Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 1309

บทที่ 1309 ไปหานาง 1

แน่นอนว่ารอบตัวนางยังมีคนอื่นอยู่ด้วย เพราะเจ้าหอยยักษ์ยังเห็นแสงพลังหลากสีที่ไม่เหมือนกัน รายรอบมังกรปีศาจนั้น…

เสียงบันดาลโทสะ เสียงอาวุธปะทะ เสียงคำราม…ดังมาไม่ขาดสาย เห็นได้ชัดว่ามีการต่อสู้อันดุเดือดเกิดขึ้นที่นั่น

เจ้าหอยยักษ์เป็นสัตว์ขั้นเจ็ด สัตว์ทุกตัวมีสัญชาตญาณความกลัวเกรงต่อสัตว์ร้ายที่ระดับสูงกว่าตัวเอง ดังนั้นหลังจากเจ้าหอยยักษ์เห็นมังกรปีศาจ ก็รู้สึกกล้ามเนื้อน่องเหน็บชาขึ้นมา มันกวาดตามองรอบด้าน พบว่าในโพรงหญ้าในภูเขา มีสัตว์ร้ายจำนวนมากกำลังหลบๆ ซ่อนๆ คงถูกมังกรปีศาจทำให้ตกใจเข้าเช่นกัน แต่ละตัวต่างซ่อนกายหลบหมอบอยู่ในพุ่มไม้ แต่ใบหน้าลู่อู๋น้อยกลับเต็มเปี่ยมด้วยความตื่นเต้น ร้องเรียกแง้วๆ แอ้วๆ ไม่หยุดหย่อน มันว่องไวยิ่งนัก ยามนี้ไม่สนใจเจ้าหอยยักษ์แล้ว รีบรุดไปทางการต่อสู้นั้นดุจสายฟ้าฟาด!

เปลือกของเจ้าหอยยักษ์อ่อนยวบ ในใจยังคงครุ่นคิดว่ามันควรจะรั้งรออยู่ตรงนี้หรือวิ่งไปดูสักหน่อยดี?

เมื่อใคร่ครวญอีกครั้ง ในเปลือกหอยของมัน ยังมีทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายผู้มีความสามารถสูงสุดนี่!

ด้วยความสามารถของท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย อย่าว่าแต่มังกรปีศาจที่เพิ่งบรรลุขั้นแปดตัวหนึ่งเลย ต่อให้เป็นสัตว์ขั้นเก้าในตำนานก็ไม่ต้องพูดถึง

ดังนั้น เจ้าหอยยักษ์จึงฝืนตัวเองรีบรุดไปด้านหน้า…

เจ้านายอดทนหน่อย ข้าพาคนมาช่วยท่านแล้ว!

……

อาจเป็นเพราะความฝันนั้น เช้านี้เมื่อกู้ซีจิ่วตื่นขึ้นมาจึงรู้สึกว้าวุ่นใจ นั่งสมาธิได้สักพักก็ไม่มีทางทำให้จิตใจสงบได้ อาการแบบนี้ไม่มีทางทำงานพิถีพิถันอย่าง ‘หลอมโอสถ’ ได้ ดังนั้นกู้ซีจิ่วนั่งคิดอยู่พักหนึ่ง จึงไปเขาด้านหลังเพื่อเก็บสมุนไพร เธออยากออกไปรับลมสงบจิตใจสักหน่อย

หลังจากเข้าสู่เขาด้านหลังแล้ว เมื่อลมภูเขาพัดผ่าน ในที่สุดเธอก็สงบจิตใจลงได้ ทว่ายังอยากหาบางสิ่งทำเพื่อระบายอารมณ์ เธอรู้วิชาเคลื่อนย้ายในพริบตา และรู้ตำแหน่งคร่าวๆ ของสมุนไพรที่ต้องการ หากเธอต้องการแค่เพียงเก็บสมุนไพร ความจริงแค่หนึ่งถึงสองชั่วยามก็สามารถเก็บสมุนไพรที่ต้องการกลับมาได้แล้ว และสัตว์ร้ายเหล่านั้นคงจะไม่ได้เห็นแม้แต่เงาของเธอ

แต่ครั้งนี้เธออยากผ่อนคลายระบายอารมณ์ จึงเดินตามเส้นทางที่เก็บสมุนไพรเป็นประจำ เดินไปพลางปราบสัตว์ร้ายไปพลาง สัตว์ร้ายตาไร้แววที่พยายามเข้ามาทำร้ายเธอล้วนถูกเธอฟาดฟันอย่างบ้าคลั่ง ระหว่างทางจนตาย วิธีการระบายอารมณ์เช่นนี้เห็นผลยิ่งนัก ยามเธอส่งสัตว์ร้ายตัวที่เจ็ดกลับบ้านเกิด เธอก็รู้สึกสบายใจขึ้นมากแล้ว!

หวนนึกถึงตอนที่เธอเพิ่งเข้าป่าทมิฬมาครั้งแรก ก็เคยถูกสัตว์ร้ายเหล่านั้นไล่ล่าวิ่งหนีหัวซุกหัวซุน สภาพดูไม่ได้ยิ่งนัก ในที่สุดตอนนี้เธอสังหารพวกมันจนสิ้นซากได้แล้ว!

กลิ่นอายความชั่วร้ายบนตัวเธอรุนแรงนัก สังหารจนเหล่าสัตว์ร้ายพวกนั้นเริ่มหนีกระเจิดกระเจิง…

ในที่สุดเธอก็เก็บสมุนไพรที่ต้องการได้ รู้สึกสบายใจขึ้นเป็นกอง กำลังเตรียมเดินทางกลับ นึกไม่ถึงว่ายังไม่ทันได้เคลื่อนย้ายในพริบตาก็ได้ยินเสียงร้องหวาดผวาดังมาจากที่ไกลๆ เป็นเสียงของผู้รับผิดชอบล่าสัตว์เหล่านั้น พวกเขาตกอยู่ในอันตราย!

ช่วงนี้ความสัมพันธ์ของกู้ซีจิ่วกับคนเหล่านี้ไม่เลวทีเดียว เมื่อได้ยินเสียงก็รีบเคลื่อนย้ายในพริบตาไปในทันที แล้วก็ได้พบกับมังกรปีศาจตัวนั้น…

ไม่รู้ว่ามังกรปีศาจตัวนี้ลอบหนีออกมาจากที่ใด สังหารหนึ่งในพวกผู้ล่าสัตว์เหล่านั้นอย่างไม่ทันตั้งตัว คนอื่นก็ต่อสู้ล้อมรอบมังกรปีศาจอย่างไม่คิดชีวิต…

ครั้งนี้มีผู้ล่าสัตว์ทั้งหมดยี่สิบคน ล้วนเป็นยอดฝีมือในหมู่บ้านทั้งสิ้น ทว่าคนเหล่านี้ล้อมวงต่อสู้มังกรปีศาจตัวนั้นก็ยังคงเป็นฝ่ายเสียเปรียบ

กู้ซีจิ่วฉงนยิ่งนัก ทำแผลให้คนหนึ่งในนั้นพลางไถ่ถาม “นี่มันสัตว์ขั้นแปดนี่ พวกเจ้าสู้ไม่ได้เหตุใดไม่หนีไป?”

คนผู้นั้นตอบด้วยใบหน้าอันซีดเผือด “มันคือมังกรปีศาจเงาสีรุ้งนี่ เจ้านี่มันอาฆาตพยาบาทยิ่งนัก”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!