้ซีจิ่วของมัน!
นางต่อสู้กับมังกรปีศาจนี้ อีกทั้งยังไม่มีทีท่าว่าจะพ่ายแพ้…
แน่นอนว่ารอบตัวของนางยังมีคนอื่นอยู่ด้วย
———————————————————————
[1] กลยุทธ์ทุกข์กาย เป็นกลยุทธ์ที่ใช้ประโยชน์จากสามัญสำนึกของมนุษย์ทั่วไป เพราะย่อมไม่มีผู้ใดอยากทำร้ายตนเอง หากบาดเจ็บก็เชื่อว่าคงเกิดจากการถูกทำร้าย